Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2563
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
1 พฤษภาคม 2563
 
All Blogs
 
[ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย.. ห้ามพัก.. ห้ามรักหมอ] จงหยุดพักและมองหาความสุขรอบตัว



สวัสดีหยุดวันแรงงานครับ วีคเอนด์นี้หยุดยาว 4 วัน ถึงจะไปไหนไม่ได้ แต่ใครกำลังเค่รงเครียดกับการ Work from Home 4 วันนี้ก็หยุดพักเติมพลังกันสักนิดนะครับ วันนี้มาพูดคุยถึงหนังที่ทำให้เห็นคุณค่าของการหยุดพักผ่อนกัน

ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย.. ห้ามพัก.. ห้ามรักหมอ เป็นหนังอินดี้ของ GTH ที่เข้าฉายในปี 2015 เขียนบทและกำกับโดย เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตของยุ่น (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) มือรีทัชรูปฟรีแลนซ์ชื่อดังที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างงานและสุขภาพ ในขณะเดียวกันการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปก็ทำให้เขาค่อยๆ รู้จักสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต โดยเฉพาะเมื่อได้พบกับหมออิม (ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่) ตัวหนังใช้ทุนต่ำเพียง 15 ล้านบาท แต่สร้างรายได้ถึง 86 ล้านบาท และกวาดรางวัลระดับชาติอีกมากมาย นับว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ตอนหนังตัวอย่างเข้ากระตุ้นให้คนสนใจกันมาก โดยเฉพาะกับชาวฟรีแลนซ์ที่หนังเรื่องนี้ตีแผ่ความบัดซบของชีวิตฟรีแลนซ์ให้ชาวโลกได้รับรู้ ทีแรกคนคิดกันไปเองว่ามันน่าจะฮา แต่ตัวหนังจริงๆ ไม่ได้ตลกดังที่คาดหวัง แม้จะฮากับหลายประโยคที่ซันนี่กัดตัวเองในใจ แต่โทนของหนังเรื่องนี้ทั้งกดดันและว้าเหว่ ถึงกระนั้นก็มีความสวยงามซ่อนอยู่
 
**เอ็นทรี่นี้มีการสปอยล์เนื้อหาของเรื่อง**
 

ตอนไปเที่ยวเซ็นทรัลเวิลด์ได้เจอทีมถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้ง ซันนี่ ใหม่ดาวิกา วิโอเล็ต และเต๋อ นวพล มางานโร้ดโชว์หนังเรื่องนี้พอดี (12 ก.ย. 58)

ยุ่น เป็นฟรีแลนซ์ที่มีชื่อเสียงและงานเข้าเยอะที่สุดในวงการ ถึงกระนั้นเขาก็ทำงานอย่างมีความสุข สนุกกับเป้าหมายและการท้าทายตัวเองให้ทำงานเร็วขึ้น เก่งขึ้น ยากขึ้นไปเรื่อยๆ ยุ่นเคยทำสถิติอดนอน 5 วันทำงานส่งลูกค้า แม้ปัญหาที่ฟรีแลนซ์ต้องพบกันทุกคนอย่างลูกค้าบรีฟงานไม่รู้เรื่อง ลูกค้าแก้งานไม่มีเหตุผล ลูกค้าบอกเดดไลน์ที่เป็นไปไม่ได้ ต้องทำงานได้ทุกที่แม้แต่ในงานศพพ่อเพื่อน ฯลฯ แต่เทพยุ่นก็ทำให้มันสำเร็จลุล่วงไปแลกกับตารางชีวิตที่พังพินาศและวิถีชีวิตที่ต้องพึ่งพาอาสัยเซเว่นอีเลฟเว่นเพราะมันเปิด 24 ชม. แถมเซฟเวลาในการหาอะไรลงท้องที่สุดแล้ว


แต่สิ่งหนึ่งที่ยุ่นไม่อาจเอาชนะได้คือร่างกาย การโหมทำงานหนักทำให้ร่างกายของเขาเริ่มประท้วง ผุดเป็นตุ่มขึ้น นับวันจำนวนตุ่มยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามร่างกายที่เริ่มพัง เขาเคยไปหาหมอ รพ.เอกชนก็แพงจนค่าจ้างหายไปทั้งก้่อน พอไป รพ.รัฐ ก็ต้องรอคิวยาวเป็นครึ่งวัน แต่ที่นี่เองที่ทำให้เขาได้พบกับหมออิม

ไอเดียเรื่องฟรีแลนซ์มาจากประสบการณ์จริงของผู้กำกับเต๋อ ที่ทำงานฟรีแลนซ์หามรุ่งหามค่ำ และเคยรู้สึกเขินกับหมอสาวสวยในห้องตรวจ จนเสนอไอเดียทำหนังเรืองนี้ขึ้นมา ตัวยุ่นขัดกับนิสัยของซันนี่ที่ปกติจะแสดงแต่บทอิเหละเขะขะ พอต้องมาเล่นเป็นยุ่นที่จริงจังกับงานจนไม่เข้าใจความสุขแบบคนทั่วไปแล้ว ซันนี่แทบไม่รู้เลยว่าจะต้องเล่นยังไง แต่ก็อยากเล่นเรื่องนี้มาก เขาได้คุยกับเต๋อ นั่งดูเต๋อทำงาน ดูท่าทางกิริยาอาการต่างๆของเต๋อ ก็สรุปได้ว่าการเล่นบทยุ่นที่ดีที่สุดก็คือการแสดงเป็นเต๋อนั่นเอง กระทั่งชุดที่ใช้ในเรื่องก็คือเสื้อผ้าของเต๋อจริงๆนะครับ ยุ่นที่เราเห็นในหนังคือซันนี่ที่เล่นเป็นเต๋อครับ

