No. 473 เก่า และใหม่ @ Dalat
No. 473 บล๊อกประจำวัน จันทร์ / ศุกร์
พวกเราทีมเที่ยว 12 คนยังอยู่เมือง ดาลัด เวียตนาม
เป็นเมืองที่อยู่บนภูเขาสูงไม่มาก ประมาณ 1,500 เมตร
กลางวันอากาศเย็นสบาย คงเป็นด้วยรับลมทะเลฝั่งทะเลจีนใต้
แม้จะห่างไกลประมาณ 100 กิโลเมตรก็เย็น
ก่อนกลับไปโฮจิมินห์ ทีมเที่ยวไปเยือน วังของ
พระจักรพรรดิ์เบาใด๋ อยู่บนภูเขาของเมืองดาลัด ล้อมรอบไป
ด้วยต้นสน มิได้ใหญ่โต
......
......
ค่อนข้างเก่า เป็นอาคารตึกสองชั้น สำหรับพระองค์ทรงพักผ่อน
เสียค่าเข้าคนละ
15,000 ดอง..ไม่แพงเลย ลองดูภายในนะครับ
....
....
ไกด์บอกว่า ทางการได้เก็บรักษาให้คงเดิมไว้มากที่สุด
เรียกว่าเป็นของเก่า
ผมยืนดูแล้ว น่าจะทำเลียนแบบ
คิดดูซิครับ หัวเตียงโค้งอายุเกือบ 100 ปี.. ใช้ไม้อัดทำ ดูตามภาพ ไม้อัดล่อน
เมืองนี้เป็นป่าไม้ ฝีมือชาวญวน เวียตนามด้านเฟอร์นิเจอร์ไม้เยี่ยม คงใช้ไม้จริงทำ
ข้างล่างนี้ยืนถ่าย ที่ห้องพักผ่อน มองออกไปด้านหน้า วัง
ข้างล่างเป็นเปล ญวน.... ที่ได้รับความนิยม ตราบเท่าปัจจุบัน ในวังนี้ก็ยังมี
ภาพข้างล่างเป็น บันใดลง ข้างล่างของตัววัง มีบริการชุดชาววัง ใส่ถ่ายภาพ
ผมได้แต่มอง ๆ ไม่กล้าแต่ง แหะ ๆ กลัว...หล่อเกิน
ได้คุยกับชาวเวียตนาม ดูจะไม่ค่อยปลื้มจักรพรรดิ์องค์สุดท้าย
คงเป็นด้วยอยู่ในช่วง ฝรั่งเศสเข้าครอบครองเวียตนาม คล้ายกับพระองค์นั่งอยู่ตรงกลางเรือ ไปซ้ายหรือขวามากก็ไม่ได้
ไม่มีพระราชอำนาจใด ๆ ในการปกครองจนกระทั่งคอมมิวนิสต์เวียตนามเข้าขับไล่ ฝรั่งเศส
เกิดศึก เดียนเบียนฟูในปี พศ.2497 โดยท่านโฮจิมินห์ และนายพล โงเหงียนเกี๊ยบ
ท่านทั้งสองเป็นที่ ได้รับความเคารพ นับถือจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
จนะกระทั่งฝรั่งเศส ต้องถอนตัวกลับประเทศ
พระจักรพรรดิ์องค์สุดท้าย ได้เสด็จไปพำนักต่างประเทศ
ข้างบนเป็นภาพถ่ายจากแนวของฝรั่งเศส แน่นอนก่อนพวกเราเกิด
ท่านโฮ จิมินห์ และนายพลโง เหงียนเกี๊ยบ และท่านอื่นต่อสู้และจัดการต่อ
แต่ เวียตนามใช่จะสงบเกิดศึกระหว่างเวียตนามใต้ ที่อเมริกา หนุนหลัง
