ส่งความสุขผ่านความอบอุ่นกับ: หลายชีวิตในฮาจิโนกิ : YAMATO Waki
หลายชีวิตในฮาจิโนกิ ความอบอุ่นที่ให้มากกว่าเตาไมโครเวฟ
Nemuranai Machi kara : YAMATO Waki
ชั้นล่างเป็น ร้านดอกไม้อากิโมโตะ ของ อาการิจัง เจ้าของร้านสาวโสดที่อาศัยอยู่กับ คุณปู่ เดินขึ้นไปชั้นสองก็จะพบ คิมูระบาร์ ของ คิมูระซัง ที่เป็นเหมือนจุดรวมพลของสมาชิกในตึกที่มักมาสนทนาพาทีระหว่างมื้ออาหาร และยังมี ร้านขายของชำมิชินางะ ของ คุณนายไอคามิ อยู่ในชั้นนี้ด้วย สำหรับชั้นสามและสี่เป็นที่พักดับเบิ้ลโวลุ่มสองชั้นมีสวนลอยฟ้าเขียวชะอุ่มดั่งสวรรค์บนดินของ สองพ่อลูกสึกิโมริ คุณพ่อชื่อ เคสึเกะ เป็นสถาปนิกงานล้นมือ และลูกสาววัยสิบขวบเพียงคนเดียวที่ชื่อว่า ซานาโกะจัง (วาดเอง ^^ อยากวาดให้ดูเหมือนศิลปะเด็ก55 เข้าท่าไหมนะ)
เหล่านี้คือผู้พักอาศัยใน ตึกฮาจิโนกิ อาคารห้องแถวที่ดูภายนอกก็เหมือนๆ กับอาคารอื่นๆ ใน ย่านกินซ่า กรุงโตเกียว ใครก็ตามที่ได้มารู้จักกับซานาโกะจัง และเหล่าผู้ใช้ชีวิตในตึกเก่าหลังนี้ จะสัมผัสถึงมวลความสุขของที่แผ่กระจายออกมา และสัมผัสได้ว่าใจกลางเมืองที่ไม่เคยหลับใหลแห่งนี้ยังมีสถานที่แสนสุขใจที่แฝงตัวอยู่ และนี่คือผลงานแสนอบอุ่นของ อ.วากิ ยามาโตะ ซีรีส์ Nemuranai Machi kara มีทั้งหมด 7ตอน อยู่ใน 2 เล่ม คือ Nemuranai Machi kara และ A Ressha de Ikou ซึ่งในแต่ละตอนนั้นก็มีสิ่งละอันพันละน้อยต่างๆ ที่น่าสนใจมากจึงขอนำมาเล่าไว้คู่กันไป ตัวละครในเรื่อง จากซ้ายไปขวา บนลงล่าง ซานาโกะ คุณพ่อ คุณแม่ คุณไอคามิ คิมูระซัง มิยาเกะ และอาการิจัง ตอนที่ 1Lemon Tree ต้นมะนาว
มิยาเกะ หนุ่มนักไล่ที่จากบริษัทค้าที่ดินมาเซอร์เวย์พื้นที่เพื่อจะทุบตึกฮาจิโนกิ เมื่อคนในตึกรู้เรื่องก็ไม่พอใจมีปากเสียงกัน จนมิยาเกะพลัดตกบันได แต่ความเอื้ออารีของคนในตึกที่ช่วยกันปฐมพยาบาลเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเขาได้ จนกระทั่งมิยาเกะได้เจอ “สิ่งหนึ่ง” ที่อบอวลไปด้วยรอยอดีตของพ่อเอาไว้อยู่ภายใน จนเปลี่ยนใจเขาให้รู้สึก “รัก” ตึกหลังนี้
สวยลอยฟ้าบ้านซึกิโมริที่เป็นเหมือนสวรรค์บนดิน ตอนที่ 2Tsukishita Bijin / Beautiful woman in the moonlight สาวงามในแสงจันทร์
ซานาโกะได้พบ นางิโกะ แม่แท้ๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต ความจริงแล้วพ่อกับแม่เลิกกัน แม่ก็แต่งงานใหม่ไปแล้ว นี่คือความลับที่พ่อปิดเธอมาตลอด และที่แม่มาในครั้งนี้ต้องมีความหมายอะไรแน่นอน ทางด้านอาการิจังที่มีใจให้พ่อของซานาโกะอยู่จะทำตัวอย่างไร?
