www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Body of lies , Talking thriller ที่ว่าด้วยแผนซ้อนแผนซ้อนแผนซ้อน....

Blog's talk


1. งานมหกรรมหนังสือครั้งนี้ ผลงานลำดับที่สาม หรือ หนังสือเล่มล่าสุดของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" เตรียมพบเพื่อนๆแล้วนะครับ เปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมหนังสือ ที่ บูธ D12 สำนักพิมพ์ 4 Letter word ในโซน Plenary Hall

เจ้าของบล็อกหรือผู้เขียนนี่เอง จะไปพบปะเพื่อนๆและแจกลายเซ็น(หากท่านต้องการ) ใน วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม ช่วง บ่าย 3 - 4 โมงเย็น หรือ อาจนานกว่านั้นอีกหน่อย เพราะว่าจะรอขอลายเซ็นคุณคงเดชต่อด้วย เพราะอยู่บูธเดียวกัน

แล้วพบกันครับ กับหนังสือเล่มล่าสุดที่ชื่อว่า







... หลายคนบ่นว่าดูหนังแล้วมึนตึ้บ เพื่อป้องกันอาการมึนงง จึงขอเกริ่นพอให้เห็นภาพว่า เนื้อหาของหนังเริ่มต้นประมาณ

มี ผู้ก่อการร้ายตัวพ่อ ชื่อ อัล ซารีม สร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก ด้วยการระเบิดสถานที่สำคัญในยุโรป

ซีไอเอพยายามตามล่าตัวแต่หาไม่เห็นแม้เงาหัว เพราะ ระบบใหม่ของผู้ก่อการร้ายคือเลิกใช้ของไฮเทค แบบมือถือ แต่ใช้วิธีสมัยโบราณคือ ส่งข่าวแบบปากต่อปาก พูดคุยประชิดตัวกัน เพื่อไม่ให้ถูกดักจับได้

ซีไอเอต้องแก้ลำด้วยการส่งสาย เข้าคลุกวงในเข้าไปในตะวันออกกลาง



โรเจอร์ เฟอร์ริส ซีไอเอหนุ่ม มือหนึ่งด้านปฏิบัติการภาคสนาม ออกลงพื้นที่เข้าคลุกคลีขบวนการก่อการร้าย หาสายที่เป็นคนท้องถิ่น และ พยายามหาข้อมูลเพื่อสาวให้ถึง ตัวพ่อ

โดยมี เอ็ด ฮอฟฟ์แมน ซีไอเอรุ่นพี่ ภาคทำงานนั่งโต๊ะ คอยคุมปฏิบัติการณ์เสมือนหัวหน้าของเฟอร์ริส อีกต่อ


... หนังพาเริ่มต้นไปแถบอิรักอิหร่านพล่านไปทั่วเพื่อสืบหาตัว อัล ซารีม แต่ข่าวล่าสุดยืนยันว่า อัล ซารีม น่าจะกบดานอยู่ในจอร์แดน แผนจึงเปลี่ยนไปด้วยการให้ เฟอร์ริส บินไปปฎิบัติการที่นั่น

งานของเฟอริส คือ เข้าไปตีซี้กับ ฮานิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นประเทศจอร์แดน เพื่อร่วมมือกันทลาย อัลซารีม ฮานิ ที่มีคาแรคเตอร์ออกแนวเหี้ยมเลือดเย็น มีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวคือ จะมีอะไรกันจะจิ๊จ๊ะยังไงกันขอแค่ว่า ห้ามโกหก

เฟอริส รับปากว่ามีอะไรจะบอกทุกอย่าง แต่ ปัญหาคือ เอ็ด ก็แอบ มุบมิบ สั่งการปฏิบัติการซ้อนจากฝั่งอเมริกา แถมมีข้อมูลเด็ดๆก็อุบไว้ และ เมื่อฮานิจับได้ คนซวยคือ เฟอริส




