happy memories
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2566
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
13 สิงหาคม 2566
 
All Blogs
 
"Queen Sirikit" ราชินีแห่งสยามผู้งดงามที่สุดในโลก



"สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง"
ศิลปิน กิตติ พลศักดิ์ขวา
เทคนิคสีน้ำมันบนลินิน ขนาด ๑๘๐ x ๑๒๐ ซ.ม.






โพธิ์ทองของปวงไทย




ooiooi



มหามาตาแห่งแผ่นดิน

๙๑ พรรษา มหาราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
จอมแม่แห่งแผ่นดิน พระปิ่นปวง
สถิตทรวง สถิตเกล้า ชาวประชา

๗๐ ปี ทรงสร้างสุข ให้ทุกถิ่น
ทรงเคียงข้าง นวมินทร์ ปิ่นเกศา
กี่กันดาร ผ่านยอดดอย ร้อยพนา
ทรงฟันฝ่า ก้าวยํ่า ไปบํารุง

พระผู้สร้าง ศิลปิน-ศิลป์สวรรค์
สร้างอาชีพ สร้างฝัน ตะวันพรุ่ง
ส่งเสริม ให้สอดรับ แลปรับปรุง
ทรงผดุง ปวงประชา ด้วยปรานี

นํ้าพระทัย ไหลหลั่ง มายังราษฎร์
มิเคยขาด พระประสงค์ อันทรงศรี
เพื่อปวงไทย ได้อยู่ดี และกินดี
ตามวิถี ครรลอง ผองชีวิน

พระราชดํารัส จากพระทัยทองคํา
" พระเจ้าอยู่หัวเป็นนํ้า ฉันจะเป็นป่าฯ " โอบสินธุ์
" ขาดทุนของฉัน คือกําไรของแผ่นดิน "
สุดซาบซึ้ง ชื่นดวงจินต์ ของปวงไทย

น้อมสํานึกพระการุณย์ รินรดเกล้า
กี่นานเนา เวียนวง อสงไขย
ความภักดี จะมั่นคง จํานงใจ
ถวายให้ กษัตรี ศรีนคร

ขอพระองค์ ทรงพระเกษมศานติ์
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ประภัสสร
ปวงไทย อภิวาท บาทบวร
เทิดมหามารดร นิรันดร์กาล


ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า ชโลธร ควรหาเวช
ผู้ใช้นามปากกา เพลงผ้า ปรพากย์
๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๖
จาก เพจชโลธร ควรหาเวช





ทีฆายุกา โหตุ ราชมาตานาถปรมราชินี ๚


เนื่องในศุภวาระมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๙๑ พรรษา ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายชัยมงคลอันวิบุล ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล อีกทั้งพระบรมเดชานุภาพเลิศมงคลแห่งสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าแลพระบารมีแห่งพระสยามเทวาธิราช และอำนาจแห่งความจงรักภักดีของเหล่าพสกนิกรทั่วหล้า จงเป็นพลวปัจจัยอันกล้าอุดมศรี อำนวยให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญเป็นนิตย์ ทรงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยมงคลมิคลาย โรคอุปัทวันภยันตรายมิแผ้วพาน สถิตประดิษฐานเป็นศรีมิ่งแม่แห่งแผ่นดิน ทวยนาครทั่วสยามรัฐสีมาราชอาณาจักรแช่มชื่นชีวินเป็นสุขสโมสรด้วยพระบารมี โสตถิ์เทอญ ๚


ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
บล็อกเกอร์ไฮกุและครอบครัว




ooiooi









"สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ"
เทคนิค : สีน้ำมันบนผ้าใบ
ปีที่วาด : พ.ศ. ๒๕๐๓-๒๕๐๕
ขนาด : ๒๗๒×๑๕๐ เซนติเมตร
ที่ประดิษฐาน : พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
ศิลปิน : ระเด่นบาซูกิ อับดุลลาห์ จิตรกรชาวอินโดนีเซีย



