Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2563
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
10 ตุลาคม 2563
 
All Blogs
 
[The Jungle Book] วิถีของป่าและวิถีของมนุษย์


วันนี้ขอเสนอภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง The Jungle Book ที่สร้างจากนิยายที่ทุกคนคุ้นเคย ชื่อภาษาไทยคือเมาคลีลูกหมาป่าครับ หลายคนรู้จักเรื่องนี้เพราะตอนเรียนลูกเสือมักให้เราสวมบทเมาคลีกระโดดเหยงๆ ท่องคติพจน์ว่า อาคีล่า จงทำดีๆๆ แล้วก็ร้องเพลง เมาคลีล่าสัตว์ๆ ล่าแชร์คานๆ ~♫ ทำไมลูกเสือถึงถูกเลี้ยงโดยหมาป่าแล้วออกล่าเสือวะ? อันที่จริงคลาสลูกเสือก้อปมาจาก Cub Scout ของฝรั่ง ที่บาวเดน พาวเวล ใช้นิยายเรื่องเมาคลีเป็นธีม เรียกอีกชื่อว่า Wolf Cubs แต่พอ ร.6 อิมพอร์ทเข้าไทยตั้งกองเสือป่าขึ้นก็เปลี่ยนเป็นลูกเสือ แต่ยังคงใช้เรื่องเมาคลีลูกหมาป่าเป็นธีมอยู่ เด็กก็เรียนไปงงกันไป
 

The Jungle Book เป็นนิยายที่เขียนโดย Rudyard Kipling ในปี 1894 เรื่องของเด็กชื่อเมาคลีที่ถูกทิ้งไว้ในป่าลึกของอินเดียและถูกเลี้ยงดูโดยหมาป่า นิยายเรื่องนี้ถูกทำเป็นการ์ตูนและภาพยนต์หลายเวอร์ชั่นมาก แต่ที่ประทับใจเจ้าของบล็อกที่สุดถ้าเป็นฉบับการ์ตูนก็ต้อง ซีรี่ยส์การ์ตูนเมาคลีของญี่ปุ่นปี 1989 (เคยฉายทางช่อง 9 การ์ตูน) และถ้าเป็นหนังโรงก็ต้อง The Jungle Book live action ของดิสนีย์ปี 2016 ที่จะพูดถึงในบล็อกนี้เลยครับ

ภาพยนตร์เวอร์ชั่นนี้นำแสดงโดย Neel Sethi ส่วนตัวละครหลักอื่นๆ รวมทั้งฉากต่างๆ เป็นคอมพิวเตอร์กราฟฟิคทั้งหมด! เห็นงานภาพของเรื่องนี้แล้วตะลึงกับพลัง CG ของศตวรรษนี้จริงๆ ปนด้วยความตะลึงกับจินตนาการของผู้กำกับและเจ้าหนูนีล ที่ตอบโต้กับโฟมและวิ่งบนฉากเขียวได้ตลอดการถ่ายทำ
 

นอกจากงานภาพที่ยอดเยี่ยมแล้ว เนื้อหาของภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยายไปพอสมควรก็ได้เรียงร้อยให้หนังเรื่องนี้สามารถวางบทบาทให้องค์ประกอบต่างๆของป่าแสดงจุดเด่นของตนเองออกมา และยังนำเสนอแนวคิดเรื่องวิถีของป่าและวิถีของมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่งแบบที่ไม่ต้องเอาวิถีของใครมาข่มใคร เอาคะแนน 5 ดอกไม้แดง ไปก่อนเลยครับ



 

 
**Entry นี้ มีการสปอยล์สาระสำคัญของเรื่อง**


เมาคลี เป็นลูกมนุษย์ที่ถูกทิ้งไว้ในป่า และบากีร่าเสือดำได้พามาให้ฝูงหมาป่าที่มีอาคีล่าเป็นจ่าฝูงช่วยเลี้ยง รัคช่าหมาป่าสาวได้เลี้ยงดูเมาคลีร่วมกับลูกหมาป่าตัวอื่นๆ เหมือนเป็นลูกตัวเอง

แม้ความสามารถทางกายและสัญชาตญาณต่างๆ จะสู้สัตว์ป่าไม่ได้ ทำให้ในการฝึกเอาตัวรอดเขาถูกบากีร่าจับตัวได้ทุกครั้ง แต่เมาคลีก็มีความสามารถที่เป็นจุดเด่นของมนุษย์คือการสร้างอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ แต่นั่นไม่เป็นที่ยอมรับในป่า บากีร่าเตือนอยู่เสมอว่าการใช้ลูกเล่นแบบมนุษย์นั้นมันไม่ใช่วิถีของหมาป่า

นั่นทำให้เมาคลีไม่สามารถแสดงจุดเด่นที่เหนือกว่าสัตว์อื่นๆ ได้
 

ซ้ำร้ายด้วยความเป็นมนุษย์ ทำให้เขาถูกเกลียดชังโดยแชร์คาน เสือโคร่งผู้โหดเหี้ยมที่เป็นที่หวาดกลัวของสัตว์อื่น เพราะมันฆ่าเพื่อความสนุก ผิดกับการล่าเพื่ออยู่รอดแบบสัตว์ทั่วไป แชร์คานเคยเข้าจู่โจมพ่อของเมาคลีที่เข้ามาในป่า และถูกคบเพลิงจี้จนตาบอด แต่ก็สามารถสังหารพ่อของเมาคลีได้ แชร์คานยื่นคำขาดให้ฝูงหมาป่าตัดขาดจากเมาคลีก่อนหมดหน้าแล้ง ไม่เช่นนั้นเขาจะกลับมาจัดการ

เมาคลีอาสาขอออกจากฝูงมาเอง เขาได้พบกับบาลูเข้า บาลูเป็นหมีสลอธที่ใช้ชีวิตแบบสบายๆ ไม่เคร่งครัดกับกฎของป่ามากนัก กฎแห่งพงไพรที่ท่องให้ยึดถือกันนักหนาสำหรับเขาก็เป็นแค่พร็อพพาแกนดา (โฆษณาชวนเชื่อที่หลอกให้ทำตามเพื่อประโยชน์ของชนชั้นปกครอง) เท่านั้นเอง แม้แต่ศัตรูอย่างแชร์คานเองก็เคยบอกว่าเมาคลีถูกกฎฝังหัวให้ยอมละทิ้งความร้ายกาจที่สุดของมนุษย์ไป แท้จริงแล้ววิถีที่มนุษย์ที่เติบโตขึ้นในป่าอย่างเมาคลีควรเลือกเป็นแบบไหนกันแน่? -- ทำตามวิถีแห่งป่าเพื่ออยู่ร่วมกับสัตว์อื่น หรือทำตามวิถีของมนุษย์เพื่อดึงคุณค่าที่แท้จริงของตนเองออกมา

ครั้งหนึ่ง ลิงยักษ์ลูอี้ที่ปกครองฝูงลิงอยู่ในวิหารโบราณ ได้สั่งให้ฝูงลิงบันดาโล้กพาตัวเมาคลีมา ลูอี้ได้ครอบครองข้อมูลข่าวสารทั้งป่า แถมยังมีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล แต่เขาต้องการให้เมาคลีมอบสิ่งที่เขายังไม่มีให้ นั่นคือดอกไม้แดง


"ดอกไม้แดง" คือชื่อที่พวกสัตว์ป่าใช้เรียก "ไฟ" มันมีอำนาจเผาทำลายทุกสิ่งที่สัมผัสถูก และด้วยการที่มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่สามารถควบคุมไฟได้ ทำให้พวกสัตว์ป่าหวาดกลัวมนุษย์มาก ลูอี้เชื่อว่าหากเมาคลีมอบดอกไม้แดงให้ลูอี้ เขาจะได้ครอบครองอำนาจเหนือผู้ใดในป่าแห่งนี้โดยสมบูรณ์
 

ควมแตกต่างของมนุษย์จากสัตว์อื่นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์เอาตัวรอดมาจนอยู่บนจุดสูงสุดของสิ่งมีชีวิตได้ แต่แรกเริ่มเดิมทีจีนัสเซเปี้ยนกำเนิดขึ้นมาเมื่อราว 2.5 ล้านปีก่อน เคยมีมนุษย์อยู่หลากหลายเผ่าพันธํุ์ เช่น โฮโมอิเรคตัส โฮโมฮาบิลิส โฮโมนีแอนเดอธัล และเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ที่หลงเหลือเพียงเผ่าเดียวจนถึงยุคปัจจุบันก็คือพวกเราๆ โฮโมเซเปี้ยน

มนุษย์เคยอยู่ตอนล่างของห่วงโซ่อาหาร แต่การใช้ไฟทำให้มนุษย์ขยับขึ้นมาอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารได้ การที่หนังเรื่องนี้ยกเอาคีย์สำคัญของการอยู่รอดของมนุษย์อย่างไฟให้เป็นที่หวาดกลัวไปทั่วผืนป่านั้นได้ตอกย้ำความหวาดกลัวที่ถูกฝังในวิวัฒนาการผ่านกาลเวลานับล้านปี พวกสัตว์ทั้งมวลรู้ดีว่าแม้จะมีร่างกายแข็งแกร่งกำยำเพียงใดก็ไม่อาจเอาชนะมนุษย์ที่ครอบครองดอกไม้แดงได้ และโฮโมเซเปี้ยนเองก็ขึ้นมาอยู่เหนือมนุษย์เผ่าอื่นๆ แม้กระทั่งมนุษย์นีแอนเดอธัลที่มีทั้งกำลังและมันสมองเหนือกว่าได้ ก็เป็นเพราะการสร้างภาษาที่ซับซ้อนทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากกว่า และโฮโมเซเปี้ยนยังอยู่รอดจนเกิดการรวมกลุ่มทางสังคมขนาดใหญ่กว่าสัตว์อื่นๆ ได้ด้วยการมีสิ่งที่ยึดถือร่วมกัน เช่น ศาสนา ทำให้สังคมของมนุษย์เติบโตแข็งแกร่ง ทิ้งห่างฝูงสัตว์อื่นๆออกไปแบบที่การวิวัฒนาการตามธรรมชาติไม่สามารถตามได้ทันแล้ว

แม้เมาคลีจะเป็นมนุษย์ที่โดดเดี่ยว แต่เขาก็ยังครอบครองปัจจัยขั้นต่ำสุดที่ทำให้มนุษย์ก้าวข้ามสัตว์ทั้งปวงอยู่ นั่นก็คือ "ไฟ"

แต่ตอนนี้เขายังไม่เต็มใจมอบมันให้กับใคร เมาคลีหนีการไล่ล่าของลูอี้ออกมา แต่ข่าวร้ายที่แชร์คานได้ฆ่าอาคีล่าและขึ้นปกครองฝูงหมาป่าก็มาถึงหู ทำให้เมาคลีต้องเดินทางกลับไปต่อสู้ตัดสินกับแชร์คาน ในทีแรกเมาคลีตัดสินใจสู้ด้วยไฟ ที่เป็นข้อได้เปรียบของมนุษย์ แต่การที่เมาคลีเอาคบเพลิงมาจากหมู่บ้าน และทำให้ไฟลามไปทั่วป่า แทนที่จะทำให้แชร์คานกลัว แต่กลับทำให้สัตว์ป่าที่เคยเป็นพวกเดียวกันหวาดกลัวเมาคลีที่กลายเป็นมนุษย์ไปโดยสมบูรณ์แล้ว

