"ปศุสัตว์"เตือนระวังโรคระบาดสัตว์ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
“กรมปศุสัตว์เตือนภัย อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือระวังโรคระบาดสัตว์ในช่วงฤดูฝนสุขภาพอ่อนแอ ป่วยง่าย
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ช่วงฤดูฝน ส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกหนัก บางพื้นที่น้ำท่วมขังและเปียกชื้นโดยพบได้ในทุกภาคของประเทศไทย ส่งผลต่อสุขภาพสัตว์โดยตรง ทำให้สัตว์อ่อนแอ ภูมิคุ้มกันโรคลดต่ำลง มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ เช่น โรคปากและเท้าเปื่อย และโรคคอบวม นอกจากนี้สัตว์ยังมีโอกาสติดเชื้อโรคอื่นๆ ที่สามารถพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนได้ เช่น โรคไข้สามวัน โดยเฉพาะโรคไข้สามวัน เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่สร้างความเสียหายต่อเกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศ โดยสัตว์จะติดเชื้อไวรัสผ่านแมลงดูดเลือด เช่น ยุง แมลงวัน เห็บ สัตว์ป่วยจะแสดงอาการหลังจากได้รับเชื้อ 2-4 วัน อาการของโรคจะพบได้แตกต่างกันไปในแต่ละตัว โดยอาการแรกที่พบสัตว์จะมีไข้สูง ขึ้นๆลงๆ ซึม ไม่อยากเคลื่อนไหว
ทั้งนี้อาการของสัตว์จะเริ่มชัดเจนขึ้นโดยจะพบเห็นว่าสัตว์เบื่ออาหาร กล้ามเนื้อสั่น ขาแข็ง ขาเจ็บ เดินลำบาก มีน้ำมูก น้ำลายไหล สัตว์บางรายอาจะพบการบวมน้ำบริเวณคอหรือไหล่ หายใจลำบาก ปอดบวม ลุกลำบาก หรือนอนไม่ยอมลุก พบอาการท้องอืดได้กรณีที่สัตว์นอนนานๆ ซึ่งสัตว์ส่วนใหญ่จะอาการดีขึ้น 1-2 วันหลังเริ่มแสดงอาการ และจะฟื้นตัวสมบูรณ์อีกประมาณ 1-2 วัน ซึ่งโคนมอาจใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์กว่าจะกลับมาให้น้ำนมปกติ โรคนี้มักพบอาการแทรกซ้อนร่วมด้วย เช่น เส้นประสาทขาหลัง เป็นอัมพาต เต้านมอักเสบ ปอดอักเสบ เป็นต้น โดยเชื้อไวรัสนี้ไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ตาย แต่สาเหตุการตาย เกิดจากภาวะแทรกซ้อนของโรคปอด ซึ่งวิธีการรักษาเป็นแบบรักษาตามอาการ ไม่มียารักษาโดยตรง ให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนร่วมกับยาบำรุง สัตว์ที่ขาเจ็บและลุกไม่ขึ้น จะต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสม โดยควรนอนในที่ที่มีสิ่งปูรองที่นุ่มและมีการช่วยพลิกตัวหรือพยุงตัวสัตว์ในแต่ละวัน
สำหรับการป้องกันโรคที่ดีที่สุด คือ ให้ความสำคัญกับการดูแลสัตว์เลี้ยงของตนให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง โดยต้องดูแลในเรื่องการจัดการโรงเรือน หรือคอกสัตว์ มีหลังคาป้องกันฝน ลม ได้เป็นอย่างดี ติดมุ้ง หรือหลอดไฟเพื่อป้องกันแมลงพาหะ มีวัสดุปูรองคอกเลี้ยงสัตว์ จัดเตรียมน้ำสะอาด อาหารสัตว์ พืชอาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์ต่างๆ เช่น วิตามิน ให้เพียงพอ
นอกจากนี้ควรทำความสะอาดโรงเรือน หรือคอกสัตว์ และพ่นทำลายเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอโดยขอให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์คอยสังเกตอาการของสัตว์เป็นประจำ หากพบสัตว์แสดงอาการป่วยหรือตายผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ อาสาปศุสัตว์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างทันท่วงที