www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Rambo 4 (+3+2+1) , เปิดตำนานจาก 'พี่โบ้' สู่ 'ลุงโบ้' (โอ้มายก๊อด ลุงบึกตายยาก)



...เมื่อมีปัญหาก่อการร้ายในเมืองใหญ่ โปรดเรียกใช้ แจ๊ค บาวเออร์

เมื่อมีปัญหาโจรฉลาดๆวางแผนอาละวาดระเบิดเมือง โปรดตาม จอห์น แมคเคลน

แต่

หากมีสงครามในป่าในเขา ต้องเข้าช่วยคนที่ถูกทหารทั้งกองทัพกักขังไว้ หรือ ต้องการตะลุยเหล่าร้ายประเภทชอบระเบิดภูเขาเผากระท่อมตามหนังของลุงฉลอง โปรดจองตัว จอห์น แรมโบ้


ปี 1982



...ผู้กำกับชื่อแปลก Ted Kotcheff แนะนำให้คนดูรู้จักกับ พี่โบ้ ผ่านหนังชื่อ First Blood อันมีที่มาจากประโยคสนทนาที่ พี่โบ้บอกว่า “ก็พวกมันเป็นคนเริ่มหลั่งเลือด (First Blood ) ก่อน”

ทั้งที่ พี่โบ้ เองเพิ่งกลับจากสงครามเวียดนาม แล้วแวะไปเยี่ยมเพื่อนในเมืองเล็กๆ เพียงเพราะพี่โบ้ใส่ชุดโทรมๆเสื่อมๆเลยถูกนายอำเภอไล่ออกจากเมือง พอพี่โบ้ไม่ยอม ก็เลยถูกจับแล้วรุมสะกรำโดยเจ้าหน้าที่คนอื่นๆโดยไม่ฟังอีร้าคารมหรือเหตุผลใดๆ ภาพที่โดนทำร้ายซ้อนทับสมัยทำสงครามทำให้ พี่โบ้คลั่ง โต้ตอบกลับแล้วหนีเข้าเขตป่าใกล้ๆเมือง

ฝั่งเจ้าหน้าที่อยู่ดีไม่ว่าดี ยังอยากลองของ ก็ตามเข้าป่าไล่ล่าพี่โบ้

แน่นอน เมื่อเข้าป่า ก็เท่ากับ พี่โบ้ คืนถิ่น เมื่อเหล่าตำรวจตามมารังควาน จึงต้องเสร็จพี่โบ้อย่างแน่นอน



ชีวิตของพี่โบ้ในภาคนี้ สะท้อนภาพวีรบุรุษสงคราม ที่ ความเป็นวีรบุรุษ แทบไม่มีความหมายใดๆ เมื่อ สงครามสงบ และ ตัวสงครามก็ทำลายความเป็นคนในตัวจนหมดสิ้น ครั้นกลับมาใช้ชีวิตปกติเฉกเช่นคนธรรมดา ก็ยังตามถูกรุมยำโดยกฎหมู่ของผู้มีอำนาจในมือ

พอจะกล่าวได้ว่า พี่โบ้ โดนกระทำจากสงคราม และ โดนกระทำชำเราซ้ำจากทางรัฐและสังคมที่มองเขาเป็นแค่หมากตัวหนึ่งในสงครามเวียดนาม

ความรู้สึกพี่โบ้ในภาคนี้เจ็บปวดจับใจ เมื่อเขาเปลือยความรู้สึกให้ฟังว่า ตอนอยู่ในสงครามเขาเป็นได้ทุกอย่าง ทำได้ทุกอย่าง มีเพื่อนพ้อง ขับรถถัง คุมอาวุธยุทโธปกรณ์ราคาเป็นล้าน แต่พอกลับมาสู่สังคมปกติกลับทำไม่ได้แม้แต่ล้างรถ

ตอนท้ายภาคแรกพี่โบ้มีดราม่าน้ำตากระจายกับชีวิตรันทดยิ่งกว่าแอร์กี่ จึงทำให้ ภาคนี้เป็นจุดเริ่มต้นของหนังดราม่าแอคชั่นสะท้อนสังคม ที่ดูกี่ครั้งก็ยังสนุก จะดูซ้ำในตอนนี้ก็ยังไม่รู้สึกว่าเชย