ดอกไม้ที่ปรากฏในตอนที่2มีอยู่2ชนิด ดอกสีชมพูเข้มคือ Peacock Cactus ส่วนดอกสีขาวคือ Queen of the Night ซึ่งก็น่าจะเป็นสายพันธุ์แคคตัสด้วยกันทั้งคู่ แต่ต่างกันที่รายละเอียด มีถิ่นกำเนิดจากเม็กซิโกและอเมริกากลาง ในมังงะบรรยายไว้ว่า จะเริ่มแตกหน่อในเดือนมิถุนายน และบานในช่วงสิงหา-ตุลาคม ดอกสีขาวมีกลิ่นหอม บานตอนเย็นและหุบตอนเช้า ดอกมีขนาดใหญ่ได้ถึง20ซม.เลยนะ และ Peacock Cactus มีอีกชื่อว่า Pink Orchid Cactus
ตอนที่ 3Christmas Rose คริสต์มาสโรส
ซานาโกะ ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับแม่ในบ้านใหม่ที่โอซาก้า เพื่อพ่อจะได้ให้เวลากับงานได้เต็มที่ บ้านหลังใหม่สวยน่าอยู่ มีทั้งเพื่อน สัตว์เลี้ยง และมีธรรมชาติที่แท้จริงรายรอบ แต่ทำไมนะ ซานาโกะกลับไม่รู้สึกอุ่นใจเหมือนตอนอยู่กับพ่อ ก็เพราะหัวใจของซานาโกะได้ผูกติดไว้กับฮาจิโนกิเสียแล้วน่ะสิ .-คับที่อยู่ได้แต่คับใจอยู่ยาก-
กุหลาบไวท์คริสต์มาสคือสิ่งแทนใจที่แม่มอบกับลูกสาวในวันที่ต้องจากกัน กุหลาบไวท์คริสต์มาส กุหลาบขาวมีลักษณะกลีบซ้อนสีขาวขนาดใหญ่ จำนวน17-25กลีบ และกลิ่นหอมมากๆ กุหลาบสีขาวได้รับความนิยมในการทำช่อดอกไม้เจ้าสาวเพราะสื่อความหมายถึงรักที่บริสุทธิ์ และก็มียังพันธุ์ไม้ที่ชื่อคล้ายกันอย่าง christmas rose แต่มีรูปทรงต่างกัน christmas rose มีอีกชื่อว่า Helleborus niger เป็นดอกไม้ที่เป็นหนึ่งใน11สัญลักษณ์ของวันคริสต์มาสเลยนะ อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่…https://teen.mthai.com/variety/122996.html
ตอนที่ 4A Ressha de Ikou / TAKE THE “A” TRAIN เหลือเพียงความทรงจำ
คาวาคุโบะจับมือกับซานาโกะ เพื่อช่วยกันทำให้ลุงแฮรี่ อดีตนักดนตรีแจ๊สผู้สิ้นหวังกับชีวิต กลับมามีรอยยิ้มบนใบหน้าอีกครั้ง แม้ว่าคราวนี้ซานาโกะจะโดนครูดุเพราะเห็นเธอไปคบเด็กเกเรอย่างคาวาคุโบะ จนฝ่าฝืนกฎของโรงเรียน แต่จากการร่วมมือกันทำให้ซานาโกะรู้ว่าเพื่อนคนนี้ไม่ใช่เด็กไม่ดีอย่างที่สังคมมองเขา .-สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น และจงอย่าเชื่อเพียงเพราะได้ยินมา ซานาโกะจึงสามารถทลายกำแพงที่คาวาคุโบะกั้นไว้ลงได้-
เพราะแขกรับเชิญในตอนนี้เป็นอดีตนักดนตรีแจ๊ส เลยมีบทเพลงมากมายโผล่เข้ามาในเรื่อง อาทิ Take tha A train , Moonlight serenade , Sentimental Journey และ Diana ฟังเพลงเหล่านี้กัน... VIDEO Take The A Train (1964) Duke Ellington (cr.youtube : Bob Hardy) VIDEO Diana (1944) Paul Anka (cr. youtube : Kevin Ruiz) VIDEO Sentimental Journey (1944) Doris Day (cr.youtube: sealwell) VIDEO Moonlight Serenade (1944) Glenn Miller (cr. youtube : Worldwar2music)