ต่อสู้กับ เวียตนามเหนืออีก
ทำความเสียหายมากมาย จนอเมริกา ใช้สารเคมีฝนเหลือง โปรยสาดไป
ทั่ว จนต้นไม้ตาย ราบเรียบเพื่อเผด็จศึก
ชาวเวียตนาม ลำบากมาก ๆ
ข้างล่างเป็น ทหารไทย
ระยะนั้น ทหารไทย ได้เข้าร่วมสงคราม อยู่ฝ่ายเวียตนามใต้ สอบถามไกด์สาวว่าเกลียด โกรธ ทหารไทยหรือเปล่า
ไม่คะ ทหารไทยไม่ได้สู้รบโดยตรง เป็นฝ่ายเสบียง ส่งบำรุงกำลัง
คนเวียตนามใต้รักด้วยซ้ำ
เฮ้อ.. โล่งอกหรือว่า ไกด์สาว เอาใจพวกเราไม่รู้ซิ แต่เธอก็น่ารักนะ
แม้แว่นตาจะหลุดบ่อย 555
ตรงกับญาติของไวน์ 2 คน มาอยู่ในสนามรบนั้นด้วย จากการพูดคุย
ตรงกันคืออยู่ฝ่ายส่งเสบียง..
หลังจากเวียตนามเหนือ ขับไล่ทหารอเมริกัน ให้ไปพ้นในปี 2511
ความสงบเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่หมดไป
ไม่อยากเล่าเลย ชักง่วงแทน 555
คนเวียตนาม มีหลายเชื้อชาติ ที่คนไทยพอรู้บ้าง เช่น ไทยดำ
หรือ ลาวโซ่ง
บางส่วนได้อพยพเข้าอยู่ในไทยด้วยคนเวียตนาม สืบเชื้อสายจาก จีน วัฒนธรรมคล้ายกัน เช่น มีฝีมือเชิงช่าง
ช่างไม้ถ้างานละเอียดเป็นศิลปประจำชาติ ก็เป็น การปักผ้าหัวหน้าทีมเที่ยว ก็คุณกระรอก กาไว้เลยว่า จะไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์
หลังจากกลับจาก วังของจักรพรรดิ์เบาได๋ แล้ว ก็ไป ดูงานฝีมือพิพิธภัณฑ์นี้เป็นของเอกชน เขาดัดแปลงเรือนไม้เก่า พร้อมกับต่อเติมในสิ่งที่จำเป็น
ดูธรรมดามาก ๆ คงจะทำให้ดูเก่า แบบ เพลินวาน ของหัวหินนะครับ
ดูข้างในต่อดีกว่า
เดินเข้าไปดู ครั้งแรก คิดว่าเขา ดูภาพวาดสีน้ำมัน เออ.. สวยดี
อ้าวเห็นป้าย ให้ งดถ่ายภาพ ช่างปักฝีมือ คือดูได้... เลยเดินชิดเข้าไปดู
หญิงช่างปัก นั่งก้มหน้า
ก้มตาแทงเข็มกับไหมลงล่าง ดันขึ้นบน เลยรู้ว่า ภาพทั้งหมด
เป็นการปักผ้า
....
....
ผมได้แต่มอง ไม่คิดซื้อเลย ก็ ๆ ชิ้นหนึ่งราคาเป็น แสนบาท ไกด์บอกว่า
ที่เขาอยู่ได้
เพราะชาวผิวขาวซื้อ
บริเวณที่ แขวนชิ้นงาน ไม่สว่างมากนัก ถ่ายภาพ ยากมาก.. จะใช้แฟลช เป็น
เงาสะท้อน ผมดูแล้วเขาไม่ได้ใช้กระจก ลดแสงสะท้อน
....
....