จารึกไว้ในหล้า "Queen Sirikit" ราชินีแห่งสยามผู้งดงามที่สุดในโลก 


การเริ่มต้นชีวิตของการเป็น "พระราชินี" ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เปรียบประหนึ่งเป็นความฝัน ซึ่งแม้แต่พระองค์ท่านเองก็ยังแทบไม่เชื่อ เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์เป็นนักเรียนของโรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์ ระหว่างที่ทรงศึกษาอยู่ในช่วงปีสุดท้ายนั้น ทรงเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่า มีหมอดูเดินเข้าไปในบ้าน (วังเทเวศร์) และพยากรณ์ดวงชะตาของพระองค์ท่านว่า ในอนาคตจะได้เป็นถึงพระราชินี




เรื่องเล่าในครานั้นกลายเป็นเรื่องที่ทำให้บรรดาเพื่อน ๆ ต่างพากันสถาปนาด้วยอารมณ์ของเด็ก ๆ โดยเรียกขานพระนามพระองค์ท่านว่า "ราชินีสิริกิติ์" แต่สุดท้ายคำทำนายของแขกหมอดูนั้นกลับกลายเป็นเรื่องจริง เมื่อ ม.ร.ว.สิริกิติ์ อายุได้ ๑๗ ปี และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงขอหมั้นเมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ และทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินี ณ วังสระปทุม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเฉลิมพระยศสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เป็น "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี” เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ต่อมาทรงได้รับสถาปนาเป็น "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ" และนับแต่นั้นมา ทรงเป็น "นางแก้วคู่พระบารมี” เคียงข้าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเสด็จฯ ณ ที่แห่งใดก็ตาม







พระสิริโฉมอันงดงามของสมเด็จพระราชินีแห่งประเทศไทย ได้รับคำกล่าวขานและยกย่องเมื่อ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ได้โดยเสด็จฯ พระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรปและสหรัฐอเมริกา หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับในสองทวีปลงข่าวกันเอิกเกริกเกี่ยวกับความงามของพระองค์ อาทิ ไดเว็ลท์รายวันในกรุงบอนน์ ประเทศเยอรมนีตะวันตก (ในขณะนั้นยังแบ่งเป็นเยอรมนีตะวันออกและตะวันตก) ลงข่าวว่า

“ผู้มีเกียรติและบุคคลอื่น ๆ ที่ไปร่วมในพิธีการรับเสด็จต่างมีความมุ่งหมายอย่างเดียวกันคือ จะได้แลเห็นพระสิริโฉมอันงดงามของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ฉลองพระองค์สีขาวประทับเคียงข้างประธานาธิบดีลุบเก้แห่งเยอรมนี พร้อมด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงมีพระสิริโฉมเป็นเสน่ห์ราวเทพธิดา งดงาม และทรงประทับอยู่ด้วยความสง่าบนพรมผืนมหึมา แวดล้อมด้วยผู้มีเกียรติที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ การแย้มพระสรวลของพระองค์ได้แปลงความรู้สึกของผู้ที่ได้พบเห็น จากความนับถือด้วยความสุภาพธรรมดา เป็นความรู้สึกด้วยความจริงใจ..."







หนังสือพิมพ์ในกรุงลอนดอน ถวายสดุดีว่า "ทรงเป็นพระราชินีที่สดใสท่ามกลางสายพระพิรุณ" ส่วนหนังสือพิมพ์ในประเทศอิตาลี พาดหัวข่าวว่า "พระองค์ (ราชินี) มีพระชนม์ ๒๘ แต่ดูเหมือนน้อยกว่านั้น ๑๐ ปี" หนังสือพิมพ์ในกรุงปารีส พาดหัวข่าวว่า "ปารีสรักสิริกิติ์-พระราชินีผู้ทรงยิ้ม" อีกฉบับของฝรั่งเศส เขียนสดุดีว่า ประเทศไทยใช้อาวุธคือความงามของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ




หนังสือพิมพ์สตาร์บุลเลติน แห่งฮอนโนลูลู สดุดีว่า "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ของไทย ทรงมีความงามประหนึ่งตุ๊กตาที่อาจชนะตำแหน่งราชินีแห่งราชินี หากมีการประกวดพระราชินีกันขึ้นทั่วโลก" ขณะที่เดลิเกทซ์ หนังสือพิมพ์อีกฉบับหนึ่งของอังกฤษ สดุดีว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็น "พระราชินีแห่งความงาม...ทรงเป็นพระราชินีผู้มีพระฉวีวรรณล้ำเลิศ ทรงแย้มพระสรวลเสมอ ทรงมีพระเกศาและพระเนตรสีนิล" พร้อมกับคำบรรยายพระบรมฉายาลักษณ์ว่า "เราขอต้อนรับพระราชินีผู้ทรงมีพระสิริโฉมงดงาม สว่างไสว แม้แต่กลางวันที่มืดมัวก็กระจ่างแจ้งได้"




