...ถ้าใครเป็นแฟนประจำของ ไมเคิล เบย์ ไล่ไปตั้งแต่หนังเรื่องแรก เราก็จะพบว่า เบย์ เป็นผกก.ที่จับจุดตัวเองได้เก่ง รู้ตัวว่าถนัดอะไร และ ก็สร้างงานแบบนั้นอย่างซื่อสัตย์เสมอต้นเสมอปลายโดยไม่คิดจะเปลี่ยนแนว เอาแค่ดู ฉากรถของตัวละครสำคัญโผล่ ฉากตัวละครวิ่งขึ้นที่สูงเพื่อขอจุดไฟขอความช่วยเหลือ ฉากตัวเอกยืนหลังม่านพระอาทิตย์ จากหนังเรื่องนี้โดยไม่รู้ชื่อผกก.มาก่อน เราดูจบก็พอจะเดาได้ว่า นี่มันรูปแบบและสไตล์การถ่ายทำแบบ เบ(ย์)เบ(ย์) ชัดๆ คล้ายกับที่เราเห็น นกพิราบโผล่ก่อนคนจะยิงกัน นั่นก็สไตล์ วูวู

ถึงจะไม่เคยเปลี่ยนแนว แต่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าผมเป็นผู้อำนวยการสร้างที่มีเงินมโหฬารอยากสร้างหนังเมกะโปรเจคต์ ในตระกูลระเบิดภูเขาเผารถปอร์เช่ ที่มีคุณภาพและดูสนุก ในเวลานี้ คงต้องยก ไมเคิล เบย์ เพียงผู้เดียว คงจะเป็นเหตุผลนี้ เราจึงได้ดู หนังกลุ่มระเบิดเถิดเทิง ของเบย์แทบจะทุกๆหนึ่งหรือสองปี

... งานชิ้นล่าสุดที่คว่ำสนิทอย่าง The Island ทำให้ผมค่อนข้างประหลาดใจ หรือ ไม่ก็ตัวเองเป็นชนกลุ่มน้อยที่ชื่นชอบหนังเรื่องนี้ แถมยังรู้สึกว่า เป็นหนังที่เบย์ใส่สาระกับสัดส่วนดราม่าได้มากแบบไม่ขัดเขินที่สุดเรื่องหนึ่งเสียด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับเรื่องก่อนๆ

การคว่ำกับหนังไซไฟแอคชั่นฟอร์มยักษ์ ทำให้อดหวั่นไม่ได้ว่า ถ้าเรื่องนี้คว่ำอีก เห็นที สปีลเบิร์ก อาจจะงอนส่ง เบย์ คืนไปให้ บรั่คไฮเมอร์ เช่นเดิม

...ตอนรู้ข่าวว่า การ์ตูนอย่าง Transformer จะมาเป็นหนังฮอลลีวูด ยังคิดภาพไม่ออกว่า หนังจะออกมาสนุกได้แค่ไหน เพราะ มันดูจะเหมาะกับการเป็นการ์ตูน หรือไม่ก็ หนังญี่ปุ่นเหมือนพวกหุ่นรบหรือขบวนการโกกุลไฟว์มากกว่า แต่กระแสที่ส่งมาเป็นระลอก ไม่ว่าจะเป็นภาพข่าวหรือหนังตัวอย่างที่มันส์โคตรๆ ชวนให้เริ่มคิดเปลี่ยนใจว่าน่าจะมีอะไรดีๆ




Transformers เวอร์ชั่นเบย์ คือ หนังที่ทำความฝันของเด็กผู้ชาย(ส่วนหนึ่ง)ให้กลายเป็นจริง ความฝันที่เคยหยิบจับรถส่วนตัวในมือแล้วดึงแขนดึงขาออกมาเป็นหุ่นยนต์ ลอย บิน ยิง ตู้ม บึ้ม ฯลฯ

...หากใครคิดจะดูหนังเรื่องนี้ ไม่ควรเลยที่จะเลือกดูจากจอทีวีหรือจอโปรเจคเตอร์ที่บ้าน แต่ มันเป็นหนังที่ควรค่ากับการเสียเงินร้อยกว่าบาท มานั่งดูในโรง เพื่อพบกับ

