www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Movie and Me : 9 หนังดี(วีดี)น่าดู ประจำปี 2008 โดย "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"

สวัสดีปีใหม่ครับ

... เป็นธรรมเนียมประจำ blog ครับ ที่เจ้าของblog ผู้แฮปปี้กับการดูหนังและการเขียน จะขอรวบรวมความประทับใจเมื่อสิ้นสุดปี มาพูดคุยกับเพื่อนผู้อ่านเฉกเช่น สี่ปีที่ผ่านๆมา ในหัวข้อ

Movie and Me



ซึ่งประกอบไปด้วย

หนังดีวีดีที่อยากแนะนำ
10 ตัวละครประทับใจ
10 ฉากประทับใจ
10 หนังประทับใจประจำปี



และปีนี้ขอเริ่มต้นด้วย

9 หนังดี(วีดี)น่าดู ประจำปี 2008

(เลือกอ่าน บทความของปีก่อนเกี่ยวกับดีวีดีแห่งปี คลิก --> 10 หนังดี(วีดี)น่าดู ประจำปี 2007)



... หนังที่เลือกมา อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า

- เป็นหนังโรงที่บ้านเขา แต่ พอมาบ้านเรา ถูกส่งตรงไปเป็นแผ่นทันที นั่นทำให้หลายๆคนอาจพลาดไปเพราะไม่รู้จัก ทั้งๆที่เป็นหนังดี

- ดูสนุก ไม่ใช่ หนังอาร์ต ไม่ต้องใช้บันไดมาปีนดู เป็นหนังในกระแส ไม่ใช่หนังอิหร่าน หรือ บังกลาเทศ ที่นอกกระแสเกินไปนัก

- หนังเหล่านี้เป็นหนังลิขสิทธิ์ หารับชมได้ไม่ยากเย็น



... หนังที่เข้าเงื่อนไขข้างต้น และเป็นหนังที่ผมประทับใจเชียร์ให้รับชม ปีนี้คัดเลือกมาได้ทั้งสิ้น 9 เรื่อง ดังรายนามต่อไปนี้


9 หนังดี(วีดี)น่าดู โดย "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ประจำปี 2008
[ไม่เรียงลำดับ]



1.The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford



...ประหลาดแต่จริง นอกจาก ชื่อหนังเรื่องนี้ยาวเหยียดอย่างโดดเด่น มันยัง เฉลยเรื่องราวของหนังตั้งแต่ต้นจนจบไปเรียบร้อยแล้ว คือ เรารู้ล่วงหน้าเรียบร้อยโรงเรียนคาวบอยว่า จอมโจรชื่อดัง เจซซี่ เจมส์ ถูกฆ่าโดยลูกน้องขี้ขลาดชื่อ บ๊อบ ฟอร์ด

ดังนั้น ความสำคัญที่หนังเรื่องนี้นำเสนอ จึงไม่ใช่เรื่องของจุดหักมุมหรือจุดจบของตัวละคร แต่ หนังพาเราไปสำรวจว่า เพราะอะไรเด็กหนุ่มที่มี เจซซี่ เจมส์ เป็นวีรบุรุษถึงคิดสังหารเขา และ จิตใจของเขาจะเป็นอย่างไร เมื่อตัวเองเป็นฮีโร่ฆ่าโจรให้ประชาชน แต่สุดท้ายถูกตราหน้าเป็นไอ้ขี้ขลาด



ความเป็นจริงข้อหนึ่งของหนังเรื่องนี้คือ มันชวนง่วงเหงาหาวหลับเป็นระยะๆ พยายามนิ่งเนิบมากไปหน่อย ทั้งๆที่จะขยับให้เดินเรื่องเร็วกว่านี้อีกนิดก็ยังได้ จนผมขนานนามว่าเป็น หนังคาวบอยเหงาหลับ ที่น่าหามาดู

เพราะ ความง่วงเหงา ไม่ได้บดบังข้อดีที่โดดเด่นหลายประการ ที่ควรค่าน่าจะหามารับชม อาทิเช่น การถ่ายภาพที่งามมาก บางฉากขอใช้คำเว่อร์ๆคือ งามเหมือนบทกวี แสงและเงาของหนังเรื่องนี้เหมือนเป็นพระเอกอีกคน , เป็นหนังที่แบรด พิตต์ เล่นได้ดีมากอีกเรื่อง , มีการพัฒนาบุคลิกของตัวละครและการแสดงที่โดดเด่นของ เคซี่ อัฟเฟล็ค