ขณะที่หนังสือพิมพ์ดิ โพลแมท ของสหรัฐอเมริกา ยกคำกล่าวของประธานาธิบดีซูการ์โน แห่งอินโดนีเซีย ที่สดุดีว่า "ทรงเป็นพระราชินีสิริโสภาที่สุดในโลก" มาลงพิมพ์ถวายพระเกียรติยศ เช่นเดียวกับในงานเลี้ยงพระกระยาหาร ณ โรงแรมเมย์ฟลาวเวอร์ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นักข่าวสังคมได้ถวายพระสมัญญาว่า ทรงเป็น "พระสุวรรณเทวี" (The Golden Girl) เพราะในวันนั้น พระองค์ทรงชุดไหมสีทอง บนพระอังสาทรงกลัดเข็มกลัดประดับเพชรรูปครุฑ และยังว่าดาราฮอลลีวูดสมควรยิ่งที่จะเข้าโรงเรียนสิริกิติ์ เพื่อฝึกยิ้มอย่างธรรมชาติ เพราะ "ทรงยิ้มเรียบร้อยละมุนละไม ไม่ปรากฏความเหนื่อยหน่ายแม้แต่น้อย"




เกี่ยวกับเคล็ดลับความงามนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงเปิดโอกาสให้หนังสือพิมพ์ต่างประเทศเข้าเฝ้าฯและทูลถามได้ตามสบาย ซึ่งมีครั้งหนึ่ง นักข่าวชื่อ "เฟรเดอริคแซนด์" แห่งหนังสือพิมพ์ "ซันเดย์ไทมส์" และ "วิลมอตต์" ได้ทูลถาม และวิลมอตต์นำมาเปิดเผย ทรงมีรับสั่งว่า "...ฉันล้างหน้าด้วยน้ำสบู่บ่อย ๆ ฉันใช้สบู่จีนชนิดพิเศษ ฉันใช้เครื่องสำอางของจีนมากเหลือเกิน ฉันซื้อมาจากฮ่องกง ฉันใช้เมกอัพต่อเมื่อออกแขกเป็นทางการเท่านั้น ส่วนในเวลากลางคืนตามปกติฉันไม่ใช้อะไรเลย ใช้เมกอัพเกินไปไม่ดีเลย ของพวกนี้ทำให้ผิวหนังเสีย..."




ส่วนการแต่งฉลองพระองค์นั้น รับสั่งว่า "...ควรจะแต่งกายให้พอดีไม่มากเกินไป และควรเลือกสีสันที่แต่งกายให้เหมาะสมและเข้ากับรองเท้าด้วย การแต่งกายไม่จำเป็นต้องประดับด้วยเครื่องเพชรมากเกินไป การแต่งกายไม่ควรจะให้เกินพอดี...การแต่งตัวดีนั้นคือแต่งตัวเหมาะสมกับกาลเทศะ..." เป็นหนึ่งในเคล็ดลับที่ทำให้ทรงได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้ที่แต่งกายดีที่สุดในโลก ๑ ใน ๑๐ คน




ในอดีตที่ผ่านมา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ ทรงเคยเปิดเผยถึงเคล็ดลับที่ทำให้พระองค์มีพระวรกายงดงามอยู่เสมอว่า เป็นเพราะทรงว่ายน้ำอยู่เสมอ เคล็ดลับอันนี้พระอาจารย์ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ถวายคำแนะนำ ตั้งแต่ครั้งที่ทรงศึกษาอยู่ในประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้แล้วยังทรงมีพระจริยวัตรที่น่าทึ่ง ควรที่สุภาพสตรีจะเอาอย่างคือ ทรงโปรดการทำอาหารด้วยพระองค์เองในยามว่าง อาหารที่ทรงโปรดทำเองคือ แกงกะหรี่ไก่ย่าง และเนื้อสะเต๊ะ และทุก ๆ เช้าจะเสด็จออกไปยังสถานฝึกหัดกายบริหาร ซึ่งอยู่ภายในพระตำหนักเพื่อทรงบริหารพระองค์วันละชั่วโมงครึ่ง