....เมื่อแผนล่ม เฟอริส ถูกส่งกลับอเมริกา จึงกลับไปถีบเอ๊ดซักหนึ่งที ด้วยข้อหาแส่ไม่บอกกัน และ มาวางแผนใหม่กับเอ็ด ด้วยจินตนาการบรรเจิดว่า ในเมื่อ หาตัวพ่อยากนัก เราก็สร้างผู้ก่อการร้ายตัวพ่อขึ้นมาในวงการอีกซักคน จัดฉากระเบิดซักนิดหน่อย เป็นเหมือนตัวล่อ พออีกฝั่งเห็นว่า มีใครริอาจมาประชัน ก็ต้องอยากติดต่อ ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการร่วมมือก็ต้องการเก็บทิ้งไม่ให้ดังกว่า

แผนนี้นอกจากจะเว่อร์แล้ว ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน เพราะ ผู้ก่อการร้ายที่สองคนนี้จะปั้นขึ้นมา คือ คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่คนหนึ่ง ซึ่งถูกแฮคข้อมูลและถูกยัดข้อมูลปลอมๆไป ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าตัวพ่อรู้เมื่อไหร่ เขามีสิทธิซวยโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

แผนนี้จะรอดหรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่เดี๋ยวก็มีแผนใหม่อีก คือ เฟอริส ถูก ฮานิ เรียกกลับเข้าประเทศจอร์แดน ประมาณว่า ‘ข้ามองเจ้าผิดไป’ และ วางแผนกันใหม่ เพื่อโค่นล้ม ตัวพ่อ โดยเอ๊ดก็ดูอยู่ห่างๆพร้อมแผนในใจ

และนั่นคือเรื่องราวของ แผนการ ซ้อน แผนการ ซ้อน แผนการ ซ้อน ... ที่รอทำคนดูมึนอยู่ในโรงหนัง




... ชื่อหนัง Body of lies จึงมีที่มาจากเรื่องราวข้างต้น ที่ว่าด้วยการ ‘ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ(lies)’ เพื่อเป้าหมายของตัวเอง แต่ละฝ่ายจึงพร้อมที่จะ โกหกเพื่อนร่วมงาน โกหกฝ่ายตรงข้าม โกหกพวกเดียวกัน ไปจนกระทั่ง โกหกประชาชน และ ผลลัพธ์ของการ โกหก ก็ขึ้นกับระดับศีลธรรมในจิตใจ ที่ทำให้ บางคนยิ่งใหญ่แต่ไร้ซึ่งความเป็นคน กับ บางคนที่ถูกความรู้สึกผิดไล่กัดกิน


... ตัวหนังจริง ค่อนข้างตรงข้ามกับ ตัวอย่างหนัง ที่แสดงถึง ความมันผ่านฉากแอคชั่นตูมตาม และ การหักเหลี่ยมของ เฟอร์ริส กับเอ็ด ราวกับจะเป็นหนังเฉือนคมประมาณ Infernal affair ที่ว่า ไม่รู้ใครหลอกใคร

แต่เอาเข้าจริง ฉากแอคชั่นมันส์ๆโผล่มาแค่พอปลุกไม่ให้หลับเป็นระยะๆ และ การหักเหลี่ยมก็ไม่ได้เฉือนกันเหนือชั้นแบบนั้น เพราะทั้งเฟอร์ริสกับเอ็ด ไม่ได้หักเหลี่ยมอะไรกันเลย ออกมาในแนว หัวหน้าคอยกั๊กข้อมูล แอบทำลับหลังแล้วไม่บอกอีกฝ่าย ปล่อยให้อีกฝ่ายต้องดิ้นรอนหาทางเอาตัวรอด ไปพร้อมๆกับ ต้องหาทางพิชิตภารกิจให้สำเร็จ




... Body of lies ไม่ห่วย และ บทก็ดี เพียงแต่ มันเป็นหนังที่ต้องอาศัย สมาธิ และ เนื้อที่สมอง ค่อนข้างมาก กับ แผนการซ้อนแผนการซ้อน...ซ้อน... ซ้อนไปซ้อนมา ชนิดที่ว่า ถ้าสมาธิคนดูหลุดไปตอนไหน ก็จะมึน ว่า ใคร ทำอะไร กับ ใคร(ฟระ)

จะมีน่าผิดหวังเหมือนกับ Eagle Eye ก็ตรง โครงเรื่องซีไอเอหลอกกันไปหลอกกันมาแบบนี้มีมาตั้งแต่ยุคคุณพ่อ และก็ไม่ค่อยต่างกันไปนัก และ หนังก็ไม่ได้พยายามจะหาจุดเด่นให้กับตัวเอง เมื่อเทียบกับเรื่องเก่าๆที่ถึงจะซ้ำแต่ก็ยังมีจุดแข็งในตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็น Spy game ที่ก็ไม่ได้แอคชั่นมากมายแต่สนุกมากกว่า หรือจะเป็น หนังซีไอเออีกเรื่องที่ลงถึงผลกระทบของการเป็นสายลับต่อครอบครัว และ ลงถึงสภาพจิตใจได้ลึกซึ้งกว่าอย่าง The Good Shepard


... ข้อดีของ Body of lies คือ บทของหนังถึงจะไม่ใหม่แต่ก็ไม่ชุ่ยและไม่หลวม ถือว่าค่อนข้างรัดกุมในการตามเก็บรายละเอียดไม่ค่อยมีรูโหว่ให้จับผิด ส่วนใหญ่ดูน่าเชื่อถือถึงจะออกเว่อร์ๆ

และสำหรับคนดูที่ชอบหนังประเภท ‘สนุกคิด’ จะพบว่าถึงฉากตูมตามจะมีไม่มาก แต่หนังก็ทำให้เราเกิดความอยากรู้อยากติดตามไปจนจบ ถึงจะมีความเว่อร์จนยากจะเชื่อถือได้บ้างตรง แผนการวางตัวล่อ แต่ด้วยฝีมือการกำกับของ ริดลี่ย์ สก็อตต์ ก็ยังหนักแน่นเพียงพอที่จะทำให้เรารู้สึกเว่อร์แต่พอจะเชื่อตามต่อได้จนจบ




... ริดลีย์ สก็อตต์ ยังคงรักษาตำแหน่ง ผู้กำกับที่มีผลงานวางใจได้ คือ ยังไม่เคยหลุดหนังที่เข้าข่ายห่วย จะมีดีกับพอใช้สลับกันไป เพียงแค่ ผมเองยังไม่เคยชอบเรื่องไหนของริดลี่ย์ สก๊อตต์ แบบสุดๆเลยซักเรื่องเดียว

อีกส่วนที่ชอบของหนังเรื่องนี้คือ นอกจากการเล่นกับเรื่องราวของ ซีไอเอ หนังยังไปเล่นกับ ประเด็นผู้ก่อการร้ายกับตะวันออกกลาง ที่ทำออกมาได้ดูดีกว่าหลายๆเรื่อง

การวิพากษ์นโยบายและมุมมองที่มีต่อประเทศชาติตัวเอง ทำได้เป็นกลาง ไม่โปรเกินไป และ ดูจริงใจมากกว่า หนังตะวันออกกลางเรื่องล่าสุดอย่าง The Kingdom กับอีกหลายๆเรื่องของฮอลลีวูดที่พยายามเหมือนว่าจะเป็นกลาง ผ่านบทพูดตอนท้ายประมาณว่าใครๆก็เลวทั้งนั้น หรือ จิกกัดประธานาธิบดีตัวเอง แต่ ภาพรวมของหนังเหล่านั้น ก็อดไม่ได้ที่จะ โปรและโชว์ความแน่ในสถานะพี่ใหญ่ตลอดเวลา




