มารู้จักกับเด็กหลอดแก้วกันคะ..
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว Bloggang ที่น่ารักทุกๆท่าน วันนี้อ้อมแอ้มจะมาบอกเล่าให้ฟังถึง เด็กหลอดแก้ว ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นที่แรกที่ทำได้สำเร็จ ศ.นพ.ประมวล วีรุตมเสน ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเป็นแพทย์ไทยคนแรก ที่ผสมเทียมนอกร่างกาย หรือเด็กหลอดแก้ว ช่วยคู่สามีภรรยาที่มีบุตรยากตั้งครรภ์และได้ทารกเป็นเพศชาย ถือเป็นเด็กหลอดแก้วคนแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี 2530 ผ่านมาได้เกือบ 30 ปีแล้ว เด็กหลอดแก้ว (In Vitro Fertilization, IVF) คือ เทคโนโลยีที่ช่วยในการปฎิสนธิระหว่างไข่และสเปิร์มที่ภายนอกร่างกาย เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาภาวะการมีบุตรยาก ด้วยการนำไข่ออกมาจากร่างกายของฝ่ายผู้หญิง และนำเอาสเปิร์มของฝ่ายผู้ชาย มาทำการปฏิสนธิกันภายในภาชนะบรรจุของเหลว เสร็จแล้วจึงนำไข่ที่มีการปฏิสนธิแล้ว หรือ ตัวอ่อนเอ็มบริโอ(Embryo) ใส่เข้าไปยังมดลูกของฝ่ายผู้หญิง เพื่อทำให้การตั้งครรภ์นั้นสมบูรณ์ คำว่า เด็กหลอดแก้ว มาจากการที่ขั้นตอนในการทำให้เกิดเด็กมีการปฎิสนธิแบบ In Vitro ที่เป็นภาษาละติน แปลว่า ภายนอกสิ่งมีชีวิต ซึ่งIn Vitro โดยทั่วไปมักจะทำกันในหลอดทดลองและหลอดทดลองจะทำมาจากแก้ว จึงได้เรียกหลอดทดลองว่า หลอดแก้ว และเป็นเหตุให้เรียกเด็กที่เกิดจากขั้นตอนเหล่านี้ว่า เด็กหลอดแก้ว ปัจจัยในการเลือกทำเด็กหลอดแก้ว (In Vitro Fertilization, IVF) โดยจะพิจารณาจากปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะมีบุตรยากในคู่สมรสได้แก่ - ฝ่ายผู้หญิงมีปัญหาเกี่ยวกับระบบท่อนำไข่ผิดปกติ เช่น ได้รับความเสียหาย, มีการอุดตัน, เคยรับการผ่าตัด เป็นต้น - ฝ่ายผู้ชายมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพเชื้ออสุจิหรือเชื้ออสุจิผิดปกติ เช่น มีรูปร่างผิดปกติ มีจำนวนน้อยกว่าปกติ มีการเคลื่อนไหวน้อยหรือเคลื่อนที่ได้ไม่ดี - ฝ่ายผู้หญิงมีปัญหาเกี่ยวกับภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ - ฝ่ายผู้หญิงมีปัญหาเกี่ยวกับระบบฮอร์โมนรังไข่ผิดปกติ เช่น ภาวะไม่ตกไข่เรื้อรัง - ผ่านการทำผสมเทียมมาแล้วแต่ไม่สำเร็จ - มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย - มีความจำเป็นต้องใช้ไข่ที่ได้รับการบริจาคจากผู้อื่น - การตรวจโรคทางพันธุกรรมของบุตรก่อนเกิด โดยมีการตรวจก่อนที่จะมีการถ่ายฝากตัวอ่อนเข้าสู่มดลูก ด้วยวิธีการEmbryo Biopsy - การมีภาวะที่ไม่ทราบสาเหตุของการมีบุตรยาก โดยที่คู่สมรสมีความพยายามจะมีบุตรมามากกว่า 3 ปี การรักษาภาวะมีบุตรยากดังกล่าว แบ่งการช่วยเหลือ คือ 1. การรักษาโดยอาศัยกลไกของธรรมชาติ นับระยะวันไข่ตก กำหนดวันมีเพศสัมพันธ์ โดยมีเพศสัมพันธ์กันบ่อยขึ้นในวันที่ฝ่ายหญิงมีการตกไข่ การกำหนดวันตกไข่ทำได้โดยมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ (สัปดาห์ละ 3-4 วัน) กะประมาณด้วยตัวเองวันที่ 14-15 ของรอบประจำเดือน สำหรับผู้ที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอทุก 27-29 วัน ตรวจการตกไข่ด้วยตัวเอง โดยใช้เครื่องมือตรวจการตกไข่ จากปัสสาวะแล้วมีเพศสัมพันธ์กัน ให้แพทย์ตรวจโดยการทำ อัลตร้าซาวนด์ และ/หรือการตรวจฮอร์โมนจากการเจาะเลือด หาช่วงเวลาของการตกไข่ 2. การรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เมื่อวิธีแรกไม่ได้ผล มีวิธีรักษาต่างๆได้หลายวิธี ดังนี้คือ 2.1 การฉีดเชื้ออสุจิ (Intra Uterine Insemination หรือ IUI) คือ วิธีการคัดเชื้ออสุจิที่แข็งแรง สมบูรณ์ ฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกในวันที่ไข่ตก ผ่านทางท่อเล็กๆ เป็นการเพิ่มโอกาสให้อสุจิพบกับไข่มากขึ้น ความสำเร็จในการตั้งครรภ์แต่ละครั้งมากกว่าวิธีธรรมชาติ 2-3 เท่า ในกรณีที่มีเชื้ออสุจิไม่แข็งแรง หรือมีปริมาณน้อย ไม่มีมูกที่ปากมดลูก หรือมูกเหนียวข้น ใช้วิธีธรรมชาติไม่ได้ผล 2.2 การทำเด็กหลอดแก้ว (InVitro Fertilization and Embryo Retransfer หรือ IVF& ET) วิธีเก็บเซลล์สืบพันธ์ทั้งไข่และอสุจิ มาผสมกัน ให้เกิดการปฏิสนธินอกร่างกายจนแบ่งเซลล์เป็นตัวอ่อน และทำการเลี้ยงตัวอ่อนภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมในห้องปฏิบัติการ จนถึงระยะ 4-8 cell หรือเป็น blastocyst แล้วจึงใส่กลับเข้าสู่โพรงมดลูก ความสำเร็จในการตั้งครรภ์แต่ละครั้งประมาณ 20-50 % แล้วแต่สภาพสาเหตุและการเลี้ยงตัวอ่อน รักษาในกรณีที่ ท่อนำไข่อุดตันทั้ง 2 ข้าง มีพังผืดในอุ้งเชิงกราน (Endometriosis) เชื้ออสุจิไม่แข็งแรง 2.3 การทำอิ๊กซี่ (IntraCytoplasmic Sperm Injection หรือ ICSI) วิธีการคัดเชื้ออสุจิที่แข็งแรง สมบูรณ์เพียงตัวเดียว ฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง จะใช้ในกรณีที่เด็กหลอดแก้วธรรมดาไม่ได้ผล ความสำเร็จในการตั้งครรภ์แต่ละครั้งประมาณ 25-30 % รักษาในกรณีที่เชื้ออสุจิผิดปกติอย่างมาก รังไข่ผิดปกติ ไม่มีการตกไข่ ไข่และอสุจิไม่สามารถปฏิสนธิกันเองได้ 2.4 การทำกิฟท์ (Gamete IntraFollopain Transfer หรือ GIFT) วิธีเก็บเซลล์สืบพันธ์ทั้งไข่และอสุจิ มาผสมกัน แล้วใส่กลับเข้าสู่ท่อนำไข่ทันที อาศัยให้อสุจิและไข่ปฏิสนธิกันเองตามธรรมชาติในท่อนำไข่ การทำวิธีนี้ต้องเจาะท้องส่องกล้อง ความสำเร็จในการตั้งครรภ์แต่ละครั้งประมาณ 30-40 % รักษาในกรณีที่เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ มีพังผืด มีท่อนำไข่ที่ปกติอย่างน้อย 1 ข้าง เชื้ออสุจิอ่อนแอไม่มากนัก รายที่ไม่ทราบสาเหตุ 2.5 การทำซิฟท์ (Zygote IntraFollopain Transfer หรือ ZIFT) วิธีเก็บเซลล์สืบพันธ์ทั้งไข่และอสุจิ มาผสมกันให้เกิดการปฏิสนธินอกร่างกายก่อน แล้วจึงนำตัวอ่อนในระยะ Zygote ใส่กลับเข้าไปในท่อนำไข่ การทำวิธีนี้ต้องเจาะท้องส่องกล้องเช่นเดียวกับทำ GIFT ความสำเร็จในการตั้งครรภ์แต่ละครั้งประมาณ 20-30 % รักษาในกรณีที่เชื้ออสุจิน้อยกว่าปกติ ท่อนำไข่ทำงานไม่ปกติแต่ไม่ตัน มีพังผืดมาก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ รายที่ไม่ทราบสาเหตุ 2.6 การแช่แข็งตัวอ่อน ในกรณีที่มีการปฏิสนธิ และการแบ่งตัวของตัวอ่อนมากกว่าที่จะใส่เข้าไปในโพรงมดลูก ในคราวเดียวเราจะแช่แข็งตัวอ่อนเพื่อนำมาใส่ได้อีกเพื่อเพิ่มความสำเร็จ ลดค่าใช้จ่าย และลดภาวะแทรกซ้อนจากการกระตุ้นไข่และเจาะไข่แต่ละครั้ง * การทำกิฟท์และซิฟท์จะต้องทำการผ่าตัดส่องกล้องช่องท้อง เพื่อนำไข่และอสุจิหรือตัวอ่อนใส่เข้าไปในท่อนำไข่ นิยมทำในสมัยก่อนที่ห้องปฏิบัติการเลี้ยงตัวอ่อนยังไม่สมบูรณ์ สมัยนี้นิยมทำ IVF และ ICSI เพราะไม่ต้องผ่าตัดส่องกล้องช่องท้อง ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว 1.