แพทย์แนะเป็นหนุ่มวัยทองอย่างมีคุณภาพ
เรามักจะคุ้นหูกับคำว่า “ผู้หญิงวัยทอง” ซึ่งหมายถึงผู้หญิงซึ่งเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณผู้ชายแม้จะไม่มีประจำเดือน แต่หากอายุก้าวแตะเลข 4 ไปแล้วก็เข้าสู่ “วัยทอง” ได้เช่นกัน และเพื่อเป็นการเตรียมตัวให้กับหนุ่มวัยทอง นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุณ แพทย์ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ด้านการแพทย์การศึกษา ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีคำแนะนำในการปฎิบัติตัวเพื่อที่จะได้เป็นหนุ่มวัยทองอย่างมีคุณภาพ
นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุณ
นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุณ กล่าว ในผู้ชายมีฮอร์โมนที่มีผลต่อสมรรถภาพและความแข็งแรงของร่างกาย ชื่อว่าแอนโดรเจน (Androgen) ในทางธรรมชาติแล้วผู้ชายอาจจะแก่ช้ากว่าผู้หญิง แต่เมื่อย่างเข้าสู่วัยทอง ฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งสร้างจากอัณฑะและมีมากในวัยเจริญพันธุ์ก็จะเริ่มลดน้อยลง ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจของผู้ชาย ไม่ต่างไปจากผู้หญิง ทางการแพทย์จึงเรียกผู้ชายวัยทองว่า “แอนโดรพอส” (Andropause)
“สำหรับคุณผู้ชายแม้อาการวัยทองจะไม่เด่นชัดเท่าคุณผู้หญิง แต่เมื่อความหนุ่มเริ่มถดถอย สัญญาณเตือนภัยที่บ่งบอกว่าความหนุ่มใกล้จะลาจาก เช่น มีอาการอ่อนเพลียง่าย กล้ามเนื้อลีบเล็ก อ้วนลงพุง ภาวะกระดูกพรุน หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า สมาธิลดลง ความจำระยะสั้นถดถอย อาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกมาก ชีพจรเต้นเร็ว นอนไม่หลับ ความสนใจทางเพศกิจกรรมทางเพศลดลง อวัยวะเพศไม่แข็งตัวและการหลั่งน้ำอสุจิลดลง ทั้งปริมาณและความถี่ นอกจากอายุที่มากขึ้น ทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลงแล้ว ไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตอย่างเร่งด่วนของคนในปัจจุบัน ยังเป็นปัจจัยทำให้ผู้ชายเข้าสู่วัยทองเร็วกว่าปกติอีกด้วย”
สำหรับวิธีการการรักษาผู้ชายวัยทอง นายแพทย์ตนุพล กล่าวว่า ผู้ชายบางคนอาจจะเริ่มมีปัญหาตั้งแต่อายุ 40 ปี แต่ผู้ชายที่มีอายุ 80 ปี บางคนก็ยังมีฮอร์โมนเพศและสุขภาพที่ดีอยู่ก็ได้ ดังนั้น ก่อนการรักษา จึงต้องมีการตรวจประเมินอาการทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ รวมทั้งการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนชนิดรวม และ sex hormone binding globulin เพื่อการวินิจฉัยอาการวัยทอง และสุขภาพโดยรวม เพื่อการวางแนวทางการรักษาให้สามารถใช้ชีวิตหนุ่มได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งในด้านการเลือกรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การปรับสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิต
“ในบางรายการปรับการดำเนินชีวิตก็อาจจะเพียงพอ แต่ในบางรายอาจจะต้องมีการรักษาฟื้นฟูจิตใจ ควบคู่ไปกับการใช้ฮอร์โมนบำบัด โดยฮอร์โมนเพศชายมีอยู่หลายรูปแบบ ได้แก่ ชนิดรับประทาน ชนิดฉีด ชนิดทาผิวหนัง ชนิดแปะที่อัณฑะ ชนิดแปะผิวหนัง และชนิดฝังใต้ผิวหนัง ซึ่งแพทย์จะเลือกให้ฮอร์โมนเพศทดแทน ที่ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติใกล้เคียงธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม การให้ฮอร์โมนเพศทดแทนยังเป็นเรื่องใหม่ รวมทั้งมีข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกับการรักษาทุกชนิด ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ รวมทั้งมีการตรวจติดตามผลเป็นระยะ ทั้งการวิเคราะห์ภาวะบกพร่องของฮอร์โมน และคัดกรองโรคทั่วไปด้วย”
สำหรับคุณผู้ชายที่ต้องจะคงความหนุ่มของตนเองให้ยืนยาว หรือเข้าสู่วัยทองให้ช้าที่สุด สามารถทำได้ คือการสร้างวินัยในการดำเนินชีวิต เพื่อให้เกิดไลฟ์สไตล์ที่สมดุล พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง กินอาหารที่มีประโยชน์ถูกต้องตามหลักโภชนาการ โดยควรจำกัดอาหารในส่วนไขมัน และควรรับประทานพืชผักและผลไม้ โดยเฉพาะมะเขือเทศ เนื่องจากมีสารไลโคปิน ซึ่งสามารถต้านโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ชายวัยทองโดยทั่วไป การมองโลกในแง่ดี ลดความเครียด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และที่สำคัญ คือ งดสูบบุหรี่และดื่มเหล้า
“นอกจากการรับมือเบื้องต้นแล้ว ดังกล่าวแล้ว หากคิดว่าตนเองมีอาการวัยทอง หรืออาการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ ก่อให้เกิดปัญหากับสุขภาพร่างกายและจิตใจ ทางที่ดีที่สุดคือพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอรับคำปรึกษา เพื่อที่แพทย์จะได้วินิจฉัยอาหาร และวางแผนการรักษาในรูปแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งการรับมือและจัดการชีวิตอย่างเหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้น ก็อาจทำให้คุณผู้ชายก้าวข้ามวัยทองของชีวิตได้โดยไร้ซึ่งปัญหาใดๆ” นายแพทย์ตนุพล กล่าวในที่สุด
ที่มา : //www.naewna.com ภาพจาก : //www.fotosearch.com
สารบัญ สุขภาพ
Create Date : 24 เมษายน 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 24 เมษายน 2554 9:15:21 น. |
Counter : 1731 Pageviews. |
|
|
|