www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Tokyo Sonata , จากต้นตอสู่ทางออกของปัญหาครอบครัว ในสังคมระทมทุกข์




ถ้าดูแบบหลับๆตื่นๆ อาจจะเข้าใจผิดคิดว่า Tokyo Sonata เป็นหนังแบบ Billy Elliot เพราะตื่นมาเจอ เด็กอยากเรียนเปียโน แล้ว ครูค้นพบพรสววรค์ทางเปียโนของตัวเด็ก แต่พ่อคัดค้าน แล้วสุดท้ายเด็กก็เอาชนะใจพ่อได้ในที่สุด

ถ้าดูแค่สามสิบนาทีแรก แล้วเผลอหลับ อาจออกจากโรงแล้วบ่นกับเพื่อนๆว่า Tokyo Sonata เป็น สารคดีชีวิตพนักงานเงินเดือนของญี่ปุ่นที่สุดแสนน่าเบื่อ ชวนง่วงเหงาหาวนอนเป็นอย่างยิ่ง

ถ้าหลับตั้งแต่ตอนต้นๆแล้วตื่นมาตอนปล้นช่วงท้าย ก็อาจจะนึกว่า อ๋อนี่มันหนังเฮี้ยนๆแนวๆ เกี่ยวกับ โจรปล้นใจ สไตล์ ผกก.ที่ทำหนังผีแล้วคนดูหลับหรือไม่ก็หลอนประทับใจอย่าง Kairo

ซึ่ง ปฏิเสธ ไม่ได้ว่า Tokyo Sonata เป็นหนังที่ชวนง่วงจริงๆ ถ้าสภาพร่างกายไม่พร้อม แต่ถ้าไม่หลับและคงสมาธิได้ตั้งแต่ต้นจนจบ เราก็จะเห็น การตีแผ่ปัญหาครอบครัว ใน หนังดราม่าเกี่ยวกับครอบครัวที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งประจำปี



... ท่ามกลางบรรยากาศเย็นชา ในสภาพสังคมญี่ปุ่น ที่น่าจะเป็นต้นแบบสังคมของเมืองใหญ่ในหนังเรื่อง Crash ที่ว่ากันว่า มนุษย์ มีปฏิสัมพันธ์กันน้อยลง แต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเครื่องจักร และ อารมณ์ของมนุษย์ค่อยๆเหือดแห้ง


ครอบครัวหนึ่ง ใน Tokyo Sonata


พ่อ ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว ตกงาน แต่ ไม่กล้าบอกคนในบ้าน ใช้ชีวิตเหมือนธรรมดาๆ โกหกภรรยาว่าไปทำงานเหมือนเดิมแต่ความจริงไปต่อคิวหางานใหม่ กลางวันนั่งกินข้าวข้างถนนกับคนไร้บ้าน

แม่ ผู้เป็นเหมือนช้างเท้าหลัง ว่าง่าย ปรนนิบัติสามีโดยไม่มีข้อถกเถียง เหนื่อยแต่ก็อดทน ครั้นรู้ความจริงเมื่อแอบเห็นสามีอยู่ข้างถนน ก็นิ่งเงียบไว้ทำเป็นไม่รู้เหมือนเคย

ลูกชายคนโต หายหน้าออกจากบ้าน นานๆครั้งกลับที อยู่ดีๆคิดไปสมัครเป็นทหารในกองทัพอเมริกัน

ลูกชายคนเล็ก มีปัญหากับครูในชั้นเรียน ไม่มีเพื่อนเป็นกลุ่มเป็นก้อน มีพรสววรค์ทางการเล่นเปียโน แอบเม้มเงินค่าอาหารไปเรียนเปียโนเพราะพ่อแม่คัดค้าน




... การที่เราแต่ละคนมีปัญหา ไม่ได้แปลว่า ถ้ากลับเข้าบ้าน ปัญหาของเรา จะกลายมาเป็น ปัญหาของครอบครัว เสมอไป

เพราะ ปัญหาของครอบครัว เกิดจาก ปัญหาของความสัมพันธ์ระหว่างกัน ไม่ใช่ปัญหาของตัวบุคคล ดูอย่าง Little miss sunshine ที่สมาชิกในบ้านจะป่วยกันแค่ไหน แต่พวกเขาก็หาทางที่จะพบความสุขได้

