www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

3:10 to Yuma + Before the Devil Knows You're Dead , ทำดีไม่ง่าย / ทำได้ไม่ทำ


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขอส่งเทียบเชิญเพื่อนๆผู้อ่านผ่านหน้านี้ ชวนแวะมาพบปะทักทายกัน และ เว้าวอนให้มารับลายเซ็นกลับไปเป็นที่ระทึก ในงานสัปดาห์หนังสือ วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม และ เสาร์ที่ 4 เมษายน เวลาบ่ายสองโมง โซน C1 บูธ N45 สนพ.4-letter word ศูนย์ประชุมสิริกิติติ์

พร้อมกับ ขอฝากหนังสือเล่มใหม่ชื่อ มากกว่าที่ตาเห็น - LifeScan เปิดตัวในงานหนังสือครั้งนี้ครับผม






... ผมสังเกตมานานแล้วว่า ถนนของการทำชั่ว ดูเหมือนจะเปิดกว้างและชักชวนให้คนเดินตามไปได้ง่ายๆมากกว่า ถนนของการทำดี

เช่น อยากสอบได้ที่หนึ่ง ถ้าต้องขยันหมั่นเพียรดูเป็นสิ่งที่เหนื่อยและช้า แต่ถ้าลอกข้อสอบมันแสนง่ายสบายรวดเร็ว

หรือ ถ้าอยากได้เงินซักก้อนไปซื้อรถใหม่ จะอาศัยตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงิน ดูลำบากกว่า การแอบไปมุบมิบเงินจากบริษัทมาหมุนก่อนแล้วค่อยหามาส่งคืนทีหลัง


... หนังอย่าง 3:10 to Yuma กับ Before the Devil Knows You're Dead เป็น หนังที่ฉายถนนสองเส้นทางที่ว่าให้เห็นชัด

โดยตัวละครนำจากหนังทั้งสองเรื่องต่างก็ร้อนเงิน แต่ ตัวละครในหนังเรื่องหนึ่งมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมายภายใต้กรอบของคุณธรรม ส่วนตัวละครจากหนังอีกเรื่องกลับไม่สนวิธีการใดๆหวังเพียงแต่ให้เงินมาก็เพียงพอ

ทั้งสองเรื่องทำให้เราเห็น ความยากลำบากบนเส้นทางที่เลือกเดิน และ ผลลัพธ์สุดท้าย ที่จะทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจว่า

เราจะเลือกเดินตามพวกเขาไปบนถนนเส้นไหนดี


ทำดีไม่ง่าย / 3:10 to Yuma



... คริสเตียน เบลล์ ถอดชุดมนุษย์ค้างคาว เปลี่ยนตัวเองมาเป็น แดน อีวานส์ อดีตทหารผ่านศึกที่สูญเสียขาไปหนึ่งข้างจากสงครามกลางเมือง แล้วมาใช้ชีวิตเป็นเจ้าของไร่ขาเป๋อยู่กับภรรยาและลูกชาย



แดนติดหนี้ก้อนโต ในขณะที่เจ้าหนี้หวังครอบครองที่ดินของแดน แต่เขาก็ไม่ยอมขาย เจ้าหนี้จึงส่งคนมาเผายุ้งข้าวและกำหนดเงื่อนไขว่าต้องจ่ายหนี้ภายในหนึ่งสัปดาห์มิเช่นนั้น จะโดนหนักกว่านี้

พระเอกอย่าง แดน ได้แต่วิ่งหัวหกก้นขวิดไปดับไฟ แถมวิ่งๆไปขาเทียมก็เกิดหลุด ไม่มีสภาพของพระเอกสุดเท่ ทำให้ ลูกชายคนโต ดูจะไม่นับถือพ่อเท่าไหร่ เพราะ พ่อไม่เก่งกาจอย่างที่คาดหวัง

แดน รับรู้ถึง ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว เขาจึงตัดสินใจหาเงินด้วยการ เสนอตัวเป็นหนึ่งในทีมที่จะคุมตัว เบน เว้ด สิงห์ปืนไว จอมโจรที่ชื่อเสียงโด่งดัง ไปส่งที่สถานีรถไฟภายในเวลาบ่ายสามสิบนาที เพื่อนำตัวเบนไปตัดสินคดีและติดคุกที่เมือง Yuma