เบื้องหลังพระสิริโฉมอันงดงามคือ ความมุ่งมั่นตั้งพระราชหฤทัยที่ต้องการให้ชื่อประเทศไทยถูกจารึกแก่สายตาชาวโลก ซึ่งนับว่าเป็นผลสำเร็จเมื่อมีการจารึกพระนามาภิไธยในหอแห่งเกียรติคุณ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในฐานะที่ทรงเป็น ๑ ใน ๑๒ สุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก ทั้งนี้ นิตยสารโวค ปารีส ยังได้ลงพระฉายาลักษณ์พระองค์ท่านในหน้าแฟชั่นในเล่มเป็นจำนวนหลายหน้า




ฉลองพระองค์ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยความงามเท่านั้นแต่ยังเป็น "ศักดิ์ศรี" ของประเทศ ที่สำคัญโยงไปถึงความเป็นอยู่ของราษฎร และแสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นประเทศอีกด้วย ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขาฯในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้ถวายงานใกล้ชิดเล่าให้ฟังว่า ความจริงแล้วพระองค์ไม่ค่อยทรงโปรดทอดพระเนตรนิตยสารแฟชั่นด้วยซ้ำ แต่ทรงโปรดการอ่านเรื่องสิ่งแวดล้อมมากกว่า โดยเฉพาะในนิตยสารไทม์ หรือนิวส์วีก แต่การที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงพิถีพิถันเลือกฉลองพระองค์ก็เพื่อความเหมาะสมกับงานนั้น ๆ ทรงต้องการรักษาหน้าตาประเทศไทยไม่ให้คนต่างชาติมาดูถูกได้ โดยเฉพาะการเสด็จฯ เยือนต่างประเทศ




จะเห็นว่าจากอดีตที่ผ้าไทยรู้จักกันในวงแคบ ๆ ของชุมชนที่ผลิตใช้กันเองเฉพาะกลุ่ม แต่ด้วยความที่ทรงฉลองพระองค์ชุดผ้าไทยได้งดงามเกินบรรยาย จึงทำให้ผ้าไทยรู้จักไปทั่วโลก ทั้งหมดนี้เสมือนเป็นกุศโลบายอันแยบยล ทำให้ผ้าไทยและศูนย์ศิลปาชีพเป็นที่รู้จักในระดับสากล ช่วยชุบชีวิตชาวบ้านผ่านใยไหม และทรงเป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้คนกลับมามองเห็นคุณค่าของผืนผ้าไทย..."




เช่นเดียวกับ หม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี หรือ "คุณหญิงต้น" นางสนองพระโอษฐ์ ผู้รับใช้ใกล้ชิด สมเด็จพระนางเจ้าฯ มานับตั้งแต่มารดา-ท่านผู้หญิงวิยะฎา กฤดากร ณ อยุธยา นางสนองพระโอษฐ์ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ผู้ตามเสด็จฯ ตกที่จังหวัดนราธิวาส คุณหญิงต้นกล่าวว่า "ทรงเป็นพระราชินีที่งามและพีกที่สุดในยุคนั้น"

"สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ ทรงพีกที่สุดในสมัยปี ๑๙๖๐ ระยะเวลาที่เสด็จฯ ต่างประเทศ ๑๐ กว่าประเทศ ทรงได้รับการขนานนามว่า เป็นพระราชินีที่งามที่สุดในตอนนั้น ชาวต่างประเทศทุกคนก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นพระองค์ แต่สมัยก่อนสื่อต่าง ๆ ยังไม่แรงเท่าสมัยนี้ ถ้าจะให้พูดถึงพระองค์ท่านสมัยนั้น ไม่แพ้เจ้าหญิงไดอาน่าของอังกฤษ ไปไหนผู้คนก็เลื่องลือกล่าวขานถึง เพื่อนรุ่นพ่อที่อายุ ๗๐ กว่าเป็นคนต่างชาติยังพูดถึงจนทุกวันนี้ว่าได้ไปถวายดอกไม้ ไปโบกธงรับ"