เตรียมความพร้อมของคู่สมรส โดยการ - สรุปประวัติการรักษา - ตรวจร่างกาย - ตรวจระบบฮอร์โมนรังไข่ - ตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ - ตรวจความแข็งแรงของเชื้ออสุจิ 2.วางแผนและทำความเข้าใจร่วมกันระหว่างแพทย์และคู่สมรส 3.ทำการกระตุ้นรังไข่เพื่อให้มีการตกไข่และทำให้ไข่สุกในรังไข่ 4.ตรวจการเปลี่ยนแปลงของไข่ด้วยการอัลตราซาวนด์ 5.เก็บไข่ออกจากร่างกายฝ่ายหญิงพร้อมกับการเก็บเชื้ออสุจิจากฝ่ายชาย 6.นำไข่ไปปฏิสนธิกับสเปิร์ม 7.เพาะเลี้ยงตัวอ่อนในน้ำยาเลี้ยงให้เติบโตและแข็งแรงภายในห้องปฏิบัติการ 8.ถ่ายฝากตัวอ่อนเพื่อฝังตัวในโพรงมดลูก 9.ตรวจติดตามระดับฮอร์โมนของฝ่ายหญิง ในระหว่างการฝังตัวของตัวอ่อนหรือการตั้งครรภ์ ระยะเวลาในการทำเด็กหลอดแก้ว เด็กหลอดแก้วจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4-6 สัปดาห์ จึงจะเสร็จสมบูรณ์ โดยที่หลังจากมีการถ่ายฝากตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก แล้วประมาณ 2 สัปดาห์ทางแพทย์จะนัดมาตรวจเลือดเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ โอกาสสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว โอกาสสำเร็จจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยทั่วไปจะมีโอกาสตั้งครรภ์ที่ประมาณ 15-35 % และเด็กมีโอกาสเกิดความพิการ ไม่แตกต่างจากการตั้งครรภ์ โดยธรรมชาติ รูปแรก ภาพขยายตัวอสุจิกำลังขยาย 640 เท่าในกล้องที่ใช้ทำอิกซี่ สามารถเห็นตัวโครงสร้างอสุจิได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดบริเวณส่วนหัวของอสุจิ ซึ่งเป็นที่อยู่ของสารพันธุกรรม รูป2 ภาพขยายตัวอสุจิขนาด 16000 เท่า ทำให้เรามองเห็นส่วนหัวของอสุจิได้ชัดเจนว่าเป็นอสุจิที่ปกติ รูป3 ภาพขยายอสุจิขนาด 16000 เท่า สามารถมองเห็นส่วนหัวอสุจิได้ว่ามีโครงสร้างคล้ายหยดน้ำอยู่ภายใน(vacuole) ซึ่งสาเหตุเกิดมาจากการที่สารพันธุกรรมมีการแตกหัก (DNA fragmentation) ค่าใช้จ่ายคร่าวๆก็มี เก็บไข่+ICSI+ใส่ตัวอ่อน (กรณีมีตัวอ่อนรอบใส่สด แต่ไม่มีตัวอ่อนเหลือแช่แข็ง)ประมาณ 28,000 บาท เก็บไข่+ICSI+ใส่ตัวอ่อน+แช่แข็งตัวอ่อน (กรณีมีตัวอ่อนใส่สด และเหลือตัวอ่อนแช่แข็ง)ประมาณ 39,000 บาท เก็บไข่+ICSI+แช่แข็งตัวอ่อน (กรณียังไม่ใส่ตัวอ่อนในรอบกระตุ้นและแช่แข็งไว้ก่อน ส่วนใหญ่เกิดจากการกระตุ้นไข่แล้ว OHSS )ประมาณ 35,000 บาท ยังไม่รวมค่ายา ค่าอัลตราซาว ค่าตรวจเลือด ที่แพงๆก็คือค่ายากระตุ้นไข่นี่แหละ ถ้าอายุยังไม่มาก ส่วนใหญ่จะกระตุ้นไข่ได้ดี ก็จะใช้ยากระตุ้นไข่ ค่าใช้จ่ายน่าจะประมาณ70,000 - 100,000 ต่อรอบการกระตุ้นไข่ ปล.ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีจากหลากหลายสำนักทางInternetคะ มีหลายโรงพยาบาลที่ให้บริการเรื่องการมีบุตรยาก อาทิ.. แล้วแต่จะสะดวกที่ไหน เชื่อมั่นในตัวคุณหมอท่านไหน ก็ตามสบายเลยคะ.. ส่วนอ้อมแอ้ม คนโสด ขออยู่อย่างโสดๆดีกว่าคะ ขอบพระคุณภาพสวยๆจาก Internet นะคะ และเพลง ยังโสด ของ Olives จาก //www.gmember.com
Create Date : 20 มีนาคม 2560
Last Update : 20 มีนาคม 2560 17:21:21 น.