ตอนที่ 5Bridal veil ผ้าคลุมผมเจ้าสาว
มิยูกิ พี่สาวของอาการิ(สาวร้านดอกไม้) ทะเลาะกับพ่อแม่จนหนีออกจากบ้านเพราะพ่อแม่ไม่พอใจที่ลูกสาวคนโตอันเป็นความหวังไปคบพนักงานต๊อกต๋อยในร้านอาหาร ไม่เหมาะสมกับหน้าที่การงานของเธอสักนิด (ข้อความแก้ไข) ซานาโกะและอาการิจึงต้องทำหน้าที่เป็นกาวใจให้มิยูกิกับพ่อแม่ และมิยูกิก็พิสูจน์ความรักของเธอกับแฟนให้พ่อกับแม่ได้รับรู้
Bridal Veil มีชื่อสามัญว่า Tahitian Bridal Veil ชื่อไทยว่า เจ้าสาวชาวเกาะ เป็นกลุ่มไม้เลื้อย ลำต้นสีเขียวอมม่วง ใบทรงรีปลายแหลม ดอกสีขาวด้านหลังเจือม่วง ดอกเล็กไม่เกิน1ซม. นิยมปลูกในกระถางแขวนหรือเป็นไม้คลุมดิน
ตอนที่ 611 Tsuki no tobira o akete/ Open the door in November ประตูสู่ความหวัง
คุณยายฟูจิโมโตะ (ยายแท้ๆ ของซานาโกะ) มาหาพ่อถึงที่บ้าน คุณยายนี่แหละที่ทำให้แม่กับพ่อของซานาโกะแยกทางกัน แต่คราวนี้เมื่อคุณยายที่มีอคติต่อลูกเขยได้มาเห็นวิถีชีวิตประจำวันของพ่อลูกคู่นี้ด้วยตาตัวเอง หัวใจที่เย็นชาก็เริ่มอบอุ่น เพราะซานาโกะคือผู้เปิดประตูแห่งความหวังให้ได้คนวัยไม้ใกล้ฝั่งอย่างคุณยายพบกับแสงสว่างในวันแห่งฤดูหนาว .-ส่วนตัวชอบตอนนี้ที่สุด อบอุ่นเหลือเกิน ทัศนคติที่ดีของซานาโกะพิสูจน์ให้เห็นว่า การเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่เพียบพร้อมนั้นไม่ได้ทำให้ชีวิตแย่เสมอไป-
ภาพถ่ายจากสกู้ปเที่ยวญี่ปุ่นในกิฟท์แม็กกาซีน เล่ม9ปี 1988 เป็นช่วงเวลาที่สภาพแวดล้อมน่าจะใกล้เคียงกับภาพที่ผู้เขียนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้ขึ้นมา ตอนที่ 7 Itsuka maho no kinoshitade/ Someday under the magic tree พบกันใหม่ใต้ต้นไม้วิเศษ
พ่อของคาวาคุโบะติดหนี้ ครอบครัวของเขาจึงต้องหอบของย้ายบ้านหนีหนี้เป็นประจำ พี่ชายของคาวาคุโบะเองก็มีชื่อเสียงเกกมะเหรงเกเร ทำให้น้องชายติดร่างแหของเสียงนินทาไปด้วย แต่ซานาโกะรู้ว่าเพื่อนเธอเป็นคนยังไงและเธอจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น
ตอนที่7 ไทม์ไลน์อยู่ในวันสิ้นปีพอดีเลย ห้างวาโกะ กินซ่า งดงามไม่แพ้ไทม์สแควร์ สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1932 (พ.ศ.2475) โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอเรอเนสซองส์ และมีหอนาฬิกาตั้งตระหง่านอยู่ด้านบน