ถึงหนังเรื่องนี้จะทุนไม่มากแต่ก็ใช้ดาราแม่เหล็กแถวหน้าของวงการดึงดูดคนดูได้กลุ่มใหญ่ๆเลย พระเอกซันนี่เพิ่งประสบความสำเร็จใหญ่จาก ไอฟาย...แต้งกิ้ว เลิฟยู้ หนังรายได้ 300 ล้าน (แต่ผมไม่ชอบหนังเรื่องนี้) ส่วนนางเอกใหม่ ดาวิกา ก็ดีกรีนางเอกพันล้านจากหนัง พี่มาก...พระโขนง (เรื่องนี้ชอบ) ใหม่ต้องเล่นเป็นหมอหญิงที่วิธีพูด วิธีคิดแตกต่างจากตัวใหม่ไปเลย และความเรียลของเรื่องนี้ผู้กำกับไม่อนุญาตให้นักแสดงแต่งหน้า ดังนั้นหนังเรื่องนี้เราจึงได้เห็นหน้าสดของซันนี่ ใหม่ และวี (ซึ่งก็หล่อสวยกันอยู่ดีอะนะ แต่ซันนี่เล่นเรื่องนี้ยอมหุ่นพังมาก) และใหม่ต้องไปเรียนรู้การทำงานจากที่โรงพยาบาลจริงๆ เพื่อให้รับบทหมอโรคผิวหนังได้สมบทบาทมากขึ้นด้วย เนื่องจากหมออิมอายุรุ่นราวคราวเดียวกับยุ่น จึงพูดคุยเหมือนคุยกับเพื่อน การรักษาอาการของยุ่นก็ต้องได้รับความร่วมมือจากตัวยุ่นเองด้วย ซึ่งหมอเทียบว่ามันก็เหมือนช่วยกันทำงานกลุ่มละนะ


ทั้งชีวิตยุ่นสนุกกับงานอย่างเดียวจนไม่เข้าใจคนทั่วไปที่มีความสุขกับการเดินช้อปปิ้ง ไปเที่ยวชมทะเล นอนหลับพักผ่อน ฯลฯ เขารู้สึกว่ามันเสียเวลา ทำไมเขาต้องทำแบบนั้นในเมื่อนิยามความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ประเด็นนี้ทำให้หลายคนรวมทั้งเจ้าของบล็อกอินไปกับหนังเรื่องนี้ได้ง่ายเพราะ mindset ตัวเอกมันคล้ายกับตูเหลือเกิน ในเมื่อเราพูดกันบ่อยๆ ว่าถ้าเราได้ทำงานที่รักเราก็จะมีความสุขไปตลอดชีวิต แล้ววิธีคิดของยุ่นมันผิดตรงไหน?

ยุ่นเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นกับหมออิม แต่ตัวเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนได้คุยกับเจ๋ (วี-วิโอเล็ต วอเทียร์) รุ่นน้องที่รับงานมาส่งต่อให้ยุ่น ก็รู้ว่าเขาอาจตกหลุมรักหมอ การนัดหมอได้เดือนละครั่งก็ทำให้การได้พบกันแต่ละครั้งมันมีความหมาย ช่วงที่หาหมอครั้งแรกๆ เขายังไม่กล้าทำตามที่หมอสั่งเพราะกลัวเสียงาน ทำให้โรคไม่หาย แต่พอได้ยินหมออิมบอกว่าเธอแคร์เขามากจริงๆ ก็ทำให้ยุ่นต้องพยายามหายดีเพื่อหมอด้วย เขาพยายามกินยา เพิ่มเวลานอน ลดอาหารสำเร็จรูป ไปออกกำลังกาย ลองไปพักผ่อนชมทะเล แต่ก็ทำให้เขาต้องลดความละเอียดในการทำงานลง ซึ่งก็ทำให้ชื่อเสียงเสียหาย งานหลุดมือไปจนปฏิทินของยุ่นที่เคยแน่นเอี๊ยดเริ่มว่างขึ้น

สุขภาพของเขาดีขึ้นแล้ว แต่ก็แลกมากับการเสียงานที่เขารักไปล็อตใหญ่ หมออิมเองสบายใจที่คนไข้ดีขึ้น แต่นั่นก็หมายความว่าเขาจะไม่ได้ไปพบกับหมออีกแล้วด้วย บวกกับการได้เห็นรุ่นน้องได้งานมีชื่อเสียงข้ามหน้าข้ามตา ก็ทำให้ยุ่นอยากกลับไปโหมทำงานใจแทบขาด

งานแรกที่เขารับหลังจากว่างงานอยู่พักใหญ่กลับเป็นงานที่เขาไม่อยากทำ นั่นคือการรีทัชภาพพรีเว็ดดิ้งให้เจ๋ เหมือนสายฟ้าฟาดลงหัวเมื่อรู้ว่ารุ่นน้องที่คิดว่าจะทำงานอยู่ด้วยกันมาตลอดจะต้องออกไปแต่งงาน บทของเจ๋เป็นรุ่นน้องที่ทำงานยุ่นที่คอยสกรีนรับงานให้ ให้อารมณ์เจ๊ใหญ่ พูดจาห้วน เถียงเก่ง แต่ก็ห่วงใยคนอื่น ความที่ต้องเล่นบทเป็นคนที่อายุมากกว่าตัวเอง และต้องคอยกดดันคนที่อายุมากกว่าตัวเองเป็นสิบปี ก็เป็นงานยากของวีที่ปกติจะน่ารักสดใส แต่เพราะซันนี่เปิดให้ด่าเขาได้เต็มที่ วีก็เลยเล่นง่ายขึ้นไปด้วย


"ไหนบอกจะทำงานด้วยกันไปตลอด กูคิดว่าไม่มีใครแทนมึงได้ไง จะไปหาคนเก่งกว่ามาทำกูก็ไม่เอา มันไม่ใช่มึง"

ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ยุ่นรู้ว่าสุดท้ายวันนี้ก็มาถึง เขาได้เห็นคลิปที่ถ่ายตอนแฟนมาขอเจ๋แต่งงานพร้อมคิดว่าถ้ามึงร้องไห้พรุ่งนี้กูจะไปถีบหน้ามึง แต่พอดูจบแล้วเขากลับน้ำตาไหลเสียเอง เมื่อชีวิตได้พบกับความเปลี่ยนแปลงบางครั้งก็นำมาซึ่งความรู้สึกใหม่ๆ ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัว ตอนนี้เขาอาจสูญเสียทั้งหมออิมและเจ๋ไปตลอดกาลแล้วก็ได้

เมื่อได้โอกาสรับงานใหญ่อีกครั้งยุ่นก็ตบปากรับคำทันที เมื่อครั้งที่ทำงานให้อดิดาสเขาทำพลาดจนเสียโอกาสได้ไปจัดแสดงผลงานที่ญี่ปุ่น แต่คราวนี้เป้งรุ่นพี่ที่รู้จักไปรับงานจากอาร์ตแกลเลอรี่ที่นิวยอร์ค ซึ่งสเกลใหญ่กว่ากันแบบเทียบไม่ติด เป็นโอกาสที่จะได้กอบกู้ชื่อเสียง เมื่อได้ข่าวเจ๋ตกใจมากที่ยุ่นรับงานจากพี่คนนี้ที่ในวงการรู้กันว่าชอบหลอกใช้คน ต่อให้เป็นยุ่นก็ไม่มีทางทำงานสเกลสองเดือนให้เสร็จภายในสองอาทิตย์ได้อยู่แล้ว แตุ่ยุ่นก็ปฏิเสธความหวังดีของเจ๋เพราะตอนนี้เขาไม่เหลืออย่างอื่นอีกแล้ว

แล้วการทำงานข้ามสัปดาห์ก็ดำเนินไปอย่างกดดันอย่างถึงขีดสุด
...ยุ่นอดนอน 6 วันทำลายสถิติตัวเองไปก็แล้ว เขาก็พบว่าตัวเองยังไม่ตาย
...ผื่นกลับมาเต็มตัว อาหาร 7-11 กองเต็มห้อง เขาก็พบว่าตัวเองยังไม่ตาย
...ทำลายสถิติอดนอนของมนุษยชาติ 11 วันไปแล้ว เขาก็พบว่าตัวเองยังไม่ตาย
...ล่วงเข้าวันที่ 12 เริ่มฉี่เป็นเลือด เขาก็พบว่าตัวเองยังไม่ตาย
..."กูทุบสถิติโลกว่ะ บียอนด์สัดๆ กูว่ากูมาถึงจุดสูงสุดของการทำงานแล้วว่ะ"

ยุ่นตาย (อ้าว) ถึงจะอยากทำงานให้เสร็จใจแทบขาดยังไงร่างกายก็ไม่อนุญาตให้ยุ่นทำงานอีกต่อไปแล้ว เขาจินตนาการไปถึงงานศพของตัวเองที่เคยคิดไว้ว่าอยากจัดขึ้นในห้องทำงานของตัวเอง มีศิลปินที่ชอบอย่างไทรอั้มคิงด้อมมาร้องเพลงผ้าเช็ดหน้า (คนรุ่น 90s แท้ๆเลยครับ) ถ้ามีคนมาร่วมงานศพก็คงมี เจ๋ ไก่ (พนักงานเซเว่น) พงศธร (เพื่อน) แม่ 4 คน จบ น้อยจัง... ยุ่นเริ่มคิดว่าชีวิตที่ผ่านมามันช่างอ้างว้างว่างเปล่า เขาไม่แน่ใจว่าอยากให้หมออิมมาด้วยหรือเปล่า เพราะเขาทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับหมอ พอนึกแล้วเขายังอยากทำอีกหลายอย่าง ยังไม่ได้เห็นหน้าลูกเจ๋ ยังไม่ได้ตัดต่อรูปให้แม่ และยังไม่ได้เล่าเรื่องที่ไปทะเลให้หมอฟัง


ฉากที่ไม่รู้ว่าจะฮาหรือจะเศร้าอย่างฉากงานศพในห้องนี้เป็นซีนที่คนชอบกันเยอะที่สุดในเรื่อง
เพลงประกอบฉากนี้คือเพลง เวลานี้ ของณภัทร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
(ทีแรกคิดว่า TK ร้องเพลงผ้าเช็ดหน้าอยู่ เอ๊ะ ทำไมเสียงไม่ใช่?)

"หมอเค้าเลยบอกไงว่าอย่าตาย... ร่างกาย กูขอโทษ กูยอมแล้ว แต่มึงไม่ให้อภัยกูแล้วใช่ไหม บ๊ายบายทุกคน..."

แต่เป้งที่มาตามงานมาเจอยุ่นนอนกองกับพื้นก็ชกเรียกสติแล้วพาไปส่งโรงพยาบาล เขารอดความความตายมาได้แต่ก็ไม่คิดอยากกลับไปทำงานที่ค้างไว้ให้เสร็จ ตอนนี้เขาขอทำสิ่งที่อยากทำมากที่สุด -- คือนอน

ใช่แล้วครับ ความสุขสูงสุดของมนุษย์คือการนอน ...ไม่สิ ประเด็นหลักของเรื่องนี้คือการเปิดรับสิ่งใหม่ให้ชีวิต แม้ยุ่นจะดำเนินชีวิตบนสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นและเป็นเหตุเป็นผลอย่างถึงที่สุด แต่เมื่อปิดคอมพิวเตอร์ เขาก็ได้รู้จักกับสิ่งใหม่ๆ ที่ตัวเขาไม่เคยได้พบและไม่เคยเข้าใจ เขาไม่เคยเข้าใจคนที่นอนเล่นทิ้งเวลาไปเป็นวันๆ แบบไม่ทำอะไร เขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราถึงชอบไปมองพระอาทิตย์ตกทั้งที่มันก็ตกอยู่ทุกวัน เขาไม่เคยเข้าใจว่าทำไมคนเราถึงมีความรัก จนกระทั่งมันเกิดขึ้นกับตัวเอง ยุ่นกลับไปเล่าให้หมออิมฟังว่าเขาได้ไปดูพระอาทิตย์ตกตามที่หมอบอกมาแล้วจริงๆ