...ในขณะที่ Black hawk down หรือเรื่องนี้ไม่เกรงใจที่จะเสียดสีให้เห็นความกร่างและผลตอบแทนที่สาสม ซึ่งอาจไม่แสบเท่าหนังประเทศอื่นๆ แต่ก็จัดได้ว่า เป็นกลางและจริงใจดีที่สุดเมื่อเทียบกับหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์เวลาที่จะนำเสนอภาพของชาติตัวเองกับเหล่าผู้ก่อการร้าย

ในเรื่องนี้ สถานภาพ ที่ กร่าง ของเอ็ด ประมาณ ตรูรู้ทุกอย่าง คำพูดประมาณ ‘รู้ใช่มั้ย ถ้าหันหลังให้ต้องเจอยังไง’ ล้วนแสดงความเป็นพี่ใหญ่มหาอำนาจ ที่น่าหมั่นไส้ เป็นอย่างยิ่ง และ เฟอร์ริส ก็เหมือนประชาชนคนหนึ่งที่เลือกเป็นลูกน้องเดินตาม เอ็ด เพียงเพราะหวังจะทำในสิ่งที่ดีๆให้โลก

แต่ สุดท้ายเขาก็กลายเป็นแค่ เบี้ยตัวหนึ่งบนกระดานที่ผู้มีอำนาจพยายามเอาชนะคะคาน ภายใต้ฉากหน้าที่ว่าด้วย การกำจัดคนชั่วให้หมดไป

ซึ่งก็เหมือนกับ เพื่อนๆของเฟอรริสที่ต้องตายไปโดยไม่มีความหมายในสายตาของเอ็ด เพราะพวกเขาเหล่านั้นก็ล้วนเป็น หมากตัวหนึ่งบนเบี้ยกระดาน ของผู้เป็นใหญ่เท่านั้นเอง

... จะว่าไป ถึง อัลซารีม(ตะวันออกกลาง) กับ เอ็ด(อเมริกา) อยู่คนละขั้วกันก็จริง และ ถึงแม้ อัลซารีม(ตะวันออกกลาง) จะถูกตีตราว่า ผู้ก่อการร้าย แต่ ในด้านความเป็นคน ทั้งคู่ก็แทบจะไม่ต่างกัน คือ มีเป้าหมายที่ต้องการไปให้ถึง และ พร้อมสังหารคนบริสุทธิ์ได้เพียงเพื่อตอบสนองชัยชนะที่ตัวเองต้องการ






... รัซเซล โครว์ เหมือนจะไม่ได้โชว์ออฟอะไร แต่ ผมชอบฝีมือเขาในหนังเรื่องนี้มากกว่า น้องลีโอ เพราะผมสังเกตว่า น้องลีโอ เล่นหนังดีแทบทุกเรื่องจริงๆ แต่พอได้ดูบ่อยๆก็พบว่า น้องลีโอ เล่นแพทเทิร์นเดียวกันตลอด เวลา เศร้า แอบรัก เจ็บปวด เซ็งเป็ด ปวดอึ ฯลฯ ทั้งสีหน้าแววตาท่าทางแทบจะถอดแบบกันมา เพียงเปลี่ยนคาแรคเตอร์กับเสื้อผ้าหน้าผม แต่ โครว์ รู้วิธีที่จะปล่อยหรือคุมการแสดงของตัวเองให้มากหรือน้อย ไปตามบทที่วางมา

ในหนังเรื่องนี้แกอาจเหมือน ตาแป๊ะพุงโตนอนอืดคอยสั่งการ (ซึ่งความจริง โครว์ ลงทุนเพิ่มน้ำหนักให้พุงโตแบบนี้เอง) แต่บทแกจะยียวนกวนประสาท ก็แสบได้ใจ แผ่รัศมีความเก๋า ประชัน ความเหี้ยมนิ่งลึกของ ตัวละครฮานิได้แบบร้ายไม่แพ้กัน และ มาร์ค สตรอง ในบท ฮานิ ก็เป็นอีกคนที่เล่นได้เด่นแบบร้ายนิ่งลึก เปล่งประกายรัศมีไม่แพ้ โครว์และน้องลีโอเลย