งานนี้ไม่ใช่งานง่ายๆ เพราะ กว่าจะไปถึงจุดหมาย แดน ต้องรับมือกับลูกสมุนโจรในทีมของเบน ที่ประกาศลั่นว่าจะพาตัวลูกพี่กลับมาให้จงได้

ยังมี เหล่าอดีตคู่อริของเบนที่จ้องจะฉกตัวไปแก้แค้น แถม นายเบนที่รับบทโดย รัซเซล โครว์ ก็ไม่ใช่แค่ฝีมือดี ฝีปากก็ร้าย ช่างเจรจา รู้จิตวิทยาที่จะเล่นงานผู้คน

เมื่อ เบน รู้ว่า แดน ร้อนเงินและรักครอบครัว จึงสรรหาข้อเสนอสินบนมาล่อใจให้ ปล่อยตัวเขากลางทาง แต่ถึงเบนจะพยายามผูกมิตรกับแดนเพียงใด แดนก็ไม่ใส่ใจที่จะญาติดีด้วย


... ตลอดเส้นทางตั้งแต่เริ่มจนจบ เราจะเห็นว่า มีทางเลือกในการหาเงินกลับบ้านที่ง่ายและสบาย มากกว่าเสี่ยงตายไปส่งโจรที่สถานีรถไฟ

ไม่ว่าจะเป็น การรับสินบนที่ เบน เว้ด เสนอให้ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าค่าตอบแทนที่จะนำตัวเบนไปขึ้นรถไฟเสียด้วยซ้ำ หรือไม่ก็ ขายนาย เบน เว้ด ไปให้คู่อริแลกกับเงินซักก้อน เพราะ นาย เบน เว้ด ก็ไม่ใช่คนดีอะไรนักหนา

แถมเมื่อมาถึงโรงแรมที่พักใกล้สถานีรถไฟ ภารกิจนี้ก็ยากเป็นทวีคูณ เมื่อสมุนของ เบน ตามมาทัน และประกาศกลางเมืองว่า ถ้าใครเก็บแดนและพวกพ้องได้จะมีค่าหัวให้ นั่น ทำให้ศัตรูของแดนเพิ่มขึ้นไปเป็นสี่สิบห้าสิบคนที่หวังจะได้ค่าหัวในการยิงเขาทิ้ง

ถึงจุดนั้น แดน เป็นคนเดียวที่ไม่ถอนตัวออกจากภารกิจนี้ แม้คนว่าจ้างที่มาด้วยจะกลัวตายและรับปากจะจ่ายเงินให้แดนเท่ากับค่าจ้างที่เขาจะได้รับ ขอเพียงทิ้ง เบนเว้ด ไว้ แล้วกลับบ้านไปด้วยกัน

แดนก็ยืนยันจะเป็นคนนำส่ง เบน เว้ด ขึ้นรถไฟไป Yuma ภายในเวลา 3:10

...เชื่อว่ามาถึงตอนนี้ แดนอาจจะเป็นเหมือน คนโง่ที่เคร่งในหลักการ ในสายตาของใครบางคน แต่ไม่ใช่ ในสายตาของ เบน และ ลูกชาย แน่ๆ

เพราะเมื่อถึงตอนสุดท้าย เราทุกคนก็จะเห็นว่า ทำไมคนเราถึงเลือกที่จะยังทำความดี แม้ว่า ความดี นั้นบางทีก็แสนสาหัสกว่าจะทำได้



... ฉากสำคัญที่อธิบายความคิดและการตัดสินใจของตัวละครทั้งสองคน มาจาก ฉากเปิดใจของเบน กับ แดน ในช่วงท้าย เริ่มต้นจาก

เบน เล่าเรื่องตอนอายุแปดขวบ เมื่อพ่อจากไป เขาก็ ถูกแม่หลอกให้รอที่สถานีรถไฟอ้างว่าเดี๋ยวจะมารับ แล้วทิ้งเขาไว้โดยไม่กลับมาอีกเลย อารมณ์เศร้าของเบน แสดงให้เห็นภาพของ เด็กคนหนึ่งที่ถูกทอดทิ้งมาตั้งแต่เล็กและไม่มีภาพพ่อแม่ที่ดีเก็บอยู่ในใจ

ส่วน แดน ก็เผยเรื่องที่เขาไม่ยอมขายที่ดินให้เบนฟัง เมื่อเริ่มรู้สึกถึงมิตรภาพที่ก่อตัว แดนบอกว่า การยืนหยัดอยู่ในที่ดินผืนนั้นไม่ใช่เพราะตัวเองเป็นคนดื้อด้านอย่างที่เบนว่าไว้ แต่ ที่ดินผืนนั้นมีความสำคัญตรงสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสำหรับลูกชายคนเล็กที่เคยเกือบตายเพราะโรคปอด ซึ่งถ้าได้อยู่ที่เดิมจะช่วยไม่ให้โรคปอดกำเริบ เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องที่ดินนั้นให้ได้

แดน ไม่ใช่พระเอกปืนไว หรือ แม่นเป้า เขาเป็นแค่คนธรรมดาๆขาเป๋ที่พยายามจะปกป้องครอบครัวให้มีที่อยู่ อยากหาเงินมาเจือจุนครอบครัว แต่ก็อยากให้ลูกอยู่อย่างซื่อสัตย์และมีศักดิ์ศรี

ในขณะเดียวกัน แดนก็เป็นสัญลักษณ์ของ ‘ภาพพ่อแม่( parental figure)’ ที่เบนขาดหายไป ภาพพ่อแม่ ที่ไม่คิดจะทอดทิ้งลูก และ พยายามทุกวิถีทางที่จะปกป้องลูกและครอบครัวให้มีชีวิตที่ดี โดยยอมแลกแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง

...ดูหนังเรื่องนี้จบ สิ่งหนึ่งที่ผมแปลกใจ คือ การที่มีคนใจป้ำนำเข้า หนังแผ่นคาวบอยดีๆแต่เชื่องช้าอย่าง The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford แต่ หนังคาวบอยมันส์ๆแมนๆอย่างเรื่องนี้กลับไม่มีคนสนใจ ทั้งๆที่ตัวหนังมีองค์ประกอบแข็งแรงหลายอย่าง เช่นเป็นผลงานของ ผู้กำกับ James Mangold ที่กราฟการงานพุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ Identity ไปสู่ Walk the line

อีกทั้ง หนังก็ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นของ Elmore Leonard เจ้าพ่องานเขียนอาชญากรรมที่ฮอลลีวูดนิยมนำมาดัดแปลงเป็นหนังอย่าง Get Shorty หรือ Out of Sight

เท่านั้นยังไม่พอ การได้ คริสเตียน เบลล์ กับ รัซเซลโครว์ มาประกบคู่ในบรรยากาศขี่ม้าฝ่ากระสุนปืน ก็ถือว่าคุ้มค่า เมื่อร่วมกับฉากแอคชั่นสนุกๆมากมาย ทำให้ เป็นหนังที่ผมให้ นิยามสั้นๆสามคำคือ ‘เท่ มันส์ และ แมน’


ทำ(ดี)ได้(แต่)ไม่ทำ / Before the Devil Knows You're Dead




... 3:10 to Yuma ทำให้เห็นว่า การทำความดีนั้นไม่ง่าย แต่ยังมีคนอย่าง แดน ที่เหนื่อยแทบตายก็เลือกจะทำ

ในทางตรงกันข้าม บางคนมีโอกาสให้ทำดี ให้กลับตัวกลับใจ อยู่ตรงหน้า แต่ พวกเขาก็ยังหวังเส้นทางที่สะดวกกว่า จนกลายเป็นเลือกแต่ทางที่เป็นบาปอยู่ร่ำไป

อาทิเช่น สมาชิกครอบครัวจากหนัง Before the Devil Knows You're Dead ที่ผมขอยกตำแหน่งให้เป็นครอบครัวตัวอย่างในทางเสื่อมประจำปี



ครอบครัวนี้มี แอนดี้ และ แฮงค์ สองพี่น้องที่กำลังร้อนเงิน แอนดี้ ผู้พี่เป็นพนักงานบริษัทที่กำลังจะเดือดร้อน เพราะ เขายักยอกเงินในบริษัทไปใช้ล่วงหน้า และไม่สามารถหามาคืนทันเวลาที่ผู้ตรวจสอบจะมาถึง ครั้นเมื่อเจอปัญหาแทนที่แอนดี้จะตั้งหน้าเก็บเงินเขียมๆหรือสารภาพความผิด ก็ยังดันไปเล่นยาต่อ

