www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

The Final Destination (4) , สิ่งเดียวที่คุ้มค่า คือ เนื้อสันในตับไตไส้พุงพุ่งเข้าตา



... ผมเคยอ่านเจอคนเปรียบการดูหนังชุด Final Destination เหมือนนั่งรถไฟเหาะ เข้าใจว่าต้องการสื่อประมาณ วู้วว้าวสนุกตื่นเต้นเร้าใจ ไม่ต้องหวังอะไรมาก จบแล้วจบกัน

ผมเห็นด้วย

แต่ อดคิดถึงภาคแรกไม่ได้ว่า มันไม่ได้จบแค่ความวู้วว้าว เพราะนอกจาก ความสดใหม่ของพล็อต ลูกเล่นการตายของภาคแรกก็ยังใส่ใจในรายละเอียด มีคำเตือนที่ดูฉลาดๆเช่น เสียงเพลงหรือชาร์ตที่สนามบิน

และ ส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์ใกล้ตัวที่ดูแล้วเสียวสันหลังว่าตัวเองจะเจอบ้าง อย่าง เครื่องบินตก หรือ นั่งเล่นคอมแล้วตาย ไม่เหมือนภาคหลังๆที่รู้สึกชักจะตายเว่อร์ขึ้นทุกที




... แต่ ธรรมชาติของรถไฟเหาะ ถ้าเราขึ้นขบวนเดิมซ้ำๆ มันก็ย่อมจำเจ

คือ เดาได้แล้วว่า มันจะตีโค้งตรงไหน มันจะตีลังกาตรงไหน ตราบใดที่ยังตีลังกา แน่นอนว่า เราก็ยังยินดีเสียเงิน แต่ เราก็คงอยากจะได้อะไรแปลกๆใหม่ๆบ้าง

ผมคาดหวัง หนังสยองชุด Final Destination ไว้ระดับเดียวกับ Saw คือมี อะไรดีๆ มากไปกว่า การไล่ฆ่า ตามสูตรหนังตระกูล Slasher แบบ ศุกร์13 หรือ Texas Chainsaw ที่ตอบสนองคนดูแค่ นม กับ เลือด

น่าเสียดายที่ ภาค 4 เหมือนกับหนังเริ่มจะเลือกไปเส้นทางหลัง เพราะ เส้นทางรถไฟเหาะงวดนี้ ไม่เพียงแต่ไม่มีอะไรใหม่ แต่ยังแทบจะใช้เส้นทางเก่าๆ แล้วลดรายละเอียดลงเสียด้วยซ้ำ

บวกน่าผิดหวังมากขึ้นก็ตรงรู้ว่าผู้กำกับคือ David R. Ellis ที่เคยทำหนังสนุกมากๆอย่าง Cellular , สนุกเข้าท่าสไตล์หนังเกรดบีอย่าง Snakes on a Plane และเคยมีส่วนร่วมกับหนังชุด Final Destination ในฐานะผู้กำกับ Final Destination 2





... นั่งนึกภาพเล่นๆ คาดว่า ทีมเขียนบทคงใช้เวลา 1% กับการวางพล็อตเรื่อง แล้วใช้เวลาอีกกว่า 99% ไปสนใจกับวิธีการตาย ประมาณว่า

หัวหน้าทีม : เอาละ เราจะสร้างภาค 4 เรามาคิดบทหนังกันเถอะว่าจะเล่าเรื่องยังไง

คนเขียนบท 1 : เอางี้ดีมั้ย ให้ ตัวเอกเห็นนิมิตล่วงหน้า แล้วพาตัวเองกับคนกลุ่มหนึ่งให้รอด จากนั้นความตายไล่ล่าทีละคนตามคิวที่ตาย กลุ่มพระเอกก็เลยพยายามไล่ดูว่าคิวใครก่อนใครหลัง พอเจอแล้วก็พยายามไปช่วยเหมือนตัดห่วงโซ่โกงความตาย แล้วสุดท้าย ความตายก็ไล่ฆ่าจนครบอยู่ดี