"ผมเคยคิดว่าเสียเวลา แต่วันนั้นนั่งดูเป็นชั่วโมงเลย ตอนนั้นผมรู้สึกมีความสุข คล้ายๆกับทุกครั้งที่มาเจอหมอ"

อาการตุ่มของยุ่นกลับมาอีกครั้ง ความสัมพันธ์ของเขาและหมออิมถูกทิ้งไว้ให้คนดูคิดต่อกันเอง แต่เชื่อว่าหลังจากนี้พวกเขาคงไม่จำเป็นต้องมาพบกันเฉพาะตอนที่ยุ่นไม่สบายอีกต่อไปแล้ว เพราะโลกของยุ่นได้เปิดออก เพื่อรับสิ่งใหม่ๆ หลังจากนี้ โดยเฉพาะหมออิมผู้มอบสิ่งสำคัญให้เขา ย่อมได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีให้ก้าวเข้ามายังโลกใบใหม่ของยุ่นนี้ หนังเรื่องนี้จบลงโดยไม่ได้เห็นบทสรุปของความรักหรือการชี้ชัดว่าความรักของทั้งสองจะสมหวังหรือไม่อย่างไร แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจหนังเรื่องนี้มากที่สุดนั่นคือการที่เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ดีที่สุดของความรักไม่ใช่การได้ครอบครอง แต่เป็นการได้รู้จักความรัก เช่นเดียวกับการได้เข้าใจถึงความอบอุ่นสวยงามของพระอาทิตย์ ทั้งที่มันคงอยู่คู่โลกเรามานานแสนนานแต่เราเคยมองข้ามมันไป







เพลงจบของหนังเรื่องนี้คือ ดวงอาทิตย์ ของณภัทร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เช่นกัน เข้ากับหนังเรื่องนี้ดีนะครับ ถึงจะฟังเนื้อร้องไม่ค่อยเข้าใจแต่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น

เพลงประกอบภาพยนตร์คือ Vacation Time ร้องโดยวีและแสตมป์ ปรับเนื้อร้องจากเพลงต้นแบบของวง Part Time Musicians ที่เป็นภาษาอังกฤษ



ขอมอบขนมจีบกุ้ง 4 ไม้ให้หนังเรื่องนี้ครับ



 



Create Date : 01 พฤษภาคม 2563
Last Update : 1 พฤษภาคม 2563 15:53:46 น. 44 comments
Counter : 4908 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสองแผ่นดิน, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณThe Kop Civil, คุณกาบริเอล, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณnonnoiGiwGiw, คุณmcayenne94, คุณTui Laksi, คุณhaiku, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณtuk-tuk@korat, คุณหอมกร, คุณMax Bulliboo, คุณตะลีกีปัส, คุณเนินน้ำ, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณmariabamboo, คุณInsignia_Museum, คุณkae+aoe, คุณ**mp5**, คุณRinsa Yoyolive, คุณSai Eeuu


 
เจิม
เรื่องนี้ไม่ได้ดูในโรง
แต่มาดูทางเคเบิ้ลทรูนำมาออนแอร์
ดูไปสองรอบ
ชอบฉากจบ
สัจธรรมของหนังคือ
การพักผ่อนให้เพียงพอ
เข้าใจธีมหนังเลย
เพราะสมัยก่อนที่ทำออฟฟิศ
ออกกองถ่าย 4 วัน
กลับมาตัดงาน 2 วัน
วันอาทิตย์หยุด
แต่ก็ต้องเตรียมงานของอาทิตย์ต่อไป
นอนออฟฟิศเลย
เพราะกว่างานจะเสร็จ
บางทีเส้นยาแดงผ่าแปด
ส่งงานแปดโมงเช้า
งานเพิ่งเสร็จ 7 โมง


โดย: อุ้มสี วันที่: 1 พฤษภาคม 2563 เวลา:16:20:35 น.  

 
ดูแล้ว แต่ลืมบ้างๆแล้ว


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 1 พฤษภาคม 2563 เวลา:16:30:49 น.  

 
เนื้อเรื่องแบบนี้น่าดู ไม่เหมือนหนังไทยที่ผ่าน ๆ มาเนาะ 555

เดาเรื่องได้ยาก การแต่งหน้าน้อยแบบนี้เหมือนชีวิตจริง
น่าดู..ครับ

เรื่องทำงานเช้ายันดึกนี่ ทำบ่อยเพราะ งก 555 ดีนะตอนนี้
พักผ่อนยาว รอมิย เนาะ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 1 พฤษภาคม 2563 เวลา:16:30:57 น.  

 
พี่ก๋าไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ครับ
แต่อ่านแล้วนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบัน
หลังจบโควิด
วิธีการทำงานของเราคงเปลี่ยนไปเยอะมาก
บางคนก็อาจต้องทำงานอยู่ที่บ้าน
เป็นฟรีแลนซ์ หรือไม่ก็ตกงานไปเลย

พี่ก๋าซื้อกีตาร์ตัวแรกตอนเรียนชั้น ม.2 ครับ
เล่นมานานมาก เพิ่งปลดระวางไป
เพราะตรงคอกีตาร์มันบุ๋มลงไปเลย เล่นบ่อยมาก
เล่นแทบจะทุกวันครับ

พี่ก๋าเดินถนนคนเดินนับครั้งได้เลย
พี่ไม่ค่อยไปที่ที่คนเยอะๆครับ 555

นักกีตาร์ในดวงใจชอบหลายคนนะ
ป๊อบ เดอะซัน จรัล มโนเพ็ชร
เมืองนอก็ชอบแกรี่ มัวร์ ซานตาน่า ฯลฯ ครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 พฤษภาคม 2563 เวลา:18:42:46 น.  

 
เพลงที่น้องชีริวส่งคลิปมาให้ดู
ทำนองเพราะมากเลยนะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 พฤษภาคม 2563 เวลา:20:05:15 น.  