ส่วน แฮงค์ คนน้องกำลังเดือดร้อนเพราะไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเลี้ยงดูลูก และ กำลังจะถูกอดีตภรรยาตัดสิทธิการดูแลลูกของเขาไป



... พี่ชายตัวดีวางแผนหาเงินด้วยการเสนอให้ น้องไปปล้นร้านเพชรของพ่อแม่ ตอนที่พนักงานสาวแก่เป็นคนเฝ้าร้านตามลำพัง และให้ใช้ปืนเด็กเล่นแค่ขู่ให้กลัว แอนดี้มั่นใจว่า แผนนี้จะไม่มีคนเจ็บตัว และ ถ้าแผนรั่วก็คนกันเองไม่น่าจะเดือดร้อน แถมร้านของพ่อแม่ก็มีประกันอยู่แล้ว เป็นสถานการณ์ที่ win-win กันทุกฝ่าย

กระบวนการคิดแบบ win-win ที่ไม่สนหลักการหรือศีลธรรม นำมาซึ่ง ผลร้ายเมื่อแผนการไม่เป็นตามที่ตั้งใจ เพราะ แฮงค์ ชวนเพื่อนอีกหนึ่งคนร่วมวงปล้นร้าน บังเอิญ วันนั้นพนักงานสาวแก่มาสาย แม่ของสองพี่น้องจึงมาเฝ้าร้านเอง และ เธอฮึดสู้กับเพื่อนของแฮงค์ที่ดันเอาปืนจริงมา จนทุกอย่างบานปลายเกินกว่าจะควบคุม



... เหตุการณ์แล้วเหตุการณ์เล่าที่ผ่านไป ทำให้ผมคิดว่าชื่อหนัง Before the Devil Knows You're Dead ที่ขยายมาจากประโยคเปิดเรื่องที่ยกมาจากคำของชาวไอริชที่ว่า "May you be in heaven half an hour before the devil knows you're dead." ช่างตรงกับเนื้อหาเป็นอย่างยิ่ง

เราได้เห็น สวรรค์ของสองพี่น้อง เริ่มต้นตอนที่พวกเขาวาดฝันว่าจะมีเงินทองมากองตรงหน้า โดยทั้งคู่ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่า วินาทีที่เริ่มต้นคิดวิธีการปล้น พวกเขาก็ตกนรกไปกว่าครึ่งตัวแล้ว และ เมื่อเริ่มทำตามแผนการที่วางไว้ ก็เท่ากับกวักมือเรียกปีศาจให้มารับตัวไปเร็วยิ่งขึ้น

พวกเขามีทางเลือกที่จะไม่ปล้นแต่หาหนทางสุจริต ค่อยๆหาเงินมาแก้ปัญหา , มีทางเลือกที่จะยอมรับผิดเมื่อแผนพลาด แล้วมอบตัวให้กับทางการ , มีทางเลือกมากมายหลายครั้งที่จะแก้ไขอย่างตรงไปตรงมา แต่ครั้งแล้วครั้งเล่าที่พวกเขากลับ ขุดหลุมฝังตัวเองให้ลึกขึ้นด้วยการก่อปัญหาใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ

ซึ่งจะว่าไปแล้ว หากมองย้อนไปถึง การทำผิดในอดีตที่ผ่านมาโดยไม่มีความรู้สึกผิดหลงเหลือในใจ เช่น การที่แอนดี้ยักยอกเงินบริษัท หรือ การที่แฮงค์ไปเป็นชู้กับคนอื่น ก็พอจะบอกรูปแบบการใช้ชีวิตของทั้งสองคน ที่เชื้อเชิญปีศาจมารับพวกเขากลับไปนรกมาตั้งแต่ต้นแล้ว



... ดูหนังเรื่องนี้จบ ถ้าผมไม่อ่านข้อมูลของหนังก่อน ผมก็ไม่อยากเชื่อว่า ลีลาเล่าเรื่องสวิงสวาย หยอดความจัดจ้านย้อนไปย้อนมาแบบนี้ จะเป็น ฝีมือของผู้กำกับวัย 83 ปี เพราะผลงานชิ้นนี้ของ คุณปู่ Sidney Lumet อัดความตึงเครียดที่พึงจะมีในหนังดราม่าให้ออกมากระฉับกระเฉงและเข้มข้นถึงใจเป็นอย่างยิ่ง