เหตุผลที่ไม่ประสบความสำเร็จ น่าจะมาจากข้อเดียวคือ ใส่ยานอนหลับมากเกินไป



2.Before the Devil Knows You're Dead



... เรื่องมีอยู่ว่า พี่ร้อนเงิน น้องก็ร้อนเงิน ทั้งคู่จึงวางแผนปล้นร้านเพชรของพ่อแม่ กะว่าปล้นหลอกๆชิวๆใช้ปืนปลอมขโมยของไปปล่อย พ่อแม่ไม่เดือดร้อนเพราะจะได้เงินประกันตามมา แต่เหตุการณ์โอละพ่อจนเกินควบคุม

ดูหนังเรื่องนี้จบ ถ้าผมไม่อ่านข้อมูลของหนังก่อน ผมก็ไม่อยากเชื่อว่า ลีลาเล่าเรื่องสวิงสวาย หยอดความจัดจ้านย้อนไปย้อนมาแบบนี้ จะเป็น ฝีมือของผู้กำกับวัย 83 ปี เพราะผลงานชิ้นนี้ของ คุณปู่ Sidney Lumet อัดความตึงเครียดที่พึงจะมีในหนังดราม่าให้ออกมากระฉับกระเฉงและเข้มข้นถึงใจเป็นอย่างยิ่ง



บวกกับ การแสดงของสี่ตัวละครหลักที่พร้อมใจกันมาท๊อปฟอร์ม ทั้ง มาริสา โทเมอิ , ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมนน์ มาในบทพี่ชายของครอบครัวมีปัญหาเป็นเรื่องที่สองของปี, อีธาน ฮอว์ค กับบท น้องชายที่นิสัยยังไม่ยอมโต และ เมื่อถึงฉากสุดท้าย เชื่อได้ว่าหลายคนจะลืมภาพพ่อผู้อบอุ่นของ Albert Finney จากใน Big fish ไปโดยสิ้นเชิง

หนังสนุก ใช้จังหวะเชื่อมเหตุการณ์อย่างฉลาด และ มาริสา โทเมอิ ก็ โอ้วววววว ว้าวววววววว



3. Definitely Maybe



... คุณพ่อยังหนุ่มอย่าง วิล เฮย์ส กำลังเจอโจทย์ยากที่ต้องตอบลูกสาววัยสิบขวบ เมื่อเธออยากรู้เรื่องราวความรักครั้งหลังของพ่อกับแม่ตัวเองว่า ชีวิตคู่ของพ่อกับแม่ตอนก่อนจะมีเธอนั้นเป็นอย่างไร

เหตุผลที่ตอบยาก เพราะวิลเองคงไม่มีกะจิตกะใจจะเล่าเรื่องรักโรแมนติกนี้เท่าใดนัก เนื่องจากเขากำลังจะหย่าขาดจากภรรยา และ ลูกสาวเองก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี

แต่ด้วยลูกอ้อนของลูกสาว วิล จึงรับปากว่าจะเล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ฟังโดยตกลงว่าจะใช้ชื่อตัวละครในเหตุการณ์เป็นชื่อสมมติ และจะไม่บอกว่า หญิงสาวในเนื้อเรื่องคนไหน คือ แม่ของเธอ

คนดูจะได้ลุ้นไปกับเจ้าลูกสาวตัวน้อยในการสืบค้น เรื่องราวชุลมุนวุ่นรักในอดีตว่า หญิงสาวคนไหนคือรักแท้ของพ่อ



หนังเรื่องนี้มีการเล่าเรื่องที่น่าติดตามและพบไม่บ่อยในหนังโรแมนติก สำหรับการที่ใช้เวลากว่าครึ่งเรื่อง เหมือนหนังสืบสวนหาตัวจริงที่เป็นแม่ของเด็กสาว แต่หนังก็สามารถทำให้เรานั่งลุ้นและซาบซึ้งไปพร้อมๆกันได้

ข้อดีอีกอย่างคือ หนังมีความสมจริงที่เมื่อเฉลยแล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามทางที่มันควรจะเป็น

นี่คือ หนังรักโรแมนติกคอมิดี้ ที่ฉลาด น่ารักและซึ้งเล็กๆ สำหรับแฟนๆรอมคอมห้ามพลาด



4.Forgetting Sarah Marshall




ถึงจะไม่ใช่ จั๊ด อพาโธรว์ กำกับ แต่หนังเรื่องนี้ก็อยู่ในเครือข่ายก๊วนเดียวกัน ปกติตัวเองไม่ใช่แฟนหนังของก๊วน อพาโธรว์ เพราะ จริตความขำไม่ตรงกัน ดูอย่าง The 40-Year-Old Virgin ที่หลายคนบอกหนังฮาก๊าก แต่ตัวเองแค่ฮาหึ

กระนั้นก็ดี เวลามีหนังของกลุ่มก๊วนนี้ทำออกมา ก็ไม่เคยพลาด เพราะ ไม่ได้ถูกดึงดูดด้วยความฮา แต่ชอบ ความฉลาดของตัวบท และ แง่มุมอบอุ่นที่หนังแอบแทรกอยู่ตลอดอย่างใน Knocked Up หรือ Superbad



ปีก่อนเชียร์ Knocked Up มาปีนี้ก็ขอเชียร์ Forgetting Sarah Marshall หนังชื่อเรื่องเก๋ๆ เกี่ยวกับ ซาร่าห์ มิเชลล์ ที่เป็นนักแสดงสาวดาวรุ่ง เธอเป็นแฟนของ นักแต่งเพลงประกอบรายการทีวีคนซื่อ แต่แล้ววันหนึ่งหนึ่งเธอบอกเลิกกับเขาเพื่อไปติ๊ดชึ่งกับคนใหม่ที่เป็นหนุ่มสไตล์ร็อคเด็กแนว

ช็อคหนึ่งเริ่มต้นไม่นาน ช็อคสองคือเมื่อพระเอกเดินทางไปทำใจ ดันพบว่า เธอมากับแฟนใหม่สุดฮ้อตห้องติดๆกัน แล้ว ชายช้ำรักคนซื่อจะทำอย่างไร?

หนังพูดถึงกระบวนการทำใจหลังถูกหักอกของหนุ่มบ้านๆได้อย่างเข้าอกเข้าใจ และ สนุกสนานอารมณ์ดี โดยที่พระเอกของเรื่องเป็นคนเขียนบทหนังเองอีกต่างหาก และ แฟนๆซีรี่ส์ Heroes จับตามองตัวเอกเจ้าของชื่อหนังให้ดี เพราะเธอคือ Kristen Bell ที่มาในลุคส์สุดเซ็กซี่มากกกก



5. Gone Baby Gone



... เริ่มต้น เหมือนหนังสืบสวนสอบสวน เกี่ยวกับคดีเด็กถูกจับไปเรียกค่าไถ่ ที่ทำได้ชวนลุ้นชวนติดตาม ให้อารมณ์หนังอาชญากรรมขั้นดีที่ไม่โฉ่งฉ่าง แต่ สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ มีดีมากกว่า การเป็นหนังสืบสวนสอบสวนที่ดี คือ โจทย์ของหนัง ที่ตั้งคำถามท้าท้ายคนดูให้ถกเถียงเรื่อง ความถูกต้อง

เพราะ โลกนี้ยังมีเรื่องบางเรื่อง ที่ไม่สามารถใช้ ความถูกต้องเดียวกัน แต่กต้องมานั่งคุยกันว่าจะมองจากมุมของใคร



เบื้องหลังของ Gone Baby Gone ยังแฝงความเป็นหนังธุรกิจครอบครัวดีแท้ เมื่อพี่เป็นผู้กำกับ และ เลือกน้องมารับบทนำ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาคือ เบน อัฟเฟลค ก้าวออกจากเงาของนักแสดงไร้สมอง และ เคซี่ย์ อัฟเฟลค คนน้องก้าวออกจากคำลือของคนทั่วไปว่า ดังเพราะพี่ชาย

ปีนี้จึงเป็นปีที่ เคซี่ อัฟเฟลค งานเข้าอย่างแรง แต่ถ้าเล่นได้ท๊อปฟอร์มแบบนี้ งานเข้าแบบนี้ก็คุ้มค่า



6. Lars and the real girl



... เป็นหนังที่พล็อตสุดเริ่ด เมื่อหนุ่มโสดสุดหงิมนิสัยดีแต่มีนิสัยไม่กล้าสุงสิงสนิทกับใคร จู่ๆก็สั่งตุ๊กตายางมาเป็นแฟน แล้วพาไปไหนมาไหนด้วยเสมือนมีชีวิตจริง โดยไม่คิดที่จะมีกิจกรรมทางเพศกับตุ๊กตายางเหมือนคนอื่นๆที่สั่งมาเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง

จากพล็อตที่ว่า หนังน่าจะออกมาเฮี้ยนๆ ป่วยๆ เหวอๆ แต่ปรากฏว่า หนังพูดถึงความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา และ ความรักระหว่างเพื่อนมนุษย์ ได้อย่างละมุนละไม ดูไปแล้วยิ้มอิ่มเอมเหมือนหนังเล็กๆปีก่อนอย่าง Little miss Sunshine



หนังเรื่องนี้พิสูจน์ฝีมือผู้กำกับและคนเขียนบทอย่างแรง เพราะเป็นตัวอย่างของหนังที่มีพล็อตเหวอๆและยากที่จะเป็นไปได้ แต่เมื่อผู้ริเริ่มโครงการมีความเข้าใจและแม่นยำในการนำเสนอ ย่อมทำให้คนดูคล้อยตามไปได้แบบไม่รู้สึกแปร่งๆหรือตะขิดตะขวงใจ

ไรอัน กอสลิ่ง เล่นดีมากๆอีกด้วยเช่นกัน


7. REC



...ผมคิดเล่นๆมานานแล้วว่า หนังที่ถ่ายทำแบบโฮมวิดิโอที่ให้ตัวละครแบกกล้องติดตัว พาคนดูเดินทางไปพร้อมๆกันสร้างบรรยากาศสมจริง หลังจาก หนังผีมนต์ดำThe Blair Witch Project ก็ทำมาแล้ว หนังสัตว์ประหลาดอย่าง Cloverfield ก็ทำมาแล้ว น่าจะมีใครหยิบหนังซอมบี้มาทำหนังแบบนี้บ้าง คงน่ากลัวไม่ใช่น้อยที่เห็นซอมบี้โผเข้ามา

ไม่น่าเชื่อ ฝันของผมก็ถึงเวลาเป็นจริง แถมออกมาดีเสียด้วย โดยทีมงานสร้างชาวสเปน



นักข่าวสาวตามติดข่าวทีมนักดับเพลิงเพื่อไปช่วยคนบนตึกแห่งหนึ่ง พอไปถึงดันเจอว่าคนที่จะให้ไปช่วยดันป่วย แถมป่วยไม่ธรรมดาเป็นซอมบี้อีกต่างหาก ครั้นจะหนีก็ไม่ได้เพราะทางตำรวจไม่รู้มาจากไหนสั่งกักบริเวณให้ปิดตายตึกไว้ ทำให้เธอและทีมงานต้องหนีกันหัวหกก้นขวิดเพื่อเอาชีวิตรอด

แต่ จะรอดได้อย่างไร

โปรดติดตามใน REC หรือ เวอร์ชั่นฮอลลีวูดรีเมคที่จะเข้าฉายโรงต้นปีหน้าในชื่อ Quarantine



8. The Savages



... ต้องเตือนล่วงหน้าว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังที่ดูแบบเอาสนุก แต่เป็นหนังที่พูดถึงครอบครัวในอารมณ์สมจริง ในสไตล์นิ่งๆไม่ต้องปลุกเร้าอารมณ์จนเว่อร์

เรื่องของ สองพี่น้องที่ชีวิตส่วนตัวล้มเหลวอย่างโดดเดี่ยว ต้องกลับมาจับมือกันเดินทางไปรับพ่อสมองเสื่อมที่ถูกไล่ออกจากบ้าน หลังภรรยาใหม่ของพ่อเสียชีวิต



คนสามคน มีชีวิตต้องประสบความสูญเสีย ความเสื่อมถอย แต่ต้องมาช่วยกันประคับประคองเพื่ออยู่รอดในสังคมที่ไม่มีใครสนใจใคร ที่ทำให้ คนดูอย่างเรา ต้องกลับมาย้อนดูว่า เราแสวงหาคนอื่นมาเติมเต็มชีวิตที่ว่างเปล่าแทบตาย แต่ไฉน เราถึงทอดทิ้งครอบครัวของตัวเอง

สองนักแสดงนำในบทสองพี่น้องทั้ง ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมนน์ และ ลอร่าย์ ลินนี่ย์ เข้าขากันได้ดี แต่ที่ดียิ่งกว่าคือ นักแสดงที่รับบทเป็นพ่อของทั้งคู่


9.Waitress



... Waitress เป็นหนังแผ่นของปีนี้ที่สร้างความประทับใจให้ผมแบบไม่คาดคิด หนังเล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป กรุ่นด้วยความอบอุ่นละมุนละไมที่พบไม่บ่อยนักในหนังฮอลลีวูด บวกการกำกับภาพเล่นโทนสีหวานเย็น คู่กับดนตรีประกอบที่ให้อารมณ์ราวกับ เทพนิยาย ตรงข้ามกับ ชะตากรรมที่เลวร้ายน่าเห็นใจของตัวละครนำ

เจนนา นางเอกของเรื่อง เป็น พนักงานเสิร์ฟหน้าตาดี มีพรสวรรค์ในการทำพายชั้นเลิศ แต่ กลับไม่สามารถใช้ความสามารถบันดาลชีวิตให้สมหวัง เพราะ เอิร์ล สามีของเธอ เข้าข่ายผู้ชายห่วยๆที่จ้องจะเอาเปรียบและเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ครั้นคิดจะตีจากเธอก็ดันท้องเสียก่อน ทำให้เธอไปพบรักกับหมอหนุ่มที่ฝากครรภ์

ชีวิตของเธออาจจะเรียบๆเรื่อยๆมาเรียงๆ แต่ หนังดราม่านุ่มๆเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ชีวิตของเรามีทางเลือกมากกว่าการถูกกดขี่ถ้าถึงจุดที่เราจะตัดสินใจ



เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เราไม่มีโอกาสที่จะได้ดูหนังอบอุ่นฝีมือ Adrienne Shelly แม่งานตัวจริงที่ทำหน้าที่กำกับ , เขียนบท และ ร่วมแสดงใน Waitress อีกแล้ว เพราะ เธอเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมในบ้าน ก่อนหน้าที่หนังจะเปิดตัวในวงกว้าง

ภาพสุดท้ายในหนังที่เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆโบกมือให้กับคนดู จึงเป็น ความสุขในหนังที่มาพร้อมๆกับความเศร้าและอาลัย โดยเฉพาะเมื่อได้รู้ว่า เด็กคนนั้นคือ ลูกสาวจริงๆของเธอ



และ

Blog หน้า มาคุยกันครับว่า ตัวละครตัวไหนที่ทำให้คุณปลื้ม หรือ เกลียดเข้าไส้ หรือ คลั่งไคล้ กับ

10 ตัวละครประทับใจประจำปี 2008






สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com




พื้นที่แนะนำผลงาน{ตัวเอง}

(คลิกที่รูปหนังสือ เพื่อ อ่าน หรือ แสดงความเห็น ต่อหนังสือแต่ละเล่มได้เลยครับ)

ปีนี้ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ขอฝากผลงานเล่มล่าสุดที่เพิ่งคลอดจ้า อันว่าด้วย 'ความรักและกำลังใจ' ผ่านแรงบันดาลใจจากชีวิตและภาพยนตร์ ในหนังสือที่ชื่อว่า

เมื่อฉันลืมตา แล้วโลกเปลี่ยนไป



และ ผลงานสองเล่มก่อน จากสองปีที่ผ่านมา



"หนังสือรัก" หนังสือที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม กับ องศาที่ 361 หนังสือที่อาสาช่วยคุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยอาศัย'หนัง'เป็นสะพานพาไปเข้าใจตัวเอง


มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก

พูดคุยกับเจ้าของ Blog คลิก

เปิดหารายชื่อหนังเก่าๆนอกเหนือจากในหน้าสารบัญ คลิก





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 01 มกราคม 2552
Last Update : 1 มกราคม 2552 1:20:36 น. 21 comments
Counter : 11571 Pageviews.

 
ขอบคุณครับ หยุดปีใหม่นี้คงมีหนังดูแน่นอนครับผม

ส่วนตัวดู Sarah Marshall แล้ว เชียร์เต็มที่ครับ


โดย: ถั่วน้อย IP: 130.101.15.20 วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:7:06:11 น.  

 
ขอบคุณครับ เดี๋ยวจะหามาดูบ้าง


โดย: vacuum_car IP: 125.27.5.51 วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:9:28:21 น.  

 
เป็นปีใหม่ที่เริ่มต้นอย่างดีกับการได้มาเห็นว่า
หนังเรื่องไหนที่เราน่าจะได้ดูสำหรับปีใหม่นี้ค่ะ

หนัง 9 อันดับชอบ เราดูแค่เรื่องเดียวเองคะคือเรื่องสุดท้าย
เพิ่งดูไปไม่นานและก็ชอบด้วยน๊า .. ชอบหนังที่นุ่ม ละมุนกับอารมณ์
เราว่าแนวนี้ดูง่ายคะ และก็แบบว่าดูด้วยอารมณ์ดีด้วยล่ะ

ส่วนอีกหลายๆ เรื่องอย่าง Before the Devil Knows You're Dead ,Definitely Maybe
Gone Baby Gone,REC น่าดูมากๆ
คาดว่าปีนี้ คงจะได้ดูหนังที่อยากดูตามความตั้งใจค่ะ ...