 
อ่านเนื้อเรื่องแล้ว อุ่นใจจังค่ะ

เคยดูในทีวี แต่แค่ช่วงท้ายเรื่อง ก็ยังสนุกเลย
ไม่ได้หวือหวา แต่มันอุ่นใจดีนะคะ


โดย: VELEZ วันที่: 1 พฤษภาคม 2563 เวลา:22:31:29 น.  

 
คนเรามันก็แปลกนะ ยอมแลกร่างกาย เพืื่อเงิน แล้วเองเงินมาซื้อร่างกาย จริงๆ ผมมองว่ามันเป็นปัญหาสังคม ใครๆ ก็อยากได้เงิน แต่จะทำอย่างไรให้ได้มา จริงๆ ในเรื่องไม่ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ แต่อยากให้ลองมองสิ่งใหม่ๆ แต่มันอดไม่ได้ที่จะพูดถึงประเด็นนี้ขึ้นมา

แต่ทว่า ในยุคนี้ที่ ข้าวยาก หน้ากากแพง เบียร์ซื้อไม่ได้ มีงานทำถือเป็นเรื่องดีแล้วครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 พฤษภาคม 2563 เวลา:23:54:55 น.  

 
ยังไม่ได้ดูหนังเหมือนกันค่ะ
เห็นผ่านๆในTV
แต่เห็น MV นานแล้ว ชอบๆ
เหมือนไอเดีย เพลงดังของฝรั่ง(จำไม่ได้)

การนอนสำคัญสุดๆ เคยนอนๆยาวววววันหยุด
แม่แค่ปลุกมากินข้าวตามมื้อ

ไว้หนังกลับมาฉากจะต้องดูๆๆ



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 2 พฤษภาคม 2563 เวลา:6:26:15 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 พฤษภาคม 2563 เวลา:6:30:11 น.  

 
เรื่องนี้ผมจำได้เลยดูรอบสื่อที่เอสฯ รัชดา ตอนนั้นมีแฟนคลับของหลายคนมาก ดูไปส่งเสียงกรี๊ดไป ได้อรรถรสไปอีกแบบนึงครับ ชื่นชอบนักแสดงทุกคนเลยครับ ซันนี่นี่คาดการณ์ไม่ได้เลยแต่ผมชอบไข่ย้อยเพื่อนสนิทมากที่สุด ใหม่มาได้ทุกแนวชอบทุกบทบาท วีน่ารักดีนะครับ
จากเรื่องนี้มีวลีเด็ดที่โด่งดังด้วยนะครับ ไปคะพี่สุชาติ 555


โดย: The Kop Civil วันที่: 2 พฤษภาคม 2563 เวลา:9:18:56 น.  

 
การได้นั่งชมพระอาทิตย์ช่วงเย็น ๆ หรือเช้า ๆ
มันได้ความรู้สึกที่ดีนะ ก็ทำอยู่บ่อย ๆ ในช่วงหนึ่ง ที่บ้าปั่น
จักรยานคนเดียวไปตามหาดแล้วหยุดจอด ใช้เวลานั่งดูอยู่
พักใหญ่ก่อนกลับบ้าน...แต่ดันสะดุดที่มีเด็กมาป้วนเปี้ยนแถวนั้น
คนนึงแล้ว พ่อเด็กที่ไล่หลังมาก็บอกว่า .... มานี่ลูก พี่เค้ากำลัง
เศร้าอยู่ (ว้อท????) นั่งดูพระอาทิตย์ริมทะเลมันแปลว่าเศร้า
ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ฟระ


อ้าว วี ชื่อ "เจ๋" หรอเนี่ย ฟังผิดเป็น "เจ้" มาตลอด
//ตาย ๆ หูเริ่มเพี้ยน...เพี้ยนไปทุกอย่างละช่วงนี้

เคยได้ยินคนพูดว่า งานหนักไม่เคยฆ่าใครตาย
แต่เรื่องนี้พอได้ดู ก็รู้สึกว่า งานแบบนี้ดิ่พาจะเราตาย
มันอาจเป็น Quote เก๋ ๆ จากฝั่งนายจ้างมากกว่า
พอ ๆ กับ Arbeit Macht Frei

ไหน ๆ ก็สปอยด์มาแล้วก็โม้ต่อละกัน ฉากท้าย ๆ ที่ยุ่นฟื้นใน
โรงพยาบาล แล้วมีคนมากล่อมเรื่องงานแบบวางประเคนให้ทำ
โว้ยยย....เห็นสีหน้าเฉยชาเบื่อโลกของยุ่นแล้ว แบบว่าได้มากอ่ะ

วี เรื่องนี้น่ารักนะ
มาพลิกมุมจากสาวบ้างาน จุกจิก ทุกอณูรายละเอียด
ก็ตรงที่จะมาแต่งงานนี่แหละ อิตายุ่นไปไม่เป็นเลยทีนี้

ถ้าเรื่องของยุ่นมาอยู่ในช่วง เคอร์ฟิว ตอนนี้
แกจะไปหาที่ระบายด้วยการตีแบตฯ รอบดึกไงเนี่ย




โดย: กาบริเอล วันที่: 2 พฤษภาคม 2563 เวลา:10:14:59 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ขอบใจที่แวะไปอ่านบล็อก สังเวชนียสถาน และให้กำลังใจจ้ะ
เหลืออีก 4 ตอนก็จบทริปแล้วจ้ะ

ภาพยนตร์ที่นำมา รีวิว เรื่อง "ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก
ห้ามรักหมอ " ชื่อเรื่อง น่าสนใจ ชวนติดตาม เนาะ

