BlogGang.com : : แม่สลิ่ม : Strawberry Cream Cheese Pie

Strawberry Cream Cheese Pie

จะถูกจะแพงขอแดงไว้ก่อน

*
*
*
บอกเหตุผลดี ๆ กับฉันสักข้อหนึ่ง ทำไมสาว ๆ ถึงได้ชอบ Strawberry กันหนอ

แล้วทำไมบางคนถึงไม่ชอบ ?????

วันก่อนกินชีสเค้กไป 4 ชิ้น ไม่อ้วน แต่พุงออกเลยง่ะ ครีมชีสที่เหลือเอามากำจัดต่อ ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนสีผิวเป็นชมพูที่เราไม่พึงประสงค์เอาเสียเลย

สูตรจากหนังสือเล่มนึง เห็นว่าแปลกไปจากที่เคย ๆ ทำกัน เลยขอลองหน่อยค่ะ ไม่ผิดหวัง

Cream Cheese ไม่บางนะขอ-บอก ไม่ใช่ขอบ-อก เพราะไม่ได้ใส่เกาะอก ไม่มีอกจะให้เกาะ 55555

ส่วนผสม
ฐานบิสกิต
ขนมปังกรอบรูป abc 200 กรัม
เนยสดละลาย 70 กรัม (จุ๋มใช้รสเค็มค่ะ ไม่แตกต่างกันเท่าไรหากใช้เนยจืดเพราะปริมาณเนยไม่ได้มากมายค่ะ)
น้ำตาลไอซิ่ง 20 กรัม

แต่จุ๋มใช้แครกเกอร์ของฮับเส็งแทนค่ะ พอดีมีอยู่ หรือใครจะใช้ริชซ์ซองแดงผสมคุกกี้เนยก็ได้ ให้ได้ 200 กรัม

เนยสดละลายตามสูตรน้อยไปค่ะ จุ๋มเพิ่มเป็น 100 กรัม ไม่เช่นนั้นฐานร่วนค่ะ ไม่เกาะกันเลย

น้ำตาลไอซิ่งไม่ได้ใส่ค่ะ เพราะแครกเกอร์ฮับเส็งไม่เค็มค่ะ

*** วอร์มเตาไว้ที่ 160-170 องศาซี เพื่ออบฐานบิสกิตด้วยค่ะ ***

แครกเกอร์บดให้ละเอียด จะโดยวิธี manual หรือใช้เครื่องทุ่นแรงตามสะดวก จุ๋มใช้บิให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วเอาใส่ครกดินโขลกเลยค่ะ หรือใครมี food professor จะใช้เครื่องทุ่นแรงก็ได้นะคะ หรือใครจะบิเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใส่ถุงพลาสติกเอาสากทุบเอาก็ได้ค่ะ

เนยสดเอาใส่ไมโครเวฟละลายไว้ตั้งแต่ก่อนป่นแครกเกอร์นะคะ

แครกเกอร์ที่ป่นไว้ใส่ชามผสม ทะยอยใส่เนยละลายลงไปสักครึ่งนึงก่อน แล้วเอาช้อนคน และเติมเรื่อย ๆ ดูลักษณะแครกเกอร์ที่ผสมกับเนยแล้วเป็นหลัก อาจจะใช้เนยมากน้อยต่างกันในแครกเกอร์หรือคุกกี้แต่ละชนิดเพราะการดูดซับเนยอาจจะไม่เท่ากันนะคะ ตรงนี้หนังสือไม่ได้บอก จุ๋มอธิบายเองตามความคิดจุ๋ม

ผสมไปผสมมาให้ลักษณะแครกเกอร์จะเหมือนทรายเปียก

วิธีการทดสอบแครกเกอร์ เอามือขยุ้มแครกเกอร์แล้วบีบ แครกเกอร์ที่อบแล้วฐานไม่ร่วนต้องเกาะกันแบบนี้ ไม่ร่วงกราว ถ้าร่วงกราวไม่เกาะตัวกัน อบแล้วฐานร่วนค่ะ หากเกาะกันมากไป แฉะเกิน อบแล้วฐานจะแข็งโป๊ก ตัดยากค่ะ อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบ บางคนอาจจะชอบร่วน ๆ บางคนอาจจะชอบแข็ง ๆ

เอาเป็นว่าจุ๋มใช้แครกเกอร์ฮับเส็ง 200 กรัม ใส่เนยละลายตามสูตรไปก่อน 70 กรัม แล้วลองขยุ้มแครกเกอร์แล้วมันร่วงเยอะค่ะ เลยละลายเนยเพิ่ม 30 กรัม แต่ทะยอยใส่ทีละช้อนนะ ค่อย ๆ เพิ่มค่ะ

