Group Blog
 
<<
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
10 มกราคม 2558
 
All Blogs
 

อาหารอินเดีย VS อาหารปักษ์ใต้บ้านเรา



เพื่อนบล็อกท่านหนึ่งได้แนะนำให้ดูหนังอินเดียเรื่อง lunchbox
ยิ่งดูยิ่งชอบครับ เรื่องทีไม่เคยรู้เกี่ยวกับอินเดียก็ได้รู้จากหนังเรื่องนี้

อย่างเช่น ผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ภรรยาจะเตรียมอาหารร้อนๆใส่ปิ่นโตฝากส่งไปยังที่ทำงานของสามี ซึ่งมีบริษัทที่ให้บริการด้านนี้โดยเฉพาะ
ห้องอาหารในที่ทำงานจึงไม่เห็นล็อคขายอาหารอย่างบ้านเรา
ส่วนพวกหนุ่มโสด ตอนพักกลางวันมักกินกล้วยเพียง 2 ผล ที่ริมถนนหน้าสำนักงาน

น่าแปลกที่หนังเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ในยุคปัจจุบัน
แต่ที่ทำงานของพระเอก (น่าจะเป็นบริษัทเกี่ยวกับนำเข้าส่งออก) ยังไม่ใช้คอมพิวเตอร์ ใช้เพียงปากกากับเครื่องคิดเลขเล็กๆเท่านั้น

ผมจึงอยากรู้ อยากกินอาหารอินเดียมากกว่าแค่กินโรตีจากอาบัง
(มีคนบอกว่าโรตีโรยนมกับน้ำตาลที่ขายในบ้านเรา ที่อินเดียไม่มี เป็นของชาวปากีสถาน)

จึงเข้า youtube เพื่อดู India street food ได้ความรู้มากมายเชียวครับ

พร้อมกันนั้นยังค้นหาภาพยนตร์ประเภทชัดๆ มาดูเพิ่มเติม


ว่าด้วยเรื่องอาหารอินเดียแล้ว ผมก็มุ่งความสนใจไปที่อาหารใต้ของเรา
พันกว่าปีมาแล้วที่ชาวอินเดียใต้เข้ามาปักหลักที่แหลมทองของไทย
เขาเอาวัฒนธรรมอาหารเข้ามาด้วย
คงไม่หนีจากพวกแกงเหลือง, แกงกะทิต่างๆ, แกงส้มปลาทะเล, คั่วกลิ้ง, แกงคั่วกระดูกซี่โครงอ่อน...แต่ละอย่างต้องมีผักสดเคียงข้างเพื่อลดความเผ็ด
เมื่อเวลาเนิ่นนานมากอาหารต่างๆก็ปรับเข้ากับท้องถิ่น อย่างการใส่ขมิ้นเพื่อลดความคาวของปลา แต่ความเผ็ด รสจัดจ้านก็ไม่ได้หายไปไหน

ผมคิดว่าคนอินเดียตอนใต้มาเดินแถวหาดใหญ่สงขลา เราอาจแยกไม่ออกว่าไทยหรืออินเดีย




ถ้ามีบันทึกความเป็นมาของอาหารไทยภาคใต้คงน่าทึ่งมากนะครับ
ตอนนี้ได้แค่การเปรียบเทียบอาหารท้องถิ่งของสองภูมิภาคว่าอะไรคล้ายๆกันบ้าง
อย่างกล้วยฉาบต้องที่พัทลุงเท่านั้น ส่วนขนม "ลา" ที่ทำจากข้าวเจ้าต้องที่นครศรีธรรมราช
ผมพบว่ากล้วยฉายมีการทำกันที่อินเดียใต้ ส่วนขนมลาก็มีการทำขายเหมือนกัน

ส่วนอาหารคาวนั้น หน้าตาค่อนข้างคล้ายกัน ต่างกันที่ของเราใส่เครื่องเทศน้อยกว่า

ที่บ้านผมทำอาหารใต้เป็นกิจวัตรมาหลายปีแล้ว และเด็กๆล้วนคุ้นเคยกับกับอาหารเผ็ดๆเหล่านี้ ก็แม่เขาเป็นคนใต้น่ะครับ

ถ้าอย่างนั้น เท่ากับว่าครอบครัวเราก็ไม่ได้ห่างไกลจากเมนูอาหารอินเดียเลย




 

Create Date : 10 มกราคม 2558
9 comments
Last Update : 13 มกราคม 2558 20:11:35 น.
Counter : 1547 Pageviews.

 

ต้องไปหาเรื่อง Linchbox ดูซะแล้ว

 

โดย: honeynut 10 มกราคม 2558 18:48:14 น.  

 

บางครั้งหนังก็ทำให้เราเกิดความสนใจจนไปหาข้อมูลเพิ่มได้เหมือนกัน

เป็นเรื่องปกติครับสำหรับอิทธิพลของต่างประเทศที่เข้ามายังสยาม จะว่าไปประเทศเราได้รับอิทธิผลจากต่างประเทศเยอะเหมือนกัน

+

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 10 มกราคม 2558 23:03:21 น.  

 

ต้องไปเปิดยูทูปดูมั่งเรื่องนี้
ขอบคุณที่แนะนำนะคะ

 

โดย: อุ้มสี 10 มกราคม 2558 23:30:35 น.  

 

ชอบทานทั้ง 2 อาหารเลยค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
 
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist

 

โดย: เริงฤดีนะ 11 มกราคม 2558 11:51:30 น.  

 

อ่านบล็อกแล้วถึงร้องอ๋อว่าทำไมอาหารอินเดียกับปักษ์ใต้มีส่วนคล้ายกัน

ขอบคุณมากที่แวะไปชมภาพวาดสีน้ำงาม ๆ และโหวตให้นะคะ

 

โดย: haiku 11 มกราคม 2558 17:21:16 น.  

 

เขียนอีกนะคะ ชอบอ่านค่ะ

 

โดย: kochpon 12 มกราคม 2558 10:33:10 น.  

 

ยินดีครับที่มีเพื่อนใหม่ๆเข้ามาอ่าน จะพยายามเขียนอย่างสม่ำเสมอครับ

 

โดย: Insignia_Museum 13 มกราคม 2558 20:37:40 น.  

 


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Insignia_Museum Diarist

อาหารอินเดียทางใต้ คงมีส่วนประกอบของมะพร้าวเยอะ
ดูเรื่อง Lunch box มาไม่นาน เห็นนางเอกทำอาหารแล้วก็นึกถึง
แกงบ้านเราเลย เรื่องนี้สนุก แต่จบนี่คาใจจริงๆ เง้อออ
ทำร้ายจิตใจมาก (แต่ชีวิตจริงก็คงเป็นงั้รแหละเนอะ)

เขียนสนุกดีค่ะ

 

โดย: กาบริเอล 16 มกราคม 2558 10:17:28 น.  

 


มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

ผมเสียดายมากเลยที่ไม่ได้ดูเรื่อง Linchbox เพราะตอนที่เข้าฉายในบ้านเรานั้นบอกว่าเป็นหนังอินเดีย แต่พอหนังเรื่องนี้ออกโรงไม่แล้วกลับมีนักวิจารณ์ออกมาชื่นชมเรื่องนี้มากเลยครับ

เรื่องการอาหารเขาถือว่าเป็นเรื่องของวัฒนธรรมการกินครับ ซึ่งในแต่ละชนชาติต่างก็มีวัฒนธรรมการกินไม่เหมือนกันครับ

อิอิ

 

โดย: อาคุงกล่อง 16 มกราคม 2558 21:35:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.