จากการเล่าเรื่องย่อแล้ว ก็เหนื่อยใจ นะ เหนื่อยว่า
ทำไม ยุ่น ตัวเอกของเรื่อง ต้องทำงานหนัก ไม่ได้นอนเลย
ตั้ง 5-6 วัน ร่างกายจะทนรับไหวได้อย่างไร มันเป็นข้อคิดให้
คนดูได้ดีนะ พวกที่ทำงาน อยากได้เงินเยอะ ป่วยแล้ว ก็ต้อง
เสียเงินก้อนใหญ่ อย่างที่ ยุ่น ได้เสียไป พฤติกรรมของ ยุ่น
จะเป็นตัวอย่างที่ทำให้คนดูภาพยนตร์ นำไปเป็นข้อคิดได้เป็นอย่างดี ทำงานหนัก ได้เงินเยอะ แล้วได้ใช้หรือไม่ ตายไปก็ไปตัวเปล่า
การทุ่มเทให้กันงานที่ทำ เป็นสิ่งดีได้ ต้องไม่ทำให้
ร่างกายเราเดือดร้อน เงิน ใคร ๆ ก็อยากได้เนาะ แต่ได้แล้ว
มันคุ้มค่าหรือไม่ นี่ต่างหาก ที่คนเรามักลืมคิดไปเสมอ

ก็ยังโชคดี นะ ตอนจบของเรื่อง ยุ่น ยังสำนึกได้ว่า
ชีวิต ร่างกาย เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าเงินทอง ก็เรียกว่า ภาพยนตร์
เรื่องนี้ ปิดท้ายด้วยการให้ข้อคิดแก่คนดูได้เป็นอย่างดี จ้ะ

โหวดหมวด ภาพยนตร์


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 2 พฤษภาคม 2563 เวลา:13:19:03 น.  

 
ว่าสิ่งที่ดีที่สุดของความรักไม่ใช่การได้ครอบครอง
แต่เป็นการได้รู้จักความรัก เช่นเดียวกับการ
ได้เข้าใจถึงความอบอุ่นสวยงามของพระอาทิตย์
ทั้งที่มันคงอยู่คู่โลกเรามานานแสนนาน
แต่เราเคยมองข้ามมันไป..


ชอบมากกกกกกกกกก..
ปัญหาความเจ็บปวดจากความรัก
มันเกิดจากความคาดหวังนี้ล่ะค่ะ​ เหอๆ


จากบล็อก..
จ้องแผงทุเรียนอยู่เหมือนกันค่ะ..
แต่ไข่ยังไม่แตก​ นี่ปีก่อนๆโล120ก้อว่าแพงละ
ปีนี้มา​ 150-180​ ปวดใจมาก


ที่หน้าหมู่บ้านตอนนี้โล140 คนซื้อกันเยอะเหมือนกัน
บ่ายๆของหมดละ.. แล้วนะดูข่าวเขาบอกผลไม้ขายไม่ได้
ถูกลงนั่นนี่.. เราว่านะสงสัยถูกแต่หน้าสวน
พ่อค้าคนกลางยังฟันกำไรได้คือเดิม..

ปล.เงาะอร่อยมาก.. ไม่อยากจิคุย​ คิคิ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 2 พฤษภาคม 2563 เวลา:13:38:12 น.  

 
เออ จริงด้วย พูดอีกก็ถูกอีก เข้าเอกชนไม่ไหว ถ้าไม่มีพวกประกันหมู่ ไปใช้ประกันสังคมหาหมอทีนึงนี่โหดร้ายมาก เสียเวลาครึ่งวัน ถ้าติดช่วงพักเที่ยงด้วยนี่จะยิ่งต้องรอมากขึ้น


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2563 เวลา:13:40:12 น.  

 
คุณพ่อน้องชีริวก็เล่นกีตาร์ด้วยนะครับ
ซานตาน่าเพราะดีครับ สำเนียงกีตาร์ชัดเจนเลย
จริงๆอีกคนที่ชอบก็มี สแลช วงกันแอนด์โรสด้วยครับ

พี่ก๋ามีเพื่อนอกหักเยอะ 555
เวลาเพื่อนมาเล่าอะไรให้ฟัง
เราก็เอามาแต่งเป็นเพลงต่อ

เพื่อนบางคนเคยขอให้แจ่งเพลงให้เค้าก็มีครับ
เวลาที่อกหัก 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 พฤษภาคม 2563 เวลา:14:10:30 น.  

 
ใช่ค่ะ แอฟ PosterLabs มีแบบให้เลือกเยอะเลยค่ะ
ทำออกมาสวยกว่าเราแต่งภาพเองตั้งเยอะ
แต่ติดตรงที่เราแก้ไขข้อความบางข้อความใน Poster นั้นไม่ได้


โดย: VELEZ วันที่: 2 พฤษภาคม 2563 เวลา:14:32:16 น.  

 
เรื่องนี้ ชอบหมดเลยค่ะ
พระเอก นางเอก ตัวประกอบ
เพลง เรื่องราว ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์

สรุปว่า ชอบ ไม่มีข้อติ
แต่ไม่เคยดูหรอกนะคะ อ่านตามที่น้องชีริวรีวิวมา

เพลงvacation นักร้องไทย เสียงดี ร้องเพราะกว่าเวอร์ชั่นฝรั่ง
ส่วนเพลง ดวงอาทิตย์ กับ เวลานี้ ให้ลูกชิ้นกุ้งไม้เดียว
แต่มันคือเต๋อ มันต้องมี

“ แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจหนังเรื่องนี้มากที่สุดนั่นคือการที่เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ดีที่สุดของความรักไม่ใช่การได้ครอบครอง แต่เป็นการได้รู้จักความรัก เช่นเดียวกับการได้เข้าใจถึงความอบอุ่นสวยงามของพระอาทิตย์ ทั้งที่มันคงอยู่คู่โลกเรามานานแสนนานแต่เราเคยมองข้ามมันไป”

น้องชีริวสรุปตอนท้าย. ส่วนพี่น่ะ ถ้ารักชอบต้องไขว่คว้าล่ะ เพราะถ้าได้รู้จักแต่ไม่ได้ มันคือความเศร้าแล้ว

ส่วนดวงอาทิตย์ คงเหมือนพ่อแม่ อยู่ไกลๆหน่อยก็ดีนะ ไม่มีก็ไม่ดี ใกล้เกินไปก็นะ เวลาจะลับไปก็คิดถึง รอเวลาพบกันใหม่ มาเต็มๆใกล้ไปก็หลบดีกว่า



โดย: mcayenne94 วันที่: 2 พฤษภาคม 2563 เวลา:17:31:15 น.  

