วันนี้บุ๊งมาชวนไปชิมอาหารฝรั่งเศส พร้อมจิบไวน์ด้วยกันค่ะ
ร้านนี้เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสสไตล์บิสโทรบาร์เปิดใหม่ในซอยเอกมัย ตั้งอยู่ด้านหลังบ้านไร่กาแฟ
The Glass French Bistro
สุขุมวิท 63 เอกมัย (BTS เอกมัย Exit 1)
Tel. 0-2108-8982
Opening hours: 06.30 am - midnight
Facebook fanpage: The Glass French Bistro
ร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เป็นกระจกใสรอบร้าน
บุ๊งไปช่วงกลางวัน ร้านมีความสว่าง โปร่ง สะอาด น่านั่ง
เหลือบไปเห็นป้าย มีเซ็ทอาหารกลางวัน ราคา 299 บาทเน็ท
เห็นราคาแล้วก็แอบคิดว่า ไม่แพงเลยสำหรับอาหารประเภทนี้ และในทำเลแบบนี้
ป้ายโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต Citibank
ภายในร้านตรงกลางเป็นตู้เก็บไวน์แบบพิเศษนำเข้า
ตู้ไวน์นี้มีความพิเศษตรงที่ สามารถกดไวน์จากตู้ โดยเลือกปริมาณที่ต้องการได้
มี 30, 60, และ 120 ml
ชื่อไวน์ พร้อมราคาสำหรับแต่ละปริมาณ
30 ml ปริมาณเหมาะสำหรับเอาไว้เทสต์ว่าไวน์ขวดนี้ถูกปากเราหรือเปล่า
เผื่อใครจะสั่งไปชิมก่อนในราคาที่ไม่แพงเกินไป
(ราคาไวน์แต่ละประเภทจะไม่เท่ากันค่ะ)
คุณ Luc Busin เจ้าของร้าน กำลังกดไวน์ขาวมาให้ดื่ม
แก้วนี้คือปริมาณ 120 ml
เป็น Sauvignon Blanc ของ Gayda จากฝรั่งเศส
ในเมนูอาหาร จะมีการจับคู่แนะนำไวน์ที่เหมาะจะดื่มกับอาหารในแต่ละเมนูด้วยค่ะ
อาหารเหล่านี้สั่งจากเมนู a la carte
ซึ่งเป็นอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม (Authentic French)
Sauteed Frog Legs (590 baht)
ขากบเนื้ออวบ ๆ นำไปย่างให้สุกกำลังดี
เนื้อนุ่ม ไม่แห้ง เสิร์ฟกับซอสน้ำมันมะกอก กระเทียม พาสลีย์
ปรุงรสมาแบบธรรมชาติ คือไม่จัดจ้าน หากใครชอบ ก็โรยเกลือเพิ่มความเค็มได้ค่ะ
ส่วนตรงกลางเป็นมะเขือเชอรี่ย่างกับซอสน้ำมันมะกอก มีความหวานของมะเขือเชอรี่
Escargots Garlic and Parley Butter (490 baht)
หอยทากอบเนยกระเทียม ใส่พาสลีย์
เนื้อหอยทากจะกรุบ ๆ บุ๊งแอบเติมเกลือเพิ่มความเค็ม
เพราะอาหารฝรั่งเศสจะเน้นรสธรรมชาติของวัตถุดิบที่นำมาใช้
จึงไม่ปรุงรสมากนัก สำหรับบุ๊งจึงขอเพิ่มความเค็มหน่อย
ตัวซอสเนยกระเทียม แอบเอาขนมปังมาจิ้ม อร่อยค่ะ อิอิ
Homemade Foie Gras Terrine (490 baht)
ตับห่านบดเทอรีน เสิร์ฟแบบเย็น ๆ เอามาป้ายกับขนมปัง
รสชาติเข้มข้นกำลังดีค่ะ คือไม่จืดและไม่เค็มเกิน