รายละเอียดของหุ่นยนต์ตั้งรูปร่างหน้าตา ยัน กระบวนการแปลงร่าง ที่ผู้สร้างใส่รายละเอียดแบบถี่ยิบแบบช็อตต่อช็อต การถ่ายทำฉากสู้รบที่สุดยอดตระการตา โดยเฉพาะช่วงท้ายที่มาบู๊กันในเมือง หรือว่าจะเป็น ฉากแปลงร่างเสียงเครื่องกลฉึกฉัก ซึ่งแสนจะเท่ระเบิด เป็น สิ่งที่โปรเจคเตอร์จอใหญ่ที่บ้านแค่ไหน ก็คงไม่ได้อารมณ์เท่ามาดูในโรงหนัง

เนื้อเรื่องของหนังก็เข้าใจคิด ที่เขียนให้ หุ่นยนต์เป็นเผ่าพันธุ์หนึ่งที่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเพื่อแย่งชิง ลูกเต๋าพลังงานสูง แต่เจ้าลูกเต๋าดันมาตกที่โลก หุ่นยนต์สองพวกเลยต้องมายำกันบนโลกให้มนุษย์ต้องเดือดร้อน เหมือนตอนที่ เอเลี่ยน ดันตื่นมาเจอกับ พรีเดเตอร์ ใน AVP ซึ่งมนุษย์ได้แต่บ่นในใจ มันไม่ใช่เรื่องของตรู แต่ก็ต้องมาซวยรับเคราะห์ไปด้วย

ที่ผมชอบมากคือ มุกตลกที่หนังทั้งยิงทั้งหยอดในหนังเรื่องนี้ มุกตลกส่วนใหญ่ เวิร์คคคค ไม่ว่าจะเป็น ตอน บับเบิล บี ปล่อยเพลงเด็ด , ตอนหุ่นยนต์พยายามซ่อนตัวรอบบ้านพระเอก หรือ บรรดาตัวละครวิตกจริตทั้งหลาย ฯลฯ



...หนังดึงนักแสดงดังๆมาสร้างสีสันหลายคน เช่น เบอร์นี่ แม็ค ในบทเซลล์ขายรถมาหยอดเสียงฮา , จอห์น เทอเทอโร่ นักแสดงโชว์ฝีมือมารับบทเอเย่นต์ต๊องๆที่ก็เล่นได้ประสาทดี ที่น่าจับตามองคือ นักแสดงนำดาวรุ่ง ชีอา เลอเบิฟ ที่ล่าสุดนั้นไปคว้าบทสำคัญในหนัง อินเดียน่า โจนส์ ภาคสี่ การแสดงของเขาเล่นได้เป็นธรรมชาติมากๆ เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามอง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่อเทียบกับบทบาทการแสดงในเรื่องล่าสุดของเขาอย่าง Disturbia บุคลิกลักษณะของตัวละครแทบจะไม่แตกต่างกันเลย จนน่ากลัวว่า ถ้ายังเลือกรับบทบุคลิกเช่นนี้อีก อาจจะเป็นดาวรุ่งที่พุ่งได้ไม่นาน หากไม่คิดจะฉีกบทบาทตัวเองออกไป (นางเอกไม่ต้องกล่าวถึงมากมาย เพราะ เสื้อผ้าหน้าหุ่น ก็ละลายคนดูหนุ่มๆไปเรียบร้อยหลายคน ว่าแต่ เธอหน้าแปลกดี เพราะบางมุมที่กล้องจับเหมือนเป็นคนละคนที่ไม่สวยเอาเสียเลย)


...สัญลักษณ์ร่วมหนึ่งในหนังของไมเคิล เบย์ จะมีความพยายาม ‘เชิดชู’ ไม่มนุษยชาติก็เป็นคนอเมริกัน อย่างเช่นชัดๆก็อย่างใน Pearl harbour หรือ Armageddon และ ความพยายามเชิดชู ก็ถูกจับมาใส่ในเรื่องนี้ด้วย แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับกลายเป็นว่า ทำให้ ความมันของหนังถูกขัดจังหวะในบางช่วง อย่าง บทพูดของตัวละครหุ่นยนต์เพื่อสร้างความประทับใจ เช่น มนุษย์นั้นยิ่งใหญ่ มนุษย์คู่ควรกับการมีชีวิต พวกเขายังมีความดี .... ฯลฯ

ไดอะล็อคธีม‘เชิดชู’ ในหนังเรื่องนี้ มันช่างเน่าเลี่ยนและไม่เป็นธรรมชาติอย่างแรง ไม่เหมือนตอน Pearl harbour หรือ Armageddon ที่แม้จะเน่าเลี่ยนแต่มันก็ชวนให้ซึ้งเพราะกลืนไปกับหนัง อดคิดไม่ได้ว่า เบย์น่าจะตัดๆฉากพวกนี้ไป เพราะ การพยายามใส่เข้ามาก็ไม่ช่วยให้หนังดีขึ้นมากมาย สู้อัดกันให้ตายให้วอดวายเลยดีกว่า