ถ้าเจอปัญหา สามีเปิดอกคุยกับภรรยา ช่วยกันหาทางออก เจอความขัดแย้งกับลูก ก็พูดคุยกันก่อนแล้ววางแผนแก้ปัญหา ปัญหาครอบครัวก็จะไม่เกิด

แต่หนังแสดงให้เห็นว่า ถ้าปัญหาจาก อัตตา ที่สั่งสมมานาน และเห็น อัตตาสำคัญกว่า ความสัมพันธ์ ก็จะนำมาสู่ ปัญหาครอบครัว เช่น

คนที่มีปัญหาบุคลิกภาพแบบหลงตัวเองมากเกินแบบ Narcisstic personality disorder จะยอมทำทุกอย่างเพื่อต้องการ รักษาหน้า ตัวเองไว้ โลกจะแตก ชาติจะเดือดร้อน หรือ บ้านจะพังไม่เป็นไร แต่ ขอให้ตัวเองยังคงได้รับการยอมรับนับถือ ยังคงมีหน้ามีตา ไม่ยอมตกต่ำไปกว่าที่เคยเป็น

คนบางคนกลัวเสียหน้า จึงปกปิดทุกๆปัญหาไว้ข้างใต้
คนบางคนห่วง รักษาหน้า เพราะ กลัวอับอาย จนไม่กล้ารับความจริง
คนบางคนเข้าใจผิดคิดว่า ศักดิ์ศรี กับ การรักษาหน้า เป็นเรื่องเดียวกัน


ตัวอย่างชัดๆ เช่น ข่าวของคนดังๆหลายคน พยายามรักษาหน้า รักษาภาพลักษณ์ จนถึงที่สุด แม้จะถูกจับโกหกได้ แต่ก็ ห่วง ภาพลักษณ์ จนไม่รู้ตัวเลยว่า การสารภาพความจริง หรือ การยอมรับว่าเกิดปัญหา คือ การมีศักดิ์ศรีที่แท้จริง

และในบางครั้ง ปัญหา 'ห่วงหน้า' เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ได้มาจากปมทางจิตเพียงเท่านั้น แต่ มาจาก สภาพสังคมที่หล่อหลอมให้สมาชิกในสังคม ต้องมีเศรษฐานะ มีหน้ามีตา สร้างภาพของคนเป็นหัวหน้าครอบครัวว่าต้องเข้มแข็ง สร้างภาพของผู้ชายว่าร้องไห้ไม่ได้ ฯลฯ

ทำให้ ปัญหาเฉพาะส่วนบุคคล ขยับขยายเป็น ปัญหาระดับครอบครัวระดับสังคม เมื่อเจ้าตัวนั้น ไม่รู้ตัวว่า ปมของตัวเอง หรือ ความเข้าใจผิดๆฝังใจ กำลังก่อให้เกิดปัญหากับคนอื่น


ใน Tokyo Sonata



พ่อ

พ่อ รับไม่ได้ กับการต้องเปลี่ยนจาก หัวหน้าแผนก กลายมาเป็น คนตกงาน รับไม่ได้ ที่จะต้องเปลี่ยนงานมาทำ งานใหม่ ที่ด้อยกว่าเดิม

เมื่อรับไม่ได้ ก็จึงยังหางานทำไม่ได้ จึงไม่กล้าพูดคุยกับภรรยา

ตัวอย่างของคนที่รับไม่ได้ หากรุนแรงมาก ก็ต้อง ฆ่าตัวตาย เหมือนกับในหนัง ที่มีคนตกงานเหมือนๆกัน เพราะรู้สึกสิ้นหวังถึงขีดสุด

พ่อ ที่ยึดติดกับ ความเป็นชาย , ความเป็นพ่อ หรือ ความเป็นหัวหน้าครอบครัว

พ่อ ที่เชื่อว่า ความเป็นพ่อหรือหัวหน้าครอบครัว คือ ต้องไม่เผยความอ่อนแอ ต้องไม่เผยความพ่ายแพ้ และ ต้องควบคุมลูกให้เชื่อฟัง

นำไปสู่ ปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น

ความก้าวร้าวรุนแรงของพ่อ ไม่ใช่มาจาก ไม่รักลูก แต่กลัวการ สูญเสียการควบคุม

ปัญหาของพ่อ ไม่ใด้อยู่ที่ตกงาน แต่คือไม่ยอมสื่อสารและกลัวสูญเสียสถานภาพ นำไปสู่ ความทุกข์ของแม่