"สมเด็จท่านทรงโปรดอะไรที่เป็นไทยอยู่แล้ว ทรงผ้าซิ่นไทย และตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ใช้ผ้าไทย จนกระทั่งเสด็จฯ ต่างประเทศอย่างเป็นทางการ ท่านจึงให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค คุณหญิงอุไร ลืออำรุง ซึ่งเป็นช่างฉลองพระองค์มาออกแบบชุดไทยพระราชทาน เป็นจุดเริ่มแรกที่พระราชทานแก่วงการแฟชั่น หลังจากนั้น ท่านก็ทรงชุดไทยตลอด...ท่านรับสั่งเสมอว่า คนชอบว่าฉันแต่งตัวมากมายเวลาไปหาราษฎร ทำไมไม่นึกว่าเขาเดินมาทั้งวันกว่าจะมาหาฉัน เดินมาตั้งสิบกิโล ฉันก็ตั้งใจอยากให้เขาดู ให้เขาเห็นฉันสวย..."





คุณหญิงต้นเล่าว่า ถ้าใครไปค้นหนังสือพิมพ์เก่า ๆ หรือคลิปข่าวเก่า ๆ จะเห็นว่าทรงงามมาก ดังนั้นในความคิดส่วนตัวแล้วจึงอยากจะทำงานถวาย เป็นการรวบรวมรูปภาพและแฟชั่นของพระองค์ท่าน ทำเป็นหนังสือให้คนไทยได้เห็น ได้เข้าใจง่าย ๆ เพราะคนที่ไม่ได้เก่งเรื่องนี้อาจจะไปหาดูลำบากว่าอยู่ที่ไหนบ้าง ประเทศที่เสด็จฯ และการที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ได้ไปอยู่ใน Hall of Fame เป็นผู้หญิงที่แต่งกายสวยที่สุดในโลกได้อย่างไร

"ได้ฟังว่าพระองค์ท่านทรงเป็นที่ฮือฮามาก ทรงให้ ปิแอร์ บัลแมง ดีไซเนอร์ระดับโลกออกแบบฉลองพระองค์ที่จะใส่ในการเสด็จฯอย่างเป็นทางการ เพราะไม่ทรงอยากให้มีอะไรผิดพลาด ไม่ว่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย มีขนบธรรมเนียมเยอะมาก เช่น ไปงานเช้าต้องใส่ถุงมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งไม่ใส่เพื่อจะไปจับมือคน ท่านรับสั่งว่าต้องให้ฝรั่งมาช่วยทำ เพราะว่าเราอาจจะไม่รู้ทั้งหมด"










หม่อมหลวงปิยาภัสร์ยังบอกอีกว่า "ชาร์ลส์ เดอ โกลล์" รัฐบุรุษฝรั่งเศส เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า ผู้หญิงที่สวยที่สุดในสายตาของท่านคือ "ควีนสิริกิติ์"

"ในยุคที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙ เสด็จขึ้นครองราชย์ใหม่ ๆ โลกยังไม่ได้ฉาบฉวยเหมือนทุกวันนี้ การเสด็จฯเยือนต่างประเทศสมัยก่อนโก้มาก ถือว่าทรงนำชื่อเสียงมาให้ประเทศไทย ทรงเป็นพระราชาหนุ่มที่งามมาก พระราชินีก็งามมากเช่นเดียวกัน ทั้งสองพระองค์ทรงนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ ทรงได้รับการถวายการต้อนรับแบบที่ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดในสมัยนี้จะได้รับเช่นนั้น อเมริกาถึงกับปิดถนนวอลล์สตรีตถวาย พระเจ้าอยู่หัวทรงประทับรถยนต์พระที่นั่งเปิดประทุนวิ่งไปตามถนน คนบนตึกก็จะปากระดาษสีแสดงการต้อนรับ คิดดูสมัยนี้ใครจะปิดถนนวอลล์สตรีตได้ นี่คือพระบารมี ท่านทรงสง่างาม ไม่ทำให้ประเทศไทยขายหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น การต้อนรับที่ประเทศอังกฤษก็มีผู้คนมากมาย มีการจัดพิธีอย่างใหญ่โต ท่านทรงผ่านอะไรแบบนั้นมาแล้ว จนมาสู่ยุคที่ออกประทับต่างจังหวัดปีละไม่ต่ำกว่า ๗ เดือน เพราะทรงต้องการพัฒนาบ้านเมือง โดยเฉพาะสมเด็จทรงต้องการพัฒนาเรื่องผ้า นี่คือผลแห่งความโชคดีของคนไทยที่มีพระราชินีที่งามที่สุดในโลก"