สรุป ... ถ้า Bourne เป็นหนังสายลับแอคชั่นที่พาคนดูทัวร์ยุโรป Body of lies ก็เป็นหนังสายลับที่เน้นการพูดและพาคนดูทัวร์ตะวันออกกลางแทน

และต่อไปถ้ายังมีหนังแบบนี้อีก ผมขอตั้งชื่อแนวหนังประเภทเดียวกับหนังเรื่องนี้ว่า Talking thriller คือ ตัวละครพูดๆๆๆพล่ามๆๆๆ เป็นส่วนใหญ่ แต่ ความตื่นเต้นชวนติดตามมาจากบทสนทนา ซึ่งถ้าคนดูชอบหนัง ‘สนุกคิด’ คนดูสามารถตามทันก็จะสนุกแต่ถ้าหลุดก็จะเซ็ง (คล้ายๆกับ Lion for lambs ที่ฉายในปีเดียวกัน)

ไม่ใช่หนังที่ ดีเลิศ ของริดลี่ย์ สก็อตต์ แต่ก็เป็นหนังที่อยู่ในระดับดีและผมเองก็สนุกไปกับมันจนจบ ถึงจะมีเบื่อนิดๆช่วงต้นเรื่องก็ตาม



Link ของ บทความที่อ้างอิงถึง และ เกี่ยวข้อง

American Gangster , โลกนี้ไม่ได้มีแค่สีขาวกับดำ

Lions for Lambs , ส่งเสริมสิงโต ตรวจสอบแกะ และ ลงมือทำ

The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ

เวียนเฮดกับแฮนด์เฮลด์ ใน The Kingdom + สัจธรรมของความกร่าง

Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย



สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com









ขอฝากหนังสือสองเล่มของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ด้วยค้าบ "หนังสือรัก" หนังสือที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม ส่วน องศาที่ 361 คือ หนังสือจะช่วยให้คุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยอาศัย'หนัง'เป็นสะพานพาไปเข้าใจตัวเอง


เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม




ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป



Create Date : 15 ตุลาคม 2551
Last Update : 15 ตุลาคม 2551 11:44:23 น. 14 comments
Counter : 4401 Pageviews.

 
...



รู้สึกคล้ายๆกัน

ว่าหนังสนุก
ริดลี่ย์ สก๊อต เจ๋ง
และ โครว เก๋าเกมจริงๆครับ




โดย: The Legendary Midfielder IP: 202.12.118.61 วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:16:38:07 น.  

 
ถูกใจชื่อของประเภทหนังมากค่ะ Talking thriller ..


โดย: yuuraya วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:21:16:42 น.  

 
ผมไม่ค่อยถูกจริตกะหนังเรื่องนี้สักเท่าไหร่ละครับ

ก็ยอมรับว่าเป็นหนังที่ดี มีคุณภาพ ..แต่ส่วนตัวกลับผิดหวังการกำกับของลุงริดลีย์ เพราะเขาคุมออกมาได้เพียงกลางๆ ค่อนไปทางมือตกนะ ..ถึงแม้จะมีลายเซ็นบ่งบอกสไตล์ท่าน แต่ก็รู้สึกว่า ความละเอียดในแง่ของการมีปฏิสัมพันธ์กะคนดูมันลดลงไปอีกขั้น หลังจาก American Gangster ที่ว่าสนุกอย่างธรรมดาก็แล้วไปอีก

แต่ก็ดีนะที่ได้ พี่ลีโอ กะบทที่เข้มข้นประมาณหนึ่ง ไม่ค่อยมีจุดที่ไม่น่าเชื่อ (แต่บางเรื่องก็เว่อร์อย่างที่พี่ว่า) ..ส่วน เฮียโคร์ว ถึงจะออกน้อย แต่ก็แสบใช่เล่น (เพียงแต่ สมทบคราวนี้ มิมีทางน่าจะไปช่วงชิงรางวัลกะใครได้) และ มาร์ก สตรอง ก็เรียกว่าโหดแบบค่อยๆ เชือดแบบนิ่มๆ ..เพิ่งจะมารู้จักพี่คนนี้ ก็เรื่องนี้แหละ


โดย: OncE UPoN'-'a MaN วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:1:16:46 น.  

