พฤษภาคม 2559

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
 
 
30 พฤษภาคม 2559
All Blog
วจีกรรม



บทความ

เรื่อง วจีกรรม

กรรมที่เป็นต้นตอเป็นเหตุแห่งกรรมทั้งหมด คือ มโนกรรม เป็นกรรมที่เกิดจากทางด้านความคิด จิตใจ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกรรมทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวจีกรรม กายกรรมเป็นต้น ดั่งคำสอนของหลวงตาม้าที่ว่าไว้ในเรื่องของกรรมและมโนกรรม หลวงตาท่านสอนเอาไว้ว่า "เราทุกคนมีกรรมเป็นแดนเกิดเราทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ใครทำกรรมอะไร เราไปทำตามเขา เราก็ได้กรรมตามนั้นเพราะฉะนั้นก่อนจะทำอะไรให้คิดให้ดี ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม กรรมใครกรรมมัน" ( คติธรรมหลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่) จากคำสอนของหลวงตาหลวงตาท่านได้ชี้ให้เห็นว่าก่อนจะทำอะไรทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องมาจากเหตุผลทางด้านความคิดทั้งนั้นหลวงตาท่านจึงสอนว่า “ก่อนจะทำอะไรให้คิดให้ดี” นั่นย่อมแสดงให้เห็นถึงการพิจารณาถูกผิดเสียก่อน ค่อยทำ หากเห็นว่าดี ควรทำ ก็ลงทำเลยการทำดีนั้น ย่อมส่งผลดีอย่างแน่นอน หากทำดีแล้วไม่มีให้เห็นดีด้วย ก็ ช่างเขาหลวงตาท่านมักจะสอนเสมอว่า ให้เราดูตัวเราก่อน อย่าได้ไปเที่ยวว่าใครเขามันเป็นบาป เป็นกรรม

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแกจ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เมตตาสอนในเรื่องของ วจีกรรมเอาไว้ว่า “คนส่วนมากมักสร้างกรรมทางวาจาเพราะกรรมนี้สร้างได้ง่าย แต่เขาไม่รู้หรอกว่าผลของกรรมเมื่อส่งผลจะร้ายแรงเพียงไร คำพูดนั้นสำคัญมากบางคนพูดไม่ดีกับผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงโกรธเกลียดกันชั่วชีวิตก็มีบางรายคำพูดเพียงไม่กี่คำก็ทำให้ไม่พูดกันไปหลายปี คนส่วนมากที่ขึ้นโรงขึ้นศาลหรือทะเลาะกันจนไปถึงฆ่ากันตายก็เพราะคำพูดที่ไม่ดีนี่แหละ” ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การพูดนั้นสำคัญเพียงไรคิดก่อนจะพูด แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดอย่างที่คิดทั้งหมด ต้องรู้จักพิจารณาบางคนอยากทราบว่า แล้ว คำอุทาน คำส่อเสียดทั้งหลายที่พูดออกมาแล้วหละจะถือเป็นวจีกรรมหรือไม่ นั้น บอกได้เลยว่า คำพูดที่ออกมาจากคำอุทานไม่มีเจตนาว่าร้ายหรือกล่าวคำหยาบคายเลย เป็นเพียงแต่สันดานดิบที่ติดตัวมานานอาจจะเป็นเพราะอุทาน หรือใช้คำพูดที่ไม่ค่อยจะดีนักบ่อยจนเกิดเป็นความเคยชินไม่ได้เจตนาที่จะว่าให้ใครแต่ถ้าหากแก้คำพวกนี้ได้ ก็จะดีกว่าการที่เราจะทำการสงบใจได้นั้นเราต้องรู้จักหมั่นภาวนา คำภาวนานี้แหละจะช่วยให้เราบ่น ด่า ว่า หรือแม้แต่คำพูดแรงๆ ที่เราไม่ได้ตั้งใจ จะค่อยๆ เบาลงจากมีมาก ก็จะลดลง จนหมดไปในที่สุด หลวงปู่ดู่ ท่านเมตตาสอนว่า"ให้ภาวนาเข้าไว้ ให้พยายามภาวนาไว้เรื่อยๆไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ทำได้ตลอดเวลาถ้าเราจะทำดีกว่านั่งร้องเพลง จะซักผ้า หุงข้าวต้มแกง นั่งรถ ทำได้ทั้งนั้นเขาเรียกว่า พยายามเกลี่ยจิตใจให้เข้าที่ถ้าจะรอเวลาปฏิบัติ(นั่งสมาธิภาวนา) ทีเดียวมันยาก เพราะจิตมันแตกมาตลอดวัน" ถ้าหากจะลดกรรมทางวาจานั้นทำได้โดยการหมั่นสวดมนต์ภาวนาเข้าไว้ จากคำพูดที่คอยบ่นว่า นินทา คนอื่นเขาเปลี่ยนมาสวดมนต์แทนเสีย ทุกอย่างก็จะดีขึ้น เมื่อสวดมนต์ ภาวนา อยู่ในใจตลอดจิตใจที่หยาบกระด้าง ก็จะซึมซับความเป็นไตรสรณคมน์เข้ามาโดยไม่รู้ตัวจะเปลี่ยนจากคนที่พูดมาก บ่นมาก เป็น คนที่อารมณ์ดี ใจดี ไม่บ่นไม่ว่าใครจะรู้จักวางเฉยมากขึ้น จิตใจก็จะอิ่มเอมเมื่อเปลี่ยนจากตรงนี้ได้แล้วทุกอย่างในชีวิต ก็จะดีขึ้นมาตามลำดับ

คนเรานั้น ควรจะรู้จักพิจารณา ทั้งคำพูดเรา คำพูดเขาการที่เราถูกเขานินทา ว่ากล่าว ตักเตือนอย่าได้คิดแต่ว่าเขาสร้างกรรมทางวาจากับเรา เราไม่ผิด ไม่ได้ทำอะไรใครแต่ต้องรู้จักพิจารณา หากเป็นอย่างที่เขาพูด เราก็ควรจะน้อมรับในสิ่งที่เขาพูดเขาติเตียนมา แล้วมาปฏิบัติตัวเสียใหม่ ไม่ใช่มัวแต่คิดว่าเขาพูดเขาต้องรับกรรมตรงนี้ไป เมื่อรู้จักพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วอย่าได้ถือโทษโกรธใครเขา เพราะในสังคมปัจจุบัน คนเรามักจะพูดไม่ค่อยจะได้คิดไม่ได้สนใจอะไรใครมากมายนักนอกจากตนเอง คำพูดบางคำพูดก็ไม่จำเป็นต้องเก็บไปคิดคำบางคำ ควรจะรู้จักพิจารณาและนำมาแก้ไข ปรับใช้ให้เขากับการดำรงชีวิตของเรา


หมอนหลุม , พัดลมมือถือ



Create Date : 30 พฤษภาคม 2559
Last Update : 30 พฤษภาคม 2559 11:24:27 น.
Counter : 774 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3067369
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments