แชร์ประสบการณ์ลูกติดจุกนมหรือจุกหลอน
เรื่องนี้ต้องโทษคุณแม่เลยค่ะเพราะว่าเราที่สอนให้เขาเริ่มดูดจุกหลอน เพราะว่า ตอนนั้นลูกดูดนิ้วจนติดกลัวว่านิ้วลูกจะเปื่อยเอาได้ เลยมีความคิดที่จะเปลี่ยนจากการดูดนิ้วมาเป็นดูดจุกหลอนดีกว่า แต่ดูเหมือนว่าหนีเสือปะจระเข้ชัดๆเพราะลูกติดมากจนประมาณว่าถ้าไม่มีจุกหลอนเขาจะนอนไม่หลับเลยค่ะดิฉันเลยเอาประสบการณ์เหล่านี้มาแชร์เผื่อว่าคุณแม่บางท่านอาจจะเจอเหตุการณ์เหมือนกับดิฉันตอนแรกอยากจะหักดิบลูกเลยค่ะ(ฟังแล้วอาจจะดูร้ายกาจ)เพราะว่าไม่ไหวแล้วจริงๆลูกติดมากกว่านมแม่เสียอีกจุกหลอนก็มีข้อดีและข้อเสียค่ะเรามากล่าวถึงข้อเสียก่อนค่ะ
ข้อเสีย
- แน่ๆเลยค่ะเท่าที่ทราบมาคือจะทำให้มีผลกระทบโครงสร้างของฟัน
- ปัญหาการบดเคี้ยวของอาหาร
- ฝันและริมฝีปากจะไม่สวย
ข้อดี
- เท่าที่ดิฉันทราบและศึกษามาคือป้องกันการเสียชีวิตแบบฉับพลัน
- ช่วยทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและลอดอาการงอแงได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ
- ช่วยทำให้ลูกหลับได้อย่างง่ายดายบางครั้งหลับทั้งๆที่จุกหลอนยังอยู่คาปากอยู่เลย
ถ้าอยากจะให้จุกหลอนเป็นเครื่องในการช่วยคุณแม่เลี้ยงเจ้าตัวน้อยคุณแม่ต้องรอให้ลูกอายุครบ 1 ขวบเพราะช่วงเวลานั้นคุณแม่ต้องให้ลูกได้ดูดนมจริงเป็นก่อนค่ะ ถึงจะเริ่มให้ลูกใช้จุกหลอน อาจจะใช้ในเวลาอุ้มหรือใส่เปล อย่าใช้ตลอดอีกอย่างก่อนการใช้ทุกครั้ง ควรต้องต้มหรือนึ่งเพื่อเป็นการทำความสะอาด
เราทราบข้อดีและข้อเสียของการติดจุกหลอนแล้ว ทำอย่างไรที่จะให้ลูกเลิกจุกหลอน อยากจะหักดิบอย่างที่กล่าวมาข้างต้นแต่ก็สงสารลูกเคยลองหลายครั้งแล้ว จนสุดท้ายดิฉันมาพบ วิธีที่อาจจะดูโบราณไปหน่อยคือใช้ยาที่เขาเรียกกันว่า บอระเพ็ด (แต่ภาษาใต้จะเรียกอีกแบบค่ะ คือเจ็ดมูน) สรรพคุณของเจ้าบอระเพ็ด คือรสชาติจะขมมาก โดนนิ้วมือเรา เรายังขมไม่กล้าเอาเข้าปากเลย แล้วลูกละถ้าโดนจะเป็นอย่างไร แต่ก็ต้องทำเพื่อเขา อาจจะดูเป็นคุณแม่ใจร้ายก็ตามสุดท้ายดิฉันก็ต้องตัดสินใจ ทำ แรกๆร้องยี้ เลยค่ะ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ถามหาอีกเลย
บางสิ่งบางอย่างเราต้องตัดสินใจเพื่ออนาคตของเขา เพราะการตัดสินใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเลือกให้เขานั้น คนเป็นคุณแม่ต้องมั่นใจที่สุดว่าต้องเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขาเป็นที่แน่นอน อันนี้เป็นสาเหตุเบื้องต้นของการฝึกเจ้าตัวน้อยตั้งแต่เขาเล็กๆอยู่
คอนโดแมว , พัดลมมือถือ , หมอนผ้าห่ม , หมอนหัวทุย , เก้าอี้หัดนั่ง