พระนครศรีอยุธยา : หอเหมมณเฑียรเทวราช
พระเจ้าปราสาททองนั้นก็เหมือนกษัตริยืสมัยอยุธยาหลายพระองค์ ที่ไม่มีเรื่องราว ที่จดบันทึกไว้ในพงศาวดารช่วงก่อนหน้าการขึ้นครองราชย์ จึงมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า เมื่อครั้งที่สมเด็จพระเอกาทศรถ ยังทรงดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราช พระองค์ได้เสด็จประพาสทางชลมารค เมื่อถึงบริเวณเกาะบางปะอิน เรือพระที่นั่งถูกพายุใหญ่พัดล่มลง สมเด็จพระเอกาทศรถทรงว่ายน้ำขึ้นไปบนเกาะและอาศัยอยู่กับชาวบ้าน
ในระหว่างประทับอยู่ พระองค์ได้หญิงชาวเกาะเป็นบาทบริจาริกา มีนามว่า "อิน" จึงเป็นเหตุให้คนทั่วไปเรียกเกาะนี้ต่อมาว่า "เกาะบางปะอิน" ต่อมาเมื่อพระองค์จะเสด็จกลับ พระองค์ก็ทรงพานางอินนี้กลับไปด้วย นางอินผู้นี้จึงเป็นพระสนมในเวลาต่อมา และมีพระราชโอรสด้วยกัน และพระราชโอรสลับที่กำเนิดจากหญิงนั้น คือ พระเจ้าปราสาททอง
เมื่อขึ้นครองราชย์ พระเจ้าปราสาททองได้สร้างพระที่นั่งองค์หนึ่ง เพื่อฉลองในคราวการประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระนารายณ์ราชกุมาร ที่บริเวณเกาะบางปะอิน และพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" และใช้พระราชวังบางปะอินเป็นสถานที่ประทับในฤดูร้อนสืบเนื่องกันมา จนกระทั่งกรุงศรีอยุธยาได้เสียแก่พม่าเมื่อปี พ.ศ. 2310 ทำให้พระราชวังแห่งนี้จึงถูกทิ้งร้างไป
พระที่นั่งไอศวรรยทิพยอาสน์
ถูกสร้างขึ้นใหม่ในชื่อเดิม เป็นปราสาทอยู่กลางสระ สร้างในรัชกาลที่ 5 เดิมสร้างด้วยไม้ทั้งองค์ต่อมา รัชกาลที่ 6 โปรดฯให้เปลี่ยนเสาและพื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด
นอกจากนี้พระองค์ทรงสร้างวัดขึ้นตรงบริเวณบ้านเดิมของพระมารดา และได้พระราชทานนามว่า "วัดชุมพลนิกายาราม" (ยังไม่เคยไป แต่รำลือว่ามีภาพเขียนสีที่งดงามมาก) ดังนั้นน้อยคนที่จะรู้ว่าพระราชวังบางประอิน สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เพราะสิ่งก่อสร้างที่เห็นในปัจจุบันนั้น ล้วนสร้างใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งสิ้น แต่ก็ยังคงมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ระลึกพระเจ้าปราสาททอง ผู้สร้างพระราชวังนี้ คือ
หอเหมมณเฑียรเทวราช
สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2415 - 2419 ตั้งอยู่ ณ ริมสระน้ำใต้ต้นโพธิ์ มีลักษณะเป็นปรางค์ศิลา ซึ่งจำลองแบบจากปรางค์ขอม ภายในประดิษฐานเทวรูปพระเจ้าปราสาททอง
(คนถ่ายสายตาเอียง)
ในรัชสมัยของพระองค์นอกจากยกทัพไปตีเขมรแล้ว ก็ยังส่งทัพไปตีเมืองปัตตานี ทีร่วมมือกับมลายูมาตีหัวเมืองทางใต้ของไทย แต่พระองค์ก็ละเลยล้านนา ทำให้พม่าเข้ามามีอิทธิพลเหนือเชียงใหม่ ยาวนานกว่าสองร้อยปี และสุดท้ายกลายเป็นที่แหล่งเสบียงและไพร่พล ให้กับทัพของเนเมียวสีหบดี ยกมาตีกรุงศรีอยุธยาในคราวสงครามเสียกรุง
หลังจากครองราชย์มา 25 ปี พระองค์ก็ทรงประชวรหนักและสวรรคตลงในปี 1655 พระองค์ได้เวนราชสมบัติให้กับพระราชโอรสองค์โตคือ สมเด็จเจ้าฟ้าไชย แต่หลังจากขึ้นครองราชย์ได้เพียง 2 วัน ก็ถูกพระศรีสุธรรมราชา และ สมเด็จพระนารายณ์ชิงราชสมบัติและนำไปสำเร็จโทษ
แต่พระศรีสุธรรมราชาก็อยู่ในอำนาจได้เพียงสองเดือนเศษก็ถูก สมเด็จพระนารายณ์มหาราชฃิงราชสมบัติมาอีกทอด แต่ในช่วงบั้นปลาย สมเด็จพระนารายณ์ก็ทรงโดนกระทำไม่ต่างกัน นั่นก็คือจุดจบของราชวงศ์ปราสาททอง ที่สืบอำนาจกันมาเพียงสี่พระองค์ จุดเริ่มต้นความวุ่นวายของการแบ่งเป็นก๊กต่างๆ เพื่อชิงราชสมบัติสืบมาจนถึงอยุธยาตอนปลาย
วัดพระไชยวัฒนาราม : พระนครศรีอยุธยา
หมู่บ้านญี่ปุ่น : พระนครศรีอยุธยา
Create Date : 01 กรกฎาคม 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 1 มิถุนายน 2553 14:09:15 น. |
Counter : 2887 Pageviews. |
|
|
ผ่านไปนมัสการหลวงพ่อโตวัดพนัญเชิงทีไร ก็ต้องแวะเกือบทุกที
เอารูปมาเพิ่มเติมให้นะครับ ผมถ่ายไว้เมื่อปลายปีก่อน
หอวิฑูรทัศนา สร้างเพิ่มขึ้นในสมัย ร.๕
รายละเอียด หาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ thai wikipedia