ข้อคิดดีๆ ที่สอดแทรกไว้ในตอนที่7นี้ คนที่เส้นลายมือดี ถึงแม้จะเจอปัญหาทุกข์ยากแค่ไหนก็จะผ่านพ้นอุปสรรคไปได้แต่คนเราก็ใช่ว่าทุกอย่างของชีวิตจะขึ้นอยู่กับดวงชะตาเสมอไปแม้ดวงจะดีแต่ถ้าไม่พยายาม ไม่ขยันขันแข็งก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ใครที่มีความตั้งใจจริง มีความพยายามและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ผู้นั้นย่อมมีชีวิตที่สดใสได้เช่นกัน
ในคืนสิ้นปีล่วงเข้าปีใหม่ ซานาโกะและคาวาคุโบะไปสักการะศาลเจ้าบนดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่ง เดาว่าน่าจะเป็นที่นี่ล่ะมั้ง ศาลเจ้า Asahi Inari ตั้งอยู่บนดาดฟ้าของตึกโอะฮิโระอาซาฮี เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติเก่าแก่ ผู้คนมักมาขอพรให้เจิรญรุ่งเรืองในธุรกิจการงาน เรื่องครอบครัว และเรื่องแต่งงาน .. ลูกบอลทรงกลมนั้นมีชื่อว่า มายุดามะ หรือ cocoon ball ปัจจุบันมักทำจากโฟม ประดับประดาตามกิ่งต้นไผ่ เป็นสัญลักษณ์แทนค่าดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิ และเพื่อขอบคุณพระเจ้าที่ทรงคุ้มครองหนอนไหม
เดิมทีที่เห็นการ์ตูนเรื่องนี้ออกมาใหม่ๆ (ช่วงปี 88-89) ก็ไม่มีแพชชั่นที่สนใจอยากจะอ่านเลย ตอนนั้นเด็กๆ ก็จะชอบอ่านเรื่องที่มันตื่นเต้น โลดโผน เจอผี มีพลังวิเศษนี่ยิ่งชอบ แต่พอได้มาหาอ่านจริงๆ จังๆตอนโตนี่แหละ จากไม่ใส่ใจกลายเป็นหลงรักไปเลย ถือว่าเป็นการ์ตูนที่ทรงคุณค่าเรื่องหนึ่ง ชอบในการใส่ใจทุกรายละเอียดของผู้เขียน ที่ถ่ายทอดบุคลิกและอารมณ์ของตัวละครราวกับมีลมหายใจจริงๆ หมายเหตุ : ข้อมูลรีเสิร์ชต่างๆ ที่ประกอบในบล็อก จขบ.ทำขึ้นจากความสนใจส่วนตัวและข้อมูลที่หาได้จากแหล่งอ้างอิงต่างๆ หากมีถูกผิดไปบ้าง จขบ. ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า สวัสดีปีใหม่ทุกๆ คนนะครับ
(ภาพปกเวอร์ชั่นต้นฉบับ : ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
眠らない街から (Nemuranai Machi kara) ชื่อภาษาไทย : หลายชีวิต (วิบูลย์กิจ) , ด้วยใจผูกพัน (สยามสปอร์ตฯ), ด้วยใจรักและผูกพัน (แคนดี้กรุ๊ป) ซึ่งทั้งหมดเป็นรุ่นไพเรทเรื่องและภาพ : อ.วากิ ยามาโตะ ความยาว : 2 เล่มจบ สนพ. : โคดันฉะ ยังไม่มีลิขสิทธิ์ในไทย
Create Date : 29 ธันวาคม 2564
46 comments
Last Update : 7 มกราคม 2565 10:02:56 น.
Counter : 2976 Pageviews.