 

เมาคลีตัดสินใจทิ้งคบเพลิง แม้จะไม่เหลือเขี้ยวเล็บอะไรจะต่อสู้กับเสือร้าย แต่อาวุธที่ร้ายกาจที่สุดก็คือพวกพ้อง บากีร่า บาลู และเหล่าหมาป่า พร้อมใจลุกขึ้นช่วยเมาคลีต่อสู้กับแชร์คาน พร้อมตะโกนกฎแห่งป่าดังกึกก้อง

"NOW this is the law of the jungle, as old and as true as the sky, And the wolf that shall keep it may prosper, but the wolf that shall break it must die. As the creeper that girdles the tree trunk, the law runneth forward and back; For the strength of the pack is the wolf, and the strength of the wolf is the pack."

นี่คือกฎแห่งพงไพร
เก่าแก่แน่แท้เท่าผืนฟ้า
หมาป่าใดยึดถือจักก้าวหน้า
หมาป่าใดฝืนฝ่าจักวอดวาย
เฉกไม้เลื้อยที่โอบพันไม้ใหญ่
กฎว่ายเวียนวนกลับมา
ความแกร่งของฝูงอยู่ที่หมาป่า
ความแกร่งของหมาป่าอยู่ที่ฝูง


ผมชอบท่อน For the strength of the pack is the wolf, and the strength of the wolf is the pack. มาก น่าให้เอาไปท่องแทนกฎของลูกเสือจริงๆ

 

แม้พวกจะเยอะ แต่พวกบาลูก็ไม่สามารถเอาชนะแชร์คานด้วยกำลังได้โดยง่าย เมาคลีจะเข้าตะลุมบอนพร้อมฝูงหมาป่า แต่ก็ถูกบากีร่าห้ามไว้ "จะสู้อย่างหมาป่าไม่ได้ เจ้าไม่ใช่หมาป่า จงสู้อย่างมนุษย์"

บาลูเคยบอกว่าการใช้เครื่องมือไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่เป็นวิถีของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป ซึ่งการที่คนใช้ชีวิตไม่ยึดติดกับกฎอย่างบาลูบอกเองก็คงไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่ แต่หนนี้แม้แต่บากีร่าที่สั่งสอนเมาคลีให้ทำตามกฎมาตลอดกลับบอกให้เขาแหกกฎ บากีร่าได้เห็นเมาคลีใช้อุปกรณ์ช่วยลูกช้างขึ้นจากหลุมได้ จึงเปลี่ยนความคิดและพบว่าการดึงศักยภาพสูงสุดของเมาคลีออกมานั้น ต้องไม่ยึดติดกับกฎแห่งป่า และประโยคนี้ได้ปลดปล่อยเมาคลีให้เป็นอิสระ การใช้ร่างกายเข้าสู้กับแชร์คานก็เหมือนกระโดดเข้าไปให้เสือจับกินฟรีๆ เขาต้องใช้จุดแข็งของมนุษย์ เมาคลีได้ล่อแชร์คานเข้าไปในป่าที่เพลิงกำลังลุกไหม้ และหลอกให้แชร์คานตกลงไปในกองเพลิงได้สำเร็จ ในขณะที่เขาใช้อุปกรณ์เชือกผูกตัวเองกับต้นไม้จึงไม่ร่วงตามลงไป

 

เมาคลีใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์ป่าต่อไป โดยรัคชาขึ้นเป็นจ่าฝูงหมาป่าแทนอาคีล่า เรื่องราวจบลงอย่างสวยงามครับ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าแต่ละคนมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันได้ ขอเพียงให้ดึงคุณค่าของตนเองออกมาได้สูงสุด

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือการใช้องค์ประกอบของป่าในการวางบทบาทให้สัตว์ต่างๆ นั้น เซตติ้งของเรื่องนี้คือป่าดงดิบของอินเดีย และสัตว์กินเนื้อที่แข็งแกร่งที่สุดคือเสือโคร่งก็ถูกกำหนดให้เป็นตัวร้ายหลักไปแล้ว เรื่องนี้ยังวางตำแหน่งของสัตว์ป่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างแท้จริงไว้อย่างงดงาม ผมกำลังพูดถึงทีเร็กซ์ครับ... ทุ้ยยย! ช้างตะหาก! ในหลายๆเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่ามักยกให้สิงโตเป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่าทั้งมวล ด้วยความสง่างามแบบไม่สนสเป็คที่แท้จริงเลย แต่เรื่องนี้ให้ช้างเป็นเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าสัตว์ป่าต้องเคารพบูชา ในฐานะผู้สรรค์สร้างทุกสิ่งในป่า ลงมือขุดที่ไหนก็จะเกิดเป็นสายน้ำ ขยับตัวเมื่อใดเหล่ากิ่งไม้ใบไม้ก็ร่วงหล่น หลังจัดการแชร์คานได้แล้ว เมาคลีก็ขอร้องให้ฝูงช้างช่วยเปลี่ยนทางน้ำจนสามารถดับไฟป่าได้สำเร็จ ถือว่าครั้งนี้เมาคลีสามารถใช้ทั้งวิถีของมนุษย์และวิถีของป่าได้อย่างสมบูรณ์

 
 


