"ถนนสายนี้...มีตะพาบ" โจทย์ประจำหลักกิโลเมตรที่ 115 "โกรธ"




"ถนนสายนี้...มีตะพาบ"
โจทย์ประจำหลักกิโลเมตรที่ 115 "โกรธ"
(เอนทรี่นี้ไม่ต้องโหวตครับ
ส่วนท่านที่ยังติดตาม"อรพิม/คิ้วนาง
ไม้เฉพาะถิ่นและหายาก
**ขอเชิญที่นี่ครับ**)





ตั้งแต่เห็น 3 โจทย์ที่ให้ช่วยกันโหวตแล้ว ผมก็ใบ้กิน จนวันนี้จวนหมดวันอยู่แล้วเลยต้องบังคับตัวเองให้ลงมือเขียนอะไรสักอย่าง ด้วยความเชื่อติดขมองมาตั้งแต่เด็กว่า ถ้าได้ลงมือทำก็สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว


ตอนเล็กๆ จำได้ว่าโกรธคนคนหนึ่งอย่างมาก คุณยายก็สอนว่า คนที่จะได้มาพบกันในชาตินี้ก็เพราะมีบุญและบาปผูกพันกันมา หากว่าใครทำร้ายเราในชาตินี้ก็อาจเพราะเราเคยทำร้ายเขามาก่อน การตอบโต้จะทำให้ผูกพันผลกรรมกันต่อไป หรือถ้าเขาเริ่มทำร้ายเราในชาตินี้ แล้วเราก็ตอบโต้ ก็จะเกิดเป็นผลกรรมติดตามกันไปอีกเช่นกัน จึงควรอโหสิให้
ทั้งสองประการ จะได้ลดห่วงโซ่กรรมกันไปเสีย และไม่ใช่แค่่
พูดอโหสิกรรมแต่ต้องคิดเช่นนั้นด้วย


แรกๆ ก็ทำไม่ค่อยได้ คุณยายก็สอนอีกว่า บางครั้งเมื่อเราหายโกรธแล้ว เคยนึกบ้างไหมว่า เวลาโกรธ เราทำสิ่งที่น่าอายและน่าตำหนิทั้งกิริยาวาจาไปมากมายเพียงใด ฟังอย่างนี้แล้วก็เริ่มคิดว่า มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ พอได้คิดก็คิดได้ว่า ต้องพยายามสงบใจให้ได้เวลาที่ถูกสบประมาทร้ายแรง การนิ่งไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่คนอื่นทำกับเรานั้นถูกต้องแล้ว หรือเราไม่กล้าสู้ ผมคิดว่า คนที่คิดได้ว่า ไม่ควรต่อความยาวสาวความยืดได้นั้นมีสติ ผู้ใหญ่ท่านสอนว่า ผู้ใดหยิบยื่นสิ่งใดให้เราแต่เราไม่รับ สิ่งนั้นก็จะยังคงอยู่กับผู้ให้ และถ้าฝึกตนเองให้มีสติในกรณีนี้ได้ บางครั้งจะรู้สึกว่า ความโกรธของผู้ที่กำลังพุ่งความโกรธมาสู่เรานั้นร้อนเหมือนเปลวไฟที่ทำให้เราอยากหลีกไปให้ไกล


เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้อ่านข้อเขียนของท่านว.วชิรเมธี ในเรื่อง สติ กับ ความโกรธ และได้บันทึกเก็บไว้ ขอนำมาฝากให้อ่านกันเป็นแนวทางระงับความโกรธด้วยสติ และการฝึกให้จิตมีสติอยู่ตลอดเวลา ขอฝากไว้ให้อ่านส่วนหนึ่ง และท่านที่สนใจข้อเขียนในเรื่องนี้ทั้งหมดก็ติดตามลิ้งค์ข้างท้ายไปอ่านได้ครับ







สติ กับ ความ โกรธ : วิธีระงับความโกรธแบบง่ายๆ
จะพลิกความโกรธให้เป็นเมตตาได้อย่างไร
โดย ท่าน ว.วชิรเมธี





