บางคนอาจแปลกใจเมื่อพิจารณาจากหน้าหนังดูเหมือนจะฟอร์มเล็กๆเกรดบีแบบนี้ ได้สองนักแสดงมีชื่อพอสมควรอย่าง เคต เบคคิ้นเซล ที่นิยมไล่ล่ามนุษย์หมาป่าจนได้สามี กับ ลุค วิลสัน ที่มักจะจองที่นั่งในหนังคอมิดี้เป็นส่วนใหญ่ มาร่วมหัวจมท้าย แต่ความจริงแล้วถึงชื่อผู้กำกับจะไม่คุ้นหูคุ้นตา Vacancy ก็ไม่ใช่หนังทริลเลอร์ห่วยๆเกรดบี

...เคตกับลุค มาประกบคู่เป็นผัวเมีย เดวิด – เอมี่ ที่ระหองระแหง โทษกันไปมา รอการหย่าขาดจากกัน โดยมีบาดแผลอดีตที่ฝังในใจของทั้งคู่จากการสูญเสียลูก

เถียงกันไป เถียงกันมา ปรากฏว่า รถเสียกลางดึก ทั้งคู่จำเป็นต้องเข้าพักโมเต็ลระหว่างทางชั่วคราว รอช่างมาเช้าวันพรุ่งนี้

โมเต็ลที่อยู่ห่างไกลตัวเมืองเรื่องนี้ ดูไม่น่าวางใจตั้งแต่เปิดประตูเข้าไปแล้วได้ยินเสียงกรีดร้องครวญคราง ก่อนจะพบว่า มันเป็นแค่เทปวิดิโอที่ผู้จัดการเปิดดูอยู่



หลังเช็คอิน เดวิด เจอม้วนวิดิโอตั้งอยู่ข้างทีวี จึงเปิดดูฆ่าเวลา ภาพในนั้นคือ แขกที่เข้ามาพักในโรงแรมแห่งนี้ถูกจู่โจมโดยขายใส่หน้ากากสามคน กระทำทารุณก่อนจะฆ่าตายอย่างเลือดเย็น ผ่านกล้องที่ตั้งใจจับสีหน้าก่อนตายของเหยื่อคนแล้วคนเล่า

ภาพที่เห็นตรงหน้าคือ Snuff film หนังที่คนกลุ่มหนึ่งฆ่าคนจริงๆแล้วบันทึกเทปเพื่อส่งให้ลูกค้าที่ชอบดูหนังประเภทนี้ (ตัวอย่างหนังที่พูดถึง Snuff film คือหนังเรื่อง 8 mm. ที่เฮียเคจเป็นตำรวจเข้าไปพัวพัน หรือ Thesis ที่นักศึกษาสาวเข้าไปเกี่ยวข้องกับหนังนักศึกษาที่มีการฆ่ากันจริงๆ)



...สองสามีภรรยาเริ่มรู้ตัวว่า พวกเขาสองคนกำลังจะเป็นเหยื่อรายถัดไป เพราะ ห้องในหนังที่เขาดูนั้นมันก็คือห้องเดียวกับที่เขาพักอยู่ตอนนี้เอง

แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเกมส์ไล่ล่าที่ ทั้งคู่เหมือนหนูกำลังถูกแมวโรคจิตไล่เชือด



... ลุค วิลสัน ดูไปได้ดีกับบทซีเรียสจริงจังลบภาพตลกๆขำๆไปได้ แต่ เคต เบคคินเซล พอลุกขึ้นสู้กลับไม่สามารถสลัดภาพแวมไพรส์สาวจาก Underworld ออกไปจากความคิดได้เลย ทั้งคู่มีส่วนช่วยพยุงให้หนังดูดีขึ้นจากรัศมีหรือออร่าดาราของตัวเอง

ชีวิตคู่ของตัวละครสองคนนี้ก็อาจไปสะกิด บางคู่ชีวิตที่วันๆตั้งหน้าตั้งตาทะเลาะเบาะแว้งโทษกันไปมา บางทีกว่าจะรู้ตัวว่า เรายังรักกันอยู่ ก็ต้องรอให้วาระสุดท้ายมาเคาะประตูบ้าน ถึงตอนนั้น โอกาสจะสวีทหวานกันก็สั้นเกินไปเสียแล้ว

....ผู้กำกับ นิมรอด เอนเทล เป็นชื่อใหม่สำหรับคอหนังฮอลลีวูด แต่เขาไม่ใช่หน้าใหม่แกะกล่องไร้ประสบการณ์ เพราะเมื่อตอนเขากำกับหนังบ้านเกิดตัวเองที่ชื่อ Kontroll หนังที่ดำเนินเรื่องราวตลอดทั้งเรื่องในสถานีรถไฟใต้ดิน อุดมไปด้วยเนื้อหาอารมณ์หลากหลายแนวไม่ว่าจะเป็น การดำเนินชีวิตของกลุ่มพนักงานตรวจตั๋ว ตัดสลับความเป็นทริลเลอร์ด้วยตัวละครฆาตกรที่ไล่ฆ่าเหยื่อแบบต่อเนื่องในสถานี สอดแทรกความเป็นโรแมนติกระหว่างสาวชุดตุ๊กตากับพระเอกหนุ่มที่ไม่เคยขึ้นไปจากสถานีพร้อมเก็บความลับบางประการ

ผมชอบบรรยากาศครึ้มๆอึมครึมเดาไม่ถูกว่าหนังจะพาเรื่องราวไปในทางใด ในหนังเรื่อง Kontroll โดยเฉพาะส่วนทริลเลอร์ที่หนังทำได้น่ากลัวชวนสะดุ้งหลายช็อต แต่โดยรวมแล้วไม่ชอบความหลากหลายของหนังซักเท่าไหร่ เมื่อมาถึง Vacancy ที่เน้นความเป็นทริลเลอร์ล้วนๆจึงจัดได้ว่า เข้าทาง ผู้กำกับเป็นอย่างยิ่ง

หนังไม่รีบร้อนเปิดฉากเชือด แต่หนังค่อยๆพาคนดูเข้าสู่โมเต็ลด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัย ก่อนจะเปิดเกมส์ไล่ล่าที่ถือว่า หนังเรื่องนี้เป็นงานโชว์ของ ของผู้กำกับล้วนๆ เพราะตัวหนังแทบจะไม่มีเนื้อหาอะไรให้พูดถึงมากมาย แต่ ระหว่างกลางเรื่องคนดูก็แทบจะไม่ทันคิดถึงเพราะ ฝีมือการกำกับของ นิมรอด เอนเทล ที่คุมความระทึกขวัญชนิดเอาอยู่ โดยเฉพาะเมื่อต้องเล่นกับจุดอับหรือซอกหลืบทั้งหลายแหล่ เรียกได้ว่า เขาเป็นผู้ชำนาญการใช้สถานที่เพื่อสร้างความระทึกขวัญคนดูดีแท้

เราคนดูจะมาเอะใจในตอนจบที่เมื่อเหตุการณ์คลี่คลาย ระหว่างเอนด์เครดิตขึ้น เราจะเริ่มรู้สึกตัวทีหลังว่า อะไรหว่า หนังทั้งเรื่องไม่เห็นจะมีอะไรเลย (โดยเฉพาะตอนจบที่ตั้งท่าเหมือนน่าจะมีอะไรแต่ไม่มีอะไรในกอไผ่ซะงั้น) ส่วนตัวแล้วไม่ผิดหวัง เพราะไม่ได้หวังอะไรนอกจาก ดูเอาลุ้น ซึ่งหนังก็ตอบโจทย์ได้ตามต้องการ


สรุป ..ชอบดูหนังฆาตกรไล่ล่าเหยื่อ หรือไม่ ถ้าชอบ ...อ่านบรรทัดถัดไป ถ้าไม่ชอบ บอกลาได้เลย

ชอบแบบเลือดสาด ไส้ไหล สมองโผล่ หรือไม่ ถ้าชอบ ... ไม่ต้องดู เพราะไม่ค่อยมี

ชอบฉากโป๊ นมโผล่ เลิฟซีนสะบัดหรือไม่ ถ้าชอบ ... ไม่ต้องดู เพราะไม่มีเลย

ชอบแบบมีเนื้อหาสาระ มีปมทางจิต มีเหตุผลรองรับ มีจุดหักมุม ถ้าชอบ ... ไม่ต้องดู เพราะ หนังไม่ได้มีเนื้อหามากมาย

...หนัง มีแต่การไล่ล่า เหยื่อคือคู่พระนาง และหนังก็เล่นสนุกกับไล่ล่าชวนให้ลุ้น โดยแทบจะไม่เห็นเลือดเหมือนเรื่องอื่นๆ ซึ่งถือว่าหนังประสบความสำเร็จในส่วนของการกำกับหนังให้เกิดความตื่นเต้นอย่างมีชั้นเชิง ไม่ใช่ไล่เชือดดะ เหมือนหนังทั่วๆไป ส่วนตัวแล้วคิดว่า หากอยากดูอะไรที่มันลุ้นๆตื่นเต้นแบบไม่ปัญญาอ่อน Vacancy ก็หนุกหนานใช้ได้ดี


ป.ล. ดู The Brave One แล้วจ้า ขอเชียร์ๆ ถึงแม้พล็อตจะดูโบราณประมาณละคร ล่า ของสินจัย แต่ หนังมีอะไรดีๆมากไปกว่านั้น กำลังจะเขียนเสร็จเร็วๆนี้

ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม

ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง