www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

SHREK 4 (3D)



... ไม่มีทางเลือกตอนตีตั๋ว เพราะไม่มีเวอร์ชั่นปกติเข้าฉายนอกจาก 3D จึงจำใจตีตั๋ว 3D ทั้งทิ่คิดแล้วว่าจะไม่ดูสามมิติพร่ำเพรื่อยกเว้นเป็นหนังสามมิติประเภท “โอ้ววว จอร์จ ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้” อย่าง Tron Legacy

Shrek ภาคนี้เป็นเวอร์ชั่นวิกฤติวัยกลางคน ผสม โลกคู่ขนานหนังเล่าเรื่องต่อเนื่องจากภาค 3 ที่ Shrek แต่งงานมีลูกสามคน กิจวัตรของคนเป็นพ่อ ถูกปลุกถูกกวนจากลูกเล็กแต่เช้าตรู่ เปลี่ยนผ้าอ้อม เลี้ยงลูก ทำงานบ้าน ง่วนทำโน่นทำนี่ หมดเวลาไปวันๆ เหมือนวงจรที่ผ่านไปซ้ำๆวันแล้ววันเล่า

ทำให้ Shrek หวนคิดถึงวันเก่าๆที่เคยเป็นยักษ์มีผู้คนหวาดหวั่น ได้มีอิสระของตัวเองในการทำอะไรได้ดั่งใจ เขาจึงเผลอไปเซ็นสัญญากับตัวร้าย ทำให้หลุดไปในโลกอีกใบ ที่ผู้คนรอบตัวไม่เคยรู้จัก Shrek มาก่อน และ ตัวร้ายกลายเป็นพระราชาไล่ล่ายักษ์



พล็อตปาฏิหาริย์หรือเวทมนต์ที่พาพระเอกไปอยู่ในโลกคู่ขนานเพื่อเรียนรู้ชีวิตก็คล้ายๆกับ It’s a wonderful life , family man ฯลฯที่พระเอกจะค่อยๆเรียนรู้ว่าสุดท้าย สิ่งสำคัญที่สุดคือ ครอบครัวที่อยู่ตรงหน้า ฯลฯ

ซึ่งพล็อตประมาณนี้ ถ้าทำได้ดีๆ จะสร้างแรงบันดาลใจให้คนดูได้มาก แต่ บังเอิญที่ผมรู้สึกว่า มันไม่เหมาะกับ หนังอย่าง Shrek เท่าไหร่ และ ตัวหนังก็พาคนดูไปได้ไม่ไกลหรือลึกซึ้งมากมายนักกับประเด็นที่ผูกไว้ตอนต้น

จุดเด่นหรือของดีที่ หนังตระกูล Shrek ลดน้อยถอยลงเรื่อยๆคือ มุกตลกฉลาดๆกับการล้อเลียนแสบๆฮาๆ เหมือนเช่นภาคแรกที่มุกทุกเม็ด แสดงให้เห็นความเฉียบคม และ มันก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ จนผมคิดว่า ภาค 3 ทีมงานสร้างน่าจะรู้ตัวแล้วว่า หมดเวลาของยักษ์เขียวแล้ว

แต่ เมื่อยังฝืนทำภาค 4 ต่อ พร้อมกับฉีกเรื่องราวให้มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แทนที่จะช่วยเปิดทางใหม่ๆให้กับ Shrek แต่กลับยิ่งทำให้อนาคตยิ่งตีบแคบ และ ทำให้ตอนต้นของ Shrek ดูแปร่งๆและน่าเบื่อไปซะ



ตัวละครที่เรียกเสียงฮาและขโมยซีนได้มากที่สุดคือ เหมียวอ้วน ที่ยังรักษาระดับของตัวเองได้ดี ในขณะที่ตัวละครอื่นๆทำเสน่ห์และความน่าสนใจตกหล่นไปอย่างน่าใจหาย

เทียบกับมาตรฐานแอนิเมชั่นทั่วๆไป Shrek 4 ก็ยังอยู่ในมาตรฐาน แต่เทียบกับ มาตรฐานของหนังShrek ภาคสี่ตอกย้ำสิ่งที่ทำให้เห็นมาแล้วจากภาค 3 ว่า ดรีมเวิร์ค ควรจะหยุดหากินกับ ยักษ์เขียว ก่อนที่จะเสื่อมมนต์ขลังไปมากกว่านี้ สู้ลงเวทีแบบที่ยังน่าจดจำดีกว่า แล้วหันไปพึ่งพา แพนด้า (Kung fu panda2) ฆ่าเวลาก่อนจะหาตัวใหม่ๆมาชูโรง

ป.ล. 3 มิติ ไม่เวียนหัว แต่ ไม่จำเป็นเลย (กับราคาตั๋ว ถ้าที่นั่งธรรมดา คงเฉยๆ แต่ เจอราคาสามมิติเข้าไป ทำให้รู้สึกเสียดายตังค์กับหนัง)




ขอฝาก หนังสือเล่ม 5 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" จ้า
(ตามร้านหนังสือทั่วไทย หลังสงกรานต์นี้)










อ่านจบแล้ว ชวนมาคุยกันที่นี่ครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=18

และ

ความเห็นของ เพื่อนผู้อ่านที่อ่านจบแล้ว และสละเวลาเขียนถึง

//blogs.lumamagic.com/?p=1957



หนังสือ 4 เล่มก่อนหน้าที่ว่าด้วย 'ภาพยนตร์ - จิตวิทยา - พัฒนาตัวเอง(self - development)' ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"








สำหรับเพื่อนๆที่เล่น FaceBook หรือ Twitter ณ.บัดนาว "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขยายสาขาเรียบร้อยแล้วจ้า






Create Date : 25 พฤษภาคม 2553
Last Update : 25 พฤษภาคม 2553 9:44:19 น. 7 comments
Counter : 4934 Pageviews.

 


โดย: Scorchio วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:34:17 น.  

 
เหมือนจะไม่สนุกใช่ไม๊เนี่ย คิดไว้แล้วเชียว


โดย: Cutetetsu วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:40:06 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:32:15 น.  

 
ความเห็นผมนะครับ

Shrek Forever After[C]
สิ่งที่ทำให้ Shrek ภาคก่อนๆ โด่งดังและเป็นที่น่าจดจำ คือ ความคิดสร้างสรรค์และความกล้าแหกสูตร

แต่น่าเศร้าที่พอมาถึงภาคนี้ผู้สร้างกลับทิ้งเสน่ห์ของ Shrek ภาคก่อนๆ แล้วทำตัว Play Safe จนทำให้ Shrek 4 กลายเป็นหนังสูตรที่คาดเดาง่าย

บวกกับความไม่สนุกและฝืดเฝือของเนื้อเรื่องและมุขตลก ทำให้ Shrek ภาคนี้กลายเป็นภาคที่ไม่น่าจดจำที่สุด ซึ่งถือเป็นการปิดตำนาน Shrek ที่ไม่น่าประทับใจเลย


โดย: ฟ้าดิน IP: 112.142.127.34 วันที่: 26 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:44:21 น.  

 
แต่เชร็คก็หน้าไม่แก่ขึ้นเลยครับ


โดย: เจรามี วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:58:22 น.  

 
แต่ก็เป็น shrek ภาคแรก และภาคเดียวที่ทำผมร้องไห้ก็แล้วกันน่ะ

ผมว่าจบได้โอเคเลยล่ะ


โดย: มีน IP: 161.200.209.57 วันที่: 31 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:50:30 น.  

 
ภาคแรกประทับใจมากที่สุด
แต่เป็นแฟนเชร็คก็ต้องตีตั๋วไปดูอยู่ดีค่ะ
แต่ไม่อยากให้เป็น3มิติเลยไม่เหมาะ
ปล. งงว่าตัวร้าย ทำไมต้องมีเป็ด(หรือห่านว้า)
มาเป็นเพื่อนคู่ใจ ไม่รู้อยู่ใทพนิยายเรื่องไหน


โดย: romy IP: 192.168.1.23, 58.10.12.134 วันที่: 2 มิถุนายน 2553 เวลา:19:19:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
25 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.