ถนนสายนี้...มีตะพาบ โจทย์ก.ม.ที่ 186 "ประชุม" เวอร์ชั่นนี้ จำเขามาเบียดๆเข้าโจทย์
ถนนสายนี้...มีตะพาบ ก.ม.ที่ 186 "ประชุม" เวอร์ชั่นนี้ จำเขามาเบียดๆเข้าโจทย์ ขอบคุณของแต่งบล็อกจากอินเทอร์เน็ต เอนทรี่นี้อยู่ในหมวด งานเขียนและบทประพันธ์【Music Box】 รวมเพลงรักหวาน #vol.1 credit: YouTube & Uploader:EveryDay Channel
ถนนสายนี้...มีตะพาบ ก.ม.ที่ 186 "ประชุม" โจทย์โดยคุณต่อ toor36 โดยอาชีพซึ่งก็สวมหมวกหลายใบอยู่ แต่ไม่ค่อยต้องถ่อร่างไปประชุมมากมาย นานๆครั้งจนไม่น่าจะเบื่อ ทั้งไม่น่าจะบ่นด้วย แล้วถ้าจะถามว่า ชอบการประชุมไหม คำตอบก็คือ ถ้าประชุมแล้วได้ประโยชน์บรรลุวัตถุประสงค์ก็ชอบ ถ้าคุยกันแทบตาย นั่งจนรากงอกแล้วงอกอีกแต่จบไม่ลงหรือจบแบบไม่ลงรอยกันก็ไม่ชอบ นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้น เรื่องการประชุมในความหมายว่าพบกันเพื่อหารือ สัมมนา ถกเถียง หรือแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ จขบ.จึงไม่ค่อยมีประสบการณ์ทั้งทางบวกหรือลบมากพอจะนำมาชี้แจงแสดงเหตุได้ แล้วจะเขียนโจทย์นี้ได้อย่างไรล่ะ ก็นั่นน่ะสิ เขียนหนก่อนก็ลืมดูว่าหนต่อไปเขาจะให้เขียนอะไรกัน ก็มัวบ้าบอบล็อกหายอ่ะจ้าาาา ถ้าอย่างนั้นก็เอาอย่างนี้นะคะ เขียนเรื่องประชุม ที่มีความหมายว่าชุมนุม หรือรวมกัน ก็แล้วกันค่ะ และที่จะรวบรวมมาชุมนุมให้เห็นกันบ้างก็คือสิ่งละอันพันละน้อยเกี่ยวกับกลวิธีการเขียนหนังสือให้อ่านแล้วเข้าใจง่าย ผู้อ่านเข้าใจตรงกันกับผู้เขียน แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่า ผู้เขียนตอนนี้ก็เขียนไม่ค่อยละเอียดชัดเจนนักเนื่องจากกำลังอยู่ในวัยความจำไม่ค่อยสามัคคี ก็คงได้แต่ว่าไปพอสมควรแก่โจทย์และเวลา เขียนหนังสือดีในความหมายของคนส่วนมากคือ เขียนให้ถูกต้องทั้งตัวสะกดและวรรคตอน แต่จขบ.คิดว่า สองอย่างนี้เป็นเพียงพื้นฐาน ทำได้แค่นั้นไม่น่าทำให้การเขียนเข้าขั้นดีได้ การเขียนดีควรต้องเขียนให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือต้องเขียนด้วยระดับคำที่เหมาะกับวัยและพื้นฐานความรู้ของผู้อ่าน แต่สิ่งที่สำคัญข้อแรกนี้แหละที่ถ้าจะต้องชี้แจงแสดงเหตุและผลก็คงต้องพากลับไปเรียนไวยากรณ์ไทยที่คนไทยสมัยนี้ยากจะได้เรียนอย่างครบถ้วนกันใหม่ หลายคนไม่รู้แม้กระทั่งว่า อักษรไทย 3 หมู่นั้น แต่ละหมู่เรียกว่าอะไร มีกี่ตัวและผันวรรณยุกต์ต่างกันอย่างไร อ้าว ออกอ่าวอีกแล้ว เมื่อมันยากเช่นนี้แล้วไซร้ จขบ.ก็คงต้องรวมไว้สักประเด็นพอให้ได้เข้าโจทย์ว่า การเขียนบรรยายลักษณะของสิ่งของโดยรวมแล้ว ภาษาไทยจะคล้ายๆภาษาอังกฤษ คือเอาส่วนขยายคำนามไว้ชิดกับคำนาม ต่างกันที่ภาษาอังกฤษเอาส่วนขยายไว้ข้างหน้า เช่น old man ภาษาไทย ชายแก่ ภาษาจีนเช่นแต้จิ๋วกลับเหมือนฝรั่ง คือ เล่านั้ง ถ้าเป็นการขยายความเพียงคำเดียวก็ไม่ซับซ้อนเท่าไรหรอก แต่ถ้าประโยคหนึ่งมีส่วนขยายหลายที่ ก็จะเมาได้มาก ยกตัวอย่าง ***ขอทานอดโซเทก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่น่ากินที่ยังเหลืออีกมากให้หมาข้างถนนกิน*** อ่านเผินๆก็ไม่เห็นจะแปลกหรือผิดที่ผิดทางตรงไหน อ่านแล้วก็รู้เรื่องนี่นา แต่รู้ตรงกับความเป็นจริงไหม ลองวิเคราะห์ดูเล่นๆก็อาจจะได้ยิ้มไม่รู้จบ 1. "ขอทานอดโซ" เราคิดว่าเดี๋ยวนี้ขอทานที่มีทำเลดีๆนั่งขอเศษเงินไม่อดโซแล้ว และทำเลเหล่านั้นก็มีคนจัดหาให้แถมดูแลคุ้มกันไม่ให้ใครอื่นมาแย่งที่นั่งด้วย