อีกหนึ่งความปลื้มปีติ เผ่าทอง ทองเจือ กูรูด้านวัฒนธรรมและผ้าไทย ยกย่องว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯทรงเป็นผู้นำในเรื่องเครื่องแต่งกายสตรี ความจริงท่านไม่ได้ฝักใฝ่ด้านแฟชั่น แต่ดำเนินรอยตามพระบรมราชบุพการี คือ พระอัครมเหสีในแต่ละรัชกาลในอดีต โดยทั่วไปแล้วพระอัครมเหสีในแต่ละรัชกาลที่ผ่านมา จะเป็นผู้สร้างพระราชนิยมของพระมหากษัตริย์ในรัชกาลนั้น ๆ เพราะฉะนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงฟื้นผ้าพื้นถิ่นในการเสด็จเยี่ยมราษฎรในปี ๒๔๙๙๘ ได้ทอดพระเนตรเห็นเครื่องแต่งกายของราษฎรทั่วประเทศ แล้วมาช่วงปี ๒๕๐๓-๒๕๑๐ เป็นช่วงที่ทรงนำเครื่องแต่งกายพื้นถิ่นรูปแบบต่าง ๆ มาเป็นฉลองพระองค์ตรง ๆ

"ท่านเคยรับสั่งว่า การเสด็จเยี่ยมราษฎรของพระองค์ท่าน ไม่รู้กี่หมื่นหมู่บ้าน เป็นการยากที่จะเสด็จฯซ้ำที่เดิม ฉะนั้นในแต่ละครั้ง ท่านจะต้องแต่งตัวให้เกียรติเจ้าภาพ และทรงเป็นเจ้านายที่เคร่งครัดเรื่องการแต่งกาย ทุกงานท่านจะแต่งฉลองพระองค์งดงามหมด"










ขณะที่ "เอก-ทองประเสริฐ" ดีไซเนอร์ไทยผู้สร้างสรรค์ผลงานระดับอินเตอร์ ได้ให้ทรรศนะชื่นชมปลื้มปีติในพระราชจริยาวัตรของสมเด็จพระราชินีของปวงชนชาวไทยว่า ทรงมีวิสัยทัศน์ที่เฉียบคมอย่างล้นเหลือในด้านการนำอุตสาหกรรมท้องถิ่นไปสู่สายตาของผู้คนทั่วโลก

"พระองค์ทรงพยายามนำผ้าไทยซึ่งเป็นวัสดุดั้งเดิมของประเทศออกสู่สากลคล้ายเป็นการตลาดให้คนรู้จักและอยากใช้ช่วยผลักดันให้ผ้าไทยไปสู่อีกระดับเช่นหลาย ๆ แบรนด์เขาทำกัน ทำไมจึงต้องให้ดาราฮอลลีวูดเป็นผู้สวมใส่ เพราะดาราเหล่านั้นมักมีสื่อเข้ามาสนใจ สมเด็จพระราชินีทรงทำแบบเดียวกัน"







สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไม่เพียงแต่เป็น "พระราชินีที่งดงามที่สุดในโลก" เท่านั้น แต่ยังทรงเป็น "พระราชินี" ที่ประทับอยู่ในใจทวยราษฎร์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทรงคิดหรือทรงตรากตรำพระวรกายมาตลอดพระชนมพรรษาจนกระทั่ง ๘๔ พรรษา ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยก็เพื่อพสกนิกรของพระองค์แทบทั้งสิ้น




พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ นับแต่ทรงราชาภิเษกสมรสกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถแล้ว ก็ยังได้พระราชทานสัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์อเมริกัน ในคราวเสด็จเยือนประเทศสหรัฐอเมริกาว่า สมเด็จพระบรมราชินีนาถเป็นที่ปรึกษาที่ดีเยี่ยมของพระองค์ และได้แบ่งเบาภารกิจไว้มาก ทั้งยังเป็น "แม่ที่ดีของลูก ๆ" อีกด้วย