>> ท่าน ว.วชิรเมธี << ที่ใดที่มีความโกรธที่นั่นไม่มีสติ ที่ใดมีสติที่นั่นไม่มีความโกรธ ความโกรธเปรียบเสมือนหนู สติเปรียบเสมือนแมว ที่ใดมีแมวที่นั่นไม่มีหนู ที่ใดมีหนูที่นั่นไม่มีแมว ฉะนั้นสติจึงเป็นธรรมซึ่งใช้เป็นคู่ปรับกับความโกรธได้เป็นอย่างดี ถ้าเราอยากจะหนีความโกรธ เราก็ควรฝึกสติในทุกๆ อิริยาบถ เมื่อเรามีสติอยู่ในทุกอิริยาบถ ก็คือเรามีความตื่นรู้อยู่ในทุกอิริยาบถ จิตของเราที่มีความตื่นรู้เป็นอารมณ์แล้ว ก็ไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับที่ความโกรธจะแทรกตัวเข้ามา ฉะนั้นสันนิษฐานได้อย่างหนึ่งว่า ใครโกรธคนนั้นกำลังขาดสติ ถ้าเราอยู่กับคนที่เขากำลังโกรธ คือ

ประการแรก เราต้องไม่โกรธไปกับเขา เพราะถ้าเราโกรธไปกับเขา หรือเอาตัวเองไปเป็นพวกเขาปุ๊บ เราถูกลากเข้าไปในสมรภูมิแห่งความโกรธเรียบร้อยแล้ว

ประการที่ 2 เราต้องสามารถควบคุมความคิดของตัวเองไม่ให้ตกเป็นฝักเป็นฝ่าย ทั้งฝ่ายคนที่กำลังโกรธและฝ่ายคนที่มากระตุ้นให้เขาโกรธ แต่เราควรวางตัวเป็นกลางเพื่อจะได้มองเห็นคนที่กำลังโกรธอยู่ข้างหน้าของเราอย่างชัดเจนว่าเขากำลังโกรธแล้วนะ เขากำลังเริ่มมีอาการวิปริตผิดเพี้ยนแล้วนะ เมื่อเราสังเกตเห็นเขาอย่างชัดเจน เราจะได้เตรียมพร้อมว่าจะช่วยเขาได้อย่างไร

ประการที่ 3 เราต้องวางตัวให้เป็นคนที่ใจเย็นที่สุดในนาทีอย่างนั้น นั่นคือใจเย็น พูดเย็น แล้วก็ทำเย็น ใจเย็นก็หมายความว่าอย่าไปซ้ำเติมเขา ว่าเขากำลังหลุด เขากำลังเสียศูนย์นะ พูดเย็นก็คือพยายามพูดในลักษณะเตือนสติเขาให้กลับมาอยู่กับเหตุผล และทำเย็นก็คืออยู่ใกล้ๆ เขาแล้วแสดงออกอย่างชัดเจนว่า คนที่เรากำลังโกรธนั้นยังมีคุณเป็นเพื่อนอยู่นะ เมื่อเขารับรู้ได้ถึงความเมตตาของเราในนาทีอย่างนั้น ความโกรธก็จะค่อยๆ ลดความแรงลง

ประการที่ 4 พาเขาออกจากสภาพแวดล้อมที่ทำให้เขาโกรธให้เร็วที่สุด

ประการที่ 5 ควรพาเขาไปล้างหน้าล้างตาเพื่อเรียกสติ น้ำมีปฏิสัมพันธ์เป็นพิเศษกับความตื่นรู้ในหัวใจคน พระพุทธเจ้าตรัสรู้เพราะนั่งสมาธิอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเรรัญชรา ท่านอาจารย์พุทธทาสเลือกสวนโมกข์ก็เพราะมีธารน้ำไหล วัดทุกวัดที่พระพุทธเจ้าเคยจำพรรษาล้วนแล้วแต่มีสระน้ำแห่งการตื่นรู้อยู่ใกล้ๆ พาคนที่เขากำลังโกรธไปล้างหน้าล้างตาเพื่อเรียกสติ จากนั้นควรชวรเขาไปทำงานอะไรสักอย่างหนึ่ง ชวนไปกินข้าว ชวนไปทำงาน ชวนไปร้องเพลง หรือชวนพูดคุยก็ได้ เพื่อเคลื่อนย้ายพลังงานแห่งความโกรธซึ่งเป็นอกุศลจิตชนิดหนึ่ง ให้ออกมาจดจ่ออยู่กับงานซึ่งกำลังอยู่ข้างหน้าเขา เมื่อมาถึงขั้นเคลื่อนย้ายพลังงานอย่างนี้สำเร็จแล้ว ก็เริ่มพูดคุยกับเขาด้วยวาจาสุภาษิต คือพูดด้วยเมตตา ใช้เหตุใช้ผล ถึงขั้นนี้แล้วอาตมภาพคิดว่า ความโกรธนั้นเย็นตัวลงมากแล้ว

วิธีเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่สุด ถ้าอยากจะตัดความโกรธออกจากชีวิตเลย คือ "เจริญวิปัสนากรรมฐาน" เพราะเมื่อเรามีความตื่นรู้ อยู่ในทุกๆอิริยาบถ ความโกรธจะแทรกเข้ามาในจิตใจเราไม่ได้ คนที่ปล่อยให้ความโกรธแทรกเข้ามาในจิตได้ก็แสดงชัดเจนว่า เขายังเป็นคนที่ขาดสติ ธรรมชาติของจิตจะรับอารมณ์ได้ทีละเรื่อง ถ้าจิตของเราอยู่กับสติ ความโกรธก็ไม่เข้ามา ถ้าจิตเราอยู่กับความโกรธ สติก็ไม่เข้ามาดังนั้นเราจึงควรให้พื้นที่แห่งจิตของเราอยู่กับสติมากกว่า เพราะวิธีนี้เป็นวิธีป้องกันความโกรธที่ได้ผลดีที่สุด "ถ้าเราอยากจะหนีความโกรธ เราก็ควรฝึกสติในทุกๆ อิริยาบถ เมื่อเรามีสติอยู่ในทุกอิริยาบถ ก็คือเรามีความตื่นรู้ในทุกอิริยาบถ จิตของเราที่มีความตื่นรู้เป็นอารมณ์แล้ว ก็ไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับที่ความโกรธจะแทรกตัวเข้ามา"
.........

ขอขอบคุณบทความจาก
**ที่นี่**






ขอลาไปด้วยความคิดที่ว่า ความโกรธไม่เคยเป็นผลดีแก่ใคร แม้แต่คนที่เคยได้เห็นเราลุแก่โทสะกับใครอื่นก็ตาม คงไม่รู้สึกดีที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับเรา ที่เขาเรียกว่า แหยง นั่นแหละครับ ใครจะอยากเสี่ยงเป็นเหยื่อเข้าเองสักวัน



ลาวแพน - บรรเลงกู่เจิ้ง

Special thanks to uploader, Pravich Chaichana.





Create Date : 08 ตุลาคม 2557
Last Update : 8 ตุลาคม 2557 21:36:00 น.
Counter : 2201 Pageviews.

28 comments
:: พุทธะโพธิสัตว์ :: กะว่าก๋า
(23 ส.ค. 2567 05:11:09 น.)
เรื่อง รัก ลึก อุ่น (Omega Verse) - บทที่ 50 วัลยา
(23 ส.ค. 2567 21:33:38 น.)
๏ ... นารีขี่ผ้าขะม้าแดง ... ๏ นกโก๊ก
(21 ส.ค. 2567 21:46:19 น.)
Oh!! my sassy boss ตอนที่ 30 หน้า 4 unitan
(20 ส.ค. 2567 18:54:18 น.)
  
มาคนที่ 1 ค่ะ


ทำเย็นยังไม่ได้อะคะ แย่จัง
โดย: สมาชิกหมายเลข 861805 วันที่: 8 ตุลาคม 2557 เวลา:21:35:31 น.
  
ความโกรธเนี่ยมันห้ามไม่ให้โกรธยากเหมือนกันนะคะเฮีย
แต่โกรธช้าหน่อย หายเร็วหน่อยก็ยังดีค่ะ
คุณยายสอนแบบนั้นจริงที่สุดค่ะ
คนโกรธกะคนบ้าเนี่ยคล้ายกัน

ชอบท่าน ว. เปรียบเทียบเรื่องหนูกับแมวนะคะเฮีย ตรงเลยน่ะ

โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 8 ตุลาคม 2557 เวลา:22:19:12 น.
  
คำสอนของท่านว.ดีมากเลยค่ะเฮีย
อ่านแล้วคิดไปด้วยเลย
ต่อไปนี้ต้องพยายามโกรธให้น้อยลงหน่อยแล้วค่ะ
ความโกรธนี่ทำลายได้ทุกอย่างจริงๆ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆค่ะ


โดย: mambymam วันที่: 8 ตุลาคม 2557 เวลา:23:42:36 น.
  

ระงับความโกรธนี่ ทำยากมากๆค่ะ
ถ้าทำได้จิตใจก็สบาย แต่ถ้าทำไม่ได้
จิตใจก็ไม่เป็นสุข

newyorknurse
โดย: newyorknurse วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:4:34:51 น.
  
สวัสดีค่ะ ตามมาอ่านเรื่องราวดีๆ ค่ะ
โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:8:40:11 น.
  
มาอ่าน ข้างบน... รู้เลยว่า ความโกรธ ไม่ดี
เลย สำหรับตนเอง และคนรอบข้าง
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:10:34:36 น.
  