ปี 1985



...ชีวิตพี่โบ้อยู่ในมือผู้กำกับคนใหม่ George P. Cosmatos ซึ่งได้กำกับลุงสไลใน Cobra ไม่กี่ปีถัดมา และ เคยได้รับการยกย่องชื่นชมในหนังคาวบอยเรื่อง Tombstone

ภาคนี้ พี่โบ้ ออกมาจากคุกหลังไปพังเมืองเละเทะในภาคแรก เขาได้รับมอบหมายไปถ่ายรูปค่ายที่อาจกักกันทหารอเมริกัน แต่ชะรอยว่า พี่โบ้ จะไม่ได้เกิดมาเพื่อถ่ายรูป แต่ พระเจ้า จอร์จ พี่โบ้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ นั่นคือ สงคราม

ทำให้แทนที่จะถ่ายรูปดีๆพี่โบ้ดันทะลึ่งตกเครื่องบิน สุดท้ายเลยได้ไปลุยที่เวียดนามช่วยเชลยศึกสมความปรารถนา



พี่โบ้ในภาคนี้มีนางเอก แถมมี first kiss ให้ฉ่ำชื่นหัวใจ แต่มีไปก็เท่านั้น สุดท้าย พี่โบ้ถูกกระทำย่ำยีซ้ำจากรัฐบาล ซึ่งศัตรูคนไหนก็ไม่ทำให้เสียอารมณ์เท่าพวกเดียวกันที่มาแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ

จนทำให้เขากลั้นใจประกาศวาทะดีๆให้ท่านผู้พันผู้เสมือนพ่อคนเดียวให้ฟัง ด้วยอารมณ์เจ็บปวดเสียใจราวกับต้องการประกาศให้คนในชาติได้ยิน กับประโยคดีๆที่ผมชอบมากเมื่อออกจากปากพี่โบ้ว่า

“ขอแค่ให้ประเทศชาติรักเรา เหมือนที่เรารักชาติบ้างจะได้ไหม”



ปี 1988



... Peter MacDonald มาจากไหนไม่มีใครรู้ รู้แต่พอพี่แกมากำกับพี่โบ้ภาคนี้แล้วอนาคตบนจอใหญ่ก็ดับวูบไปเลย

ในภาคนี้ พี่โบ้หนีมาพึ่งทางธรรม อยู่เมืองไทยช่วยสร้างวัดสร้างเจดีย์ แล้ว ท่านผู้พันก็มาชวนให้ไปช่วยรบที่อัฟกานิสถาน พี่โบ้ บอกผ่านเพราะคิดจากลาการฆ่าฟัน แต่ท่านผู้พันบอกว่า คนเราหนีสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่พ้น พี่โบ้ทำหน้าเหมือนคิดว่า โอ้มันช่างเป็นปรัชญาเซนเหลือเกิน แต่ก็ยังนั่งโบกปูนต่อไป

ต่อมา ท่านผู้พันดันทำซวยเพราะโดนจับ พี่โบ้จึงต้องกลับเข้าสู่สมรภูมิ



ภาคนี้มีส่วนสำคัญในการสร้าง แบรนด์ 'แรมโบ้' ให้เป็นตัวละครบ้าระห่ำในหนังแอคชั่นบ้าดีเดือด เพราะ ตัวหนัง ไม่มีอะไรมากไปกว่าการระเบิดภูเขาเผากระท่อม และทำให้คนดูรุ่นใหม่ที่มาดูหนังภาคนี้ อาจเข้าใจผิดว่า หนังพี่โบ้ คือ หนังไมเคิล เบย์แบบเชยๆ

ฉากเด็ดๆที่ทำให้พี่โบ้ยังคงความเป็นพี่โบ้ นอกจากช็อตเด็ดเอาผ้าคาดหัว คือตอนที่ พี่โบ้กับท่านผู้พันหนีมาเจอกองทัพอัฟกานิสถานนับร้อย ท่านผู้พันถามพี่โบ้ ว่าเอาไงดี พี่โบ้ตอบว่า “เราตีล้อมพวกมันดีกว่า” ท่านผู้พันบอกว่า “ฮาฮาฮา ขำผิดเวลาเว้ย”

