No. 519 บล๊อกประจำวัน ศุกร์ - อาทิตย์ |
|
นั่งนึกถึง ตอนเป็นเด็กก็อยู่ในเมืองมาตลอด เวลามีเด็กต่างจังหวัด |
หรือไม่เด็กต่างอำเภอ เข้าไปเรียนด้วย เพื่อน ๆ มักจะค่อนแคะว่าเรียกว่าเด็กบ้านนอก |
ผมเองก็ค่อนข้างคล้อยตามเพื่อน |
แต่ไม่ค่อยกล้าพูด ให้พวกเด็กบ้านนอกได้ยิน แหะ ๆ เพราะ... |
|
นักเรียนจะนุ่งกางเกงขาสั้นไปเรียน |
ส่วนเสื้อนักเรียนก็ใส่ตามปกติ สวมทับด้วยเสื้อกันหนาว ไหมพรม พวกเสว็ตเตอร์ |
อยู่ข้างใน เสื้อหนาวหนา ทับอีกชั้น มีผ้าพันคอ |
ถ้าเพื่อนนักเรียน บ้านอยู่ลำปาง จะมีเงินเยอะ เสื้อกันหนาวเป็นหนัง แท้สีดำ หรือไม่ |
ก็สีน้ำตาล กลิ่นหอม คนลำปางจะพูดแข็ง ๆ ห้วน ๆ สำเนียงพูดไม่เหมือน เชียงใหม่
|
ถ้าเป็นเด็ก อ.แม่สาย เชียงราย จะใส่เสื้อกันหนาว |
หนาสีสวย แดง สีน้ำเงิน สีฟ้า มีผ้าพันคอด้วย พวกนี้มีกะตังค์
|
ส่วนผมเอง ใส่เสื้อนักเรียนอยู่ข้างในแนบชิดตัว ทับด้วยเสื้อกันหนาวผ้าสักกะหลาด |
สีน้ำตาลปนเขียว อุ่นดี แต่ ไม่อยากสัมผัส มันคัน แข็ง แม่ซื้อมาเป็นผืนใหญ่นำมาตัดเสื้อ
|
แต่ถ้าเป็นกางเกง มี 3 ตัวให้ตายซิ ไม่อยากพูดเลย กางเกงขาดตรง ตูด แม่เลยใช้ผ้าตัดเป็นรูปหัวใจ |
แปะแล้วเย็บติด นั่นแหละคือสาเหตุ ที่ผมไม่ค่อยกล้า ว่าใครเป็น |
เด็กบ้านนอก แม้พวกเขาจะเด๋อ เปิ่นหน่อย กลัวเขาย้อนเอานะว่า ไอ้ตูดแหลม 555 |
|
พอเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพ ก็หลายปี ได้ทำงานในห้องแอร์ เย็นฉ่ำ การแต่งตัว |
พลอยดีไปด้วย ใส่เสื้อแขนยาว ผูกเน็คไทค์ ถ้าเย็นก็นำเสื้อสูทที่แขวนในห้องทำงาน |
มาสวมทับ โก้ไม่เบา อยู่ในเมืองหลวงหลายปี |
|
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ทำงานบริษัท สำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ ถนนเสือป่า |
บริษัทจะส่งทีมงาน ไปทำงานบุกเบิกในภาคอิสาณ ให้ดังไปเลย เขาเลย กล่อมพวกการตลาด |
การขาย ก็กลุ่มพวกผมนั่นแหละ ไปทำงาน |
ทีมการตลาดดันคล้อยตาม รวมทั้งผมด้วย แหะ ๆ ให้ผมไปดูแลทีมการตลาด โดยเป็นรอง |
ผจก.ภาค ที่นั่น มีรถให้ใช้ มีค่ารับรอง ที่พักพร้อม
|
|
เพื่อน ๆ เขาไปบุกเบิกล่วงหน้ากันกว่า 4 เดือนแล้ว ผมเพิ่งเคลียงานที่ทำเสร็จ ก็เลย |
พาครอบครัว รวม 3 คนไป อยู่ อุบลราชธานี |
ตอนนั้น มีรถเมล์ กับรถไฟ ผมมีสัมภาระเยอะ เลยเลือกเดินทางไปกับรถไฟ |