เรื่องโกรธนี่บังคับยากนะคะ แต่ก็พยายามมีสติอยู่เสมออย่างที่ท่านว.สอนไว้ ขอบคุณคุณพี่มากสำหรับธรรมะและข้อคิดดี ๆ ที่หามาฝากกันนะคะ***
โดย: haiku วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:11:42:25 น.
  



ไม่โกรธอ่ะ แต่ตอนนี้หิวจังค่ะเฮีย
หม่ำกันดีก่า

โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:11:58:26 น.
  
แสดงว่าผมทำกรรมไว้กับหลายคนเลยนะเนี่ย
ไม่รู้ไปทำไว้ตอนไหน จำไม่ได้ แฮ่
ขอไประทึกชาติซักหน่อย
โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:12:33:26 น.
  
8.. หูยยยย น่ากินโพด ยกมาเพิ่มอีกจานนิ
กาแฟเย็นแบบบ้านโน้นล่วย อิอิ เค้าเรียก
เล่นไม่เลิกนะเนี่ย
โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:12:57:41 น.
  
ขอบคุณนะคะที่ไปเยี่ยมน้องซีค่ะ ^^
โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:13:00:34 น.
  



กาแฟเย็นใจตามสั่งค่ะ
เย้นน..เย็น.. แบบนี้เข้าโจทย์นะคะ ไม่มีโกรธ
เนอะเฮีย เม้นท์ขายของอีกแระป่วน ฮรี่ๆ

โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:14:24:29 น.
  
สวัสดีตอนบ่ายๆค่ะคุณหนูหล่อ
แวะมาทักทาย และอ่านงานตะพาบด้วยค่ะ
โดย: phunsud วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:15:35:54 น.
  
สวัสดีครับพี่หนูหล่อ

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตนะครับพี่

ความโกรธมีโทษมากกว่าคุณประโยชน์แน่ๆ
และผมคิดว่าความโกรธนั้นมีรากมาจากความกลัว
พอกลัวมากๆเข้า ก็โกรธ พอโกรธมากๆเข้าก็ทำลายล้างกัน

ปัญหาตั้งแต่ระดับครอบครัว
ไปจนถึงระดับประเทศก็มาจากความกลัวและความโกรธจริงๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:15:55:37 น.
  
สวัสดีค่ะพี่หนูหล่อ ^^
สติกับความอยู่ใกล้กันแค่เอื้อมเหมือนกันนะค่ะ
หากควบคุมสติไว้ไม่ได้ ความโกรธก็วิ่งเข้าหาแล้ว
คำสอนจากท่าน ว.วชิรเมธี อ่านไปพร้อมกับดนตรี
เสนาะเป็นจังหวะให้ใจ ร่มๆดีจังเลย โกรธไม่เคยเป็น
ผลดีกับใครจริงๆค่ะ ...
ตะพาบเอนทรี่114มีความคิดหลากหลายอ่านแล้ว
มีความสุขมากๆ แฮ๊ปปิ้นะค่ะพี่หนูหล่อ
โดย: mastana วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:18:22:36 น.
  
สวัสดีค่ะพี่หนูหล่อ

เมื่อกลางวันเข้ามาดูอรพิน
เม้นท์ผ่านมือถือไม่ถนัดค่ะ
กลับมาอีกทีเป็นตะพาบซะแล้ว

คุณตาก็สอนแบบที่คุณยายสอนนั่นแหละค่ะ
แต่ว่าหลานเก็บกดเอง 555+


แอมอร
โดย: peeamp วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:19:13:00 น.
  
สวัสดียามค่ำค่ะเฮีย
ยกเค้กฟักทองเหลืองอร่ามผสมน้ำตาลหน่อยๆมาฝากค่ะ



อบไฟแรงไปนิสนุงน่ะ


โดย: mambymam วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:19:44:44 น.
  
โกรธที่ไม่ไปอ่านโกรธบ้านอา

แต่พอเห็นกาแฟเย็นฉ่ำของนู๋นิค โกรธที่ร้อนฉ่าเย็นลงฉับพลัน

เหม่ๆๆๆ
ได้ซักแก้วก็ดีน่ะนู๋นิค

ไปโหวดที่อรพิมมาแล้วน่ะ
โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:20:50:07 น.
  
จิไปฮอกไกโด

ลูกเขาพาไปจ้าสองคนตายาย
ถามว่าพาคนแก่ไปเที่ยวจัหนุกเหรอ

เขาตอบว่าไงรู้ไม๊
คุณตาคุณยายไปช่วยดูหลานให้ด้วยไง
เอ้อ .. อาศัยบารมีหลานแระถึงได้ไปเมืองนอกเมืองนา 5555
โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:21:54:30 น.
  
