No. 439 |
|
บล๊อกประจำวัน ศุกร์ / จันทร์ |
|
งานเขียน ตะพาบ.. ลอยกระทง |
|
ไม่กี่ปีมานี้ ได้ไปเที่ยวงานพืชสวนโลก ที่สานราชพฤกษ์ เชียงใหม่ |
งานนั่น เขาปลูกไม้ดอกไม้ใบล่วงหน้านาน |
เรียกว่า รากของไม้ดอกงอกลงดิน จริง บริเวณสวนมีต้นไม้ใหญ่อยู่มากพอสมควร |
ดูร่มรื่น ประกอบกับอากาศหนาวมาก ๆ แม้จะเดินไปกลางแจ้ง ที่จำเป็นต้องมีเพื่อความ |
งดงามของไม้ดอกต่างสี ตกกลางคืน |
มี ฟ้อนรำปิดไฟเกือบหมด เห็นเพียงแสงเทียนที่สาว ๆ ถือไว้ในมือ แสงวาววับ |
ยามต้องถูกใบหน้า สวย แต่ละคนเยื้องกรายตามจังหวะกลอง ดนตรี |
นึกถึง งานยี่เป็งลอยกระทง ของเชียงใหม่ ขึ้นมาทันที |
|
โปรดอย่าถาม ว่านานเพียงใดนะครับ 555 |
บ้านเราอยู่ ริมคูเมืองของเชียงใหม่ด้าน ถนนศรีภูมิ เป็นบ้านไม้โบราณย่อม ๆ |
|
|
|
บริเวณบ้านกว้างพอประมาณ หันหน้าเข้าตัวบ้าน ซ้ายมือจะมี หลองข้าว หรือยุ้งข้าว |
ว่างเปล่า ข้างล่างเรานั่งเล่นกลางวัน กลางคืน พี่ที่ตาบอด เพื่อนพี่สาว จะมาเล่น |
ไวโอลิน เพลงหวาน เช่นเพลง สายฝน เมื่อลมฝนบนฟ้ามาลิ่ว ต้นไม้พริ้วลู่กิ่งใบฯ |
ใต้ถุนหลองข้าวสูง เราจะก่อกองไฟให้อุ่นในฤดูหนาว |
|
ตอนนั้นเห็นคนอื่นปั่นจักรยานไปโรงเรียน พวกรถราเล่ห์ ฮัมเบอร์ จากอังกฤษ |
โก้ มาก ไวน์ก็อยากได้ มั่ง |
ไวน์เลย ปลูกผัก หลังบ้าน พวกผักกาด แตงกวา(ร้าน) เผือก หอม กระเทียม |
ทีขาดไม่ได้ ชะอม.. เอาไว้กิน กับไปฝากคนอื่นขาย จะได้เก็บตังค์ซื้อรถถีบ .... |
|
ส่วนปุ๋ย ไม่ต้อง ไวน์เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ แบบโบราณ ไว้ใต้ถุนบ้าน หลายตัว หมูกินแล้ว |
ก็ถ่ายฉี่ แถวนั้น เวลาหมูเดินก็ย่ำดิน กับขี้หมู ระท้องหมูไปด้วย 555 กลิ่นเหม็นมาก เนื้อตัวของเราก็เหม็นไปด้วย |
..... |
ขี้หมูเยอะมากก็จะ ตักขี้หมู ไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปโปรยใส่แปลงผัก ผักงามมาก |
แรก ๆ ไม่รู้ นำขี้หมูเปียกไปวางไว้ใต้ต้นผักกาด ตายเรียบ |
เพราะเกิดการปฏิกิริยา คือมันเกิดความร้อน แก๊สเยอะ ส่วนน้ำที่จะรดผัก ไม่ห่วง |
|
ทุกเช้า เย็นจะ ตักน้ำจากบ่อ ใส่กระป๋องฝักบัว ไปรดผัก ใช้น้ำเยอะ |
แล้วบ่อน้ำอยู่ค่อนมาทางหน้าบ้าน ความขี้เกียจเดิน เลยตัดไผ่ซาง เลาะข้างบน ทะล้วง |
ปล้องไผ่ให้เรียบ วางซ้อนเกย ตั้งแต่บ่อ ไป ท้ายบ้าน |
ตักน้ำในบ่อหน้าบ้าน เท ราด ใส่รางน้ำ น้ำก็ไหลไปไกล ตกใส่ ตุ่มน้ำ ใกล้แปลงผัก แล้วใช้กระป๋อง ฝักบัวจ้วงตัก ไปรดผัก |
เรียกว่าใช้น้ำเยอะมาก แต่ไม่ต้องกลัวบ่อจะแห้งเพราะ หน้าบ้านเป็นคูเมืองน้ำจะ |
ไหลซืมเข้าบ่อ |
พอหมูโต แม่ก็จะเรียก คนรับซื้อหมู มาจับหมู ตกลงราคา |
วันนัด แม่จะไปอยู่ที่อื่น สงสารหมูนะครับ ส่วนไวน์ตอนนั้น อยากได้จักรยาน ก็ต้อง |
รอให้เขาจับหมูแล้วจ่ายเงิน นำเงินไปซื้อจักรยาน แบบล้อโต ๆ มาใช้ |
โก้ ซะ ..ไม่มี แบบรถที่คนจีนใช้ ขนน้ำแข็งเป็นแก้อนโต ใครเคยเห็นแป๊ะ แก่ ๆ ปั่นมั่ง ผมเลือกแบบนี้ จะนำบ๊๊บ ใส้ท้าย ไปเก็บน้ำข้าว เศษอาหารบ้านคนรู้จัก มาผสมกับแกลบให้หมูกิน บ้านคน นามสกุลดัง ๆ ก็คุณนายฮ้อ... เป็นอุ้ย(ย่า) ของรัฐมนตรีคลัง ท่านเมตตาให้ไปเก็บที่บ้าน ต้องขอบพระคุณท่านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ แต่ไวน์ไม่เคยสังเกตว่า คนในบ้านมีใครบ้าง แม้แต่รัฐมนตรี ตอนนั้นคงจะยังเด็กเหมือนกันกับไวน์ ไวน์กลัวคุณนายฮ้อมาก... แต่ก็แปลก เมื่อไวน์โต เข้าทำงานใน กท. กลับได้เข้าทำงานกับ รัฐมนตรี นามสกุล ตันติพงศ์.. พี่น้องของท่าน ใช้นามสกุลต่างกัน เช่นชุติมา นิมานเหมินท์ ท่านอยู่บ้านคนละบ้าน ไวน์เคยเห็นท่าน เดินหาเสียงไปที่บ้าน(สมัคร ส.ส.) พอทำงานกับท่านก็ทำกับท่าน 15 - 17 ปีได้มั้ง จึงบอกท่านว่า เคยเห็นท่านไปหาเสียงที่บ้าน ท่านก็ยิ้ม |
เหรอ.. |
ก่อนถึงวันลอยกระทงเล็ก ไวน์จะเคี่ยว มันหมู(ซื้อจากตลาด) เทเก็บไว้ |
|
นำฝ้ายสีขาว ตัดแล้วม้วน ให้ปลายชี้ข้างบน รินน้ำมันหมู ใส่ถางประทีบ น้ำมัน |
จะยังใส ไม่นานก็ขึ้นไข จับตัวแข็งสีขาว |
ตกเย็น จะนำผางประทีบ ไปวางไว้ ปากบ่อน้ำที่ใช้ประจำ เสารั้วบ้าน รอบบ้าน |
เสาประตูรั้ว เชิงบันใดบ้าน ใต้ยุ้งข้าวหลายอัน |
ที่ขาดไม่ได้ ขอบ ชานบ้านที่โล่ง แล้วรีบอาบน้ำ ให้ตัวหายเหม็นจากเหงื่อแล้วก็ |
ให้หายเหม็นจาก ขี้หมูขี้ไก่ ที่รีบอาบเพราะอากาศเดือนพฤศจิกายน หนาวมาก ๆ |
|
หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ ได้ยินเสียงประทัดดังปังแรก เราต่างก็ใช้ |
ไม้เกี๊ยะ(ไม้สนที่มีไขมันเยอะ) จุดไฟจากตะเกียง ไปจุด ผางประทีป ที่รั้วทั้งหมด |
ใต้หลองข้าวอีก 6 อัน ต่อมาก็ จุดที่ปากบ่อ 4 อัน โดยเฉพาะบ่อ จะวางไว้ ไวน์จะยกมือไหว้ ขอบคุณบ่อน้ำ ที่ให้น้ำไว้ใช้ อีกอย่างชาวเหนือ... จะตักน้ำใช้ แต่จะไม่เหยียบขอบบ่อ ไม่อาบน้ำใกล้ขอบบ่อ ไม่ให้น้ำกระเซ็นลงบ่อ |
หันไปมอง โอ..เห็นแสงไฟวับแวมเรียงรายบนรั้ว ไม่ใช่เฉพาะบ้านเรานะครับ เกือบทุกบ้าน |
บนบ้านจะดับไฟฟ้าทุกดวง จุดผางประทีป บันใดบ้าน ขอบไม้กั้น ชานบ้านที่เปิดโล่ง |
เราจะนั่งชานบ้าน ที่หนาวเย็น นั่งดู แสงจันทร์ |
เห็นแสงไฟรั้วบ้าน ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลังบ้าน ดูสงบ เย็นสบายตา |
ที่สุด ไม่ถึง ชม. ผางประทีบค่อย ๆ หรี่ดับทีละดวง |
ท้องฟ้าที่มืด เริ่มส่องสว่าง จากแสงจันทร์ ขาวนวล บางครั้งจะเห็นโคมลอย |
สู่ท้องฟ้า |
บอกตรง ๆ นะครับ ตอนนั้น ไม่ได้คิด ขออภัยพระแม่คงคาเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำ |
|
เสร็จแล้วก็ นำกระทงที่ทำจากต้นกล้วยตัด ใส่ดอกสลิด(ขจร) เล็บมือนาง |
เทียนปักกลาง เดินไปริมคูเมืองเชียงใหม่หน้าบ้าน จุดเทียน หยวกกล้วย หาไม่ยาก เพราะไวน์ตัดต้นกล้วย มาหั่นให้หมูกิน เกือบทุกอาทิตย์มาทำกระทง |
แล้วยกมือท่วมหัว อธิฐานขอ ครับ 555 ขอ อย่าให้เชียงใหม่ หนาวมาก ค่อย ๆ ผลักให้ห่าง |
จากฝั่ง กระทงคนอื่นลอย กระจาย เห็นแสงเทียนวับแวม สวย..... |
|
ป.ล. ปัจจุบันในเมืองเชียงใหม่ ไม่ค่อยหนาว ไม่ใช่ผมนะครับที่อธิษฐาน |
นั่นมานานแล้ว 555 ภาพทุกภาพ เป็นภาพแทนนะครับ |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ
end visit บล๊อก 598,332 st
=
งานเขียนประเภท Diarist
เพื่อน จากเฟซบุค/บล๊อกแกง แวะมาเยือน กรุณาทิ้งร่องรอยไว้
ที่กล่องความเห็น.. ผมจะได้แวะไปเยือน ตอบแทนครับ
ขอบคุณล่วงหน้า
|
อ่านบล็อกพี่ไวน์
แล้วนึกถึงบรรยกาาศเดิมๆของลอยกระทงเชียงใหม่
เมือ่ก่อนสวนจริงๆนะครับ
ตอนนี้สวย แต่โหวกเหวก
ดีหน่อยปีที่ปีนี้เสียงประทัดยักษ์หายไปเยอะเลยครับ 555
โหวต Diarist ให้เลยครับพี่