คนเขียนบท 2 : มันเป็นบทหนังที่แหร่มมากๆเลยคะ แต่ เอ๊ะ มันคล้ายๆกับภาค 1,2,3 เลยนะคะ

คนเขียนบท 3: ถ้าอย่างนั้นก็เอาบทเดิมแล้วมาเปลี่ยนชื่อตัวละครเสียซิ

ทีมตัวละคร : เยสสสสส


จากนั้น พวกเขาก็ใช้เวลาที่เหลือไปนั่งคิดฉากตายเก๋ๆไก๋ๆแทน





.... เมื่อหยิบ Final Destination 4 เทียบกับภาคก่อนๆ

ดีกว่า - มีอย่างเดียวคือ ทะลุเข้าหน้าแบบสามมิติ

ดีที่สุดของ Final Destination 4 - ฉากที่ร้านตัดผม เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า ฝีมือการกำกับที่ดี มีลูกล่อลูกชน ทำให้คนเสียวสยองได้มากกว่า CGที่ดีหรือเศษเนื้อที่มาก , ชื่อร้านกาแฟ

เท่าทุน - การออกแบบการตายที่ก็ไม่ได้ดีไม่แย่อะไร , หน้าตาตัวละครดีกันทั้งเรื่อง(ขนาดแม่ยังสวยสะดิ้ง) , ฉากดูหนังสามมิติในโรง เข้าใจคิดเล่นกับ คนดูจริงๆที่นั่งดูอยู่ แต่มันน่าจะทำได้อารมณ์ร่วมมากกว่านี้ , ฉากเปิดเรื่อง (ด้อยกว่าสองภาคแรก แต่สูสีกับภาคที่แล้ว)

แย่กว่า - บทที่แทบจะไม่มีอะไรเลย , แอคติ้งของนักแสดง , หน้าตาดีแต่ไม่มีเสน่ห์ คือ หน้าตาดีกันหมดแต่ดูระนาบเดียวกันหมด ไม่มีใครโดดเด่น แทบจะจำตัวไหนไม่ได้เป็นพิเศษ , บทที่แบน ไม่ได้อยากได้ลึก แต่มันก็ แบนมากๆ เรารู้จักตัวละครนำคู่นี้น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับสามภาคก่อนๆ

หรือแทบจะเรียกว่าไม่รู้อะไรเลย(ชีวิตครอบครัว , การเรียนการทำงาน,นิสัยใจคอฯลฯ) จนไม่รู้สึกผูกพันอยากเอาใจช่วยเท่าไหร่ เพราะ ชีวิตของพระเอกนางเอก มีอยู่ด้านเดียวทั้งเรื่อง คือ ออกตามเรื่องความตาย


สรุป ... สำหรับแฟนๆดูมาตลอดก็ไม่น่าพลาด แต่แนะนำว่า ควรทุ่มเงินดู3มิติ เพราะสิ่งเดียวที่ภาคนี้ดีกว่าภาคก่อนๆคือ ความรู้สึกตอนเห็น เนื้อสันในตับไตไส้พุงพุ่งทิ่มตา แต่ ถ้าจะดูแบบธรรมดา รอแผ่นก็พอไหว

แอบนึกเล่นๆว่า งวดหน้า ทีมงานน่าจะลองทุ่มจ้าง ทีมเขียนบทเรื่อง Lost มาเขียนบทให้

เพราะ ประเด็น โกงความตาย ในหนังชุดนี้ ดูจะเข้ากันได้กับ ประเด็น Fate VS. Free Will ในเรื่อง Lost ซึ่งน่าจะมีอะไรให้เล่นได้อีกมาก