ข้างล่างนี้ ช่างปักหญิง ลุกเดินไปทำธุระ แต่จะไปห้องน้ำหรือไม่
ไม่รู้นะครับ ตอนนั้นคิด
แบบนั้น คือกินน้ำดำ ราคาแพงกว่าไทยเยอะไปหน่อย ปวดฉี่
เห็นชิ้นงานอยู่ระหว่างกันทำ เลยถือโอกาศถ่ายภาพ มาให้ดู
นอกเหนือจากนี้ มีห้องโชว์อย่างอื่นด้วย เลยเดินไปตามทาง เห็นภาพแบบนี้ ดูดี แสงกำลังสาดลงมา
เส้นด้าย ตัดกับแสง สวยแปลกตา
.....
......
....
.....
.....
......
.....
เราเดินโฉบไปโน่น มาห้องนี้บ้าง น่าสนใจ บ้านไม้ คล้ายสวนอาหารของไทย
ไกด์บอกว่า เป็นที่ พนักงาน หรือช่างปักใช้เป็นที่ทานอาหาร พักผ่อน
ต้องบอกว่า เจ้าของใจดีมาก ๆ
....
....
ไม่รู้ว่า หัว มัน ชื่ออะไร โตมาก ๆ ที่แสดงภาพ ผ้า กว้างพอประมาณ เขาจัด
ให้เดินเป็นวงกลม ดูเพลินดี อากาศเย็นสบาย
ตอนเย็น กลับไป อาบน้ำที่โรงแรม แล้วลงมาเดินชมสินค้า ถนนคนเดิน แต่วันธรรมดา
เขาให้รถเข้าวิ่งด้วย แต่ก็โอเค ไม่มาก
ที่นี่แหละครับ ผมซื้อลูกพลับกลับไทยด้วย แต่ราคาแพงกว่าที่เพื่่อนซื้อ
เป็น แสน... (ดอง) เชียวนะ 555 ภูมิใจ เจ็บกระดองใจ คละกัน
........
คืนนั้นเรานอนอยู่ที่ ดาลัด รุ่งเช้า กินอาหารเช้าที่โรงแรม กอล์ฟ 3ต่างคนต่างขนกระเป๋าลงมา พนง.โรงแรมช่วยขนไปส่งที่รถบัสเล็ก คันเดิม ขับไปส่งที่สนามบินของดาลัด ขับย้อนกลับไป ทางฟานเที๊ยต
แต่ไปไม่กี่สิบกิโล ก็ถึงสนามบินนานาชาติ เลียนเคือง ทีแรกไม่คิดว่าจะมีสนามบินเพราะดาลัดเป็นเมืองบนภูเขา
ระหว่างถนนไปสนามบิน จะเห็นบ้านคน และแปลงเกษตร สวยลดหลั่น
ทำให้คิดว่า ถ้ามีโอกาศ จะพักโฮมเสตย์ แถวนี้ คงจะได้เห็นอะไร
มากกว่าที่ผ่านมา
หวังไว้ก่อน
รถส่งที่สนามบิน พวกเราก็รวบรวมเงินสินน้ำใจ มอบแก่โชเฟอร์
ใจดี ใจเย็น ขับรถดีมาก ๆ เพราะจำต้องจากกันตรงนี้
ปล่อยให้โชเฟอร์ขับรถกลับไปเส้นทางเดิมหลายร้อยกิโลเมตร
สู่ โฮจิมินห์ หลายชั่วโมงแน่
จุดหมายปลายทางที่เดียวกัน แต่เรามีเวลาน้อย เลยใช้สายการบิน
แทน ไม่กี่สิบนาทีก็ถึง
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ
end
visit บล๊อก 643,513 st
= งานเขียนประเภท Diarist
Create Date : 28 มีนาคม 2559 |
Last Update : 28 มีนาคม 2559 5:32:54 น. |
|
38 comments
|
Counter : 4061 Pageviews. |
|
|
สงครามเป็นเรื่องโหดร้ายนะคะ
แต่ทหารไทยหล่อมากกกกก ^__^
ภาพปักฝีมือสุดยอดเลยค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
phunsud Food Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Food Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog