ตลาดนัด ที่ทำงานแห่งที่สอง

ครั้งก่อนฉันเคยเขียนบอกเล่าเรื่องอาชีพเสริมจากการขายเสื้อผ้ามือสองจากเกาหลี ญี่ปุ่น ไปแล้วครั้งนี้จะมาเล่าประสบการณ์การหาพื้นที่ขายของ หรือหาตลาดนัดให้ฟังนะคะว่ามีตลาดนัดที่ไหนที่น่าสนใจ คนเดินเยอะ แต่น่าไปขายของบ้าง บางทีคนอาจจะเยอะแต่ไปแล้วกลับขายของไม่ได้ ก็น่าแปลกเหมือนกันนะคะ

ฉันมีข้อจำกัดตรงที่ขายได้เฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์เท่านั้นค่ะ วันธรรมดาทำงานประจำเริ่มต้นก็เลือกตลาดนัดใกล้บ้านก่อน จะได้ไม่ต้องไปไกลหลังจากนั้นพอคุ้นเคยกับการออกนัดแล้ว ก็เริ่มขยับขยายไปไกลมากขึ้นแต่ก็ต้องคิดบวกลบคูณหาร ค่ารถ ค่าที่ ค่าน้ำมันด้วยนะคะ

ตลาดแรกที่ไปขายสอนให้รู้ว่า พ่อค้าแม่ค้าขาจร ต้องรอล็อคจากพ่อค้าแม่ค้าเจ้าประจำที่เขาไม่มาขายในวันนั้นๆ พอเลยเวลาที่เจ้าประจำจะลงล็อค ก็ถึงคิวขาจรอย่างเราคนจัดล็อคก็จะมาถามว่าเราขายอะไร และจะจัดที่ให้เราซึ่งถ้าจะถามหาคนจัดล็อคให้ถามกับร้านใหญ่ๆ ที่มาตั้งร้านก่อนหน้าเราและดูท่าทางใจดีด้วยนะคะ เพราะจากประสบการณ์พ่อค้าขาประจำพวกนี้จะชอบกันท่าให้กับเพื่อนพ่อค้าแม่ค้าด้วยกันไม่ค่อยชอบให้ขาจรลง ซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม พอเรารู้ว่าใครเป็นคนจัดล็อคเราก็เข้าไปคุยกับเขาได้เลยค่ะ

ตลาดนัดที่สอง ตลาดม.เมืองเอก ใกล้ ม.รังสิต ตลาดนี้มีทั้งของกินของใช้ เป็นย่านที่นักศึกษาเดินกันเยอะของที่ขายควรได้รับความสนใจจากวัยรุ่นด้วย ถ้าเป็นขาจร ก็ต้องรอบ่าย 3 ก่อนถึงจะหาล็อคลงได้ค่ะ ค่าที่ไม่แพง 100-150 บาทแล้วแต่ขนาดล็อคค่ะ ของที่เอาไปขายก็ต้องราคาไม่แพงมาก ที่เห็นขายดีก็มีเสื้อผ้าเครื่องสำอาง รองเท้า กระเป๋า

ตลาดที่สาม ตลาดกลางคืนกรมชลประทาน ตลาดนี้ขึ้นชื่อเลยว่าคนเดินเยอะ มีทั้งของขายแบบราคา 5 บาทไปจนถึงหลักหมื่น ขายได้ทุกอย่าง ฉันเอาของที่เหลือจากการขาย ไปแบกะดิน ขายเหมาก็หมด คนมารุมตั้งแต่ยังไม่วางของ แต่มีข้อระวังก็คือจะมีมิจฉาชีพ มาขโมยของเราคือมารุมๆ เลือกๆ แล้วก็ไปเลย เพราะมันมืดมองไม่ค่อยเห็น พอคนมุงเยอะเราก็ต้องคอยตอบคำถามคนนั้นที คนนี้ที เพราะฉะนั้นถ้าจะไปขายตลาดนี้ตอนกลางคืนแนะนำให้ไปกันหลายคน จะได้ช่วยกันดู ช่วยกันขาย ของไม่หายด้วยค่ะตลาดนี้คนจัดล็อคชัดเจนมาก จะเดินไปเดินมา เห็นได้ชัดค่ะ แบ่งเป็นโซนๆเราอยากจะลงโซนไหน ก็ไปถามได้เลยค่ะ ค่าที่ถูกแสนถูก 40 บาทเท่านั้นค่ะสำหรับล็อคเดียว ขายได้จนกว่าตลาดจะวาย แต่ส่วนมาก พอฟ้าสว่างก็กลับแล้วค่ะ ของหมดตอนที่เดินกลับก็เดินดูของร้านอื่นด้วยไม่ต้องแปลกใจถ้าเห็นของจากร้านเราในราคาขาย 20 บาทจะไปถูกวางขายและตั้งราคาใหม่เป็น 50 หรือ 70 บาท เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ

ตลาดที่สี่ ตลาดตรงสวนรถไฟที่มีคนมาออกกำลังกายกันเยอะๆ นะคะ ฉันเคยเอาเสื้อกันหนาวไปลงขายตรงนั้นไม่มีคนเก็บค่าที่ แต่มีเจ้าที่ค่ะเจ้าที่ก็คือคนที่เค้าขายกันอยู่ก่อนแล้ว เป็นประจำ ถ้าเราไปวางทับที่เค้า ถึงเวลาเค้ามาเราก็ต้องขยับหนีเพราะไม่อยากมีปัญหาค่ะ ถ้าไปคนเดียวไม่เจ๋งจริง ก็ไม่แนะนำนะคะ เห็นหงอเค้าจะกดขี่เรา ขู่เราค่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ทั้งที่ของขายก็คนละอย่างแต่บอกเลยว่าขายดีมากค่ะ อาจเป็นเพราะสินค้าตรงกับกลุ่มเป้าหมายด้วย

นี่คือตลาดที่ฉันเคยไปลงของขายนะคะยังมีตลาดดังๆ อีกหลายที่ที่น่าสนใจ แต่ฉันเองไม่สะดวกที่จะไปจองล็อค อย่างเช่นตลาดนัดเมืองทอง คนเดินเยอะ คนขายก็เยอะ ต้องแย่งกันจองล็อค ฉันก็เลยไม่เอาดีกว่าก่อนหน้านี้มีตลาดรถไฟอีกที่ แต่ตอนนี้รื้อไปแล้ว ถามว่าจะขายที่ตลาดไหน ฉันว่าเลือกตลาดที่ใกล้บ้านก่อนเลยค่ะเพราะจะประหยัดเรื่องการเดินทางได้ของที่เราขายก็จะได้ไม่ต้องตั้งราคาสูงเกินความจำเป็น ตั้งราคาถูกก็ปล่อยได้ง่ายหมุนเวียนสินค้ามาขายได้ง่ายด้วยค่ะ

คอนโดแมว , พัดลมมือถือ , หมอนผ้าห่ม , หมอนหัวทุย  , เก้าอี้หัดนั่ง