มันเป็นการทำ'ทุ'รกิจแบบหนึ่ง เขาว่ากันอย่างนี้แหละ ขอทานดังๆรวยเป็นแสนเป็นล้าน คำว่า "อดโซ" ในที่นี้จึงน่าจะมาผิดที่ ไว้ดูต่อไป ขอทานคนนี้มีอันจะกินแน่ เพราะเขาอาจลุกไปจากที่นั่งขอทานแล้วไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยอยู่ก็ได้ ก๋วยเตี๋ยวชามนี้ต้องพิเศษแน่ๆ สวาปามไม่หมดเลย จะอดโซได้อย่างไร 2. "ก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่น่ากิน" ถ้าพิจารณาจากที่ว่า คำขยายต้องอยู่ชิดคำนาม ดังนั้น สิ่งที่น่ากิน จึงเป็นชามซึ่งทั้งใบใหญ่และน่ากิน (แทะกันฟันฟางร่วง) แต่ก๋วยเตี๋ยวนั้น ไม่รู้ว่าน่ากินหรือไม่ 3. "หมาข้างถนน" ถ้าเป็นหมามีเจ้าของ เจ้าตัวนี้ก็คงอ้วนพีมีความสุข แต่เมื่อมันเป็นเพียงหมาข้างถนน เจ้าตัวนี้แหละที่สมควรจะ "อดโซ" ภาษาเขียนแบบนี้ อ่านพอเข้าใจได้ไม่ยากแต่ถ้าจะให้เข้าใจดีเป็นแบบแผน โต้แย้งยาก (ไม่ได้บอกว่า โต้แย้งไม่ได้ 100% นะคะ) ยังต้องแก้ประโยคแบบกลับหัวกลับหางกันเลยทีเดียวเชียว ลองดูนะคะ ***ขอทานเทก๋วยเตี๋ยวน่ากินชามใหญ่ที่ยังเหลืออีกมากให้หมาอดโซข้างถนนกิน*** ก็คงจะพอจุดประกายความสนใจในเรื่องนี้ได้เพียงเท่านี้ อย่าถือว่าเป็นการให้ความรู้เพราะนี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆที่คนเขียนหนังสือดีๆเขาใช้ในการเรียบเรียงข้อความให้เข้าใจได้ง่ายๆ ถ้าจะทำให้ถูกต้อง 100% ยังต้องรวบรวมส่วนปลีกย่อยมาศึกษากันอีกมาก จขบ.สูญเสียความจำในเรื่องนี้ไปมากแล้ว อยากให้ผู้ที่ยังมีความจำอย่างชัดเจนแจ่มใสส่งต่อความรู้ในเรื่องนี้ต่อๆไป คงยากที่จะได้เรียนกันอย่างเข้มในโรงเรียน ทั้งหลายทั้งปวงนี้ไม่ได้หมายถึงการเขียนบล็อกหรือเขียนคอมเม้นท์นะคะ ส่วนนี้เป็นแค่การเขียนแบบลำลองระหว่างเพื่อนๆเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการเขียนตามแบบแผน เขียนให้เข้าใจกันได้ก็พอแล้ว แต่หากจะฝึกเรียบเรียงการเขียนบล็อกให้เข้าใจได้ง่ายๆก็จะดีแก่การพัฒนาการเขียนให้ดีขึ้นเรื่อยๆพบกันใหม่ในเอนทรี่ต่อไปซึ่งไม่แน่ว่าเมื่อไร สุขภาพไม่สู้อำนวยเท่าไร แพทย์พบว่า หินปูนในหูชั้นในข้างขวาเคลื่อน เป็นเหตุให้มีอาการบ้านหมุนบ่อยๆ ช่วงนี้หนักขึ้นมาก กำลังได้รับการรักษา ถูกห้ามกิจกรรมหลายอย่าง ต้องนอนให้มากขึ้น ห้ามนอนไม่หลับเลย ก็จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามที่แพทย์สั่งมา ถ้าพอมีโอกาสก็จะเข้ามากดโหวตให้เพื่อนๆนะคะ จะยังคงเปิดเม้นท์และตามไปเท่าที่สามารถค่ะ ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ อย่าเจ็บอย่าไข้นะคะLITERATURE
เมื่อสมัยยังเด็ก มักอยู่ในข้อสอบเสมอ แต่ดูเหมือนภาษาอังกฤษจะเน้นความสำคัญส่วนนี้มากกว่าภาษาไทยนะคะ จะต้องจำลำดับได้ว่าอันไหนมาก่อนอันไหนมาหลัง เวลาผ่านไปนานมากจนเลือนไปซะหมด พอพี่ภาว่าถึง ได้ค้นหามาจำไว้บ้างคงจะดีค่ะ
สมัยที่ยังสอนนักศึกษา ก็มีหลากหลายความเห็นค่ะ เด็กสมัยนี้อย่าว่าเขียนคำขยายให้ถูกลำดับความ สะกดให้ถูกก็ยากเสียแล้วค่ะ แต่เมื่อมีคนทักท้วง อาจารย์ส่วนใหญ่กลับมองเห็นว่า การสื่อสารเปลี่ยนไปแล้ว เขียนแล้วสามารถอ่านรู้เรื่องสื่อสารกันได้ก็รับได้ เป็นซะยังงั้นไปค่ะ
Article demonstrative possessive
Ordinal (ลำดับที่)
Cardinal(จำนวน)
Quality(คุณภาพ)
Size (ขนาด)
Age (อายุ )
Shape (รูปร่าง)
Color (สี)
Participle (v.3/v.ing)
Origin (แหล่งที่มา)
Material (วัสดุ)
Noun