 
+ โดยส่วนตัว ผมคิดว่าคงบายอ่ะครับเรื่องนี้ ท่าทางจะไม่ค่อยใช่หนังแนวผมเหมือนกัน ... แต่แอบเหล่หนังสัปดาห์นี้ (Max Payne / City of Ember / Serbis @ House) เอาไว้มากกว่าอ่ะครับ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:15:07:45 น.  

 
ชอบครับ แต่ขอเป็นหน้าม้าให้ City of Ember หน่อยละกัน สงสารที่ล้มเหลวกันแบบสุดๆในด้านรายได้ ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น... T-T


โดย: BloodyMonday~ IP: 58.137.81.98 วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:18:19:03 น.  

 
ดูแล้วเหนื่อยค่ะ


โดย: Winnie the PooH IP: 130.123.128.114 วันที่: 17 ตุลาคม 2551 เวลา:11:00:04 น.  

 
เราชอบเรื่องนี้นะ ถึงจะไม่ได้เฉือนคมแบบเด็ดๆก็เถอะ..ดูแล้วพาลนึกถึง Munich เลยอ่ะ คือไม่ว่าจะล้างแค้น ฆ่าตัวเบ้งๆเท่าไหร่ แต่ก็มีตัวแทนใหม่ๆได้เสมอเป็นวงเวียนไปเรื่อยๆ

หนังกัดอเมริกาและอีกฝ่ายได้เจ็บๆคันๆดี....


โดย: ยุงบินวน IP: 124.121.23.23 วันที่: 19 ตุลาคม 2551 เวลา:0:52:01 น.  

 
นี่มันหนัีงรวมดาวชาว Paradise Now ชัดๆ 55555
นอกจาก อาลี สุไลมาน แล้วยังมี คาอิส นาชิฟ แล้วก็ ลุบน่า อซาบัล อีกด้วย
(สองคนแรกใน PN เป็นสองพระเอก ส่วนคนหลังสุดคือนางเอก - ในเรื่องนี้ นาชิฟเป็นคารามี่ แล้วอซาบัล เป็นพี่สาวของไอช่า)

ส่วนแผนการ ผมว่ามันยังไม่เนียนเท่าไหร่ เหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง เพราะบางจุดมันยังไม่เมคเซนส์ว่าเหตุการณ์จะเป็นไปตามแผนได้ง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือนี่ โดยเฉพาะช่วงที่ส่งตัวให้ อัลซาลีม

การแสดง ผมดูเรื่องนี้แล้วรำคาญ ลีโอ มากๆ เพราะพี่แกเล่นเหมือนตอนเล่น The Departed เด๊ะเลย 55555555
เ้ลยไปเชียร์ มาร์ค สตรอง มากกว่า แต่ก็ไม่ได้โดนใจอะไรมากมาย (ชอบ รัสเซล โครว์ มากกว่าตอนแกเล่น American Gangster)

ชอบหนังมากกว่า AG นะครับ โดยรวมๆ มันไม่อืดถืดเอื่อยเนือยเหมือนเรื่องนั้น แต่ก็รู้สึกว่าหนังยังโปรอเมริกานิดๆอยู่ดี เพียงแต่ไม่ออกมาชัดแจ้งเหมือน เดอะคิงด้อม หรือ แฮนค็อก
เพราะผมรู้สึกเสียดายคาแรคเตอร์ ฮานี่ ซาลาม มากๆ เหมือนจริงๆแล้วยังสามารถเขียนบทให้ลึกและละเอียดได้มากกว่านี้ ที่เป็นอยู่มันยังแบนไปหน่อย


โดย: nanoguy IP: 125.24.129.186 วันที่: 19 ตุลาคม 2551 เวลา:1:25:34 น.  