มีความสุขกับวันเริ่มต้นของปีใหม่และตลอดปีนะคะ




โดย: JewNid วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:11:05:01 น.  

 
thanks for sharing ka ^^

สุขวันต์วันปีใหม่ค่ะ

ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง

ร่ำรวยเงินทองนะคะ

เทคแคร์ค่ะ ^^


โดย: Baby I love you วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:11:46:52 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับคุณหมอ

ขอบคุณสำหรับ เก้าหนังดีที่แนะนำต้อนรับปีใหม่ครับ

อยากถามนิดนึงว่า คุณหมอเกิด(เติบโต)ทัน ที่จะรับรู้ปรากฎการณ์ "ผู้หญิงข้า...ใครอย่าแตะ" ฟีเวอร์ (คาดว่าตอนสมัยนั้นคุณหมอคงยังเรียนอยู่ ปอหก หรือ มอหนึ่ง) "ผู้หญิงข้า...ใครอย่าแตะ"
มันเป็นหนังที่พวกวิจารณ์พวกอาร์ตตัวพ่อ อาจจะมองว่าเป็นหนัง "น้ำเน่า" แต่สำหรับใครหลายคน(รวมทั้งผมด้วยคนนึง) มันเป็นหนังที่สร้างอารมณ์ร่วม ความตรึงใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ

จนถึงวันนี้ผมยังไม่เห็นหนังเรื่องไหนที่สามารถสร้างปรากฎการณ์อย่างนั้นได้อีกเลย

อยากเห็นใครสักคน มาวิเคราะห์วิจารณ์หนังเรื่องนี้บ้างจังเลย

**** "ผู้หญิงข้า...ใครอย่าแตะ" เป็นหนังเพียงเรื่องเดียวที่ เคยนำมาฉายในโรงฯจนออกจากโปรแกรม แล้วนำมาฉายใหม่อีกหน แล้วมีคนเข้าชมมากกว่าช่วงโปรแกรมแรก




โดย: อาตั๊ม IP: 125.26.81.218 วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:14:51:00 น.  

 
Happy New Year ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ๆ นะค่ะ


โดย: ความเจ็บปวด วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:15:13:24 น.  

 
น่าดูหลายเรื่องเลยค่ะ อยากดู Gone Baby Gone กับ Definitely, maybe เป็นพิเศษ


โดย: azzurrini IP: 61.7.159.18 วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:15:40:48 น.  

 
พี่หมอมา update บ่อยดีจัง ชอบ...ชอบ...


โดย: หนูก๊าบ IP: 222.123.232.249 วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:6:16:30 น.  

 
รอติดตามตัวละครอยู่ครับ


โดย: เทราโอะ วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:11:09:12 น.  

 
สวัสดีปีใหม่
ติดตามเสมอครับ

ไม่เคยดูซักกะเรื่อง แต่กำลังจะได้ดูแล้วครับ


โดย: petexhunter IP: 58.8.122.11 วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:14:51:36 น.  

 


หนังดีๆทั้งนั้นเลยค่า ยังไม่เคยดูเรื่องแรกเลยค่ะ มันไม่ใช่แนวที่ชอบแต่จะลองหามาดูพร้อมกับดื่มกาแฟ จะได้ไม่หลับ :)

ชอบแทบทุกเรื่องเลยค่ะ แต่เรื่องสุดท้ายนี่เฉยๆ นึกไม่ออกแล้วว่าเรื่องรายละเอียดเป็นยังไง (- -")

อีกเรื่องที่ชอบแต่ไม่มีในนี้คือ Dan in real life ลองหาดูนะคะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ



โดย: Ommi IP: 124.121.199.183 วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:21:43:03 น.  

 
เพิ่งดูThe Notebook ไป ไรอัส กอสลิ่งหล่ออย่างไม่น่าเชื่อ ^^ เดี๋ยวจะหาเรื่องที่พี่ท่านเล่นมาดูให้หมดทุกเรื่องให้ได้
เรื่องอื่นก็น่าดูชอบ Kristen Bell กับ Paul Rudd (รึเปล่า) จากซีรี่ส์อยู่แล้ว


โดย: pin IP: 124.120.172.119 วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:23:51:55 น.  

 
^
อ้าว ไม่ใช่Paul Rudd นี่ Ryan Raynolds ต่ะหาก


โดย: pin IP: 124.120.172.119 วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:23:53:46 น.  