บวกกับ การแสดงของสี่ตัวละครหลักที่พร้อมใจกันมาท๊อปฟอร์ม ทั้ง มาริสา โทเมอิ , ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมนน์ มาในบทพี่ชายของครอบครัวมีปัญหาเป็นเรื่องที่สองของปี ซึ่งอีกเรื่องก็คือ The Savage ที่เขาเล่นได้ดีไม่แพ้กัน , อีธาน ฮอว์ค กับบท น้องชายที่นิสัยยังไม่ยอมโต และ เมื่อถึงฉากสุดท้าย เชื่อได้ว่าหลายคนจะลืมภาพพ่อผู้อบอุ่นของ Albert Finney จากใน Big fish ไปโดยสิ้นเชิง



ทำดีไม่ง่าย แต่ ถ้าทำได้ จะทำหรือไม่ทำ


... 3:10 to Yuma กับ Before the Devil Knows You're Dead มีตัวละครของคนเป็นพ่อที่กำลังร้อนเงินและอยากให้ลูกยอมรับ



หากแต่ พ่อคนหนึ่งเลือกเป็นต้นแบบในทางของการทำดี เลือกที่จะมีศักดิ์ศรี มีเกียรติยศ เมื่อเขาจากไป ก็จะเป็นทั้งพ่อและเป็นทั้งต้นแบบ(role-model)ที่ใครรู้จักเรื่องราวก็ยกย่องชื่นชม อยากที่จะเจริญรอยตาม

แต่ พ่ออีกหนึ่งคนกลับต้อง จากไปในฐานะ ฆาตกรที่สมรู้ร่วมคิดและหนีกระเซอะกระเซิง



หนังสองเรื่องนี้ไม่ได้เป็นตำราสอนสั่งศีลธรรม ที่มาตอกย้ำว่า จงทำดี เพียงแต่หนังทำให้เราได้เห็นว่า การทำดีอาจยากและลำบาก แต่ เราก็สามารถเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ

และ ถ้าเราเลือกที่จะทำ(ดี) ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร แต่ ท้ายที่สุด มันก็สามารถเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ถึง คุณค่าและเกียรติยศของคน ที่มีค่ามากกว่า ผลลัพธ์หรือเป้าหมายที่คาดหวัง

และ มันก็ทำให้เราและลูกหลานภูมิใจเมื่อได้หวนคิดถึง การทำดี แทนที่จะต้องมานั่ง ละอายใจ ไปกับความผิดที่ติดตัว







บทสรุปแห่งปี 2008

9 หนังดี(วีดี)น่าดู ประจำปี 2008

10 ตัวละครประทับใจ ประจำปี 2008

10 ฉากประทับใจ ประจำปี 2008

50 หนังประทับใจ ประจำปี 2008(ตอน 1)

5 หนังไม่ชอบ + 50 อันดับหนังประทับใจ ประจำปี 2008 (ตอนจบ)





พื้นที่แนะนำผลงาน{ตัวเอง}

(คลิกที่รูปหนังสือ เพื่อ อ่าน หรือ แสดงความเห็น ต่อหนังสือแต่ละเล่มได้เลยครับ)

ปีนี้ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ขอฝากผลงานเล่มล่าสุดที่เพิ่งคลอดจ้า อันว่าด้วย 'ความรักและกำลังใจ' ผ่านแรงบันดาลใจจากชีวิตและภาพยนตร์ ในหนังสือที่ชื่อว่า

เมื่อฉันลืมตา แล้วโลกเปลี่ยนไป



และ ผลงานสองเล่มก่อน จากสองปีที่ผ่านมา



"หนังสือรัก" หนังสือที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม กับ องศาที่ 361 หนังสือที่อาสาช่วยคุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยอาศัย'หนัง'เป็นสะพานพาไปเข้าใจตัวเอง


มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก

พูดคุยกับเจ้าของ Blog คลิก

เปิดหารายชื่อหนังเก่าๆนอกเหนือจากในหน้าสารบัญ คลิก





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป



Create Date : 25 มีนาคม 2552
Last Update : 25 มีนาคม 2552 0:33:54 น. 10 comments
Counter : 6469 Pageviews.

 
เคยลงใน FILMAX แล้วนิครับ


โดย: McMurphy วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:10:08:20 น.  

 
อิอิ มีคนจำได้ด้วย ช่วงนี้ขอขายของเก่าลงบล็อกก่อนครับ ยังไม่ว่างเขียนเรื่องใหม่ๆเลย


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:10:22:24 น.  

 
ไม่เป็นไรเนาะ สำหรับคนที่พลาดฉบับนั้นไป


โดย: Ghoeby วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:10:22:34 น.  

 
+ ยังไม่ได้ดู และอยากดูมากมายทั้ง 2 เรื่องเลยอ่ะครับ แหะๆ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:10:32:03 น.  

 

Yumaน่าดูนะคะ..ชอบหนังแนวนี้
ขี้ม้ายิงปืน..เถือ่นๆ..5 5 5


พักนี้เศษฐกิจไม่ค่อยดี..ไปฟังเพลงกระแทกหูกันดีกว่า..
ว่าจะชวน(+ส่งข่าว)ไปดูวง Hard Core/Metal /Progressive
จากอเมริกา ซะหน่อย...


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:22:37:27 น.  

 
หนังลอบฆ่าจีซซี่เจมส์ มันกล้าเอาเข้ามาก็น่าจะเพราะแบรดพิทแหละครับ พลังดารายังไงก็ขายได้


โดย: the red IP: 203.155.247.126 วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:4:32:49 น.  

 
3:10 to Yuma จนป่านนี้ยังไม่เห็นมี DVD หรือ VCD ออกมาเลย ไม่ทราบว่าเป็นเพราะติดขัดเรื่องอะไร เพราะตามฟอร์มหนัง คอหนังพันธ์แท้ต้องไม่พลาดอยู่แล้ว สำหรับเรื่อง Before the devil know you're dead ดูแล้วยอดเยี่ยมสมศักดิ์ศรีผู้กำกับรุ่นปรมาจารย์ Sidney Lumet ตั้งแต่ Serpico และอีกหลายสิบเรื่อง ล้วนเป็นหนังคุณภาพทั้งสิ้น
บทความวิจารณ์หนังได้ค่อนข้างละเอียด ให้ข้อมูลความรู้ อ่านแล้วเห็นภาพไปกับท้องเรื่อง ผมชอบมากครับ เป็นคนรักการดูหนังมาก แต่บางเรื่องดูแล้วค่อนข้างเข้าใจยาก จนกว่าได้อ่านบทวิจารณ์ตีความในบางประเด็นหลัก ๆ


โดย: psw2548 IP: 117.47.84.6 วันที่: 30 มีนาคม 2552 เวลา:11:26:52 น.  

 
รอดู yuma จนเกือบลืมไปแล้ว ถ้ายังไม่มีแววก็พึ่งผีละกัน
before the devil know ชอบสุดๆ โดยเฉพาะการพูดถึงปมพ่อลูกในตอนหลัง ที่สำคัญ ฉากสุดท้ายหลอนได้ใจ


โดย: yatiko IP: 118.173.159.53 วันที่: 30 มีนาคม 2552 เวลา:15:46:57 น.  

 
เขียนดีมากครับ ผมชอบทั้งสองเรื่อง
(แต่แอบชอบ 3:10 มากกว่าเยอะๆๆ อิอิ)



โดย: nusfish IP: 202.151.41.114 วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:13:20:34 น.  

 
กำลังจะไปหาเรื่อง 3:10 to Yuma พอดี ได้รีวิวของคุณมาช่วยในการตัดสินใจอย่างดี
ความดีจริงๆก็ไม่ยากและไม่ง่าย อยู่ที่ว่าเราเลือกที่จะทำอะไรมากกว่า อะไรที่ทำแล้วขัดกับจิตสำนึก ทำไปคิดว่าส่วนลึกของจิตสำนึกจะสั่งการให้มีความสุขจริงหรือเปล่า ? : ))


โดย: ผ่านมา IP: 223.206.214.235 วันที่: 18 กรกฎาคม 2554 เวลา:14:33:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
25 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.