 
Based on a True Story ของผกก.ด้วย
แบบนี้กำกับอย่างถึงแก่นแน่นอน หนังนี้จขบ.สปอยล์ได้ดีเยี่ยม
เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่รีวิวไว้ครั้งก่อนค่ะ ยังไม่เคยดู แต่รู้ว่าดังมาก
รายได้ถล่มทลายตั้ง 86 ล้าน จากต้นทุน 15 ล้าน แถมได้
รางวัลมาการันตีว่า หนังน้ำดีอีกด้วย โห..ต้องไปตามหาดู
จากเน็ทบ้างละ...เหมาะมากๆกับวัยคนทำงาน
สอนให้รู้ว่า "อย่าบ้างานจนลืมเรื่องสุขภาพ"
ทัศนคติหรือความเชื่อ ของยุ่นเหมือน จขบ.เลยเหรอ...
งั้นก็ได้ข้อคิดไปหนึ่งดอกละ...ความรักล๊ะ!!! เหมือนป่ะคร้า

หนังเรื่องนี้ครบรสเลย สมกับที่ได้รางวัล ชอบ MV จัง
ขอบคุณคร้า...


โดย: Tui Laksi วันที่: 2 พฤษภาคม 2563 เวลา:20:05:48 น.  

 
งานสำคัญแต่สุขภาพก็ต้องใส่ใจอย่างดีที่สุดนะคะ
หนังดี หนังดัง ให้ข้อคิด ให้ความเพลิดเพลิน
น่ายินดีมากๆค่ะที่หนังประสบความสำเร็จอย่างนี้
ต้องหามาดูบ้างแล้วค่ะ

ใบแมงลักพี่ต๋าเคยซื้อผิดเหมือนกันค่ะ
เอามาแทนกันไม่ได้ด้วยนะคะ

ฝันดีค่ะน้องชีริว





โดย: Sweet_pills วันที่: 2 พฤษภาคม 2563 เวลา:23:28:49 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 พฤษภาคม 2563 เวลา:6:47:33 น.  

 
อยากดูขึ้นมาติดหมัดเลยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 3 พฤษภาคม 2563 เวลา:10:47:49 น.  

 
ชีริว Movie Blog ดู Blog
สิ่งที่ดีที่สุดของความรักไม่ใช่การได้ครอบครอง
แต่เป็นการได้รู้จักความรัก คนดูจะได้ไอเดียนี้ทุกคนมั๊ย
ตอนดูเรื่องนี้ห็รู้สึกเหมือนกันว่าจบแปลกๆ
เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ไอเเดียนี้จากหนัง แต่ได้จากบล็อกนี้จ้า


โดย: หอมกร วันที่: 3 พฤษภาคม 2563 เวลา:16:09:30 น.  

 
จากบล็อก

X Japan ตอนนี้ไม่ค่อย active แล้วนะครับ ล่าสุดที่เป็นข่าวคือปี 2018 เล่นแบบไม่มีคนดู เพราะเกิดพายุใหญ่ คนมากันไม่ได้ พี่แกเลยเล่นแบบไม่มีคนดู (สุดยอดมาก) ที่เคลื่อนไหวจริงๆ น่าจะมีแค่โยชิกินี่แหละครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 3 พฤษภาคม 2563 เวลา:17:42:59 น.  

 
เป็นการ์ตูนแบบ ผึ้ง มีขา อะไรแบบนี้ค่ะ
เขียนลงเื้อยืดด้วย
ไม่ได้เขียนแบบโฉบเฉี่ยวเหมือนสมัยนี้


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 3 พฤษภาคม 2563 เวลา:20:49:21 น.  

 
อ ร่ อ ย มั๊ ย... มังคุด !!!
ทุเรียน...หมอนทอง ยังแพงมากเช่นเคย
เราอยากทาน ก็ยอมควักกระเป๋าเป็นบางที
แต่ไม่บ่อยจ้า 5 5 5
ปลดล๊อกบ้างแล้ว...ไปไหนไกลบ้านได้ยังคร้า


โดย: Tui Laksi วันที่: 3 พฤษภาคม 2563 เวลา:21:08:56 น.  

 
โหยยยย​ จาก50​ มาเป็น150​ เกินเหตุจริงๆ..
จะขายออนไลร์มันก็ยากนะทุเรียนเนี่ยะ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 3 พฤษภาคม 2563 เวลา:21:11:27 น.  

 
555 ตัดภาระไปหนึ่งอย่างนะคะ
ฝันดีค่ะน้องชีริว


โดย: Sweet_pills วันที่: 3 พฤษภาคม 2563 เวลา:22:09:47 น.  

 
พี่ก๋าแต่งเพลงเร็วมากครับ
เพลงนึงถ้าเขียนได้ไหลลื่น
ไม่เกิน 15 นาทีน่าจะเขียนจบ

จริงๆเชียนที่ไหนก็ได้ด้วยครับ
ไม่ต้องเงียบเสมอไป
แต่ำจเป็นต้องมีแรงบันดาลใจนะครับ
อันนี้สำคัญเลย
เวลามันมา
จะเขียนได้ทันที



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 พฤษภาคม 2563 เวลา:22:22:01 น.  