ส่วนของก็ ขนใส่ตู้การ์ดไปเสียเงินเพิ่มนิดหน่อย |
พอไปถึงสถานี วารินชำราบ... ผมนั่งมองเห็นคน เขาขนของ ลงเดินออกจากสถานีไป |
|
น้า ๆ ที่เขายืนรอคนมารับ คงเห็นผม รอให้รถไฟไปต่อ เลยบอกว่า คุณ ๆ ถึงอุบลแล้ว |
ไปต่อรถเข้าเมืองอุบลข้างนอกได้เลย รถไฟไม่ไปต่อหรอก
|
เลยรู้ว่า สถานี วารินชำราบ คือสถานี อุบลราชธานี เป็นสถานีปลายทางนั่นเอง |
|
ขอข้าม ไปถึง การทำงานเลยนะครับ 555
|
อุบล ตอนที่อยู่ แม่น้ำมูล จะมีน้ำเต็มตลิ่ง น้ำสีโอวัลตินไม่ใส่นม ไหลอย่างแรงไป |
สู่แม่น้ำโขง ปลาเยอะมาก
|
|
ถ้าฤดูแล้ง น้ำจะเหือดแห้ง ชาวบ้านจะปลูกผักริมฝั่ง เป็นดินร่วนปนทราย ผักเขียว |
งดงาม แถวบุ่งหวาย บุ่งกระแทว เป็นที่ลุ่ม ปลูกผัก กระเทียม |
เรียกว่า ที่นั่นเมืองผัก จะกินผักอะไรก็ ซื้อได้ราคาถูกมาก ที่สำคัญ คือ สด |
|
เวลาว่างจากงาน ในฤดูแล้ง ก็ไปเที่ยว หาดกลางน้ำ แถวหาดวัดใต้ หรือหาดคูเดื่อ |
ไปเล่นน้ำ กินส้มตำ ใส่ปูนาดอง ใส่กระเทียม สีแดง อร่อยสุด ๆ
....
|
|
เวลาไปทำงาน เพื่อน ๆ ผจก.ภาค แบ่งเขตกันทำงาน ไปตามอำเภอต่าง ๆ |
พวกนี้ จะหาคนมาร่วมทำงาน ส่วนผมมีหน้าที่ ฝึกอบรมให้เขาเกิดความเชื่อมั่นต่อ |
กิจการบริษัท กับสินค้าว่า ดีงั้น ดีงี้ 555 |
|
บางครั้งผมก็ต้องไป เยี่ยมเยียนทีมงานใน อำเภอต่าง ๆ ถนนไม่ดีเลย มีแต่ฝุ่น
ถนนที่ว่า ส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่ง อ.วารินชำราบ ๆ นี้เหมือน ฝั่งธนบุรีกับกรุงเทพ คืออยู่เพียงสองฝั่งน้ำ
แต่ถ้าถนน ฝั่งเมือง ไป กม.0 ไป อ.เขื่องใน อ.ม่วงสามสิบ บ้านคุณเอื้อ แห่ง จิ๊บเฮ้าส์ จะเป็นถนนลาดยาง
|
ถนนไปพิบูลมังสาหาร ไปช่องเม็ก จะเห็น ชาวบ้านปลูกปอ ปลูกข้าวในนา |
มีชื่อหมู่บ้านแปลก ๆ ด้วย แถวฝั่งวารินชำราบ |
ชื่อหมู่บ้าน จะมี บ้านโพธ์ออก โพธิกลาง โพธิ์ตก โพธิ์ใต้ มีถนนผ่ากลางหมู่บ้าน |
ไปมาสะดวกดี แม้จะมีฝุ่น ก็โอเค
|
มีอยู่หมู่บ้านหนึ่ง ผมเห็นชื่อหมู่บ้าน แล้ว ต้องอมยิ้ม แหะ ๆ ทาง การก็พวกข้าราชการ |
น่าจะเป็นคนภาคกลางหรือภาคอื่น ทำป้ายว่า |
หมู่บ้าน ศรีษะกระบือ |
แต่ชาวบ้านเขาไม่เรียกตาม เขาพูดตรงเป๊ะ หน้าตาเฉยเลย ไม่ใช่แบบที่เขา |
เขียนไว้เลย 555 |
ผมไปอยู่อุบลราชธานี ที่นั่น ติดใจอาหารญวน ครับ อร่อยทั้งนั้น |
|
....
.....
|
|
แล้วก็พยายามทำตัวให้กลมกลืนกับ ชาวบ้านนอก แหะ ๆ ไปตัดผมแบบชาวบ้าน |
ข้างสวนศรีเมือง ก็ในอำเภอเมืองนั่นแหละครับ |
|
ร้านลมโชย |
ถูกตังค์ดีด้วย เย็นสบายมาก เมื่อก่อนอยู่ริมคูน้ำ ใต้ต้นฉำฉา
|
|
บางวัน ก็พา ลูกสาวแม่ยาย ไปจ่ายตลาด ผมชอบกินน้ำพริกกะปิ กับผักกาดดอง |
ชนิดใช้ผักกาดกวางตุ้ง ดองด้วยน้ำซาวข้าว ใส่เม็ดข้าวด้วย น่าจะดองได้แค่ 2 วันพอ สียังเขียว |
เปรี้ยวก็นำมาขาย เราจะนำมาสลัดเม็ดข้าวออก กินกับน้ำพริกกะปิ
|
อร่อย... แต่บางครั้งก็เจอ ผักเสี้ยนดอง อันนี้นำมา ซอย แล้วผัดใส่หมู อร่อยไปอีก |
อย่าง ชีวิตที่อยู่ใน บ้านนอก ผมว่ามีความสุข ล้นเหลือ |
|
|
วกกับมาตอน ถึงอุบลราชธานี ฝั่งวารินชำราบ วันแรก ถือว่าตนเองเป็นคนกรุงเทพ |
ไม่ใช่คนบ้านนอก |
หิ้วของมาเยอะ เก้ ๆ กัง ๆ ทั้งสามคน มองหารถ ไปฝั่งเมือง มีคนแถ มาถามเยอะ |
ไปรถ ๆ ไหมครับ ดูท่าไม่น่าไว้ใจ เลยไม่ยอมไปด้วย |
ทั้งสถานี น่าจะเหลือเฉพาะเรา 3 คน คนอื่นเขาไปกันหมดแล้ว
|
มีลุงคนหนึ่ง เดินดูผมกับครอบครัว แล้วยกมือไหว้ ผมรีบยกมือไหว้ตอบ |
ไปในเมือง รถผมไหมครับ |
ไปครับ ลุงพอไปถูกหรือเปล่า |
พอบอกจุดหมาย อ๋อ..รู้จักครับ ผจก.ที่นั่นใช่คุณ ยศ หรือเปล่า |
ใช่ ๆ เลยลุง |
ลุงแก เลยช่วยหิ้วของ ไปขึ้นรถจนหมด ผมเดินไปดู แล้ว ต้องนิ่งพูดไม่ออก ที่ลุงแกพยายามช่วย |
ทุกอย่าง เห็นน้าผู้หญิง ไม่สดวกก็ ช่วยยกของออก ให้น้าขึ้นไปนั่ง |
ผมก็ขื้นไปนั่ง ถัดไป นั่งห้อยขา สบาย ๆ แบบนี้ครับ
โก้..ไหมครับ 555
|
|
|
|
นึกแล้วขำ เราคนกรุงเทพ กลับ เด๋อ... ซะไม่มี |
รถม้านี้แม่ค้า เขาใช้ขนของนะครับ 555
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ
end 702,629
visit บล๊อก
visit บล๊อก 701,401 st
=1,228
งานเขียนประเภท Diarist
|
ผมเป็นเด็กที่เกิดในกรุงเทพ
แต่รู้สึกเสมอว่าตัวเองเป็นเด็กบ้านนอกครับ 555
เพราะชีวิตไปโตอยู่กับบ้านนอก
อยู่เชียงใหม่
ก็มาตอนยังเป็นเมืองเล็กๆ
ไม่ได้เติบโตเป็นเมืองใหญ่แบบทุกวันนี้
ตอนที่ผมเดินทางจากเชียงใหม่มาเรียนที่ลาดกระบัง
ก็ยังรู้สึกเลยครับ
ว่าตัวเองเป็นคนเชียงใหม่
ไม่มีกลิ่นอายของคนกรุงเลย 5555