ใครเคยตัวบวมตอนท้องบ้าง

ใครเคยตัวบวมตอนท้องบ้าง

ใครที่เคยตั้งท้องก็คงจะได้ประสบพบเจอกับอาการตัวบวมโดยเฉพาะตอนที่เริ่มเข้าสู่เดือนที่ 5 หรือเดือนที่ 6 โดยเฉพาะอาการตัวบวมโดยเฉพาะบริเวณข้อมือและข้อเท้าซึ่งมันอาจจะเป็นอาการปกติทั่วไปของผู้หญิงตั้งครรภ์ก็ได้ แต่ก็อาจเป็นอาการของภาวะที่เรียกว่า‘ครรภ์เป็นพิษ’ ได้เช่นกันซึ่งภาวะนี้ละค่ะที่เราต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้เราต้องยุติการตั้งครรภ์หรือเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณแม่เสียชีวิตได้ถ้าไม่รีบรักษาให้ทันท่วงที

ประสบการณ์ตัวบวมด้วยภาวะ‘ครรภ์เป็นพิษ’ เป็นเรื่องที่เจอกับตัวเองและพี่สาวตอนที่ตั้งท้องครั้งแรกทั้งสองคนซึ่งคุณหมอก็บอกให้ฟังว่าอาการ ‘ครรภ์เป็นพิษ’ อาจจะมีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายผลิตสารเคมีที่เรียกว่า‘พรอสตาแกลนดิน’ ออกมามากเกินไป ซึ่งสารเคมีตัวนี้มีส่วนทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงผิดปกติ หลอดเลือดขยายตัวมากเกินไปหรือบีบตัวมากเกินไป และทำให้น้ำที่อยู่ในหลอดเลือดรั่วซึมออกมาข้างนอกได้ง่ายฟังอย่างนี้แล้วใครที่เริ่มมีอาการตัวบวมก็อย่าเพิ่งกลุ้มใจและวิตกกังวลมากไปนะคะ วันนี้เรามีเคล็ดลับที่จะช่วยเรื่องความกลัวของคุณได้นั่นก็คือเมื่อเรากลัวอะไรเรายิ่งต้องทำความรู้จักกับมันให้ถ่องแท้มากขึ้น เพราะมันจะทำให้เรารู้วิธีการป้องกันที่จะไม่ให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นกับตัวเราได้ลองมาทำความเข้าใจกับภาวะที่เรียกว่า ‘ครรภ์เป็นพิษ’ กันดีกว่าค่ะ

1. กลุ่มไหนบ้างที่ความเสี่ยงต่ออาการที่เรียกว่า ‘ครรภ์เป็นพิษ’ คุณหมอบอกว่ากลุ่มที่มีอาการเสี่ยงของภาวะครรภ์เป็นพิษมักพบได้ในกลุ่มเหล่านี้มักพบในกลุ่มคุณแม่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี หรือน้อยกว่า 20 ปี มักพบในกลุ่มคุณแม่ที่มีการตั้งครรภ์ครั้งแรกมักพบในกลุ่มคุณแม่ที่มีประวัติของคนในครอบครัวที่มีอาการ ‘ครรภ์เป็นพิษ’มักพบร่วมกับภาวะการตั้งครรภ์แฝดการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก หรือมีโรคเบาหวานร่วมด้วย ซึ่งของเราเป็นทั้งสองอย่างคือคนในครอบครัวมีประวัติของ‘ครรภ์เป็นพิษ’ และเป็นการตั้งท้องครั้งแรกด้วย

2. ถ้ามีภาวะ ‘ครรภ์เป็นพิษ’ควรดูแลตัวเองอย่างไร คุณหมอให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองง่ายๆคะว่า ถ้าเป็นโรคความดันโลหิตสูงควรควบคุมความดันให้ปกติก่อนท้องถ้าน้ำหนักตัวมากเกินก็ให้ลดด้วยการควบคุมอาหารออกกำลังกายและระวังไม่ให้น้ำหนักขึ้นมาเกินไปในช่วงที่กำลังท้องถ้าคนในบ้านมีประวัติ ‘ครรภ์เป็นพิษ’ แล้วเราตั้งท้อง ก็ควรไปฝากท้องให้เร็วที่สุดและแจ้งประวัติส่วนตัวให้หมอทราบอย่างละเอียดด้วยหมอจะได้เตรียมการดูแลเราได้ดีมากขึ้น ให้ระวังการทานอาหารที่มีรสเค็ม และระวังเรื่องการใช้ยาขับปัสสาวะ การรับประทานอาหารเสริมสำเร็จรูปที่เป็นเม็ดๆพวก แมกนีเซียมสังกะสี น้ำมันตับปลา และ แคลเซี่ยมเสริม

3. ถ้าเรามีภาวะ ‘ครรภ์เป็นพิษ’ ลูกในท้องจะเป็นอย่างไรเนื่องจากภาวะ ‘ครรภ์เป็นพิษ’ ส่งผลโดยตรงต่อการส่งเลือดไปเลี้ยงบริเวณมดลูกลูกจึงได้รับผลกระทบในด้านการเพิ่มของน้ำหนักตัว และถ้าอาการมีความรุนแรงมากๆก็อาจทำให้ลูกในท้องเสียชีวิตได้

4. ภาวะ ‘ครรภ์เป็นพิษ’ จะส่งผลกระทบต่อตัวแม่อย่างไรอันนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจให้มาก เพราะมันอาจเกิดแค่ภาวะใดภาวะหนึ่งไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมดได้แก่ ภาวะหลอดเลือดตีบและรั่วง่ายจึงทำให้อวัยวะต่างๆได้รับเลือดไปเลี้ยงน้อยลงตับขาดเลือดไปเลี้ยงทำให้อาจพบภาวะการมีเลือดออกในเยื่อหุ้มตับ ไตทำงานลดลงจึงส่งผลทำให้มีปัสสาวะน้อยลงมีการขับของเสียในร่างกายได้น้อยลงอาจมีภาวะไตวายได้ อาจมีน้ำคั่งในถุงลมปอดทำให้มีอาการหายใจลำบากมีน้ำคั่งที่ใต้ผิวหนังทำให้เกิดอาการบวมบริเวณปลายมือ ปลายเท้า หน้าและเปลือกตาในบางคนที่เป็นมากๆอาจเกิดอาการชัก มีเลือดออกในสมองและเสียชีวิตได้

5. อาการหลักๆของภาวะ ‘ครรภ์เป็นพิษ’ที่แตกต่างจากตัวบวมธรรมดาคือ

- น้ำหนักตัวที่เพิ่มเร็วมากกว่าปกติโดยทั่วไปน้ำหนักตัวของแม่จะเพิ่มสัปดาห์ละ 0.5 กิโล แต่ถ้าเรามีน้ำหนักตัวเพิ่มสัปดาห์ละ1 ถึง 2 กิโล โดยที่ไม่ได้รับประทานมากกว่าปกติก็ให้ระวังและสังเกตตัวเองให้มากขึ้นอาจจะลองบันทึกการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวลงในปฏิทินเพื่อเป็นการตรวจเช็คก็ได้

- มีอาการบวม ที่ต่างจากการบวมแบบธรรมดาที่มักจะบวมแค่หลังมือหลังเท้า แต่อาการครรภ์เป็นพิษจะมีการบวมที่เปลือกตา และนิ้วมือรวมไปถึงบริเวณหน้าแข้ง ให้ลองกดแล้วปล่อยมือดูว่ามีรอยบุ๋มหรือไม่ถ้ามีรอยบุ๋มอยู่นานให้ระวังแล้วไปปรึกษาหมอเพราะถ้าบวมธรรมดากดแล้วรอยบุ๋มจะเกิดขึ้นแป๊ปเดียวแล้วก็หายไปค่ะ

- มีอาการปวดหัวง่ายเพราะความดันโลหิตที่สูงขึ้นรู้สึกจุกแน่นที่ใต้ชายโครงทางด้านขวาหรือบริเวณลิ้นปี่ทั้งนี้เกิดจากภาวะเลือดออกที่ตับหรือถ้ามีอาการแน่นหน้าอกก็อาจจะเนื่องมาจากภาวะของการมีน้ำในปอด บางรายอาจมีอาการตาพร่าทั้งนี้เนื่องมาจากการที่เลือดไปเลี้ยงจอประสาทตาได้น้อยลง

- รู้สึกได้ว่าลูกดิ้นน้อยลงและท้องไม่ค่อยโตขึ้นตามอายุครรภ์ที่ควรจะ

ทั้งหมดนี้เป็นอาการหลักๆแต่ถ้าใครมีอาการแค่ 3ใน5 อาการเหล่านี้ก็ควรรีบไปพบหมอทันทีไม่ต้องรอให้เป็นครบนะคะ

6. หมอจะรักษาเราอย่างไรเนื่องจากตอนท้องได้มีการแจ้งประวัติให้คุณหมอทราบล่วงหน้าว่ามีคนในครอบครัวเคยมีภาวะ‘ครรภ์เป็นพิษ’ ดังนั้นตลอดระยะเวลาในการตั้งครรภ์จึงอยู่ในการดูแลของคุณหมออย่างใกล้ชิดมีการควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมและคุณหมอเน้นให้ใช้แคลเซี่ยจากธรรมชาติเช่นกินปลาตัวเล็กตัวน้อยแทนการกินแคลเซี่ยเสริมแบบเม็ด คุณหมอได้ให้ข้อมูลในการรักษาเพื่อให้เราเข้าใจและรับมือกับเรื่องนี้ได้ก่อนโดยแจ้งว่าขั้นของการรักษาจะมีตั้งแต่ถ้าอายุครรภ์ที่มากและใกล้ครบกำหนดคลอดแล้ว และมีอาการของโรคกำเริบคุณหมอจะตัดสินใจให้คุณแม่คลอดให้เร็วที่สุดแต่ถ้าอายุครรภ์ยังน้อยคุณหมอก็จะประคับประคองให้มีการตั้งครรภ์ต่อไปอีกระยะเพื่อให้ปอดของลูกแข็งแรงด้วยการให้ยากันชักให้ยาลดความดันโลหิตและยากระตุ้นการทำงานของปอดลูกค่ะ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆคุณหมอก็ต้องยุติการตั้งครรภ์ค่ะ

อ่านแล้วก็อย่างกังวลนะคะ แต่ขอให้ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อเป็นประโยชน์ในการดูแลตัวเองและป้องกันภาวะของโรคสำหรับผู้ที่ต้องการจะเป็นคุณแม่หรือกำลังจะเป็นคุณแม่ และขอให้คุณแม่ทุกคนมีความสุขกับช่วงเวลาดีๆของการตั้งครรภ์ค่ะ

หมอนหลุม , พัดลมมือถือ , หมอนผ้าห่ม , หมอนหัวทุย  , เก้าอี้หัดนั่ง

Create Date : 24 มิถุนายน 2559 Last Update : 24 มิถุนายน 2559 16:07:50 น. Counter : 729 Pageviews.		1 comments
Share Tweet