 
มี The Savages ในมือ
ต้องดูเสียแล้ว


โดย: คนขับช้า วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:3:50:07 น.  

 
ได้ดู REC เรื่องเดียวและสยองมากมาย

ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่มีแผ่นอยู่ที่บ้านแล้วครับ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ดูเลย


โดย: Seam - C IP: 58.9.220.234 วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:11:39:09 น.  

 
เราเคยตั้งกระทู้ถามเรื่องซีดีน่ะค่ะ ..จำได้นะ
ก็คือว่า เข้ามาอ่านวิจารณ์หนัง และลอกรายชื่อหนังดี ๆ ไว้หมดแล้วนะคะ หุหุ ...ขอบคุณอีกครั้งที่แนะนำ


โดย: Natti นัทตี้ IP: 92.106.82.82 วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:0:24:13 น.  

 
เพิ่งสอย Before the Devil Knows You're Dead มาหยกๆ (พร้อมกับเรื่อง In Bruges)

เดี๋ยวดูจบแล้วจะมาบ่นให้อ่าน...


โดย: คำห้วน-lopzang-เฉือนคำรัก วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:21:38:18 น.  

 
REC นี่เข้าโรงอยู่ตอนนี้ไม่ไช่หรอครับ??

แต่ใช้ชื่อ Quarantine อะ


โดย: ฟาม IP: 203.131.208.115 วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:19:05:47 น.  

 
+ หุๆ เป็นหนังดีกลุ่มของปีที่แล้วที่ไม่เข้าโรงที่ผมยังไม่มีโอกาสได้ดูซักเรื่องเลยอ่ะครับ

+ ของผมถ้าจะจัดให้มีหมวดนี้ของตัวเอง ก็คงต้องเป็น "10 หนังเคเบิลทีวีที่ผมชื่นชอบ 2008" อ่ะครับผม เพราะไม่ค่อยมีโอกาสได้ดูหนังแผ่นเลยอ่า


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:13:51:13 น.  

 
เมื่อวานพอดีเวลาไม่พอ วันนี้ผมเลยลองคัดสรรค์หนังเก่าๆ (ไม่มากนัก ส่วนหนังคลาสสิคขึ้นหิ้งไปแล้ว หรือได้ดูซ้ำ จะไม่นับมารวมด้วย) ที่ผมได้ดูผ่านเคเบิลทีวี หยิบเอาเรื่องที่น่าประทับใจมาพูดถึงบ้าง ดังนี้

15. Disturbia
+ เป็นหนังทริลเลอร์ที่ดูสนุกใช้ได้ทีเดียว เสียแต่ว่าความ “สมัยใหม่” เกินไปของหนัง ทำให้อารมณ์สะพรึงในแบบที่หนังทริลเลอร์ยุคเก่าๆ สามารถมอบให้แก่คนดู ไม่ค่อยหลงเหลือในหนังเรื่องนี้

14. Zodiac
+ เป็นอีก 1 หนังดีของ ผกก.เดวิด ฟินเชอร์ ที่ถูกมองข้ามจนถึงกับไม่ได้นำมาฉายในโรงเมืองไทย ... สาเหตุน่าจะเป็นเพราะความยาวเกินไปนิดของตัวหนัง และวังวนอันหาทางออกไม่ได้ จนทำให้ผู้ชมรู้สึกอึดอัดตามไปด้วย

13. Reign Over Me
+ พอ อดัม แซนด์เลอร์ เอาบุคลิกบ้าๆ บวมๆ ของเค้ามาปรับใช้กับหนังเรื่องนี้ ให้กลายเป็นคนจิตตก เพราะช็อค เนื่องจากครอบครัวของเขาประสบอุบัติเหตุ 911 เลยทำให้ดูแปลกตา แต่ก็น่าเชื่อถือทีเดียว

12. Sicko
+ สารคดีจิกกัดระบบสาธารณสุขอันห่วยแตกของอเมริกา โดย ผกก.ไมเคิล มัวร์ เจ้าเก่า ... ให้อารมณ์ “โฆษณาชวนเชื่อ” มากไปหน่อย ไม่งั้นจะชอบมากกว่านี้

11. Wolf creek
+ หนังแนว Slasher บรรยากาศสุดหลอกหลอน โดยอาศัยความรกร้างว่างเปล่าของดินแดนห่างไกลในออสเตรเลียเป็นฉากหลัง และทำออกมาได้ “สิ้นหวัง” ดี