แม่

อยากได้อะไรเป็นของตัวเอง มีความต้องการเป็นของตัวเอง ก็ต้องเก็บกดเอาไว้ ไปดูรถเพราะถูกใจแต่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า ไปเยี่ยมๆชมๆเป็นระยะๆ

วัฒนธรรมช้างเท้าหลัง ทำให้หลายคนมองว่า อ่อนแอ

แต่สำหรับ แม่ ที่เราเห็นคือ ความเข้มแข็ง ที่ ผู้หญิงคนหนึ่งพึงจะทำได้เพื่อประคอง ครอบครัว ให้อยู่รอด

เธอชูมือขึ้นหวังให้สามีช่วยดึงขึ้นจากโซฟา หลังเหนื่อยล้าเต็มที่ แต่สามีไม่มีแม้แต่จะหันมามอง เสียงเธอเว้าวอนรอใครสักคนมาฉุดขึ้นไปคือ ความเข้มแข็งสุดท้ายที่กำลังจะหลุดลอย



จุดพลิกผันในชีวิตของ พ่อ และ แม่ มาถึงเมื่อ

ความลับ ของพ่อถูกเปิดเผย หลังจากแม่มาเจอตอนทำความสะอาดในห้างด้วยความบังเอิญ ทำให้พ่อแทบสติแตก เมื่อ ภาพลักษณ์หรือหน้าตา ที่ตัวเองห่วงไว้แตกสลายจนไม่เหลืออะไรเลย

แม่ ถูกโจรมาปล้นแล้วต้องทำอะไรบ้าๆ ได้นั่งรถที่ตัวเองใฝ่ฝัน ก็เหมือนกับเธอได้มีอิสระ และในเวลาเดียวกันก็ ทำให้เธอได้สัมผัส ความทุกข์ ที่อัดอั้นเก็บกดมานานหลายปี จนไม่อยากจะเดินกลับไปเส้นทางเก่า


เหตุการณ์นับจากนี้ ออกได้ทั้ง หัว และ ก้อย


ถ้า ครอบครัว ยังคงสำคัญ พ่อจะยอมรับความจริง และ แม่ก็จะยอมกลับไปมีชีวิตที่ไม่อิสระเท่าเดิม แต่ทั้งคู่จะเปิดอกพูดคุยและช่วยกันประคับประคอง

ถ้า หน้า ยังสำคัญกว่าครอบครัว พ่อก็จะไม่กล้ากลับไป และ แม่ก็อาจจะเลือกปลดปล่อยตัวเองไปกับชีวิตใหม่ที่ไม่ต้องรับผิดชอบอีกเลย



... ถึงผมจะง่วงเหงาหาวหลับในช่วงต้นๆ แต่พอตื่นได้สติเต็มที่แล้วมีสมาธิดีก็ชอบหนังเรื่องนี้เอามากๆ หนังเดินเรื่องช้าก็จริง แต่ ก็สร้างความเข้าใจสภาพสังคมระทมทุกข์ได้ชัดเจน

การแสดงของคนที่รับบทพ่อ ที่เพิ่งทำเปรี้ยวเล่นเป็น นายอำเภอสองบุคลิกกวนโอ๊ย ใน sukiyaki western django ที่เพิ่งลาโรงบ้านเราไป เล่นได้เยี่ยม แต่คนที่ผมชอบที่สุดคือ คนรับบทแม่ ที่เล่นไม่มากแต่ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดีเหลือหลาย

ส่วนที่ทำให้ชอบหนังเรื่องนี้มาก แต่ยังไม่ถึงกับชอบสุดๆ เพราะรู้สึกสะดุดตอน โจรที่รู้สึก แหวก ไปนิด ซึ่งก็ไม่ถึงทำให้หนังแย่ แต่ ส่วนตัวแล้วชอบอารมณ์แบบช่วงต้นมากกว่า แต่ก็เข้าใจว่า ที่ต้องบ้าๆ อาจจะต้องการให้เห็นถึง การปลดปล่อยของคนเป็นแม่




...Tokyo Sonata เป็น บทเรียนที่ดีสำหรับผู้คนยุคนี้ ที่รูปแบบชีวิตเต็มไปด้วยความเครียดและการแข่งขัน พร้อมๆกับ การที่จะถูกเลย์ออฟได้ในแต่ละวัน

หนังมอบบทเรียนดีๆไว้เป็นอาวุธเผื่อไว้ในกรณีที่ต้องเจอเหมือน พ่อ ในเรื่อง หรือ เจอปัญหาที่เราคิดว่า แย่สุดๆ นั่นคือ


ท่ามกลางสภาพสังคมที่เศรษฐกิจตกต่ำ สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือ การปรับตัว

ถ้าพ่อ ใน Tokyo Sonataได้มาพบพ่อใน The Pursuit of Happyness ก็จะได้ข้อคิดกลับไปว่า

อย่าเข้าใจผิด คิดว่า ศักดิ์ศรี คือ การมีหน้ามีตา คือ การที่ไม่สามารถทำงานที่ตกต่ำกว่าเดิม แต่ ศักดิ์ศรีที่แท้ คือ การที่เราเคารพตัวเองและผู้อื่น เคารพในงานที่ตัวเองทำ และ ไม่ทำสิ่งผิดให้ต้องละอายใจ

ดูอย่าง ฉากพ่อขัดทำความสะอาดใน Tokyo Sonata ทั้งสองครั้ง ครั้งแรกขัดแบบรู้สึกรังเกียจในงานที่ทำ กับ ครั้งหลังที่ขัดด้วยความมุ่งมั่นพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ แสดงให้เห็น การเปลี่ยนแปลง เมื่อพ่อรู้แล้วว่า ยังมีอีกหลายๆสิ่งที่สำคัญกว่า การรักษาหน้า นั่นคือ การรักษาครอบครัว

พ่อที่ขัดส้วมแต่รักครอบครัว ปกป้องครอบครัว ยังมีศักดิ์ศรีมากกว่า พ่อที่รวยค้ำฟ้า แต่กลับมาทุบตีภรรยาและลูกๆ

เรื่องของพ่อใน Tokyo Sonataยังแสดงให้เห็นว่า

เราอาจไม่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก แต่เมื่อเรียนรู้ที่จะปรับตัว เราก็สามารถที่จะอยู่กับงานนั้นได้โดยไม่เป็นทุกข์มากจนเกินไป


เราสามารถค้นพบ ความสุข ได้ ใน สภาพปัญหาสังคมที่ตกต่ำ ตราบใดก็ตามที่เราไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นเหยื่อของอัตตาที่โตมากเกินไป และ ตราบใดที่เราไม่ปล่อยให้ ภาพลักษณ์หรือศักดิ์ศรี อยู่เหนือ ความรักและครอบครัว



สรุป ... สำหรับคนรักหนังดราม่า ห้ามพลาดที่จะไปพิสูจน์ว่า เพราะอะไร หนังเรื่องนี้ถึงไปคว้า Un Certain Regard Jury Prize จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ มาได้สำเร็จ

ถ้าไม่รับที่ว่าช่วงแรกๆหนังชวนง่วงมากเกินไป ทุกอย่างของหนังเรื่องนี้ยอดเยี่ยมคุ้มค่ากับการรับชม



Link ของ บทความที่อ้างอิงถึง และ เกี่ยวข้อง


The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-

Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน







สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com




พื้นที่แนะนำผลงาน{ตัวเอง}

(คลิกที่รูปหนังสือ เพื่อ อ่าน หรือ แสดงความเห็น ต่อหนังสือแต่ละเล่มได้เลยครับ)

ปีนี้ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ขอฝากผลงานเล่มล่าสุดที่เพิ่งคลอดจ้า อันว่าด้วย 'ความรักและกำลังใจ' ผ่านแรงบันดาลใจจากชีวิตและภาพยนตร์ ในหนังสือที่ชื่อว่า

เมื่อฉันลืมตา แล้วโลกเปลี่ยนไป



และ ผลงานสองเล่มก่อน จากสองปีที่ผ่านมา



"หนังสือรัก" หนังสือที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม กับ องศาที่ 361 หนังสือที่อาสาช่วยคุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยอาศัย'หนัง'เป็นสะพานพาไปเข้าใจตัวเอง


มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 12 ธันวาคม 2551
Last Update : 12 ธันวาคม 2551 1:00:06 น. 18 comments
Counter : 9326 Pageviews.