ความสง่างามน่ารัก ความละมุนละม่อม ดวงพระเนตรและน้ำพระทัยอันอ่อนโยนเปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณ พระกระแสเสียงไพเราะ รอยพระสรวลที่ตรึงตราประทับใจผู้คน รวมกันเป็น สมเด็จพระราชินีนาถแห่งแผ่นดินสยาม ผู้มีความงามเป็นอาวุธของประเทศสมกับคำกล่าวขานของคนต่างชาตินั่นเทียว กระนั้นแม้จะได้รับคำยกย่องสรรเสริญจากนานาชาติในฐานะ "พระราชินีผู้งดงามที่สุดในโลก" แต่สิ่งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯทรงตระหนักมาโดยตลอด คือการประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อช่วยเหลือราษฎรและประเทศชาติ เคียงข้างพระเจ้าอยู่หัว ทรงถูกสอนให้รู้จักคุณค่าของแผ่นดินและตอบสนองแผ่นดินด้วยการทำงาน

ดั่งที่เคยรับสั่งว่า "...เมื่อแต่งงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงสอนตลอดมาว่า แผ่นดินนี้มีคุณ มีบุญคุณแก่ชีวิตของพวกเรามากมายนัก เพราะฉะนั้น ชีวิตที่เกิดมานี้อย่าได้ว่างเปล่า..."

















บังคมบาทบรมนาถราชินี
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ผู้ประทับอยู่เหนือใจไทยทั้งปวง
ผู้ทรงห่วงทรงช่วยด้วยความรัก

เป็นสายน้ำรินเรียงคู่เคียงป่า
เป็นจันทราคู่ตะวันอันประจักษ์
เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรรวมใจภักดิ์
ขอเป็นหลักชัยมงคลจนนิรันดร์.


ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ปู จิตกร บุษบา ร้อยกรองถวาย
บทกวีและพระฉายาลักษณ์จาก เพจปู จิตกร บุษบา





ภาพที่รอทุกปี ๖๖

๐ เมื่อดวงแก้ว แพราวภาส พิลาสรัตน์
โสมนัส ในใจไทย ก็ฉายฉาน
ใจประชา เต็มตื้น สุดชื่นบาน
เหมือนทิพย์ธาร หยาดใน หัวใจชน

๐ แม้ได้ชม เพียงภาพ ก็ซาบซึ้ง
ความคิดถึง ที่รอเห็น นั้นเป็นผล
เพียงภาพ ก็ยอดยิ่ง มิ่งมงคล
พระบารมี ล้นพ้น สุดรําพัน

๐ มวลดอกไม้ บานสะพรั่ง พลังภักดิ์
อวลความรัก อันแน่วแน่ มิแปรผัน
เสียงแซ่ซ้อง พระทรงบุญ คุณอนันต์
มิมีวัน จางหาย สลายลง

๐ พระยังคง สง่างาม ทุกความหมาย
จอมมารดา ผู้ผึ่งผาย ทุกประสงค์-
ล้วนเพื่อ ประชา-ชาติ องอาจคง
แกร่งเผ่าพงศ์ โดดเด่น ความเป็นไทย

๐ เฝ้ารอคอย ชื่นชม พระบารมี
นาน ๑ ปี เพื่อ ๑ วัน ที่ฝันใฝ่
เพียงหนึ่งภาพ จอมมาตา สุราลัย
ก็สุขใจ พลังภักดิ์ ยิ่งนักแล้ว


" ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน "🙏
เพลงผ้า ปรพากย์ ร้อยกรองถวาย
๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๖
จาก เพจชโลธร ควรหาเวช










ข้อมูลจาก tnews.co.th


บีจีจากคุณยายกุ๊กไก่ กรอบจากคุณ ebaemi ไลน์จากคุณญามี่





Create Date : 13 สิงหาคม 2566
Last Update : 13 สิงหาคม 2566 16:59:05 น. 0 comments
Counter : 736 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณชีริว, คุณเนินน้ำ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณปัญญา Dh, คุณปรศุราม, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณmariabamboo, คุณnonnoiGiwGiw, คุณJohnV, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณสองแผ่นดิน, คุณเริงฤดีนะ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณThe Kop Civil, คุณkae+aoe, คุณ**mp5**, คุณดาวริมทะเล, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณดอยสะเก็ด, คุณeternalyrs, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณtuk-tuk@korat, คุณtanjira


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.