 
เพลงเวลานี้ เพราะดีค่ะ ฟังแล้วนึกถึงตอนใส่ชุดนักศึกษา แอร๊ยยย นั่นมันยุคไดโน้..นานมาแล้วนะป้า 555 ได้ดูหนังเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ สนุกน่ารักดี

ในบล๊อก "อิผิน" เป็นชื่อย่อใช้แทน เพื่อนหญิงชาวฟิลิปปินส์ ผันเสียงจากปินส์ เป็นผิน เพราะกลัวมันจำได้ 555


โดย: Max Bulliboo วันที่: 4 พฤษภาคม 2563 เวลา:1:58:36 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 พฤษภาคม 2563 เวลา:5:46:35 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

มาอ่านเรื่องย่อเอานะคะ
ยังไม่เคยดูค่ะ ชอบใหม่ ตาโตดีค่ะ
ไม่ต้องแต่งหน้าก็สวยเข้มแล้ว
ส่วนซันนี่ ชอบมาก่อนหน้านี้แล้วค่ะ
กวนโอ๊ยดี
ขอบคุณกำลังใจที่ให้เปียกสาคูต้นด้วยนะคะ


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 4 พฤษภาคม 2563 เวลา:10:46:25 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องซีริว
พี่ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ดูภาพยนต์บ่อยนัก
แต่เรื่องนี้อ่านแล้วต้องหาโอกาสดูค่ะ ชอบนักแสดงด้วย
พี่ว่าหลังโควิทผ่านไป อะไร ๆ คงเปลี่ยนไปเยอะ
แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือ การนอนคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 4 พฤษภาคม 2563 เวลา:11:54:46 น.  

 
เป็นรีวิวหนังที่ดีงามสมควรค่าแก่การโหวตมว้ากกกกกกกกกกกกก

ชอบบทสรุป มันจริงมากๆ เลยแหละนะ

พี่ดูหนังของเต๋อมาไม่กี่เรื่อง แต่ชอบทุกเรื่องเลย

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Music Blog ดู Blog
toor36 Music Blog ดู Blog
ภาวิดา คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog
nonnoiGiwGiw Food Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Food Blog ดู Blog
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
ชีริว Movie Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 4 พฤษภาคม 2563 เวลา:13:01:29 น.  

 
ชีริว Movie Blog


ชอบเหมือนกันค่ะ ฟรีแลนซ์
ส่วนตัวชอบซันนี่ กับบุคลิกของเขาค่ะ
ส่งกำลังใจค่ะ


โดย: mariabamboo วันที่: 5 พฤษภาคม 2563 เวลา:21:21:13 น.  

 
แวะมาทักทายยามดึกค่ะคุณชีริว เรื่องนี้ลิ้มได้ดูนอกโรงค่ะ เป็นเรื่องที่สอนชีวิตได้ดีเลยค่ะ ไม่ทำงานก็ไม่มีเงิน วงการทำงานมีอยู่แค่นี้ไม่ว่าจะงานอะไร แต่สุดท้ายแล้วชีวิตไม่ได้มีแค่การทำงาน เรายังมีตัวเรา ครอบครัว เพื่อน ฯลฯ ที่ต้องเอาใจใส่ดูแล สิ่งที่ดีที่สุดคงจะเป็นการบาลานซ์ชีวิตนี่แหละเนอะ


โดย: น้อยหน่ากะสาลี่ วันที่: 5 พฤษภาคม 2563 เวลา:22:57:06 น.  

 
พี่ก๋ายังไม่เคยร้องเพลงของเพื่อนเลยครับ 555
ปกติครองตำแหน่งนักร้องนำในวงเหล้าโดยตลอด
เว้นแต่ตอนเพื่อนเมามากๆ
พี่ก๋าก็จะอู้งานเล่นกีตาร์อย่างเดียว
ให้เพื่อนเมาๆร้อง
สนุกดีครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤษภาคม 2563 เวลา:23:20:29 น.  

 
ทุเรียนน่าจะราคาลงยากค่ะคุณซีริว แม่ค้าบอกว่าตอนนี้ราคาที่สวนขึ้นมาอีกแล้ว จีนน่าจะเข้ามาซื้อแล้วค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 6 พฤษภาคม 2563 เวลา:7:19:54 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤษภาคม 2563 เวลา:7:23:51 น.  

 
อิอิ.. คิดว่าเดี๋ยวต้องกลับ​ เข้าเผ่าแล้วแหละ
คงต้องบอกลาน้ำปลาหวานสักพัก..

จริงๆตอนเราอยู่คนเดียว​ ก็ไม่ค่อยขยันทำอะไรกินหรอกค่ะ
นี่แม่มาหลบโควิดด้วยเลยกินกันบันเทิงไปเลยแหละ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 6 พฤษภาคม 2563 เวลา:10:42:33 น.  

 
ชอบหนังเรื่องนี้ครับ เดาตอนจบไม่ถูก
ดูหลายครั้ง ถ้าเจอทางทีวีก็จะดูซ้ำ
ช่วงนี้พวกเขาที่มีอาชีพนี้จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 6 พฤษภาคม 2563 เวลา:14:14:18 น.  

 
ไม่ได้ดูเลยค่ะเรื่องนี้


โดย: kae+aoe วันที่: 7 พฤษภาคม 2563 เวลา:9:23:52 น.  

 
ฟรีแลนซ์ เป็นหนังที่น่าดูครับ


โดย: **mp5** วันที่: 7 พฤษภาคม 2563 เวลา:10:59:17 น.  

 
ให้ขนมจีบเลยเหรอ
ขนมจีบกุ้งอร่่อยนะ 555

เอาจริงๆ รินคนเดียวปะเนีย ที่ดูหนังนี้ไมค่อยอินอ่ะ มันเค้นอารมณ์หรือไม่มีฉากไรน่าตื่นเต้นเลย
มีแค่คุยๆ ทำงานกันไปเท่านั้น เจอแผลไรใหม่ก็ไปหาหมอแค่นั้น
นี่แหละรินไม่อิน
แต่ทั้งที่เข้ากับชีวิตตัวเองมากด้วยแท้ๆ 555



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 7 พฤษภาคม 2563 เวลา:21:26:35 น.  

 
ชอบๆ นางเอกเรื่องนี้


โดย: Sai Eeuu วันที่: 8 พฤษภาคม 2563 เวลา:20:41:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.