เรียนรู้ที่จะเข้าใจ
เมื่อเจ้าตัวน้อยเข้าสู่วัยขวบความซนก็ต้องมากขึ้นตามวัย และบอกอะไรไปก็มักจะต่อต้านและวัยนี้เป็นวัยที่กำลังอยากรู้อยากเห็น และชอบเลียนแบบสิ่งใกล้ตัว ดังนั้น อะไรที่เราทำ เค้าก็จะทำตามหมด
เช่น เมื่อเรายกมือ ลูกจะยกตามเราทำเสียงดุ ลูกก็จะทำตาม และสิ่งนี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่บอกให้เราได้รู้ว่า การที่เราทำเสียงดัง หรือดุด่า กระทั่งการตะคอกไม่ได้หมายความว่าลูกจะหยุดและฟังเราอย่างว่าง่าย แต่กลับตรงกันข้ามด้วยซ้ำเพราะเด็กยังไงก็คือเด็ก แล้วเราจะมีวิธีจัดการกับเจ้าตัวน้อยยังไง
อย่างแรก คือคุณแม่ต้องทำใจให้เย็นก่อนค่ะ ซึ่งเข้าใจว่าทำยาก เพราะบางทีความป่วนของเจ้าตัวน้อยก็ไม่ค่อยเลือกเวลาเลย เพราะความไร้เดียงสาที่อยากจะเล่นอยู่ตลอดเวลา แต่สำหรับคุณแม่เห็นเป็นเรื่องน่าปวดหัว
ดังนั้น สิ่งแรกที่คุณแม่มือใหม่ทุกท่านควรทราบ และต้องพยายามทำให้ได้คือ เรื่องอารมณ์ของตัวเอง หากคุณควบคุมได้ และเข้าใจในวัยของลูกได้บางทีลูกก็อาจจะไม่ทำให้คุณปวดหัวมากก็ได้
การทำเสียงดัง ดุด่าลูกหรือทำให้ลูกตื่นกลัวตกใจคุณแม่บางท่านอาจคิดว่าวิธีนี้จะทำให้ลูกกลัวได้และไม่กล้าทำอีก และใช้ได้ผลกับลูกทุกครั้งแต่การทำเสียงดังใส่ลูกบ่อยๆ นอกจากจะหยุดการกระทำต่างๆของลูกแล้วยังได้หยุดพัฒนาการของลูกน้อยไปด้วย เพราะเสียงที่ดังจะทำให้ลูกหวาดกลัวและกลายเป็นเด็กเก็บกดเมื่อโต และไม่มีความเป็นตัวของตัวเองอีก
คุณแม่ต้องเข้าใจ ว่าความซนมักเป็นของคู่กับเด็กอยู่แล้ว การที่เราจะห้ามไม่ให้เค้าเล่นซนหรือเล่นอะไรก็ตามที่เราห้าม คงเป็นเรื่องยากแต่ถ้าคุณแม่ลองหันมามองลูก แล้วทำความเข้าใจในวัยของลูกและปรับเปลี่ยนตัวเองบ้าง พร้อมที่จะเล่นไปกับลูกเสมอคิดว่าแค่นี้ลูกคงไม่ดื้อมากจนคุณรับไม่ไหวหรอกค่ะ
เพราะวัยขวบเป็นวัยชอบเลียนแบบกับทุกอย่างที่ได้เห็น ดังนั้น การที่เรามองว่าลูกต่อต้านไม่เชื่อฟังคุณแม่แน่ใจหรือว่าลูกเป็นแบบนั้น
บางทีลูกน้อยก็เหมือนกระจกเงาคอยสะท้อนมาที่ตัวเรานะคะ เมื่อเราเสียงดังใส่ลูกก็เสียงดังกลับ นั่นเป็นเพราะลูกเลียนแบบ มาจากการกระทำของเราเอง
ดังนั้น หากอยากให้ลูกเป็นเด็กดีเชื่อฟังเราก็ควรเรียนรู้ที่จะเข้าใจลูก คอยบอกและสอนด้วยความรู้สึกรักมากกว่าอารมณ์โกรธ หรือหงุดหงิดนะคะ
หมอนหลุม , พัดลมมือถือ , หมอนผ้าห่ม , หมอนหัวทุย , เก้าอี้หัดนั่ง