แล้วก็เอาไปกรุในพิมพ์พายหรือถาดฟอล์ย เมื่อวานที่ทำใช้ถาดฟอล์ยเบอร์ 3415 ปากมันจะกว้างประมาณ 7 นิ้ว แต่สูงหน่อยนะคะ จริง ๆ อยากได้ปากกว้าง 8 นิ้ว แต่เตี้ยกว่านี้ แต่มันไม่มีฝาปิดค่ะ เลยเอาอันนี้มาแทน ใส่ได้ 2 ถาดนะ ฟอล์ยขนาดนี้ 5 ใบ ประมาณ 45-50 บาทนะ อาจจะแล้วแต่แหล่งซื้อ

กรุในพิมพ์ให้แครกเกอร์ขึ้นมารอบข้างพิมพ์ด้วย ใช้มือหรือใช้ช้อนตามสะดวก สุดท้ายกดให้แน่นด้วยก้นแก้วค่ะ เพื่อความกระชับและมั่นใจแม้ในวันทำมาก ๆ

เอาก้นแก้วกดแล้วได้แบบนี้นะคะ

แล้วก็เอาไปเข้าเตาอบให้ได้สีเหลืองสวยและหอม ประมาณ 10-15 นาทีค่ะ จุ๋มอบด้วยไฟล่างอย่างเดียวนะ แล้วแต่เตาด้วยค่ะ เอาออกมาจากเตาพักให้เย็น จากนั้นเอาไปแช่ตู้เย็นไว้ หาฝาปิดไว้ด้วยนะคะ ไม่เช่นนั้นเค้าจะดูดกลิ่นในตู้เย็น

ส่วนผสมไส้ครีมชีส
cream cheese 150 กรัม
นมข้นหวาน 150 กรัม
เนยสด 20 กรัม
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 60 มิลลิลิตร (ประมาณ 1/2 ถ้วยขาย)
เจลลาตินผง 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1-1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิปปิ้งครีม 60 มิลลิลิตร

เอาน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะใส่ถ้วยไว้ก่อน โปรยเจลลาตินผง 1 ช้อนชาผงไป พักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ให้เจลลาตินผงดูดน้ำให้อิ่ม

เจลลาตินผงอิ่มน้ำแล้วเอาไปเข้าไมโครเวฟใช้เวลาทีละน้อย หมั่นเอาออกมาดู จ้องเตาไว้เลยคะ เพราะถ้ามันเดือดแล้วมีสิทธิ์ล้น เจลลาตินหกหมดวิ่งไปช่วยไม่ทันนะ บ้านแต่ละคนอยู่ไกล ๆ กันทั้งนั้น หมั่นเอาออกมาดูว่าเจลลาตินละลายหมดหรือยัง ถ้ายังและน้ำงวดลงเติมน้ำได้แต่อย่าให้เกิน 1/2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นพักไว้ก่อน

ครีมชีสทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องให้นิ่มก่อนนะคะ แล้วตัดเป็นชิ้นเล็กใส่ชามผสม เนยสดก็เช่นเดียวกัน

ตีครีมชีสและเนยสดด้วยความเร็วปานกลางจนเนียน หากเป็นเครื่องตีไข่รุ่นเล็กใช้หัวตะกร้อ หากเป็นเครื่องตีไข่รุ่นใหญ่ใช้หัวใบไม้ หมั่นเอาพายยางปาดอ่างให้ส่วนผสมรอบข้างตกลงมาด้วยเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันได้ทั่ว

เติมน้ำมะนาว

นมข้นหวาน จุ๋มลดจากสูตรเหลือ 140 กรัมนะคะ ชิมเอาเองแล้วกันตามชอบ

โยเกิร์ตประมาณ 1/2 ถ้วยขาย แล้วตีด้วยความเร็วต่ำให้เข้ากันดี เนื้อเนียน

ได้เนื้อเนียนแบบนี้นะคะ ส่วนผสมจะเหลวขึ้น เอานิ้วจิ้มดูดอร่อยดี พักส่วนนี้ไว้ก่อน เอาหัวตีถอดไปล้าง

จากนั้นเอาหัวตีมาตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟู ไม่ต้องตั้งยอดแข็ง