ไม่แน่ว่า เราอาจเห็น ความตายมาในรูปแบบของ ควันดำ ในภาค 5 ก็ได้



... นึกถึงความประทับใจจากสามภาคที่ผ่านมา

ชอบฉากเปิดเรื่องของภาค 2 มากที่สุด

เสียวการตายแบบฝังใจในชีวิตจริง จาก ฉากในอ่าง กับ โต๊ะคอมในภาค 1 มากที่สุด

ชื่นชม กิมมิก ที่เป็นคำใบ้ก่อนตายในภาค 1 มากที่สุด



ป.ล. จขบ. มี Twitter แล้วเน้อในชื่อ //twitter.com/ibehindu มีกรอบวิดเจตอยู่ด้านขวาของบล็อกนี้ สนใจ อัพเดตหนัง อัพเดทบทความ หรือเรื่องทั่วๆไป แบบเร็วทันใจ ก็ตามไปด้วยกันกับทวิตเตอร์ได้เล้ยยย


Link บทความที่เกี่ยวข้อง

Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"

Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา









Create Date : 06 กันยายน 2552
Last Update : 6 กันยายน 2552 16:12:19 น. 7 comments
Counter : 5916 Pageviews.

 
ฉากในร้านตัดผมสุดสยองตอนขูดเล็บจริงๆครับ


โดย: dp IP: 202.28.62.245 วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:17:24:36 น.  

 
มันก็สนุกทุกตอนล่ะนะ แต่ความที่มันมีหลายตอน ก็ถูกนับมาเปรียบเทียบกัน หากมี(หรือลองดู)แค่ภาคเดียวมันก็จะมีความโดดเด่น(และสนุก)มาก


โดย: นายแจม วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:18:50:37 น.  

 
เข้ามาติดตามอ่านครับ
เคยดูแค่ 2 ภาคแรก
หลังๆ ไม่ค่อยได้ดูหนังเขย่าขวัญ
มันตื่นเต้นเกิน (แก่แล้ว - -")
ขอบคุณที่รีวิวให้อ่านครับ ^O^


โดย: gonz IP: 118.173.50.108 วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:20:05:44 น.  

 
สำหรับผม หนังตระกูลนี้ ขอดูแค่ 2 ภาค เป็นพอแล้วน่ะครับ เพราะถ้าดูต่อ ผมจะเข้าไปนั่งเฉยๆ เลยขอบายจริงๆ ตั้งแต่ภาค 3 เป็นต้นมา

แต่ในใจยังฝังใจกับภาค 1 และ 2 มากเลยครับ โดยเฉพาะฉากเปิดตัวในภาค 2 ที่ เวลานั่งรถที่ขับตามรถบรรทุกไม้ซุงทีไร ใจแป้วทุกที มันกลัวอย่างไม่มีเหตุผลเลย


โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:21:52:53 น.  

 
รอคุณหมออัพ blog ตั้งนาน ดีใจจังค่ะ


โดย: skyphere IP: 202.176.81.73 วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:9:55:11 น.  

 
อยากให้วิจารณ์หนังเรื่องหนึ่งค่ะ ค่อนข้างนานมากเกือบสิบปีแล้ว เป็นหนังในปี 2000 ชื่อ The cell ค่ะ หนังที่เข้าไปในจิตใจฆาตกรโรคจิตน่ะค่ะ เพ้อฝันหน่อยๆ แต่ส่วนตัวให้คะแนนหนังเรื่องนี้เท่ากับ Silence of the lamp เลย ( ดูแล้วอยากเรียน Psychi ต่อม๊าก ) หนังเท่มากๆ เป็นเรื่องเดียวของเจโลที่เราประทับใจ

รออ่านด้วยใจระทึก...


โดย: medicolilith IP: 172.17.198.179, 61.19.199.142 วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:17:58:55 น.  

 
ไหนๆก็เข้า twitter เลยแวะมาเยี่ยมaorta blog ซะหน่อยค่ะ แต่เรื่องนี้ไม่ได้ดูค่ะ แวะมาเยี่ยมเท่านั้น คุณผมอยู่ข้างหลังคุณ ฝันดีค่า


โดย: i am saifon IP: 125.26.91.223 วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:23:55:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
6 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.