 
..ยังมีอีกหลายๆสิ่งที่สำคัญกว่า การรักษาหน้า
นั่นคือ การรักษาครอบครัว..
หายากค่ะ ที่คิดกันได้แบบนี้..เพราะทุกวันนี้เค้านิยมรักษาหน้ากันมากกว่า..
หนูมะลิจะไม่ทำก็เหมือนว่ายทวนน้ำ..
ไม่รู้สินะ..


โดย: หนูมะลิ (love_you_na ) วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:4:01:50 น.  

 
เป็นแนวดราม่าชวนง่วงจริงๆ นะคะ ... แต่ว่าก็ใช่ว่าจะไม่คุ้มค่า
กับการนั่งดูไปเรื่อยๆ... แล้วก้ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง
อย่างน้อยๆ มันทำให้เราพอจะรู้ล่ะว่า "การเปลี่ยนแปลงเพื่อความสุข"
มันทำได้จริงๆ และการ "ยอมรับ" ของเราก็ต้องอยู่บนพื้นฐาน
ของเหตุผลที่มันควรจะเป็น ... ดันทุรัง กลัวเสียหน้า แล้วเก็บงำ
เห็นมาเยอะแล้วค่ะวา สุดท้ายมันก็ไปไม่รอด .. สู้เราเปิดอก
ยอมรับมัน เรายังพอสามารถจะมีกำลังแก้ปัญหาได้เร็วขึ้นนะคะ ...


ถ้ามีโอกาสหาเรื่องนี้มาดูได้ แน่นอนค่ะว่า ดูแน่ๆ ค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:8:27:28 น.  

 
รออ่านบทความเรื่องนี้ของเจ้าบ้าน แต่ยังไม่มาซะทีเลยไปดูมาเรียบร้อย หนังเรื่อยๆเอื่อยๆแต่ก็ชอบอยู่หลายฉาก และเนื้อเรื่องดูเข้ากับสังคมโลกปัจจุบันมาก แสบๆคันๆเล็กน้อยกับการกระทำของตัวละครค่ะ

มุมของลูกชายคนโตก็ให้แง่คิดกับเราได้ การที่เรารับข้อมูลอยู่ด้านเดียว แต่พอได้ไปสัมผัสจริงและรับรู้ข้อมูลอีกด้าน คิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยตัวเองก็ทำให้เราเข้าใจอะไรได้มากขึ้น

ตอนท้ายตัวละครทำให้นึกถึงหนังสือของเจ้าบ้านเลย เมื่อฉันลืมตาแล้วโลกเปลี่ยนไป หลังจากเช้าวันนั้นแล้วทุกคนก็นึกถึงบ้าน


โดย: ท่าเรือรามา IP: 202.44.73.150 วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:18:19:42 น.  

 
ชอบมากครับ หนังนิ่ง ลึก หดหู่ แห้งแล้งเหลือเกิน แต่ฉากจบกลับทรงพลังเอามากๆ

ปล ไม่ให้โจรแหวกคงไม่ได้หรอกครับ เฮียโคจิ อุตส่าห์มาแจมทั้งที ใครเป็นแฟน ผกก. คิโยชิ กับ เฮียโคจิ ก็ได้ฮากันเต็มที่ล่ะครับ


โดย: tHecHamp IP: 124.120.147.33 วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:19:18:00 น.  

 
ติดตามอ่านบล็อคคุณหมอมานานแล้ว
และกลับไปอ่านบทความเก่าๆด้วย
ดูเรื่องนี้กลับมาแล้ว ส่วนตัวชอบมาก ไม่ค่อยง่วงได้
เห็นด้วยกับฉากโจร ที่ช่วงหลังดูแบบหลุดโลกจากหน้ามือเป็นหนังมือไปเฉยๆ
แต่ฉากจบ เท่สุดๆไปเลยเรื่องนี้ :)


โดย: doxdoxchan IP: 61.90.64.48 วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:22:33:39 น.  

 
เขียนดีอีกแระ แวะมาอ่าน


โดย: จอ IP: 202.28.183.10 วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:19:17:18 น.  

 
ไปดูมาเมื่อวานค่ะ ชอบบทแม่ในเรื่อง (ยกเว้นตอนหลังๆที่เหมือนจะออกทะเลไปหน่อย ตอนแรกนึกว่าจะเป็นบ้าไปแล้ว 55+) คนอื่นๆก็แสดงดีมาก


โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:8:16:27 น.  

