ได้เวลา ลาโฮมสเตย์ของป้าเกล็น... เตียงนอนธรรมดามาก ๆ แต่ไม่น่าเชื่อ นอนหลับสนิทมากกว่า
ไปนอนในที่นอนหรูคืนละหลายพันบาท
ไม่ใช่เตียงดูดวิญญาณ แบบ แหะ ๆ บล๊อกเกอร์สาวว่าไว้นะครับ แต่นอนหลับสบาย ๆ
คืนละ 1,600 บาท ต่อคน อาหาร 3 มือ อิ่ม อร่อย ตบด้วยเค็กไม่อั้น กาแฟร้อน ๆ
ยังไม่พอ ยังพาไปเที่ยวต่อ
ถนนจากบ้านป้าเกล็นนิส รถมอเตอร์ไซค์ ขึ้นลงได้ ยากนิดสำหรับมือใหม่
แต่น่าจะไม่ต้อนรับ เด็กแว๊นซ์ นะครับ เขาต้องการความสงบ
คุณนาจโชเฟอร์ที่เป็นหลาน คุณชาลี ฝ่ายต้อนรับ พาเราขึ้น ไปเที่ยวต่อที่
น้ำตก จ๊อกกระดิ่น ดูแผนที่ดาวเทียม คือขับย้อนกลับไป อ.ทองผาภูมิ ไม่กี่กิโลก็ถึง
นั่งรถของเหมือง ไปน้ำตก แยกเข้าซ้ายมือส่วนใหญ่จะเป็น ถนนลงเขา ดิ่งลง
แต่เป็นถนนคอนกรีตแคบนิด ก็โอเค
ไปถึงด่านเก็บค่าเข้า ก็เสียเงินตามปกติ ท้องฟ้าครึ้ม
เดินไปข้างใน เป็นถนนคอนกรีตเล็ก เดินสบาย ไม่น่าถึง กิโลเมตร เจอน้ำตก
ที่ไหลลงช่องเขาแคบ ที่เรียกว่า จ๊อกกระดิ่น เป็นภาษาพม่าที่เพี้ยน
ข้างบนน้ำตก เขาว่า..นะครับ หลายปีก่อน เป็นเหมืองแร่ ที่ได้แร่ทังสเตน เป็นส่วนใหญ่
ดูภาพแร่ติ๊ดเดียว ดูน้ำตกก่อน
น้ำใส สอาด น่าเล่นมาก
แต่อากาศเย็นมาก ประมาณ 21 องศาเซลเซียส ฝนเริ่มตกมาปรอย ๆ ทำไงดี
ไม่ได้นำร่มมาด้วย รีบเดินกลับ แต่ภูมิประเทศสวย หันกลับไปดูน้ำตกอีกหน่อย
เดินกรำฝน เย็นนิด ๆ คุณนาจโชเฟอร์รีบเดินนำร่มมาให้พวกเรา 2 คัน บริการยอดเยี่ยมจริง ตอนนั้น
ทราบมาหน่อยว่า บนภูเขาที่น้ำตกอยู่ เป็นเหมืองแร่เก่า ขุดหา ดีบุก
แต่โชคดี มีทังสเตนมากกว่า คือแร่อยู่ปนกัน
เมื่อนำไปถลุง ทั้งใช้ไฟความร้อน และทำป่น
จะมีทังสเตนมาก
มีประโยชน์หลายอย่าง ดูภาพข้างล่าง
เพื่อนที่เข้ามาอ่าน แร่ทังสเตน หรือมีอีกชื่อคือ วุลแฟรม ที่มีสัญญาลักษณ์
ทางเคมีว่า W จะเป็นพิษแก่ผู้ใช้น้ำจากน้ำตกหรือไม่.... ค้นดูแล้วไม่เป็นพิษ
หลายคนคงจะอดวิตก ว่า จริง เร้อ... เดี๋ยวจะเหมือนเหมือง คลิตี้..อยู่กาญจนบุรี
ไม่หรอกครับ เหมืองคลิ๊ตี้ เป็นเหมืองขุดหา แร่ตะกั่ว
แล้วเขาถลุงกันที่นั่นด้วย อยู่ห่างไกลกันมาก อีกอย่าง แร่ดีบุก ทังสเตนเขาส่งไปถลุง
ที่ ภาคใต้ของไทย
โชเฟอร์ขับกลับเส้นทางเดิม ผ่านสำนักงานติดต่อบ้านพักเหมืองแร่ ผ่านโรงพัก ต.ปิล๊อค ที่ตำรวจใจดีมาก ๆ
ทั้งชาวบ้านและตำรวจ เล่าให้ฟังว่า คดี ที่นี่มีน้อยมาก
โชเฟอร์ขับไปบนเขาที่ค่อนข้างโล่ง แต่เขียวชะอุ่ม เราไป เนินช้างศึก ที่คนมักจะไปกางเต็นท์ ค้างแรมกันในฤดูหนาว
ไม่ไกลครับ อยู่ยอดดอยมองเห็น ป่าของพม่า
ถนนไปไม่ยากเลย เป็นคอนกรีตตลอด ฝนตกค่อนข้างหนัก แถมเมฆก้อนโตลอยปกคลุมไป ไม่เหมาะลงถ่ายภาพ
ทั่วบริเวณที่เราจอดรถ มองสายฝน เห็นแท๊งค์น้ำใหญ่บริการ คนที่ไปกางเต๊นท์ เลยบอกให้คุณนาจ
ขับกลับไปดูที่อื่นต่อ ไปเที่ยวบ้าน อีต่อง
ตลาดบ้านอีต่อง จะคล้ายกับ อ.ปาย หลังจาก เป็นสาวเริ่มแต่งตัวเป็นนิด ๆ แล้ว กำลังสวย
ระยะที่เราไป ฝนเริ่มตกมาได้ ประมาณ 3 วัน น้ำเริ่มไหลสู่ลำห้วย ใบไม้เขียวจัด
พอจะลงรถถ่ายภาพทางเข้า ฝนก็เริ่มตกต่อ
เลยเข้าไปพัก ใต้หลังคา ตรงข้ามป้อมแห่งนี้ ดู
เป็นเหมืองปิล๊อคเก่า นำมาปรับปรุงใหม่ ดูสวยงาม และน่าจะเป็นแห่งเดียวกันกับที่
เพื่อนผม คุณปรีดี มืลือพร ปั่นจักรยานมาเที่ยว และค้างคืนใน เบิร์มทหารเมื่อปี 2535
เพื่อนบอกว่า ยังมีเสียงปืนตอนกลางคืน ชาวบ้านในไทย เฉย ๆ เพราะชิน
ที่เขายิงกันอยู่ในฝั่งพม่า ตอนกลางคืนระหว่าง ทหารพม่า กับ กะเหรี่ยง
เราเดินเข้าไปดูในตลาด มีร้านขายของ กับร้านอาหารเปิดอยู่บ้าง ไม่มากนัก ดูสงบ และน่าจะคึกคักในฤดูหนาว
เรานั่งรถไปดูจุดชมวิวต่อ
ที่นี่มีป้อม ของฝ่ายพม่าอยู่ติดถนน พอเราจะถ่ายภาพ รีบโบกมือ...คล้ายกับว่า อย่าถ่าย คงจะกลัว นาย ด่า
ผมเลย มิงกะลาบา ไป ทหารหนุ่มยิ้มเห็น ปากแดงเถือก น้องแก กินหมากครับ
ตรงจุดนี้แหละ ที่ ท่อแก๊สพม่า ผ่านเข้าไทยบ้านอีต่อง แพล๊บเดียวฝนตกลงมาอีก
มีทางเดิน เล็ก ๆ ลงไปข้างล่าง
นั่งรถดูบ้านคน มีพื้นที่กว้างเป็นลานใหญ่ อยู่เหนือหมู่บ้านอีต่อง เป็นลานกางเต๊นท์
สำหรับคนที่จะไปค้างแบบ ติดดิน สนุกดี... แต่ไม่ต้องห่วงครับ ที่นี่มี รีสอร์ท
คอยบริการอยู่แล้ว
ป่าเมืองกาญจนบุรี ด้านนี้เริ่มฟื้นตัว จากการถูกทำลาย ตัดไม้ และส่วนหนึ่งคือการทำเหมืองแร่
การทำเหมือง ประโยชน์จะตกอยู่ที่ หน่วยงานของรัฐ และเอกชน
แต่การตัดไม้ คงได้เฉพาะกลุ่ม...
ตอนนี้ไม่น่าห่วงเท่าใด คือ ป่าไม้ใหญ่มีน้อย มีแต่ต้นไม้เล็ก ๆ
ที่ราชการร่วมกับ บริษัทใหญ่ ๆ ร่วมกันปลูกป่า เขาเริ่มปลูกป่ามาตั้งแต่ ปี 2550 มีการป้องกันไฟป่าและ
ป้องกันการบุกรุกทำไร่ คือปล่อยให้ต้นไม้ ใบหญ้าขึ้นปกคลุม ความชื้นสะสม น้ำในลำห้วยจะกักเก็บน้ำไว้ แล้วไหล
สู่อ่างเก็บน้ำใหญ่ เขื่อนวชิราลงกรณ์
แต่ก็มีเรื่องน่าคิด นะครับ ว่า ปัจจุบัน จีนที่เคยทุ่มตลาด ดั้มราคาดีบุก จนเหมืองแร่ของไทยหยุดกิจการไปนั้น
จีนก็เริ่มจะหมดแร่ดีบุก ลงทุกวัน
ไทยควรจะ ทำเหมืองแร่ดีบุก กันต่อ หรือ ปล่อยให้ป่าฟื้นคืนชีพ ไม่เข้าไปเหยียบย่ำ เกิด
แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แล้วเรา ขายบริการท่องเที่ยว ดีกว่า
น่าคิดนะครับ
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
อ่านเรื่อง
ดูรูป
สนุกมากเลยครับ
อยากไปเที่ยวที่นี่บ้างจังเลยครับ
โหวต Diarist ครับ