เบ็ดเตล็ดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
  • ที่อยู่ของเมาคลีคือป่าซีโอนี่ ในรัฐมัธยประเทศ ตอนกลางของประเทศอินเดีย
  • สัตว์ที่ปรากฎตัวในเรื่องล้วนมีอยู่ตามธรรมชาติในป่าของอินเดียจริง ยกเว้นลูอี้ เป็นลิงยักษ์ไจแกนโทพิธิคัสที่สูญพันธุ์ไปตั้งแต่เมื่อ 300,000 ปีที่แล้วอะนะ ถือเป็นตัวละครที่ปรากฏตัวออกมาดูมีบารมีน่าเกรงขามมาก แต่อยู่ๆก็ร้องเพลงทุเรศๆออกมา สงสัยเป็นคำสาปของดิสนีย์
  • แม้ตัวละครสัตว์ต่างๆ จะเป็นภาพ CG แต่พากย์โดยดาราดังๆหลายคน โดยเฉพาะพญางู "คา" ที่พากย์โดยสการ์เล็ต โจฮันสัน เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้ชมได้ส่วนนึงเลย แต่บทชีน้อยมาก
  • ภาพยนตร์ดัดแปลงเนื้อหาจากนิยายหลายจุด โดยเฉพาะจุดจบของแชร์คาน เดิมเมาคลีจะล่อให้แชร์คานลงไปในหุบเขาและถูกฝูงควายป่าเหยียบตาย แต่ฉากฝูงควายถูกใช้ตอนต้นเรื่องเพื่อพาเมาคลีหนีจากแชร์คานไป และให้ศึกตัดสินแชร์คานถูกล่อให้ตกลงไปในกองเพลิงแทน
  • จากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้จึงมีแผนทำภาคต่อนะครับ แต่ไม่รู้กว่าจะได้ถ่ายทำเจ้าหนูนีลจะโตขึ้นขนาดไหนแล้ว เพราะทีมงานก็เสียเวลาทำ The Lion King (2019) ไปนานอยู่

 



Create Date : 10 ตุลาคม 2563
Last Update : 17 ตุลาคม 2563 9:21:48 น. 43 comments
Counter : 3882 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณThe Kop Civil, คุณnonnoiGiwGiw, คุณhaiku, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณทนายอ้วน, คุณสองแผ่นดิน, คุณหอมกร, คุณnewyorknurse, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณเริงฤดีนะ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณTui Laksi, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณkae+aoe, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณInsignia_Museum, คุณmcayenne94, คุณRinsa Yoyolive, คุณmariabamboo, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณอุ้มสี


 
ระยะหลังมานี้ หนังสร้างขึ้นมาใช้คอมพิวเตอร์ ผสมกับแสดงจริง
ได้เนียน คนนี่เก่งจริง ๆ 555

เรื่องนี้คงน่าดูอีกเช่นกัน

คุณชีริวเขียน เรื่องแบบนี้ดีเหมือนกัน เพราะคนไทยเริ่มเอียน
ข่าว ตาหาน ข่าวโควิด ข่าวนักกินเมือง 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 10 ตุลาคม 2563 เวลา:17:48:36 น.  

 
ผมชอบของปี 2016 เหมือนกันครับ สัตว์แต่ละตัวดูมีชีวิตชีวา เสียงพากย์ก็โอเคมากครับ CG ก็เนียนตาจริง ๆ ครับ เหมือนของจริงเลย แต่เวอร์ชั่นของญี่ปุ่นไม่แน่ใจว่าเคยดูมั๊ย
จากบล็อก
กรีนแลนด์เป็นชื่อสถานที่ลี้ภัยตามนั้นเลยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 10 ตุลาคม 2563 เวลา:19:41:47 น.  

 
ไม่รู้เป็นเพราะมีการทำเพลงเมาคลีออกมาหลายเวอร์ชั่นด้วยรึเปล่านะครับ
เมาคลีกลับมาดังอีกรอบเฉยเลย 555
เนื้อเพลงนี่วนอยู่ในหัวพี่ก๋าอยู่ช่วงนึงเลย 555

เรื่องนี้ CG น่าจะโดดเด่นไปพร้อมๆกับบทภาพยนตร์เลยนะครับ

ปล. การ์ตูนสะอาดเล่มนี้พี่ก๋าได้อ่านแล้วครับ
มันสะท้อนการสอนศิลปะ และการศึกษาของบ้านเราได้อย่างชัดเจนเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 ตุลาคม 2563 เวลา:20:53:06 น.  

 
นึกถึงเพลง เมาคลีล่าสัตว์ๆ เหมือนกัน เมื่อก่อนตอนขึ้นประถมเรียนลูกเสือใหม่ๆ ผมสับสนเมาคลีกับทาร์ซานนะ อารมณ์ประมาณว่าเป็นคนป่าเหมือนกัน

เรื่องนี้ผมไม่เคยดูรู้แค่เนื้อเรื่องย่อ แต่ดันเคยดูเบื้องหลังการถ่ายทำ มันแทบจะเล่นกับ กรีนสกีนอย่างเดียวเลย

ชอบตรงเกล็ดเล็กน้อยที่เอามาครับ ถ้ามีแววว่ายังขายได้ ก็ไม่แปลกที่จะมีภาคต่อมาอีก


จากบล็อก
ในการ์ตูนบูลลี่กันเยอะ ของจริงนี่น่ากลัวกว่าอย่างกรณีของ เนวาด้าตัน มันหนักถึงขั้นนั้นเลย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 ตุลาคม 2563 เวลา:21:14:54 น.  

 
รู้สึกได้ว่าอินกว่าที่เป็นการ์ตูนครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 10 ตุลาคม 2563 เวลา:21:43:21 น.  