58 comments
Counter : 7013 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณMitsubachi , คุณInsignia_Museum , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณtuk-tuk@korat , คุณmambymam , คุณข้ามขอบฟ้า , คุณกะว่าก๋า , คุณสองแผ่นดิน , คุณหอมกร , คุณMaeboon , คุณจินหลิน , คุณพันคม , คุณkae+aoe , คุณก้นกะลา , คุณเกศสุริยง , คุณtoor36 , คุณจารุพิชญ์ , คุณmcayenne94 , คุณเรียวรุ้ง , คุณไวน์กับสายน้ำ , คุณเนินน้ำ , คุณmariabamboo , คุณlovereason , คุณcomicclubs , คุณเลื่อนลอยการเกษตร , คุณmoresaw , คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน , คุณphunsud , คุณun momento , คุณรัชต์สารินท์ , คุณClose To Heaven , คุณฟ้าใสวันใหม่ , คุณฝากความคิดถึงไปกับสายฝน , คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก , คุณnewyorknurse
โดย: Mitsubachi วันที่: 20 มีนาคม 2560 เวลา:18:19:34 น.
โดย: mambymam วันที่: 20 มีนาคม 2560 เวลา:20:20:44 น.
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:5:46:44 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:6:28:59 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:8:16:24 น.
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:8:21:37 น.
โดย: หอมกร วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:8:38:54 น.
โดย: blog pu วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:9:18:21 น.
โดย: Maeboon วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:11:46:34 น.
โดย: พันคม วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:15:21:51 น.
โดย: kae+aoe วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:17:29:37 น.
โดย: ก้นกะลา วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:18:50:42 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:22:11:33 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:0:30:01 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:6:31:03 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:7:53:16 น.
โดย: blog pu วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:8:23:37 น.
โดย: mambymam วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:8:51:20 น.
โดย: หนี่งหน่อง วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:10:39:32 น.
โดย: จารุพิชญ์ วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:12:26:32 น.
โดย: mcayenne94 วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:12:53:37 น.
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:13:15:27 น.
โดย: LoveTurJang วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:15:02:59 น.
โดย: kae+aoe วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:15:56:34 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:17:26:59 น.
โดย: mariabamboo วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:18:57:59 น.
โดย: comicclubs วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:1:15:53 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:6:49:56 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:7:29:59 น.
โดย: Sai Eeuu วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:8:37:32 น.
โดย: NENE77 วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:11:55:29 น.
โดย: phunsud วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:15:07:28 น.
โดย: gardasee วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:15:28:15 น.
โดย: หนี่งหน่อง วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:19:34:05 น.
โดย: จี๊ดจ๊าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:19:53:27 น.
โดย: ออมอำพัน วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:5:03:37 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:6:34:33 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:8:09:54 น.
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:8:15:01 น.
โดย: mambymam วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:14:23:48 น.
โดย: kae+aoe วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:14:32:32 น.
โดย: wicsir วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:21:57:23 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มีนาคม 2560 เวลา:6:49:35 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มีนาคม 2560 เวลา:13:55:45 น.
โดย: เจียวต้าย วันที่: 26 มีนาคม 2560 เวลา:10:46:26 น.
ที่ญี่ปุ่นทำครั้งหนึ่งตั้ง 5 แสนเยนแน่
ไม่ติดเสียตังค์ทิ้งป่าว ถ้าติดก็คุ้มอะนะคะ
แถมมีผลข้างเคียงกับตัวเองอีก
แต่มาคิดๆดูปัจจุบันไม่มีลูกโชคดีมากเลยคะ