เสิร์ฟพร้อมกับหัวหอมผัดกับเนยจนนุ่ม สีเหมือนคาราเมล
และมะม่วงกับขิงที่ผัดจนนุ่ม รสออกเปรี้ยวหวาน ช่วยตัดเลี่ยน
ขนมปังฝรั่งเศสอุ่น ๆ ทานคู่กับเนยสด (เนยจืด) หรือน้ำมันมะกอก
ขวดสี่เหลี่ยมที่เห็นนั่นคือน้ำมันมะกอกค่ะ
แต่ขวดเหมือนน้ำหอมเลย อิอิ
เนื้อขนมปังจะเหนียว หนึบ คือต้องเคี้ยว ใครชอบขนมปังแข็งเหนียว น่าจะชอบ
Big Cold Cut Platter (690 baht)
โคลด์คัทหลากชนิด สำหรับบุ๊งถาดนี้คือโดนมาก เพราะบุ๊งชอบทานโคลด์คัท
ไส้กรอกสไตล์ยุโรป สไลซ์บาง ๆ เสิร์ฟแบบเย็น
มีไส้กรอกหลายแบบ เช่น แฮมเซอร์ลาโน่ ซาลามี่ โชริโซ่ ฯลฯ
ต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนนำเข้า ที่บุ๊งชอบสุดคือไส้กรอก chorizo (โชริโซ่)
ที่เป็นแผ่นกลม ๆ สีแดงเข้มที่สุดในรูปนี้ จะมีรสเผ็ดด้วย
เสิร์ฟพร้อมผักดง รสเปรี้ยวสะใจ ตัดเลี่ยนได้ดีมากค่ะ
ทางร้านแนะนำว่า cold cut เหมาะที่จะทานคู่กับไวน์แดง จึงจัดมาให้ชิม 2 แบบ
แบบแรกบุ๊งลืมถ่ายรูปขวดไว้ แต่รสของไวน์จะไม่จัดมาก (สังเกตจากสีและความใส)
ไวน์แดงขวดนี้โดนใจบุ๊งมากกว่า รสชาติเข้มข้นกว่า
เวลาดื่มแล้วมีรสฝาดนิด ๆ บุ๊งชอบ
ต่อไปเป็นเมนู Lunch Set ที่จะเปลี่ยนไปทุก ๆ สัปดาห์
สำหรับราคา 299 บาทเน็ท จะได้อาหาร 2 จาน
ราคา 399 บาทเน็ท จะมีเพิ่มขนมหวานมาอีก 1 จาน
โดยร้านจะมีเมนูมาให้เลือกจาก 2 แบบ
อันนี้คือ Crab Toast Salad
ขนมปังฝรั่งเศสอบกรอบ ด้านบนเป็นครีมเนื้อปู เข้มข้น
เสิร์ฟพร้อมสลัดผัก น้ำส้มบัลซามิค เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยอย่างดี
จานหลักคือ Pasta Alfado
สปาเก็ตตี้ซอสครีม แฮม เห็ด และชีสพาร์มีซาน
เข้มข้นชีส ผัดมาแบบแห้ง ๆ เส้นเคลือบด้วยครีม
ขนมหวาน 1 อย่าง เลือกเป็น Watermelon Granita
เกล็ดน้ำแข็งน้ำแตงโม เพิ่มความสดชื่น
ปิดท้ายด้วยกาแฟดำร้อน
ขอแชะกับคุณลุค เจ้าของร้านสักหน่อย อิอิ
ประสบการณ์ทานอาหารฝรั่งเศสวันนี้ สนุกสนานค่ะ
ชอบบรรยากาศร้านที่สว่าง โปร่ง โล่ง สบาย ไม่อึดอัด
มีไวน์ให้เลือกชิมได้หลากชนิต (มีไวน์แบบออร์แกนิคด้วยแต่บุ๊งไม่ได้ชิม)
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Travel Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
บรรยากาศ ในร้าน สวยนะคะ พี่บุ๊ง
แถม อาหาร ที่ พี่บุ๊ง ทาน น่าลองทาน ทั้งนั้นเลย ค้ะ
ขวัญ เห็นแล้ว อยากไปลองทาน สักครั้ง จริงๆ นะคะ นี่