 
ชอบดูเมาคลีทุกเวอร์ชั่นครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 10 ตุลาคม 2563 เวลา:22:51:47 น.  

 
ชีริว Movie Blog ดู Blog
เรื่องนี้เคยฉายช่องโมโนแล้วจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 10 ตุลาคม 2563 เวลา:22:52:29 น.  

 

อยากดูเรื่องนี้เหมือนกัน


โดย: newyorknurse วันที่: 11 ตุลาคม 2563 เวลา:1:03:52 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 ตุลาคม 2563 เวลา:6:44:16 น.  

 
อ๋อๆๆๆ
พื้นเพเกิดที่อินตะระเดียนี่เอง

ตัวเอก

เมาคลี
เขาถึงเลือกเด็กแขก มาเป็นเมาคลี

ก็น่ารักเอาการอยู่


เรื่องนี้ จะเป็นหนังที่คนแสดง
หรือหนังการ์ตูน
น่าดูทั้งหมดทั้งสิ้น



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 11 ตุลาคม 2563 เวลา:7:57:01 น.  

 
พี่ลืมเรื่องราวของเมาคลีไปหลายส่วนแล้ว
มาเก็บคืนจากบล็อกนี้ ขอบคุณนะคะ
พี่เคยได้ชม The Lion King ที่อเมริกา
จำได้ว่าตื่นเต้นเร้าใจมาก

พี่ก็ยังอยู่แถวนี้ไปเรื่อยๆเท่าที่เขียนได้
แต่อยู่เฟซมากกว่าเพราะที่นั่นเขียนอะไรเล็กๆน้อยๆง่าย

วันนี้ผ่านมาแล้วถือโอกาสโหวต
Best of the Blog ให้ด้วยค่ะ



โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 11 ตุลาคม 2563 เวลา:8:59:18 น.  

 
หากไม่ร้องเพลงก็ไม่ใช่เพลง
เอ๊ย!! หนัง/การ์ตูนดิสนีย์นะคะ

ต้องซะหน่อย


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 ตุลาคม 2563 เวลา:13:28:13 น.  

 
ขอบคุณที่เข้าไปทักทายกันนะคราบ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 11 ตุลาคม 2563 เวลา:18:20:29 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว

ช่วงหลังพี่ก๋าสั่งซื้อหนังสือออนไลน์
หนังสือบางเล่มขายก่อนวางในร้านหนังสืออีกครับ

ช่วงหลังซื้อหนังสือน้อยลงมาก
ไปรื้อหนังสือเก่าๆมาอ่านซ้ำอีกรอบ
แนวหนังสือในยุคนี้เปลี่ยนไปนะ
พี่ก๋าไม่ค่อยได้ซื้อเยอะเหมือนก่อน
ตามสภาพเศรษฐกิจด้วย 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 ตุลาคม 2563 เวลา:6:09:04 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณชีริว ...จั่วหัวเรื่องมาดีเชียว
กับที่มาของ ลูกเสือในไทย เราเพิ่งรู้อ่ะ !! เป็นแต่เนตรนารี?

ได้คติคำคมก็เลิศ "แต่ละคนมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันได้
ขอเพียงให้ดึงคุณค่าของตนเองออกมาได้สูงสุด"


และ the law of the jungle! อ่านแล้วขนลุกอ่ะ !

ใช่ๆ ผกก.และทีมงานสุดยอดมาก หนังเรื่องนี้โด่งดังมากๆ
เพราะเจ้าหนูนีล กับการทำ CG ได้กลมกลืนกับมนุษย์จริงที่เล่นด้วย
หากเป็นตัวการ์ตูน CG เพียวๆ คงทำให้ความน่าสนใจดร็อปลง...

ดีจังอ่านแล้วได้ไอเดียอีกมุมมองหนึ่งจาก จขบ.เยี่ยมคร้า
ขอบคุณค่ะ...ขอวางบล็อกเปิดของเราต่อไปอีกนิดจร้า

...เราอยู่บ้าน งานแม่บ้านที่ทำคนเดียวกับวัยชรามันต้องค่อยๆละเลียดทำ
ดูเยอะจนเข้าบล็อก+อัพบล็อกน้อยลง...แต่ส่งภาพอัพสเตตัสลง FB
เยอะหน่อย ผ่านมือถือ มันสะดวกทั้งถ่ายภาพแล้ว Shoot &share




โดย: Tui Laksi วันที่: 12 ตุลาคม 2563 เวลา:9:47:16 น.  

 
เมาคลี ไม่ได้ดูนานแล้ว เดี๋ยวไปตามรอย

ส่วนในบล็อก..
เดอะแก้งค์ทริปนั้นไปกันสิบคนจ้าาาา อาหารบางอย่าง
ก็สั่งจานเดียว บางอย่างสั่งสอง มันเลยหารกันออกมาไม่แพง
ส่วนน้ำเก๊กฮวยมีฟองมี่ตั้งเป้นโฟว์กราวด์นั้น ยี่ห้อง LEO น่ะ
ึีคริๆๆๆๆ ปล. ปูอร่อยมาก ควรไปตำเลยแหละ

ขอบคุณที่แวะไปทักทายเน่ออออ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 12 ตุลาคม 2563 เวลา:10:52:41 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

อากาศช่วงนี้ เย็นสบาย กลางคืนไม่ต้องเปิดแอร์หรือพัดลม
สงสัยปีนี้จะได้หนาวสักกี่วันหนอ