พี่โบ้เลยเปลี่ยนคำตอบว่า “ยิงแม่มมมมเลย” แล้วก็ทำตามนั้น ลุยถั่วเข้าไป สองต่อร้อย ทำไปได้



20 ปีต่อมา (2008)



... พี่โบ้ ย่อมหนีสังขารไม่พ้น เพราะไม่ยอมเปลี่ยนคนเล่น ครั้งนี้จึงต้องกลายมาเป็น ลุงโบ้ อีกทั้ง ลุงโบ้ คงคิดว่าตัวเองผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ลุงโบ้เลยกำกับตัวเองเสียเลย น่าเสียดายที่ ภาคนี้ไม่มีท่านผู้พัน เพราะท่านขึ้นสวรรค์ไปเมื่อห้าหกปีก่อน ตัวละครเก่าๆจึงเหลือลุงโบ้คนเดียว

ลุงโบ้ หนีมาต่อเรือจับงูเห่าอยู่บนเขา มีกลุ่มมิชชันนารีหวังให้ลุงโบ้ขับเรือพาไปส่งแนวชายแดนพม่าที่ใกล้หมู่บ้านในช่วงเวลาที่แผ่นดินพม่าร้อนเป็นไฟ พวกเขาตั้งใจไปช่วยกะเหรี่ยงชาวบ้าน แต่ ลุงโบ้ไม่ใช่คนที่กล่อมง่ายๆเขาย้อนให้กลุ่มมิชชันนารีกลับบ้านไปเสียเถิด เพราะ เข้าไปแบบไม่มีอาวุธ มันไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้หรอก

แต่ กลุ่มมิชชันนารีไม่ฟัง เลยหาทางกล่อมลุงโบ้ตามสูตร วัวแก่เคี้ยวหญ้าอ่อน นั่นคือ สาวงามในกลุ่มเข้ามาอ้อนลุงโบ้ พยายามเปลี่ยนการมองโลกของลุงโบ้ เราจึงจะได้เห็น การมีชีวิตที่มองโลกแตกต่างกัน



ระหว่างลุงโบ้ ที่มอง มนุษย์เป็นสีดำอยางไร้ความหวัง อยู่ในโลกที่สิ้นศรัทธา ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจหากมองย้อนไปในสิ่งที่เขาโดนกระทำจากผู้คนตั้งแต่ภาคแรก ครั้นเมื่อ คนสวยถามว่าไม่เคยคิดกลับบ้านเลยหรือ ไม่แปลกเลยถ้าเธอเคยดู แรมโบ้ ภาคแรก ที่แค่กลับมาเยี่ยมเพื่อนยังโดนต้อนเข้าป่าขนาดนั้น

อีกมุมหนึ่งคือ การมองโลกของสาวงามและพวกพ้องที่เชื่อมั่นว่า โลกนี้เปลี่ยนแปลงได้และไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง แถมคนในกลุ่มยังทะเร่อทะร่าโวยวายตอนลุงโบ้ช่วยฆ่าโจร แถมยังจะบอกว่าจะไปฟ้องตำรวจเพราะพี่โบ้ทำผิดกฎหมาย

...ภาพตัวละครทั้งสองฝั่งเหมือนอาศัยอยู่ในโลกอุดมคติสีขาวกับดำ ซึ่งสุดท้ายทั้งสองฝั่งก็พบว่า ในความเป็นจริง ไม่มีสีขาวล้วนหรือดำสนิท โลกยังเปลี่ยนแปลงได้ มนุษย์ยังเปลี่ยนแปลงได้ หากเรามีความเชื่อมั่นและมองจากความเป็นจริงมิใช่ฝังตัวเองในความเป็นอุดมคติจนเกินไป



...ต้องเข้าใจตรงกันก่อนว่า แรมโบ้ ไม่ใช่หนังแอคชั่นประเภท 'ลับสมองประลองปัญญา'

ลุงโบ้ ไม่ได้โด่งดังมาจากหนังแอคชั่นประเภทระเบิดตูมตาม เพราะภาคแรก แทบจะไม่ได้มีระเบิดมากมายอะไร และ สาระสำคัญก็สะท้อนภาพสังคมที่ไล่ต้อนคนนอกให้เข้ามุมอับ การใช้งานคนเป็นแค่เครื่องมือของหน่วยงานรัฐ และ เปิดประเด็นภาพความโหดร้ายที่รัฐบาลสร้างให้คนธรรมดา กลายเป็น วีรบุรุษ ที่ไม่มีแผ่นดินให้หยัดยืน

เสียตรงภาคสองกับภาคสาม พี่โบ้ ออกแนว แอคชั่นโม้แหลก จนหาสาระไม่ค่อยเจอ คนเลยติดตาจากสองภาคหลัง

...ภาคนี้ ถือเป็นการกลับมาที่ทำได้ดี มีกลิ่นอายของทั้งสามภาคมายำรวมกัน บทหนังมีแง่มุมให้ขบคิดเล็กๆน้อยๆไม่ใช่ปล่อยทหารมายิงกันอย่างเดียว ส่วน 'ฉากโชว์ความเป็นแรมโบ้' ก็ไม่ทำให้แฟนเก่าต้องผิดหวัง อาทิเช่น ฉากโผล่มาข้างหลังช้าๆแล้วจับภาพนิ่งก่อนเชือด และ ฉากแอคชั่นประเภทม้ามกระจายไตกระจุย สาแก่ใจคอหนังแอคชั่นที่โหยหาความมันส์เหมือนสมัยก่อน

ฉากแอคชั่นทำได้ดีทีเดียว ไม่ทันสมัยวูบวาบเกินเหตุเหมือนหนังสมัยใหม่และก็ไม่ได้เชยสะบัดชวนหน่ายหนี อีกทั้งการสร้างภาพเหล่าทหารพม่าก็ทำได้เลวร้ายต่ำทราม เช่นเดียวกับ บรรยากาศในพม่าที่โหดเหี้ยมเหมือนแอฟริกาใน Blood diamond จนไม่แปลกใจหากพม่าจะเลือกแบนหนังเรื่องนี้

...คงต้องชม ลุงสไลที่กลับมากำกับหนังตัวเองทั้งสองเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนักมวยหรือนักรบได้ดีพอสมควร ในฐานะแฟนพี่โบ้คนหนึ่ง ถือว่า เป็นการกลับมาที่น่าพึงพอใจ ส่วนตัวแล้วชอบที่สุดรองจากภาคแรก (และแปลกแต่จริงที่ แรมโบ้ภาคแรกไม่ได้มีชื่อหนังว่า Rambo แต่ชื่อนี้คือชื่อของภาค 4 ที่กำลังฉายอยู่ เพราะภาคแรกหนังใช้ชื่อว่า First Blood แต่บังเอิญชื่อตัวละครกลับดังเกินชื่อหนัง)



สรุป ... จอห์น แมคเคลน กลับมาแล้ว น่าประทับใจ

จอห์น แรมโบ้ ก็กลับมา ไม่น่าผิดหวัง

เหลือคนเดียว ที่ปีนี้คนดูหนังส่วนรอได้พิสูจน์ว่า ปู่อินดี้ จะกลับมาเหวี่ยงแส้ได้พ้นตัวหรือเปล่า



แจ้งข่าวครับ :

1. เชิญชวนเพื่อนผู้อ่านทั้งใน Blog และ ใน Book มาพบปะพูดคุยและบังคับแจกลายเซ็น ที่ บูธซีเอ็ด ใน งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน เที่ยงครึ่งถึงบ่ายสองโมง จ้า (อย่าปล่อยข้าพเจ้านั่งหง่าวเพียงลำพังเลย)



2. "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ได้รับคำชวนจาก www.yarisme.com มาเป็นพันธมิตรร่วมกัน แต่ ผมเองคนเดียวคงไม่สามารถจะมีเวลาให้มากพอ ผมจึงเกิดไอเดียชวนเพื่อนร่วม blog อีกห้าท่านที่เป็นคนรักหนังและสนุกกับการเขียนเหมือนๆกัน อันได้แก่ คุณบลูยอชต์ + Nanoguy + renton_renton + OncE UPoN'-'a MaN + เทพบุตรตบะแตก มาเปิด blog ร่วมกันที่ใช้ชื่อว่า

//vreview.yarisme.com


Vreview = We review = การรวมบทความรีวิวเกี่ยวกับหนังของแต่ละคน อาทิเช่น อัพเดตรีวิวสั้นๆถึงหนังโรงที่ได้ดูพร้อมคะแนนเพื่อช่วยตัดสินใจ พร้อม link ไปอ่านฉบับเต็มของแต่ละคน หรือ รีวิวเต็มๆตามสไตล์ใครสไตล์มัน

ซึ่งนั่นจะทำให้เพื่อนผู้อ่าน มีตัวช่วยในการเลือกดูหนังมากขึ้น เพราะด้วยตัวเองแล้วไม่มีเวลาสามารถพอที่จะเขียนถึงหนังได้ครบทุกเรื่อง

ด้วยความหลากหลายของแต่ละคน คาดว่า ถ้าเว็บไม่บอกลาเราไปเสียก่อน น่าจะเป็น blog ที่รวบรวมรีวิวหนังไว้ได้มากพอสมควร จึงเชิญชวนแวะมาเยี่ยมเยือนพร้อมติดตามเรื่องรางวัลได้ที่ blog นั้นคู่กันไปครับ



องศาที่ 361 คลอดอย่างเป็นทางการแล้ววววว




อ่านเบื้องหลัง ที่มาที่ไป ไขเบื้องหลังของหนังสือ คลิกได้ที่นี่เลยครับ

เบื้องหลัง 'องศาที่ 361' - พ็อกเก็ตบุ้คเล่มที่ 2 ของ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ”

อ่านจบเมื่อใด ขอเชิญชวนมาพูดคุยแสดงความเห็นเกี่ยวกับหนังสือ คลิกที่ลิงค์ข้างล่างนี้เลยครับ

อ่านแล้วมาคุยกัน ... "องศาที่ 361


ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป






Create Date : 17 มีนาคม 2551
Last Update : 17 มีนาคม 2551 11:35:30 น. 17 comments
Counter : 6235 Pageviews.

 
อยากดูอ่ะ
ชอบลุงสไลมานานแล้ว


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:15:07:04 น.  

 
โอ้โห สรุปลุงโบ้ได้ยอดเยี่ยมมากค่ะ
ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ดูเรื่องนี้

แต่ว่าตั้งหน้าตั้งตาคอยปู่อินดี้เหมือนกันค่ะ ทุกวันนี้ก็เอาตอนเก่าๆมาหมุนเวียนเปิดเรื่อยๆ เพื่อรอการกลับมาของปู่


โดย: Wabbit IP: 213.46.219.179 วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:16:24:32 น.  

 
ต้องตาม ต้องตาม
นานกี่ปีก็จะตาม..ยันแก่กันไปข้างหนึ่งแล้วเห็นไหม
หุ หุ หุ
zwani.com myspace graphic comments
Myspace Hello Comments


โดย: katoy วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:17:13:40 น.  

 
อ่านมานานหลายเรื่อง เรื่องนี้เขียนฮาดีแฮะ


โดย: ppp IP: 58.9.80.23 วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:21:27:12 น.  

 
เขียนได้สนุกดีครับ ชอบประโยคนี้จัง"พระเจ้า จอร์จ พี่โบ้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ นั่นคือ สงคราม"

เดี๋ยวไล่ดูภาคเก่าๆก่อนดีกว่า เพราะผมเองก็มีแต่ภาพของภาค3พี่โบ้ระเบิดภูเขา เผากระท่อมเหมือนกัน


โดย: the red IP: 203.155.247.54 วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:21:34:50 น.  

 
ขอบคุณครับ ติดตามอ่านมาได้ระยะหนึ่งแล้วครับ

พี่เขียนได้ สาระ+ฮา ดีครับ

ปกติถ้าไปดูเรื่องไหนแล้วไม่เข้าใจ เนื่องจากผมอยู่รัสเซีย และภาษาก็ยังไม่แข็งแรงมาก ก็จะมาตามอ่านบทความที่ พี่ จขบ เขียนไว้ครับ

ขอบคุณอีกครั้งครับ


โดย: bassethound IP: 77.66.167.137 วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:22:35:00 น.  

 
เขียนได้ฮามากครับ แต่ตอนมีสาระก็แน่นครับ นานเขียนฮาๆก็ดีครับ ว่าจะข้ามไปรอDVDแล้ว เป็นแบบนี้คงต้องกำตังเข้าไปจับมือกับพี่โบ้ในโรงแล้วละเนี้ย


โดย: adente IP: 124.121.212.242 วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:23:48:11 น.  

 
หนังบู๊ ดุเดือด ระห่ำสุดๆ แบบไม่ต้องเพิ่งพาเทคโนโลยี ถือเป็นหนังแอ็คชั่นที่หาดูได้ยากมากครับในช่วงหลังๆ คนที่ติดตามมาทุกภาค ภาคนี้ยิ่งไม่ควรพลาด

ปิดฉากชีวิต ฮีโร่ ในดวงใจไว้ได้อย่างสวยงาม


โดย: YoiChi_KunG วันที่: 18 มีนาคม 2551 เวลา:12:38:29 น.  

 
+ แหะๆ คงต้องขอบายแฮะเรื่องนี้ เนื่องจากไม่ใช่หนังแนวผมอ่ะครับ ... แวะเข้ามาเก็บข้อมูลเจ๋ยๆ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 18 มีนาคม 2551 เวลา:13:19:44 น.  

 
ฝากเบื้องหลัง Phosthetic ของคนไทยไว้ติชมด้วยครับ
//s47.photobucket.com/albums/f154/latexmans/RAMBO%204/?start=0


โดย: latexmans IP: 124.120.34.213 วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:10:56:06 น.  

 
คราวนี้คุณหมอเขียนแบบฮาๆ แฮะ ชอบๆ


โดย: AronSun IP: 124.120.238.65 วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:11:16:04 น.  

 
คุณหมอเขียนสรุปลงท้ายได้เจ๋งมากค่ะ
อยากดูอินเดียน่า โจนส์อยู่เหมือนกัน


โดย: ติดใจ IP: 203.125.64.226 วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:17:38:41 น.  

 
มาอ่าน

ชอบภาคแรกมากที่สุดครับ

และเชียร์ให้งานสัปดาห์หนังสือขายได้เยอะๆนะครับ เชียร์ล่วงหน้ายาวๆเลย


โดย: น้ำใส IP: 118.174.12.186 วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:18:28:20 น.  

 


สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม
หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง
ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน


โดย: ป๋องแป๋ง IP: 124.120.0.136 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:17:31:16 น.  

 
ยังไม่ได้ดูเลย แต่ประทับใจตั้งแต่เค้าถ่ายทำล่ะ 55 ไปเที่ยวน้ำตกนั่งกินข้าวกะเพื่อนๆอยู่ โอ้ววว นั่นมัน แรมโบ้ เดินมาผ่านวงแบบจะผ่ากลางวงอยู่แล้ว กินข้าวกลางป่าอยู่ดีดี ยังอุตส่าห์ได้เจอนักแสดงระดับโลก ฮ่าๆๆ


โดย: redchocolate IP: 124.121.91.34 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:20:36:22 น.  

 
มาขอจับมือเเฟนพี่โบ้ครับ

ฉากสุดท้ายที่เดินกลับบ้านในภาค 4 ทำให้อยากหยิบภาคเเรกมาดูตะหงิดๆเลย


โดย: เมื่อฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี IP: 124.120.70.7 วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:14:00:39 น.  

 
ชอบภาค1เท่านั้น เพราะเป็นทหารเก่าดูตอนจบแล้ว IN สุดๆดูแล้วคิดถึงตัวเอง


โดย: ทหารแก่ IP: 58.136.210.29 วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:12:11:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
17 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.