ส่วนของครีมชีสเมื่อกี้ เอาเจลลาตินที่ละลายไว้แล้วเทลงไปค่ะ ก่อนเทเจลลาตินลงไปสำรวจสักนิด กรอกถ้วยไปมา ลักษณะเจลลาตินต้องไหลตัวได้ดี เหมือนน้ำราดหน้า ไม่จับตัวเป็นก้อนคล้าย ๆ เจลลี่นะคะ หากจับตัวเป็นก้อนแล้วเอาไปเข้าไปไมโครเวฟให้พอละลายแต่ไม่ต้องร้อน หากเจลลาตินจับตัวกันแล้วจะได้เนื้อครีมชีสเป็นเม็ด ๆ ค่ะ

ผสมให้เจลลาตินเข้ากับครีมชีสให้ดี นวลเนียน

วิปครีมที่ตีได้แบ่งเป็น 3 ส่วนในใจ เอามาแบ่งใส่ครีมชีสทีละส่วน ผสมให้เข้ากัน

ผสมให้เข้ากันนวลเนียน แล้วใส่วิปครีมส่วนที่เหลือต่อ ทำซ้ำแบบเดิมจนหมด

สุดท้ายส่วนผสมจะเหลวขึ้นแต่ไม่มาก

ฐานบิสกิตที่แช่ตู้เย็นไว้เอาออกมาค่ะ

แบ่งส่วนครีมชีสเทใส่เท่า ๆ กันทั้ง 2 ถาด เกลี่ยหน้าให้เรียบ ปิดฝา นำแช่ตู้เย็นจนกว่าครีมชีสจะเซ็ทตัว หากแช่ฟรีซ 2 ชั่วโมงก็ใช้ได้แล้วค่ะ

ส่วนของ Filling จะซื้อสำเร็จแบบนี้หรือทำเองก็ได้นะคะ หากทำเองซื้อสตอเบอรี่สดมา ล้างน้ำ เฉือนขั้วทิ้ง นำไปต้มกับน้ำเปล่าให้สตอเบอรี่นิ่มมากน้อยตามใจชอบ เติมน้ำตาลหวานมากหวานน้อยตามใจชอบ หากเปรี้ยวไม่พอใจบีบมะนาวเพิ่ม สุดท้ายเติมแป้งข้าวโพดที่ละลายกับน้ำแล้วใส่ตอนหลังสุดให้ข้นนิดนึง แต่อย่าข้นมาก เพราะหากเค้าเย็นตัวแล้วจะข้นขึ้นอีก หรือจะใส่เหล้าผลไม้ลงไปนิดหน่อยตามชอบค่ะ

ส่วนของครีมชีสเซ็ทตัวแล้วก็ใส่ Filling ลงไป รับประทานเย็น ๆ เปรี้ยว ๆ อมหวาน ๆ และเค็ม ๆ มัน ๆ ที่บิสกิตค่ะ

หากไม่มีเตาอบไม่จำเป็นต้องอบส่วนของบิสกิต จับเข้าตู้เย็นให้บิสกิตแข็งตัวก็ทำได้เช่นกัน อบเพื่อเพิ่มความหอมค่ะ

สัดส่วนของน้ำมะนาวและนมข้นหวานปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ

Filling ด้านบนจะเปลี่ยนเป็น Blueberry หรือ Red cherry ได้ทั้งนั้น หรือใครจะลองของแปลก กีวี เสาวรส ทำเองก็แล้วแต่นะคะ ถ้ามันเข้ากัน แต่จุ๋มไม่เคยค่ะ

Filling 1 กระป๋องจะใส่ได้ 2 ถาดนี้เลยนะคะ แค่นี้ก็ตู๊ม ตู๊ม พอแล้วคะ

ที่บอกว่าสูตรนี้แปลกจากสูตรที่เคยทำเพราะใส่โยเกิร์ต วิปครีมลงไปเพิ่ม และเพิ่มเจลลาตินทำให้เซ็ทตัวได้ดี รสชาตินุ่มนวลค่ะ ไม่เลี่ยน ที่เคยเห็นส่วนมากใส่แต่ครีมชีส นมข้นหวาน น้ำมะนาว ลองดูนะคะ อร่อย ๆ ค่ะ ลืมอ้วนไปตาม ๆ กัน จุ๋มได้เปรียบหน่อยอ้วนยาก เกิดมาเคยหนักสุด 52 ฮิฮิ

ขนมชนิดนี้ต้องแช่เย็นไว้จนกว่าจะเสริ์ฟค่ะ กินไม่หมดก็เอาไปแช่เย็นต่อ ฐานไม่ร่วนค่ะ แต่ไม่แข็งไป ซ๊วบ ซ๊วบ

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2551

Last Update : 14 มีนาคม 2551 8:26:53 น.