การเที่ยวในบล็อกที่เพิ่งเขียนไปนั้น ก็สนุกสนานนะ คนไปไม่
มาก เรื่องเลยไม่เยอะ เที่ยวแบบได้พักผ่อนจริง ๆ จ้ะ เสียดาย มื้อ
เย็น กินก๋วยเตี๋ยวบ้านบึงไม่ทัน อิอิ ไก่ที่เห็น ถ้ามันร้อน ก็น่าจะ
อร่อยหรอก แต่มันไม่ร้อน จ้ะ ทำท่าหมุน พวกเราก็นึกว่า มันจะต้องร้อนและหนังมันต้องกรอบ แต่โดนหลอก ที่หมุน ๆ นั้น ไม่มี
ไฟเลยจ้ะ มันย่างสุกแล้ว ทำให้มันหมุนอย่างนั้นเอง โดนต่อว่า
จากลูกศิษย์ว่า ทำไมไม่ร้อน แล้วทำท่าย่างทำไม เขาได้แต่ยิ้ม
แห้ง ๆ เนื้อไก่เย็นยะเยือก หนังไก่ก็ไม่กรอบ อิอิ หมดอร่อย

มาคุยถึงเรื่อง การเล่าเรื่อง เมาคลีลูกหมาป่า เรื่องนี้ครู
ไม่เคยดูหนัง หรือ การ์ตูน แต่เคยอ่าน จ้ะ เป็นเรื่องที่สนุก ตื่นเต้น
ถือเป็นเรื่องที่แปลก ที่มนุษย์เติบโตขึ้นโดยการเลี้ยงดูของหมาป่า
และดำเนิชีวิตอยู่ท่ามกลางป่าที่มีสัตว์ดุร้ายนานาชนิด ทั้งเสือ สิงห์
กระทิงแรด อิอิ แล้วสามารถรอดชีวิตและสามารถช่วยกำจัดศัตรู
คือ เจ้าแชร์คาน ซึ่งชอบรังแกสัตว์อื่น รวมทั้งรังแกเมาคลีต้อง
ให้ออกจากฝูงหมาป่าด้วย
ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง คงเป็นไปได้ยากเนาะ อิอิ แต่มัน
เป็นนิยาย จินตนาการของคนแต่ง คงต้องการสื่อให้เห็นถึงความ
เมตตาระหว่างสัตว์ต่างเผ่าพันธุ์ ศักยภาพของมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ในตัว
ของเมาคลี ที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ สื่อถึงความเมตตาของหมาป่าที่
มีต่อเมาคลี เลี้ยงดูเมาคลีจนเติบโตได้ สังคมมนุษย์ด้วยกัน น่าจะ
นำไปเป็นแบบอย่างนะเนี่ย อิอิ
สรุป อ่านที่เธอเล่าเรื่องและวิเคราะห์เรื่อง และคติธรรม ข้อคิด ที่ได้จากเรื่องนี้ ครูเห็นด้วยจ้ะ ครูอ่านอย่างเพลิดเพลิน
เหมือนไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้เองเลยนะ

โหวดหมวด ภาพยนตร์



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 12 ตุลาคม 2563 เวลา:17:05:40 น.  

 
ที่ไปคุย
เนวาด้าตัน เห็นว่าเธอต้องเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล ย้ายที่อยู่ เลยทีเดียวครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 ตุลาคม 2563 เวลา:18:08:02 น.  

 
มี้ชอบหนังแนวนี้นะคะ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ก็ดูดี เวลาดูก็เกิดคำถามเค้าทำกันเก่งจังเลย


โดย: kae+aoe วันที่: 13 ตุลาคม 2563 เวลา:15:50:29 น.  

 
เขียนได้น่าอ่านดีครับ
แม้จะดูยาว แต่ที่สุด ผมก็อ่านจนจบจนได้
Good Good!


โดย: fevestival (สมาชิกหมายเลข 6023213 ) วันที่: 14 ตุลาคม 2563 เวลา:2:48:09 น.  

 
The Jungle Book (2016) ภาคนี้ฮือฮามากนะครับ
นอกจากเมาคลี อย่างอื่นเป็น CG หมดเลย
แต่ผมไม่ได้ดูแฮะ เคยไปยืนดูที่เค้าฉายในจอทีวีหน้าร้านแมงป่อง
กะว่าจะดูให้จบเลย (โคตรงก) แต่ร้านแมงป่องเค้ารู้ทัน!
ก็เลยฉายฉากที่เจอลูอี้วนไปวนมา ผมเลยดูไม่จบเรื่องซะที :P
^
^
(พนังงานคงคิดในใจว่า...ทำไมแกไม่ซื้อ DVD! )


ป.ล. ถ้าพูดถึงหนัง The Jungle Book ที่ผมประทับใจที่สุด
เป็นอนิเมชันปี 1967 ครับ ตอนเด็กชอบมาก ดูซ้ำ ๆ ไม่เบื่อเลย
มันเป็นอนิเมชันเรื่องสุดท้ายที่ Walt Disney ทำหน้าที่โปรดิวเซอร์
(ก่อนที่จะเสียชีวิตปี 1966) ก็เลยเป็นผลงานที่มีความพิเศษด้วย ^^


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 14 ตุลาคม 2563 เวลา:19:20:34 น.  

 
ป.ล.2 สัญชาตญาณ ครับ (ลืมบอกไป ^^)


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 14 ตุลาคม 2563 เวลา:19:47:17 น.  

 
ถ้าให้เรียกว่าลูกหมา (ป่า) แทนลูกเสือมันคงดูไม่น่าเกรงขามมั้งคะ ภาษาไทยเหมือนเป็นคำดูถูก 555


โดย: marie79 (สมาชิกหมายเลข 6023208 ) วันที่: 15 ตุลาคม 2563 เวลา:6:50:20 น.  

 
จำไม่ได้แล้วครับว่าตอนเรียนลูกเสือได้ร้องเมาคลีล่าสัตว์รึป่าว
รู้แต่สาวๆ ใน TikTok ที่ออกมาเต้นเมาคลีน่ารักทุกราย 555555

เรื่องนี้ผมชอบ CG มาก คือสัตว์นี่ขนเป็นขน ติดแค่ไอ่สีหน้าสัตว์เวลาพูดมันดูเป็นคนไปนิดนึง แบบ....หนีมีรอยยิ้มงี้อ่ะครับ
แอบสยองๆ นะ

แต่ทีมงานก็คงแก้มือในไลออนคิงอ่ะครับ ออกมาเนียนตาเชียว เมียซิมบ้านี่สวยได้แบบนางสิง 55555

For the strength of the pack is the wolf, and the strength of the wolf is the pack.
ทำไมตอนเรียนลูกเสือ นายหมู่โดนก่อนเพื่อนเลยละ เพื่อนมันหนีไปตอนไหนไม่รู้ ไอ่นายหมูยืนหน้าหนีไม่ทัน




โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 15 ตุลาคม 2563 เวลา:9:45:13 น.  

 
จาบล๊อก

ผมไม่ได้ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกันหรอกครับ ทีแรกหยิ่ง...แต่พอบอกว่าลด 3000 ปั้บ เอา account พี่สาวมาจองปุ้บเลย 5555555

เด็ก 7 เดือนเอาไปด้วย สงสารครับ นางจะนอน แต่พอเห็นนั่นนี่ คนเยอะก็ไม่อยากนอนอยากเล่น แล้วก็โงนไปโงนมา นี่ว่าจะรอขวบไปแล้วค่อยพาไปเที่ยวใหม่
โอย....ปกติผมก็นอนโรงแรมถูก ตอนไปเชียงใหม่พักแค่ 1500 บาทเองครับ มีเปียโนให้นั่งเล่นด้วย โฮ๊ะ!!! ดีไปอีก


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 15 ตุลาคม 2563 เวลา:9:55:42 น.  

 
ข้อมูลจากเบ็ดเตล็ดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่คุณชีริวสรุปไว้ คาดว่าจะทำให้ดูหนังสนุกยิ่งขึ้นครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 15 ตุลาคม 2563 เวลา:13:50:20 น.  

 
ภาพยนตร์สวยงาม และเรื่องราวสร้างสรรค์น่าดูค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 15 ตุลาคม 2563 เวลา:18:53:39 น.  

 
ขอบคุณจ้าชีริว
เรื่องพินอคคิโอก็น่าสนใจนะ



โดย: หอมกร วันที่: 17 ตุลาคม 2563 เวลา:9:24:05 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะคุณชีริว
สุข สดชื่นเช้าวันหยุดอากาศเย็นสบายดีมากๆแถวบ้านเราค่ะ
ที่อื่นๆใจกลางกรุง ...ไม่อยากรู้ หุ หุ !!!

คืนนี้ช่วงหัวค่ำได้มีลุ้นกันกับทีมรัก กลับมาแล้ว...
ไปเยือนทอฟฟี่สีน้ำเงิน 18.30 น.
ขอให้ผล อย่าเป็นแบบนัดล่าสุดกับวิลล่า
อับอายมากๆเลย เสียชื่อแชมป์ 5 5

ยังงัยแฟนปืนก็ยังมีความหวัง ดีขึ้นๆบ้างละ
เหมือน โลกนี้คือละคร มีขึ้นมีลงมีสุข มีสมหวังน๊อ


โดย: Tui Laksi วันที่: 17 ตุลาคม 2563 เวลา:10:10:34 น.  

 
วิธีคิดที่มีปัญหา
ก็จะก่อเกิดปัญหาไม่สิ้นสุดจริงๆครับ
พี่ก๋าฟังหมิงเล่าเรื่องราวในโรงเรียน
บางทียังเบื่อแทนเลย
ไม่รู้เรียนไปเพื่ออะไร
ไม่รู้เลยว่าความสนุกในการเรียนรู้มันอยู่ตรงไหน
น่าเศร้านะครับ
เด็กหลายคนเกิดมาเพื่อเรียนๆๆๆ
สอบๆๆๆๆๆ
โดยไม่เคยรู้จักชีวิตที่แท้จริงเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 ตุลาคม 2563 เวลา:10:10:34 น.  

 
หนังสงครามบางเรื่องก็เอาใจอเมริกาเกินไปนะครับ 555


โดย: The Kop Civil วันที่: 17 ตุลาคม 2563 เวลา:14:56:04 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ขอบใจที่แวะไปอ่านเรื่องที่ไปเที่ยวระยองอีกรอบ เม้นท์อีกรอบ
อิอิ ตอนนี้ ครูเขียน ตะพาบ กิโลเมตร 263 โรงละครแห่งความฝัน โจทย์ของน้อง กะว่าก๋า ว่างก็ไปอ่านนะจ๊ะ

บล็อกทุกวันนี้ มีคนเข้ามาอ่านและเม้นท์น้อยมาก บางคนก็มา
โหวด ไม่เม้นท์ บางคนก็เม้นท์ทักทาย การจะเม้นท์เมื่องานของ
เพื่อนที่เขาพยายามเขียน เหมือนอย่างเธอ อย่างครู มีน้อยลงทุกวัน
อย่างที่เธอว่า เนาะ

แต่... อย่างไรก็ตาม ถ้าเราพอใจจะเขียน การเขียนเป็น
ความสุขของเรา ก็เขียนไปเถอะนะ จนกว่า บล็อกแก๊งจะปิดไป
ห้าห้า คนอ่านที่เข้ามา เขาอ่านและเม้นท์ ก็เป็นสิ่งที่เขาได้รับ
ประโยชน์นะ นั่นคือ เขาได้ความรู้ ความคิดเห็นของคนที่เขียน
นอกจากนี้ การเม้นท์เมื่ออ่านงานเขียนของเพื่อนแล้ว ครูว่า เขา
ก็ได้ประโยชน์นะ คือ การเม้นท์ จะช่วยให้สมองได้แสดงความคิด
เห็น สมองได้ทำงาน และเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไง
ครูคิดเช่นนี้ จ้ะ ใครเห็นด้วยไหม ก็ย่อมเป็นสิทธิส่วนบุคคล เนาะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 17 ตุลาคม 2563 เวลา:15:24:19 น.  