 
มีน้องคนนึงแนะนำว่า
ถาามว่า ไปดูหนังเรื่องนี้หรือยัง
เราตอบว่ายัง
และถามไปว่าแนะนำไหม
เขาบอกว่า
You should try.
ูู^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:17:45:18 น.  

 
+ เป็นอีก 1 หนังดราม่าครอบครัวที่ควรค่าแก่การรับชม ... ผมไปเขียนที่ ยาริส ไว้แล้วนะขอรับ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:17:42:34 น.  

 
ไปดูมาแล้วค่ะ
วันนี้นี่เอง

"โจรทำให้ทุกอย่างสะดุด"

หนังง่วงบางเรื่องน่าจดจำ
แต่สำหรับเรื่องนี้
ส่วนตัวแล้ว...ไม่นะ

มองต่างจากคนอื่นหน่อยนะ


โดย: J☆nE IP: 58.64.101.207 วันที่: 27 ธันวาคม 2551 เวลา:23:40:02 น.  

 
^
^
^
เพิ่งไปดูมาเมื่อวาน เลยขอมาเห็นต่างด้วยอีกคนนึงครับ

ผมกลับชอบเนื้อเรื่องช่วงแรกๆมากกว่าช่วงหลังนะครับ มันตีแผ่ปัญหาชีวิตได้ดีจริงๆ

แต่พอโจรโผล่ออกมาทำให้เนื้อเรื่องสะดุดไป เพราะมันดูไม่น่าเชื่อเกิน หลังจากนั้นการคลี่คลายปมของตัวละครก็ดูง่ายๆยังไงไม่รู้ ไม่มีน้ำหนักเลย

ถ้าพูดถึงข้อคิดที่หนังให้นี่โอเคเลยครับ มีจุดให้กลับมาคิดได้หลายอย่าง ปมปัญหาของตัวละครหลักทุกตัวเ ป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้จริงกับสังคมในปัจจุบัน



โดย: ืnovel IP: 203.146.147.190 วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:10:52:40 น.  

 
ขอบคุณค่ะอย่างน้อยก็รู้สึกเข้าใจที่ทำให้เราเบื่อสิ่งแวดล้อวรอบตัวเรา


โดย: กระเป๋าโดเรมอน IP: 61.7.145.43 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:40:26 น.  

 
เขียนรีวิวได้ดีมากๆเลยค่ะ โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรก แต่ไม่พูดถึงตัวลูกสองคนเลยแหะ

อ่านแล้วอยากไปดู เสียดายที่ลาโรงไปแล้ว...TwT


โดย: EGUANA IP: 61.90.66.11 วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:23:11:08 น.  

 
ได้ไปดูหนังเรื่องนี้มาเหมือนกันค่ะ
ตอนแรกๆไม่ได้ง่วงมาก แต่ปวดหัว ว่าทำไมพ่อต้องเป็นเอามากขนาดนี้
แต่พอดูจนจบ หนังกลับทำให้รู้สึกดีแบบที่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม


โดย: โมจิ IP: 58.8.211.99 วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:34:10 น.  

 
ดูแล้วเห็นวัฒนธรรมของญี่ปุ่นชัดขึ้นค่ะ

ตอนสุดท้ายที่เคนจิเล่นเปียโน ทำให้หลงรัก clair de lune ไปเลย


โดย: KANOM IP: 124.121.127.108 วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:21:44:36 น.  

 
1ในหนังดราม่าดีๆของญี่ปุ่น
ถ้าใครได้ใช้ชีวิตอยู่ในญี่ปุ่นมาก่อนจะโดนอย่างแรงและเข้าใจในแง่มุมหลายๆแง่ที่หนังนําเสนอ ผมก็หนึ่งในนั้น ขอบคุณสําหรับบทความดีๆที่เขียนให้อ่านกันครับ


โดย: Hiro IP: 218.139.114.11 วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:18:14:21 น.  

 
ซื้อแผ่นมาไว้ตั้งนานแล้วยังไม่ได้ดู ต้องรีบเอาดูเสียแล้ว ขอบคุณครับสำหรับข้อเขียนดีๆ ชิ้นนี้


โดย: mrkero IP: 61.19.222.4 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:10:35:46 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: Gate IP: 180.183.188.161 วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:22:19:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
12 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.