มาอ่านข้อคิดข้อความเรื่องโกรธและวิธีระงับความโกรธ
คำสอนที่อ้างอิงก็ดีเยี่ยมมากๆ ตั้งใจอ่านเลยค่ะ
เอาไปใช้ในชีวิตได้แน่ๆ จริงๆด้วย

ต้องขอบคุณพี่หนูหล่อนะคะ

โดย: anigia วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:21:58:48 น.
  
เพลงบ้านเฮียฟังเพลินดีเหมือนกันค่ะ
แวะทักทายยามค่ำๆ หน่อยค่ะ
เหมือนจะท้องขึ้นนะเนี่ยนิค อิอิ

โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:22:28:13 น.
  
กดมาขอบคุณค่ะคุณนู๋หล่อ
อ่านบทความที่เขียน โดยใช้ธรรมะมาประกอบ
ดีมากๆเลยค่ะ ท่าน ว.ก็สอนให่เราคิดได้ดีมาก
มีสติอยู่กับตัว เวลามีอารมณ์โกรธ มักลืมข้อนี้ก่อนเลยเรา...
แต่เดี๋ยวนี้เย็นลงมากเลยคร้า เพราะใช้สติระงับ
ตามคำสอนถึงได้เข้าใจกระจ่างแจ้งเพิ่มขึ้น
ขอบคุณค่ะ ...
โดย: Tui Laksi วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:22:35:24 น.
  
สวัสดีค่าพี่หนูหล่อ ^^
มาอ่านข้อคิดดีๆจากตะพาบโกรธค่ะ

ความโกรธเนี่ยบางทีก็ห้ามยากมากเลยนะคะ
มีสติ ห้ามความโกรธ
แต่บางทีมันก็ปรี๊ด ไม่รู้ตัวค่ะ
อ่านแล้วก็ได้ข้อคิดดีๆมาก
จะพยายามทำให้ได้ค่า

ขอบคุณค่ะพี่หนูหล่อ
โดย: lovereason วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:22:41:32 น.
  
ว๊าว มีธรรมะท่านว.ด้วย
เดี๋ยวผมจองคิวไว้ก่อนนะครับเดี๋ยวมีเวลาจะรีบมาอ่านต่อเลย
ขอบคุณพี่หนูหล่อที่มาเยี่ยมนะครับผม อิอิ ^^
โดย: วนารักษ์ วันที่: 9 ตุลาคม 2557 เวลา:22:51:36 น.
  
"ผู้ใดหยิบยื่นสิ่งใดให้เราแต่เราไม่รับ สิ่งนั้นก็จะยังคงอยู่กับผู้ให้" อันนี้พระท่านหลายๆ คนก็พูดถึงเหมือนกันครับ แม้แต่คำด่า ถ้ามันจริงเราก็รับไว้แล้วแก้ไข ถ้าไม่จริงเราก็ไม่ต้องไปรับ มันก็จะเป็นการคืนเค้าไป มันไม่มีเหตุให้ต้องโกรธจริงๆ

แต่อย่างว่าแหละ เราเป็นคน ไม่ใช่พระอิฐพระปูน มีความรู้สึกมากบ้างน้อยบ้างที่จะโกรธ มันก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ต้องควบคุมมันหน่อย
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 ตุลาคม 2557 เวลา:0:10:41 น.
  
สวัสดียามเช้าครับพี่หนูหล่อ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 ตุลาคม 2557 เวลา:6:57:20 น.
  
มารับธรรมะดีๆจากพี่หนูหล่อแล้วก็ท่านว.นะครับ

เวลาเราเห็นคนที่แสดงอาการโกรธรุนแรง

เรารู้สึกไม่อยากเข้าใกล้เขาเลย

กลัวว่าเขาจะแสดงอาการอย่างนั้นกับเราสักวันหนึ่งครับ อิอิ ^^

ขอบคุณสำหรับธรรมะดีๆนะครับผม
โดย: วนารักษ์ วันที่: 10 ตุลาคม 2557 เวลา:22:23:26 น.
  
จริงค่ะคงไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนที่มีอารมณ์โกรธเพราะไม่รู้จะโดนหางเลขหรือเปล่า
โดย: zungzaa วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:15:34:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nulaw-08.BlogGang.com

ภาวิดา คนบ้านป่า
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 140 คน [?]

บทความทั้งหมด