 
จากบล็อกที่ไปคุย
หนหน้าผมมีมุกไว้เขียนแล้วครับ โจทย์กำหนดแค่โรงเรียนของหนู (พวกด๋อย) พวกด๋อยเป็นนักเรียนเยอะเลย เขียนได้หลากหลายแนวอยู่ครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 ตุลาคม 2563 เวลา:15:32:07 น.  

 
เรื่องนี้อยู่ที่คนทำออกมาได้ดีมาก
คือแต่ละเวอร์ ออกมาแตกต่างแม้จะเนื้อหาเหมือนกัน
แต่ความน่าดูต่างกัน เข้าใจการเลือกนักแสดงจริงๆ แหละ สีหน้าให้มากๆ




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 17 ตุลาคม 2563 เวลา:17:20:49 น.  

 
ชีริว Movie Blog

แวะมาส่งกำลังใจค่ะ หลังจากหายหน้าไปนาน แฮร่


โดย: mariabamboo วันที่: 17 ตุลาคม 2563 เวลา:20:34:25 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 ตุลาคม 2563 เวลา:6:40:18 น.  

 
ถ้าพี่ก๋าเป็นครูศิลปะ
จะสอนแบบไม่มีคะแนนครับ
เด็กจะวาดอะไรก็ได้
ใช้สีอะไรก็ได้
จะไม่บอกด้วยว่าสวยหรือไม่สวย
นอกจากจะเอาผลงานระดับโลกมาให้เด็กดู
แล้วสอนว่ามันมีความหมาย
หรือใช้เทคนิคอะไรในการวาดรูป

เอาเข้าจริง
เด็กทุกคนไม่จำเป็นต้องชอบศิลปะเหมือนกันด้วยซ้ำ
ใครอยากทำอะไรก็ทำไปเลย 555

แต่ขอให้ทำอย่างมีศิลปะ

อันนี้แหละหัวใจของการเรียนรู้เรื่องศิลปะเลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 ตุลาคม 2563 เวลา:21:28:51 น.  

 
สวัสดี ยามดึก จ้ะ น้องชีริว

ขอบใจจ้ะ ที่แวะไปอ่าน เม้นท์และให้กำลังใจที่บล็อกครู จ้ะ

บล็อกแก๊งเงียบเหงาไปมากยิ่งขึ้น สมาชิกหายไปไหนหมด
ไม่รู้เนาะ ยิ่งช่วงโควิด ไม่ได้ไปไหน เลยยิ่งเงียบใหญ่ อิอิ

เดือน พ.ย. ครูมีทริปไปเที่ยวน่าน คงมีเรื่องมาเล่าให้อ่าน
บ้างนะ ของเธอล่ะ งานคงยุ่ง แต่ก็พยายามเขียนออกมาให้อ่านได้
บ้าง บางคนที่เคยเข้ามาทักทาย อ่าน และให้กำลังใจกัน ก็หาย
เงียบไป คงไม่ว่างหรือเบื่องานเขียนแล้ว อิอิ แต่เธอคงไม่หาย
ไปนะ ตอนนี้ที่ยืนพื้นในบล็อก เท่าที่ครูสังเกต น่าจะเหลือไม่ถึง
20 คน (สังเกตจากการที่เข้ามาเม้นท์งานของเพื่อน ๆ )

ชีริว เขียนบล็อกใหม่อย่าลืมมาบอกด้วยนะจ๊ะ



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 18 ตุลาคม 2563 เวลา:22:35:46 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2563 เวลา:6:59:02 น.  

 
บ้านเราจะซื้อพวกเม็ดมะม่วง อัลมอนด์ แมคคาเดเมีย
จากร้านพวกทำเบเกอรี่ติดตู้ไว้ตลอดเลยจร้าาาา
เวลาจะกินก็เอามาอบ ใหม่ๆ อร่อยเลิศ..

ว่าแต่ตอนนี้กินเจจร้าาา ว่าจะทำยำเจกินเหมือนกัน อิอิ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 19 ตุลาคม 2563 เวลา:9:06:25 น.  

 
วันนี้มาชวนไปเที่ยวเขาใหญ่คราบ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 19 ตุลาคม 2563 เวลา:14:14:05 น.  

 
ขำเรื่องลิงร้องเพลงทุเรศอ้ะ 555 แต่เรื่องนี้ไม่ได้ดู

มาทักทายนะเธอ

ยังไม่ได้อัพบล็อกใหม่หรอก

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
หอมกร Movie Blog ดู Blog
nonnoiGiwGiw Food Blog ดู Blog
ตะลีกีปัส Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Art Blog ดู Blog
ชีริว Movie Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 19 ตุลาคม 2563 เวลา:17:00:22 น.  

 
เรื่องนี้พี่อุ้มชอบมุมกล้องมากเลย
ชอบการจัดฉากมาก


โดย: อุ้มสี วันที่: 22 ตุลาคม 2563 เวลา:23:45:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.