22 comments

Counter : 17892 Pageviews.

บ้านเรากินขนมปังยี้ห้อนั่นอยู่ ไม่รู้เลยว่ามันเอามาทำแบบนี้ได้ น่าอร่อยจัง ไว้เราจะไปทำบ้างนะ ขอบคุณที่เอาสูตรมาบอกจ้า

โดย: supatpit IP: 124.121.27.83 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:45:10 น.

พี่จุ๋ม เมนูนี้ชอบมากๆ ครีมชีสนี่สุดโปรดเลยคะ แบบว่ากินได้ทีทั้งถาดก็สามารถ ส่วนเหตุผลที่ชอบสตอเบอร์รี่ อาจจะเริ่มจากความน่ารักของมัน สีสัน เป็นผลไม้ที่ตะก่อนชอบแต่กินไม่ค่อยได้เพราะมันเปรี้ยวได้ใจ แต่เดี๋ยวนี้เค้าคงปรับสายพันธุ์ให้มันไม่ค่อยเปรี้ยว รสชาติถูกใจมากๆเลยคะ อ้อ เป็นต้นไม้จิ๋วต้นแรกที่หัดทำด้วย ใช้ดินญี่ปุ่นทำคะ จนคุณครูถามว่า ทำไมเรียนเป็นต้นแรก สงสัยเพราะดอกมันก็สีขาวบางๆสวยด้วยมั้งคะ เอยาวไปไหมเนี่ย อิอิ เอาเป็นว่าชอบมากๆคะ เพราะเดือนที่ผ่านมาทำไป 3 - 4 เมนูแล้วอะคะ อิอิ

สูตรนี้คาดว่าน่าจะมีปัญญาทำ เพราะว่าไม่ยาก ไว้เดี๋ยวเดือนหน้าทำไว้สำหรับวันพิเศษดีกว่า อิอิ

โดย: eeh (คิตตี้น้อยสีชมพู

) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:07:08 น.

ตามมาชิมด้วยคนค่ะ น่ากินสุดๆเลยค่ะพี่จุ๋ม

โดย: Complicatedgirl

วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:05:14 น.

แดงสวยมากเลย แต่งานนี้ขอผ่าน พวกครีมชีส ไม่ชอบกินเลย

ผลไม้ทั้งหลาย โดยเพาะพวกตระกูลเบอรี่ ได้มาทีไร กินสดๆ หมดทุกที ไม่ค่อยหลือมาทำขนมเลย

โดย: Febie

วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:32:02 น.

เมนูนี้ชอบมากๆ ครีมชีสนี่สุดโปรดเลยคะ อยากลองทำบ้าง แต่ไม่รู้จะสำเร็จอ่ะป่าวน๊า เพราะทำไม่เก่ง

ขอแวะทานที่นี่ก่อนล่ะกันนะคะ

โดย: mamminnie

วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:46:55 น.

น้ำลายหก น่าทานทั้งนั้นเลย

โดย: ga_tan_u

วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:26:19 น.

อยากกินชีสเค้กเย็นๆหวานๆชื่นใจจังเลยจ้าพี่จุ๋ม

โดย: puppadoowab

วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:31:37 น.

น่าหม่ำ ๆ

โดย: bebek

วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:04:41 น.

กินด้วยนะคะ หมู่นี้ครีมชีสออกโรงบ่อยเลยน้า
ต้องเตรียมใจอ้วนแล้วๆๆ ^^
...ลองไปทำ souffle แล้วค่า เกือบจะดีเลย
แต่ไม่ฟู๊ฟูแบบพี่จุ๋ม ข้างล่างเป็นเม็ดนิดๆ
เดาว่า ตีไข่ขาวไม่ดี กะตะล่อมไม่ดีเอง555

โดย: miss yellow

วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:55:52 น.

น่าอร่อยจังค่ะ
แอบมาจำสูตรเอาไปทามกินเอง
แต่ไมอุปกรณ์ที่จะทามเลยง่ะ

โดย: INLovE_doll

วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:10:06 น.

แวะมาแอบอ่าน + ก๊อปสูตรไปทำหลายชนิดแล้วล่ะค่ะ
เขียนได้ละเอียดและเป็นประโยชน์มากจริงๆ
ขอบคุณนะคะ

ขยันแบบนี้ คนรอบตัวอ้วนกันหมดรึยังคะ

เวลาอยากทำขนมใหม่แล้วไอ้ของเก่ายังมีเหลือในตู้เย็นนี่จะทำไงดีคะ กลุ้มใจเหมือนกันนะ