 
Talking thriller
คิดได้ไงเนี่ย...555
ต่อไปขอยืมใช้ไปเลยนะคะ


โดย: Evil is Live วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:13:06:13 น.  

 
สนุกดีครับ แต่ก็เหมือนหนังริดลี่ย์ สก็อตต์ ที่ดีหรือมันส์ แต่ก็ไม่ค่อยสุดนัก หนังของเขายังไงผมก็ชอบ Alien, Hannibal, Black Hawk Down พวกนี้มากกว่า เพราะหนังมันดูสุดขั้วดี ส่วนหนังหลังๆอย่าง American Gangster หรือเรื่องหลังสุด มันเป็นหนังที่ดีจริง แต่ก็ยังไม่น่าจดจำพออะครับ สำหรับผม

แต่โดยรวมก็ชอบครับ เพราะสนุก ใช้สมองดี และไม่โปรชาติด้วย(อย่าง The Kingdom หรือ Vantage Point นี่ไม่ไหว) ดาราเล่นดีทุกคน และก็เป็นบทพิสูจน์วิล โมนาฮาน ในระดับนึงครับว่าพี่แกเขียนบทดีจริง สรุป คุ้มครับ


โดย: tHecHamp IP: 202.176.107.131 วันที่: 22 ตุลาคม 2551 เวลา:1:36:12 น.  

 
ชอบทั้ง Body of Lies กับ Lion of Lambs เลย แต่ว่าชอบเรื่องหลังมากกว่าค่ะ จบได้แบบทิ่มแทงใจมากๆ


โดย: TaMaChAN (narumol_tama ) วันที่: 23 ตุลาคม 2551 เวลา:1:33:58 น.  

 
ถ้าจะหาจุดเด่นของหนังเรื่องนี้

ก็มีอยู่อย่างนั่นก็คือ Production

ทะเลทราย ,ดาวเทียมสอดแนม ,ขบวนรถ SUV , ฉากรถไล่ล่า, ฉากระเบิด , เฮลิคอปเปอร์ การแต่งตัวของพวกสายลับจอร์แดน ฯลฯ

เหล่านี้ล้วนดีขึ้นตามยุคสมัย


โดย: Lostboy IP: 124.122.205.174 วันที่: 23 ตุลาคม 2551 เวลา:13:33:40 น.  

 
รู้สึกลีโอจะชอบหนังแนวๆนี้นะ บุคลิคของเขาไม่ต่างกับใสเรื่อง Blaaod Diamond สักเท่าไรเลย

แต่โดยรวมก็ชอบครับ แม้ว่าจะงงๆ เล็กน้อยในช่วงค่อนๆครึ่งหลัง ... พอหนังเข้าสู่จุดใคลแม็กซ์แล้ว ก็จบเอาง่ายๆเลย


โดย: YoiChi_KunG IP: 172.22.17.11, 202.57.132.197 วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:12:38:41 น.  

 
บอกตามตรงว่าผมชอบที่คุณวิจารณ์นะครับ อ่านแล้วรู้สึกเข้าใจและรู้สึกดี คือหนังเรื่องนี้เพิ่งดูเมื่อคืนนี้ครับ (โหลดมาดู) วันนี้ก็มาอ่านบทวิจารณ์เพิ่มเติม

ปกติผมก็อ่านบทวิจารณ์ฟรีๆ ไปเรื่อยๆ อ่านจบก็ปิด แต่คราวนี้มา comment เพราะชอบตรงนี้ครับ "ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง 1 comment" น่ารักจริงๆ

สรุปว่าวิจารณ์ได้ดีมาก ผมชอบมากนะครับ ขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้ครับ


โดย: หนุ่ม IP: 157.7.52.183 วันที่: 25 กรกฎาคม 2559 เวลา:12:04:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
15 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.