10. The three burials of Melquiades Estrada
+ ว่าด้วยเรื่องของ “คนชายขอบ” แถวตะเข็บชายแดน อเมริกา – เม็กซิโก ถึงจะชวนง่วงไปนิด แต่ ผกก. ทอมมี ลี โจนส์ ก็สร้างมันออกมาได้อย่างดูดีมีระดับ

9. Punck-drunk love
+ คู่รักรสประหลาดฝาดเฝื่อน แต่เก๋ใช่หยอก อดัม แซนด์เลอร์ กับเอมิลี วัตสัน ดูไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่เคมีของทั้งสองคนในหนังก็ดูใช้ได้ทีเดียว ฝีมือกำกับของ ผกก. คนเก่ง พอล โธมัส แอนเดอร์สัน (There will be blood , Magnolia)

8. Apocalypto
+ โหดเลือดสาด แต่ตื่นเต้นโคตรๆ ทำเอาอะดรีนาลินพุ่งกระฉูดไปทั้งตัว

7. Breaking and entering
+ ผลงานการกำกับเรื่องสุดท้าย ของ ผกก.แอนโธนี มิงเกลลา สัญลักษณ์และความหมายต่างๆ ที่ใส่เข้ามาในหนังดราม่าเรื่องนี้ อยู่ในระดับที่น่าสนใจ และดูสนุกทีเดียว จูเลียต บิโนช ได้ปลดปล่อยฝีมืออันยอดเยี่ยมของเธออีกครั้ง

6. The illusionist
+ อีก 1 หนังนักมายากล นอกเหนือจาก The prestige ที่ถึงแม้จะเป็นคนละอารมณ์ แต่ก็ดูสนุกมากทั้ง 2 เรื่อง สำหรับเรื่องนี้จะมาในแนว “หนังที่ถูกสร้างจากหนังสือ” คือดูเป็นนิยายมากกว่า เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน โคตรจะเท่ห์

5. Fido
+ Coming-of-age จากอังกฤษ ว่าด้วยโลกในยุคที่มีการเลี้ยง “ซอมบี้” ไว้ใช้งานแทนหมา! เป็นตลกร้ายที่น่ารัก แต่ก็จิกกัดได้แสบๆ คันๆ โคตรๆ แครี่ แอน มอส เป็นคุณแม่ที่สวยเหลือเกิน

4. Stranger than fiction
+ ไอเดียของพล็อตสุดเจ๋ง เมื่อชีวิตที่แสนน่าเบื่อของชายคนหนึ่ง กลายเป็นนิยายในหนังสือของนักเขียนชื่อดังอีกคน แล้วเขาจะทำอย่างไรเมื่อเธอเป็นนักเขียนที่นิยม “ให้ตัวเอกตายตอนจบ” ?!?

3. Notes on a scandal
+ อารมณ์ดราม่าที่ 2 สาวสุดเจ๋งอย่าง เดม จูดี้ เดนช์ กับ เคทท์ แบลนเชทท์ แสดงออกมา ทำให้หนัง “โรคจิต หญิง-หญิง” เรื่องนี้ ดูแล้วเขย่าขวัญสั่นอารมณ์เลยทีเดียว

2. Children of Men
+ จะทำอย่างไร เมื่อผู้หญิงทั้งโลกหยุดการตั้งครรภ์ แล้วถ้าเกิดมีขึ้นมาสักคน เธอจะมีค่าขนาดไหน ... ผกก. อัลฟองโซ คัวรอง ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังไซไฟ – ทริลเลอร์ ที่สร้างภาพความเสื่อมโทรมของโลกอนาคตออกมาได้อย่างดูสมจริง และแสนจะตื่นเต้น

1. Thank you for smoking
+ ผลงานสร้างเครดิตของ ผกก.เจสัน ไรต์แมน (ก่อนจะมากำกับ Juno) แค่ชื่อหนังก็เสียดสีไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เพราะพระเอกของเรามีอาชีพเป็น “โปรโมเตอร์ของวงการบุหรี่” หนังฉลาดในการหาทางออกให้ผู้ชมไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจในการรับชม ทั้งๆ ที่เนื้อเรื่องอาจดู “หมิ่นเหม่ศีลธรรมอันดีงาม” ในบางประเทศ! (แถวๆ นี้ หุๆ
)


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 16 มกราคม 2552 เวลา:14:08:59 น.  

 
มีคุณหมอ...แนะนำให้รู้จัก "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" อีกต่นึงค่ะ ชื่นชมงานเขียนของคุณมากค่ะ จะติดตามผลงานของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ต่อไป นะคะ ขอบคุณค่ะ


โดย: yuky IP: 119.42.83.178 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:19:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
1 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.