เตือนชาวไร่อ้อยเฝ้าระวังหนอนกออ้อย
จากสภาพอากาศในช่วงนี้อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า แดดจัดในตอนกลางวัน ท้องฟ้ามีเมฆบางส่วน และมีฝนตกบางพื้นที่กรมวิชาการเกษตรขอแจ้งเตือนเกษตรกรชาวไร่อ้อยขอให้หมั่นสำรวจไร่อ้อยซึ่งอยู่ในระยะแตกกอเพื่อเฝ้าระวัง หนอนกออ้อย ซึ่งเป็นศัตรูพืชสำคัญที่พบเข้าทำลายอ้อย มี 3 ชนิด คือ หนอนกอลายจุดเล็ก  หนอนกอสีขาว  และหนอนกอสีชมพู

โดยให้สังเกตลักษณะการทำลายของหนอนแต่ละประเภท ดังนี้หนอนกอลายจุดเล็ก หนอนเจาะเข้าไปตรงส่วนโคนระดับผิวดิน เข้าไปกัดกินส่วนที่กำลังเจริญเติบโตภายในหน่ออ้อย ทำให้ยอดแห้งตาย การเข้าทำลายของหนอนกอลายจุดเล็กจะทำให้ผลผลิตอ้อยลดลง 5 - 40 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้หนอนยังเข้าทำลายอ้อยในระยะอ้อยย่างปล้อง โดยหนอนเจาะเข้าไปกัดกินอยู่ภายในลำต้นอ้อย ซึ่งทำให้อ้อยแตกแขนงใหม่ และแตกยอดพุ่ม




 






 
หนอนกอสีขาว หนอนเจาะไชจากส่วนยอดเข้าไป กัดกินยอดที่กำลังเจริญเติบโต ทำให้ยอดแห้งตายโดยเฉพาะใบที่ยังม้วนอยู่ ส่วนใบยอดอื่นๆ ที่หนอนเข้าทำลายจะมีลักษณะหงิกงอ และมีรูพรุน เมื่ออ้อยมีลำแล้วหนอนจะเข้าทำลายส่วนที่กำลังเจริญเติบโต ทำให้ไม่สามารถสร้างปล้องให้สูงขึ้นไปได้อีก ตาอ้อยที่อยู่ต่ำกว่าส่วนที่ถูกทำลายจะแตกหน่อขึ้นมาทางด้านข้าง เกิดอาการแตกยอดพุ่ม

หนอนกอสีชมพู  หนอนเจาะเข้าไปกัดกินตรงส่วนโคนของหน่ออ้อยระดับผิวดิน เข้าไปกัดกินส่วนที่กำลังเจริญเติบโตภายในหน่ออ้อย ทำให้ยอดแห้งตาย ถึงแม้ว่าหน่ออ้อยที่ถูกทำลายจะสามารถแตกหน่อใหม่เพื่อชดเชยหน่ออ้อยที่เสียไป แต่หน่ออ้อยที่แตกใหม่จะมีอายุสั้นลง ทำให้ผลผลิตและคุณภาพของอ้อยลดลง





 











 
แนวทางในการป้องกันและกำจัด ในแหล่งชลประทานควรให้น้ำเพื่อให้อ้อยแตกหน่อชดเชย  ปล่อยแตนเบียนไข่ไตรโครแกรมมา อัตรา 30,000 ตัว/ไร่/ครั้ง โดยปล่อยติดต่อกัน 2 - 3 ครั้ง ช่วงที่พบกลุ่มไข่ของหนอนกออ้อย  ปล่อยแมลงหางหนีบอัตรา 500 ตัว/ไร่

โดยปล่อยให้กระจายทั่วแปลง และควรปล่อยให้ชิดกออ้อย และใช้ใบอ้อยหรือฟางที่เปียกชื้นคลุมจะช่วยให้โอกาสรอดสูงขึ้น   และทำการปล่อยซ้ำถ้าการระบาดยังไม่ลดลงช่วงที่พบหนอนกออ้อยและกลุ่มไข่ของหนอนกออ้อย   หากปล่อยแตนเบียนไข่ไตรโครแกรมมาไม่ต้องปล่อยแมลงหางหนีบ  เพราะแมลงหางหนีบจะกินแตนเบียนไข่ไตรโครแกรมมาด้วย

ในระยะอ้อยแตกกอหรือเมื่ออ้อยแสดงอาการยอดเหี่ยวมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ให้พ่นสารฆ่าแมลงเดลทาเมทริน 3% EC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อินดอกซาคาร์บ 15% EC อัตรา 15 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ คลอแรนทรานิลิโพรล 5.17% SC อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ลูเฟนนูรอน 5% EC อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นโดยใช้น้ำ 50 ลิตรต่อไร่พ่น 2-3 ครั้ง ห่างกัน 14 วัน  ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในแปลงที่ปล่อยแตนเบียนไข่ไตรโครแกรมมา และแมลงหางหนีบ




 



Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2565
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2565 18:54:42 น.
Counter : 741 Pageviews.

0 comments
ไปเที่ยวเกาะ...รัตนโกสินทร์กัน กับ "นิว ชัยพล" peaceplay
(10 ส.ค. 2567 10:35:22 น.)
*** จักรวาลล้วนวงกลม *** วนรอบ ซ้อนทับ ซับซ้อน navagan
(6 ส.ค. 2567 22:39:25 น.)
“นักดับเพลิง” ผู้มีหัวใจจิตอาสา ลงพื้นที่มอบความรู้ป้องกันอัคคีภัยให้กับเยาวชน ในจังหวัดอุทัยธานี สมาชิกหมายเลข 5314464
(3 ส.ค. 2567 14:20:05 น.)
ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ขอเรียนเชิญนักวิ่งทั่วฟ้าเมืองไทย มาสมัครแข่งขันวิ่ง RAMAKIAN RUN นกสีเทา
(30 ก.ค. 2567 15:09:08 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thailand-agriculture.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด