ทำอย่างไรเมื่อลูกไม่อยากไปโรงเรียน

พ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกโตขึ้นมามีหน้าที่การงานที่ดี สามารถเลี้ยงตัวเองได้โดยที่ไม่ลำบากในอนาคตจึงส่งเสริมให้ลูกได้เรียนโรงเรียนดีๆมีสอนภาษาต่างชาติเสริมอย่างเช่นอังกฤษ จีนและเด็กเองก็มีหน้าที่ต้องไปโรงเรียนเพื่อศึกษาหาความรู้เมื่อถึงวัยเข้าเรียนแต่เมื่อเขาไปแล้วไม่มีความสุขในการเรียนทำให้เขาก็จะไม่อยากไปโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่จะมีวิธีการรับมืออย่างไร

หลายๆบ้านคงต้องประสบปัญหาการพาลูกหลานไปโรงเรียนลูกๆจะร้องไห้กระจองอแงกันไปหมด วันแรกๆอาจจะเป็นเกือบทุกคนซึ่งทุกคนคงไม่แปลกใจเพราะการที่เขาไม่คุ้นเคยจากการเข้าสังคมใหม่ๆ ยิ่งถ้าเป็นลูกคนเดียวหรือลูกคนโตจะประสบปัญหาแบบนี้ทุกครอบครัวแต่เมื่อเขาเข้าโรงเรียนจนเข้าที่รู้ว่าร้องไห้ยังไงก็ต้องไปโรงเรียนเขาก็จะหยุดร้องเองแต่ถ้าหากลูกเริ่มเข้าที่รู้ว่าเขาต้องไปโรงเรียนจึงไม่ร้องไห้ไปสักพักแต่กลับกลายมาเป็นเด็กไม่ยอมไปโรงเรียนอีกนี่สิคือปัญหาเด็กโดยปกติแล้วถ้าหากรู้ว่าอ้อนอย่างไรดื้อแบบไหนแล้วพ่อแม่ไม่สนใจเขาจะไม่ทำอีกแต่ถ้าหากเราพาลูกไปโรงเรียนแล้วเขาหยุดร้องไปพักหนึ่งแล้วกลับมาร้องใหม่มันต้องมีอะไรที่ผิดปกติแน่ๆ

การรับมือในการแก้ปัญหานี้คืออย่างแรกแม่ควรถามลูกว่าทำไมจึงไม่อยากไปโรงเรียนในเมื่อหนูก็เลิกร้องไห้ไปพักนึงแล้วพยายามอย่าใช้คำถามนำเช่น ครูตีหรือถึงไม่อยากไปโรงเรียน ลูกจะตอบมาเองว่าทำไมแต่ถ้าเรายังไม่ได้คำตอบที่แท้จริงลองไปโรงเรียนลูกตอนพักกลางวันพยายามอย่าให้เขาเห็นแอบดูลูกว่าเขาเข้ากับเพื่อนได้ดีหรือไม่ โดนเพื่อนแกล้งหรือไม่หรือว่าลูกนั่งซึมเศร้าอยู่คนเดียวไม่ยอมรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ เมื่อสังเกตเพื่อนของลูกเสร็จแล้วก็ต้องสังเกตคุณครูเช่นกันอย่างเช่นเวลาพักกลางวันครูดุหรือไม่ ลูกกล้าเข้าหาคุณหรือไม่เวลาที่อยู่กับคุณครูลูกแสดงออกออกอย่างไรเข้าหาคุณครูบ้างหรือไม่ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติก็ลองไปหาลูกที่โรงเรียนอีกครั้งแต่คราวนี้ให้ไปให้ลูกเห็นหิ้วขนมหิ้วของฝากไปให้ลูกให้คุณครูและเพื่อนๆเพื่อที่จะได้ดูพฤฒิกรรมของลูกคุณครูและเพื่อน เพราะถ้าหากลูกเป็นที่รักของครูและเพื่อนทุกคนจะเข้ามารุมล้อมเข้ามาคุยด้วยแต่ถ้าไม่ลูกจะต้องไปง้อให้เพื่อนกินขนมหรือเพื่อนไม่สนใจลูกนั่นหมายถึงลูกเป็นที่รังเกียจของเพื่อนๆคงต้องสาเหตุกันต่อไปอาจต้องคุยกับผู้ปกครองคนอื่นๆว่าลูกของคนอื่นเป็นกันบ้างไหม

เวลาไปรับลูกอย่าลืมถามคุณครูว่าลูกเป็นอย่างไรดื้อซนมีการบ้านหรือไม่เพราะถ้าเราไม่ทราบว่าลูกมีการบ้านแล้วเขาไม่ได้ทำอาจจะโดนครูดุเอาได้ ซึ่งเดี๋ยวนี้โรงเรียนส่วนใหญ่จะไม่ตีนักเรียนแต่จะใช้วิธีการทำโทษอาจจะโดยการลุกนั่งซึ่งลูกชายเราเองก็เป็นโดนให้ลุกนั่งเป็น 100 ที บางวันก็อิดออดไม่อยากไปโรงเรียนที่มีวิชาของครูคนนี้ ควรคุยกับคุณครูว่าให้ลดการทำโทษลงบ้างให้ทำแต่พอดีแม่ควรสังเกตลูกว่ากลัวใครเป็นพิเศษหรือไม่เพราะเคยเกิดเหตุการณ์เด็กนักเรียนเกเรมาคอยรีดไถนักเรียนที่อ่อนแอกว่าทำให้ลูกกลัวเลยไม่อยากไปโรงเรียนอย่าเพียงคิดว่าโรงเรียนแบบนี้ไม่มีใครมารีดไถเงินหรอกเพราะลูกเพื่อนก็เคยโดนรุ่นพี่ที่มีฐานะที่ดีเป็นลูกคนมีเงินมารีดไถเพราะเด็กคนนั้นเป็นเด็กที่เกเรเป็นนิสัยอยู่แล้วไม่ได้เกิดจากฐานะของเด็กเอง หลายๆสาเหตุที่กล่าวมาเป็นสาเหตุหลักๆของเด็กที่ไม่อยากไปโรงเรียนคุณพ่อคุณแม่ควรใช้วิธีสังเกต วิเคราะห์และหาเหตุผลของการไม่อยากไปโรงเรียนของลูกการที่พ่อแม่มีเบอร์โทรศัพท์ของคุณครูประจำชั้นเป็นสิ่งสำคัญจะได้ทราบว่าลูกเรามีปัญหาอะไรเวลาไปโรงเรียน

พ่อแม่อย่างเราถ้าหากเห็นลูกมีความสุขเราก็มีความสุขไปด้วยจึงหาโรงเรียนที่ดีมีความเหมาะสมกับลูกตราบใดที่ลูกยังมีความสุขกับการเรียนพ่อแม่คงสบายใจได้ว่าลูกจะเก็บเกี่ยวความรู้จากโรงเรียนได้มากที่สุดแต่ถ้าลูกไม่มีความสุขในการเรียนพ่อแม่คงต้องพิจารณาในสาเหตุของการไม่อยากไปโรงเรียนยิ่งหาเหตุผลได้เร็วเท่าไหร่ลูกก็จะสามารถปรับตัวอยู่ร่วมกับสังคมในโรงเรียนและมีความสุขในการเล่าเรียนต่อไป

คอนโดแมว , พัดลมมือถือ , หมอนผ้าห่ม , หมอนหัวทุย  , เก้าอี้หัดนั่ง