เช่นเดียวกับ ความเร็วในฉากแอคชั่นของเบย์ เป็นจุดที่หลายคนก็ชอบ ผมเองก็ชอบในหนังเรื่องก่อน แต่สำหรับ Transformer คิดว่า มากไปนิด คือ ความเร็วในฉากโรมรันพันตูของหุ่นยนต์ ที่ตัดฉับๆแล้วหมุนกล้องสามร้อยหกสิบองศาด้วยความเร็วสองร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง จนแทบจะดูไม่ทันว่า ใครหว่าที่กำลังจะตาย ในเรื่องก่อนๆของเบย์ไม่มีปัญหาเพราะผมพอจะแยกได้ แต่ในเรื่องนี้ คิดว่า ฉากแอคชั่นน่าจะมีช่วงที่ไม่ต้องเร็วขนาดนี้แต่เป็นโชว์เหล็กอัดเหล็กแบบเนื้อๆเน้นๆให้เห็นบ้าง ก็น่าจะดี

อีกส่วนหนึ่งที่หนังพยายามจะใส่เข้ามาคือ ความซาบซึ้งประทับใจในความผูกพันของตัวละคร หุ่นยนต์ และ มนุษย์(พระเอก) ซึ่ง เป็นความพยายามจับยัด โดยไม่ปูเนื้อหาอารมณ์ความสัมพันธ์ของสองตัวละครนี้เสียก่อน พอถึงฉากจะพลัดพรากแล้วให้อีกฝ่ายมาอำลาอาลัย ดูอย่างไรก็ไม่อิน




...เมื่อประมวลจนถึงตอนนี้แล้ว ในบรรดาหนังของไมเคิล เบย์ ผมก็ยังชอบ The Rock มากที่สุด เพราะ ตลอดความยาวของหนังกลมกล่อมอย่างไร้จุดสะดุดอารมณ์ ส่วน Transformers นั้นยังมีอยู่บ้าง แต่ก็ยังจัดอยู่ในกลุ่มหนัง ระเบิดภูเขาเผายานพาหนะ ที่ชอบมากเรื่องหนึ่งของไมเคิล เบย์ และก็อยากให้เขาสร้างหนังเช่นนี้ต่อๆไป จนกว่า คนดูจะเบื่อไปข้าง หรือ เบย์จะเบื่อตัวเอง เพราะในยุคสมัยนี้ยังหาใครที่จะมาทำหนังฟอร์มใหญ่ๆตระกูลนี้ โดยมีความสนุกความมันส์จนลบจุดอ่อนต่างๆในหนังอย่างเบย์ได้น้อยคนเต็มที ก็อย่างที่เกริ่นไว้ในชื่อหัวข้อแล้วว่า โอ้ว ไมเคิล เบย์ คุณเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆเลย

สิ่งที่ชอบ

1.ความสนุก

2.ความมัน

3.มุกตลกและนักแสดง


สิ่งที่ไม่ชอบ

1.บทพูดเชยๆของหุ่นยนต์

2.ความพยายามซึ้งในความผูกพันแห้งๆของพระเอกกับหุ่นคู่กาย

3.ความเร็วในฉากแอคชั่นช่วงท้าย

สรุป .... จะเสียเงินดูหรือไม่ คิดก่อนว่า คุณชอบหนังแอคชั่น คุณชอบหนังหุ่นยนต์ คุณชอบหนังขายความสนุกเป็นหลักหรือเปล่า ถ้าใช่ นี่คือหนึ่งในหนังแอคชั่นซัมเมอร์ที่เน้นขายความสนุกและทำออกมาได้สมราคา ควรค่ากับการดูในโรงหนังอย่างแน่แท้

ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม

(นอกจากตามร้านทั่วไป สนพ.ฝากแจ้งว่า มีลด15% ถึงสิ้นเดือนกค.ที่ ดอกหญ้าสาขา อนุสาวรีย์, เมเจอร์สุขุมวิท, พันธ์ทิพย์ กทม., เมเจอร์เชียงใหม่, แฟชันไอแลนด์, เมเจอร์รังสิต, เมเจอร์ปิ่นเกล้า, เมเจอร์รัชโยธิน)

เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php

ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง