www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

คุยเรื่องซีรี่ส์(ซีรี่ส์-aholic) : Desperate Housewives , สงครามแม่บ้าน กับ งานเขียนบทชั้นเลิศ



Blog's talk


1. ขอเขียนต่อเนื่องจาก บทความที่แล้วที่ว่าด้วย ซีรี่ส์-aholic ซึ่งผมจะมาเขียนถึงซีรี่ส์ที่ได้ดูไป ไล่ไปเรื่อยๆ ย้อนไปตั้งแต่ 24 และ Grey’s anatomy ในคราวก่อน

คุยเรื่องซีรี่ส์(ซีรี่ส์-aholic) : Grey’s anatomy , สงครามคุณหมอ

คุยเรื่องซีรี่ส์(ซีรี่ส์-aholic) : 24 , ชีวิตบัดซบของ แจ๊ค บาวเออร์ + คู่มือเอาตัวรอดเมื่อคุณหลุดเข้าไปอยู่ใน 24

ทั้งบทความนี้และบทความที่แล้วเป็นการดัดแปลง ต่อเติมจากที่เขียนลง Filmax เพราะเขียนลงนิตยสารจะมีข้อจำกัดตรงจำนวนหน้า พอมาลง blog สามารถเติมข้อความที่อยากเขียนให้เต็มที่ได้

หลังจาก Blog นี้อาจพักเรื่องราวของ ซีรี่ส์ ไว้ชั่วคราว แล้ว Blog หน้าคงจะเป็นหนังโรงประจำอาทิตย์นี้ที่จะได้ดูครับ



2. ผลงานลำดับที่สาม หรือ หนังสือเล่มล่าสุดของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" เตรียมพบเพื่อนๆแล้วนะครับ เปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมหนังสือ ที่ บูธ D12 สำนักพิมพ์ 4 Letter word ในโซน Plenary Hall

เจ้าของบล็อกหรือผู้เขียนนี่เอง จะไปพบปะเพื่อนๆและแจกลายเซ็น(หากท่านต้องการ) ใน วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม ช่วง บ่าย 3 - 4 โมงเย็น และ ถ้าหนังสือออกทัน วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม ก็จะไปนั่งแกร่วอยู่ที่บูธ เช่นเดียวกัน

แล้วพบกันครับ กับหนังสือเล่มล่าสุดที่ชื่อว่า









... ผมเกือบพลาด Desperate Housewives ด้วยเข้าใจว่า ตัวเองไม่น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ สมาคมแม่บ้านสาวผู้สิ้นหวัง พาลจินตนาการไปว่า คงเป็นซีรี่ส์แนวซุบซิบนินทาชิงรักหักสวาท กรี๊ดกร๊าดแย่งผู้ชายกันไป

แต่ พอหลวมตัวดูก็พบว่าคิดผิดถนัด Desperate Housewives เป็นซีรี่ส์ที่ผมซูฮก ยกสองนิ้วโป้งให้กับการเขียนบท

เพราะฝีมืออันเอกอุของคนเขียนบทที่จัดการผูก ปัญหาชีวิตของแม่บ้านแต่ละคน ดำเนินควบคู่ไปกับ ปริศนาคดีฆาตกรรม จนกลายเป็นหนังชุดที่ผสมผสานความเป็นดราม่าคอมิดี้กับแนวสืบสวนคดีได้อย่างกลมกล่อมชวนติดตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ คนชอบนิยายฆาตกรรมแบบ whodunit สไตล์อกาธา คริสตี้ อย่างผมยิ่งถูกจริตถูกใจเข้าไปใหญ่

แต่ละซีซั่น สามารถผูกเงื่อนงำฆาตกรรมได้อย่างชวนติดตาม เรียกได้ว่าบทในส่วนsuspense ก็เจ๋ง บทในส่วนดราม่าก็แจ๋ว บทในส่วนคอมิดี้ก็จ๊าบ พอยำมารวมกันก็ลงตัว



...ตอน Pilot ของซีซั่นแรก เริ่มต้นได้อย่างระทึกขวัญปนตลกร้าย ด้วยเสียงบรรยายของ แม่บ้านในครอบครัวอันอบอุ่น ก่อนที่จู่ๆ คุณแม่บ้านคนนี้ก็เดินไปหยิบปืนมาฆ่าตัวตาย ทิ้งปริศนาให้คนรอบตัวคาใจ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

ในงานศพ คนดูจะได้พบกับเพื่อนของเธอในก๊วนเดียวกันอีก สี่คนสี่ครอบครัว ซึ่งถูก คนเขียนบท สร้างบุคลิกภาพอันโดดเด่นให้กับ สมาชิกทุกครอบครัว ตั้งแต่ ตัวประกอบไม่ว่าจะเป็นลูกๆหรือสามีที่มีเสน่ห์ในตัวกันทุกบ้าน และ คนเขียนบท ก็ใส่ความลึกที่น่าสนใจให้แต่ละคาแรคเตอร์หลัก อันนำไปสู่การพัฒนาเรื่องราวในแต่ละตอน

ลินเน็ตต์ แม่บ้านนักบริหาร



ผู้บริหารสาวมีลูกสี่คนที่ซนเสียยิ่งกว่าลิง หลายคนทักว่าลูกๆเธอป่วยเป็นโรคสมาธิสั้น แต่เธอก็ไม่ยอมให้ลูกกินยา เพราะกลัวคนจะมองว่าเธอไร้ความสามารถจัดการบริหารลูก

เธอเป็นตัวอย่างของคนที่ติดนิสัยผู้บริหารจัดการที่อยู่นิ่งเฉยไม่ได้ เสพติดงานประมาณหนึ่ง และปัญหาก็จะเกิดเมื่อ เธอผสมปนเป ความเป็นแม่ กับ ความเป็นนักบริหารเข้าด้วยกัน ดังนั้น เมื่อเจอปัญหา เธอจึงไม่เคยปริปากขอความช่วยเหลือ เพราะ เธอกลัวจะมองตัวเองว่าล้มเหลว และ เธอก็ไม่อยากล้มเหลว ในการทำหน้าที่แม่

บทเรียนของแต่ละตอน จะทำให้ เธอ ค่อยๆได้เรียนรู้ว่า การเป็นแม่ที่ดีไม่ได้แปลว่าต้องบริหารจัดการทุกอย่างสำเร็จเหมือนธุรกิจที่เคยทำ การเอ่ยปากขอความช่วยเหลือไม่ได้ทำให้ ความเป็นแม่ ลดทอนคุณค่าลงไป

และชีวิตของเธอเป็นบทเรียนสอนใจอันดีให้กับ คุณแม่บ้าน ในยุคปัจจุบันได้รู้ว่าสิ่งที่คนใกล้ตัว อย่าง สามีหรือลูกๆ ต้องการยามอยู่ในบ้าน ไม่ใช่นักบริหาร แต่สมาชิกในบ้านอยากได้ภรรยาและแม่ที่มีความสุข



เกเบรียล แม่บ้านสาวพราวเสน่ห์



อดีตนางแบบสาว ผู้สารภาพเต็มปากว่าตัวเองยึดติดในโลกของวัตถุนิยม เธอจึงเลือกแต่งงานกับเศรษฐีที่สามารถให้ทรัพย์สินเงินทองตามต้องการ แต่นานวันเข้า เธอก็พบว่า เธอไม่สามารถเติมเต็มความสุขได้ด้วยข้าวของ เพราะถึงจะได้เงินทองมากมาย เธอยังต้องแสวงหาความสุขจากนอกบ้านตลอดเวลา

เกเบรียล เป็น บุคลิกของคนที่เติบโตมาอย่างปากกัดตีนถีบ เราจึงเห็นว่า เธอจะเต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนในการจัดการเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และ ไม่ค่อยจะยอมรับว่าตัวเองไม่ดีหรือมีข้อบกพร่องใดๆ หลีกเลี่ยงการพูดถึง ความรู้สึกรัก แสร้งทำเป็นสนใจว่าอีกฝ่ายจะตอบสนองข้าวของให้เธอพอหรือไม่

ทั้งๆที่จริงในใจนั้น โหยหา ใครสักคนที่จะรักและเห็นคุณค่า เห็นว่าตัวเธอมิความหมาย มิเช่นนั้น เธอคงไม่ไปตะลอนหาเด็กหนุ่มคนทำสวนมาเติมเต็ม

จุดแข็งของเธอคือ เมื่อถึงคราวต้องทีเด็ดทีขาด เธอแสดงให้เห็นว่า เธอเองนั้นแกร่งกว่าที่ใครจะคาดคิด


บรี แม่บ้าน Perfectionist



หญิงสาวผู้เสพติดความสมบูรณ์แบบ บวก บุคลิกภาพแบบย้ำคิดย้ำทำ(obsessive – compulsive personality disorder) ทุกอย่างในชีวิตของเธอต้องเนี้ยบ ต้องไร้ที่ติ ไล่ตั้งแต่ความสะอาดหรือการทำงาน และ เธอมักจัดการกับปัญหาในชีวิตด้วยวิธีการ ปฏิเสธความจริง(denial)

ทุกครั้งที่มีความทุกข์หรือเกิดปัญหา เธอจะเมินหน้าหนี ใส่รอยยิ้มแสร้งแสดงเหมือนว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะ เธอเป็นคนห่วงต่อภาพลักษณ์(self-image)มาก มีระดับศีลธรรมสูงและตึงเกินไป(harsh superego) จนอับอายเกินกว่าจะให้ใครรู้เห็นความพลาดพลั้ง และ กลัวที่จะต้องเจ็บปวดเกินกว่าจะยอมรับความจริง

ปัญหาด้านบุคลิกภาพของเธอ ส่งผลกระทบต่อปัญหาชีวิตคู่และครอบครัว ที่หมักหมมไว้จนกลายเป็นฝีหนองที่ยากต่อการเยียวยา ด้วยสาเหตุที่แคร์ว่า คนอื่นจะมองอย่างไร คนอื่นจะคิดอย่างไร ทำให้เธอไม่ได้ใส่ใจความคิดความรู้สึกของลูกและสามี ทั้งๆที่เธอก็ไม่ใช่คนเลวร้ายหรือไร้หัวใจ

ซึ่งหากมองเธอในฐานะเพื่อน เธอเป็นเพื่อนที่เราอยากจะมีอยู่ใกล้ๆ เราจะพบว่าเธอคือคนที่มักจะไปถึงเพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆก่อนใคร


ซูซาน แม่บ้านจอมโก๊ะ



เวลาในเว็บบอร์ดมีการสำรวจ แม่บ้านขวัญใจคนดู ซูซานดูจะตกอันดับไปท้ายๆ เท่าที่ตัวเองสังเกตคือ สาวๆมักจะไม่นิยมบุคลิกแบบซูซานและจะชอบ ลินเน็ตต์ กับ บรี มากกว่า ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเพราะ คุณผู้หญิงอาจจะชื่นชมต้นแบบผู้หญิงเก่งที่เป็น ช้างเท้าหน้า และ เป็นผู้บริหารจัดการได้ไม่ต้องพึ่งผู้ชาย แต่ สำหรับ ซูซาน ที่ไม่ได้มีความเก่งกาจแถวหน้า มิหนำซ้ำยังทะเร่อทะร่าเป็นตัวตลก และ เป็นต้นตอของความเดือดร้อนอยู่บ่อยๆ

ซึ่งอาจจะตรงข้ามกับคุณผู้ชายที่ดูซีรี่ส์เรื่องนี้ เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่ปิ๊งเธอเมื่อแรกเห็น ในภาพที่เธอดูเป็นคนตลกโก๊ะๆและจริงใจ ความตลกของเธอทำให้อยากอยู่ใกล้ และ คิดว่าถ้าอยู่ด้วยน่าจะทำให้อารมณ์ดียิ้มได้บ่อยๆ

แต่อย่างที่เกริ่นไว้ บทหนังเขียนให้เห็นถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของแต่ละคน ปัญหาของซูซาน คือนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง ขาดความเด็ดขาด และ หลายครั้งก็ยังติดนิสัยเป็นเด็กมากเกิน(immature) จนทำให้ ลูกสาวที่ควรจะมีความเป็นเด็กตามวัย หลายหนต้องเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้ใหญ่ช่วยดูแลเธอ




... จะเห็นได้ว่าในซีรี่ส์ชุดนี้ ตัวละครหลักๆทั้งสี่ แต่ละคนก็ ล้วนมีทั้งความน่ารัก และ ความไม่น่ารัก มีทั้งสีขาวและสีดำผสมอยู่ในตัวเอง เหมือนชีวิตจริงของมนุษย์ในสังคม การด่วนสรุปตัดสินคนบางคนเพียงแค่ผิวเผินเหมือนดูละครไปไม่กี่ตอน ก็อาจทำให้เราพลาดโอกาสที่จะพบด้านดีๆที่อยู่ในตัวของใครคนนั้น



ดูอย่าง อีดี้ บริท อีกหนึ่งสาวหุ่นเอ็กซ์เซ็กสะบึม ที่เริ่มเรื่องเหมือนนางอิจฉาในละครไทย คอยอ่อยคอยยั่วผู้ชายไปทั่ว แต่ เมื่อเรื่องดำเนินไป เราก็จะเห็นความตรงไปตรงมา เหงาก็บอกว่าเหงา เกลียดก็บอกว่าเกลียด และ บางตอนเธอก็เป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนให้กลุ่มแม่บ้านทั้งสี่ได้เห็นตัวเองชัดเจนขึ้น จนคนดูอย่างผมรักเธอมากขึ้นเรื่อยๆในความตรงไปตรงมา

.... Grey’s anatomy กับ Desperate Housewives คือตัวอย่างของการเขียนบทชั้นเยี่ยม ในการทำให้ละครน้ำเน่าแนวเรื่องรักๆใคร่ๆ ไม่ต้องวนเวียนอาศัย ‘ร้อยเรื่องพล็อตเดียว’ เหมือนละครไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบัน และ ทำให้เห็นว่า ละครดีๆ ไม่จำเป็นต้องเครียดชนิดสะท้อนสังคมเข้มข้น หรือ ดูยากหนักหนา

หากผู้สร้างมีทัศนคติที่ดีและใส่ใจกับตัวบท ก็สามารถผสม ละครดีๆ , ละครสนุกๆ กับ ละครที่ให้ข้อคิด หรือจะเป็น ละครน้ำเน่า รวมอยู่ในเรื่องเดียวกันได้ และ คนเสพอย่างเราๆก็จะได้อะไรมากกว่าการคลายเครียดชั่วคราวหลังข่าวหัวค่ำ

และที่ผมชื่นชม Desperate Housewives มากๆ คือ ในบรรดาซีรี่ส์หลายต่อหลายเรื่อง ย่อมต้องมีบางซีซั่นที่ความสนุกตกลงไป Desperate Housewives ก็มีภาวะนั้น เพียงแต่ ภาวะดร็อปของ Desperate Housewives ก็ยังถือว่าสนุกชวนติดตามกว่าเรื่องอื่นๆเสียด้วยซ้ำ ซึ่ง นั่นทำให้ผม ใจจดใจจ่อ รอซีซั่น 4 ซับไทย อย่างกระเหี้ยนกระหือรือเต็มที่






สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com









ขอฝากหนังสือสองเล่มของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ด้วยค้าบ "หนังสือรัก" หนังสือที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม ส่วน องศาที่ 361 คือ หนังสือจะช่วยให้คุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยอาศัย'หนัง'เป็นสะพานพาไปเข้าใจตัวเอง


เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม




ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป




 

Create Date : 09 ตุลาคม 2551
15 comments
Last Update : 9 ตุลาคม 2551 0:49:41 น.
Counter : 4032 Pageviews.

 

ในกลุ่มตัวละครทั้งหมด ผมชอบอีดี้มากที่สุดเลยนะ เพราะอีดี้ที่แรกๆดูเหมือนจะมาเป็นตัวอิจฉา น่ารำคาญ มาให้คนเค้าเกลียด แต่กลับกลายเป็นว่าอีดี้เป็นคนที่ตรงไปตรงมาที่สุด ซูซานที่เราเห็นว่านางเอ๊กนางเอก แต่กลับลูกเล่นเยอะ คิดไม่ซื่อ เปราะบาง อ่อนแอและอ่อนไหว ตอนที่อีดี้ประชดประชัดวันที่ไปโปรยอัฐิเพื่อนบ้านเรื่องของเชียร์ลีดเดอร์นั้นโดนใจมาก ผมยกให้เป็นตัวละครขวัญใจอันดับ1ของผมเหนือกว่าแม่บ้างทั้ง4คนด้วย

และเห็นด้วย กับที่ว่าซูซานเป็นตัวละครที่น่าสนใจน้อยที่สุด น่ารำคาญที่สุด ขณะตัวละครที่มีมิติและน่าติดตามที่สุดก็คือบรี ชีวิตเธอนี่เคราะห์กรรมเยอะจริงๆ ไหนจะผัวไม่เอาไหนจอมวิปริต ลูกๆที่ดื้อพยศกันได้ซ้ำซาก

แต่พอขึ้นปี3แล้วรู้สึกว่าความเข้มข้น และเฉียบคมแบบปี1หายไปเยอะเลย ดูเอาสนุกเอามันอย่างเดียวดีกว่า

 

โดย: the red IP: 203.155.247.74 9 ตุลาคม 2551 4:33:55 น.  

 

อีดี้เป็นคนตรงๆที่สุดในเรื่องเเล้ว
ปากกับใจตรงกันมากๆ

ชอบเรื่องนี้ตรงบทสนนทาที่เฉียบขาด เเหลมคม
บทสนุกมากๆครับ

 

โดย: bigwore IP: 125.26.81.149 9 ตุลาคม 2551 7:58:28 น.  

 

อยากดูจังเลยค่ะ
กำลังหาดูอยู่พอดี - -

 

โดย: iSIs_OsiRis 9 ตุลาคม 2551 9:41:28 น.  

 

เสน่ห์ประการหนึ่งของ Series ต่างประเทศอยู่ที่การเขียนบทซึ่งสามารถบรรยายการดำเนินเรื่องและ character ของตัวละครแต่ละตัวได้อย่างสอดคล้องและสมเหตุสมผล เพราะสามารถถ่ายทอดให้ผู้ชมได้เห็นถึงที่มา-ที่ไปของเรื่องราวทั้งในองค์รวม (เหตุการณ์หลักและผลสรุป) และปลีกย่อย (การกระทำของตัวละครแต่ละตัวที่ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์หลักขึ้นมา)

เสน่ห์อีกประการหนึ่งก็คือ การใช้บทสนทนาและมุกที่ sharp ได้ถูกจังหวะ ทำให้ผู้ชมต้องคอยคิดตามให้ทันตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นอาจเสียอรรถรสความบันเทิงในการรับชมไปได้พอสมควร

ซึ่งแตกต่างจากละครไทยที่มีสูตรสำเร็จตายตัว คือ ใช้ plot เรื่อง "สำเร็จรูป" ที่ไม่เคยพัฒนามาเกิน 10 ปีแล้ว ประกอบกับมักจะเขียนบทที่ไม่ซับซ้อน เพื่อให้ผู้ชมดูแล้วเข้าใจง่ายโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดตามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ มีที่มา-ที่ไปอย่างไร ซึ่งอาจจะเป็นเพราะผู้ชมชาวไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบการตีความ ไม่นิยมการใช้ความคิดในการรับชมละคร (ซึ่งคนไทยถือว่าเป็นช่วงเวลาพักผ่อน) กระมังคะ

ส่วนตัวแล้ว เป็นคนชอบดู Series ต่างประเทศเช่นกันค่ะ (เลิกดูละครไทยมา 10 ปีได้แล้ว) เพียงแต่บางเรื่องที่เราชอบ เช่น The Practice นี่หาในเมืองไทยไม่ได้เลย ซึ่งก็คงเป็นเพราะผู้ชมชาวไทยส่วนใหญ่ไม่รู้จัก เนื่องจาก plot เรื่องนี้เป็นแนว court-room drama (ตอนนี้ก็ยังตามหาอยู่ค่ะ ภาวนาให้เจอสักที )

 

โดย: ThE BooK@HoLiC 9 ตุลาคม 2551 10:37:47 น.  

 

วันนี้วันคล้ายวันเกิด John Lennon ค่ะ
เจ้าของเพลงสันติภาพของโลก"Imagine"
ในสภาวะบ้านเมืองแบบนี้..
อยากให้เกิดสันติภาพตามเนื้อเพลงนี้จัง...เลย





 

โดย: เริงฤดีนะ 9 ตุลาคม 2551 12:41:07 น.  

 

+ พออ่านจบ แล้วก็นึกในใจว่า "อ้าว! เหรอครับ?" เพราะตอนแรก ดูจากชื่อซีรีส์ ก็นึกแบบเดียวกับที่คุณ จขบ. นึกตอนแรกเหมือนกันอ่า ... ถึงว่า ว่าเห็นมีคนพูดถึงเรื่องนี้กันเยอะเหมือนกัน ที่แท้มันก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ไว้ถ้ามีโอกาส จะลองหามาชมนะขอรับ

 

โดย: บลูยอชท์ 9 ตุลาคม 2551 17:55:11 น.  

 

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ละครไทยแตกต่างจาก series ต่างประเทศก็คือโจทย์และการตลาดซึ่งละครไทยเน้นจุดขายในการปะทะ-เชือดเฉือนอารมณ์ระหว่างนักแสดงนำเป็นหลัก และกลายเป็นจุดขายสำเร็จรูปสำคัญของละครไทยที่จะขาดไม่ได้เด็ดขาด (ถ้าไม่อยากเสี่ยงกับภาวะขาดทุน)

ทำให้ผู้จัดและคนเขียนบทจึงต้องเขียนบทละครที่เน้นจุดขายสำคัญอันนี้ จนไม่ให้ความสำคัญในเรื่องอื่นเลยค่ะ จึงกลายเป็นที่มาของวิวัฒนาการถดถอยของวงการละครไทยในทุกวันนี้ค่ะ

 

โดย: ThE BooK@HoLiC 9 ตุลาคม 2551 18:00:19 น.  

 

ชอบเรื่องนี้มาก ๆๆๆๆๆ เลยค่ะ
กำลังรอดูซีซั่นล่าสุดอยู่
ชอบมาก ๆ ดูแล้วลุกจากหน้าจอไปไหนไม่ได้เลยค่ะ

 

โดย: โสดในซอย 9 ตุลาคม 2551 22:48:22 น.  

 

ตอนแรกที่ได้ยินชื่อเรื่องก็คิดแล้วว่า ยี้ ! เรื่องนี้ฉันจะไม่ดูเด็ดขาด
แต่หลังจากที่พี่สาวซื้อให้ดูก็เลยลองเอามาดู
และก็สารภาพอย่างน่าไม่อายว่าติดงอมแงมจนไม่ยอมไปเรียน

เรื่องนี้ประทับใจกับการเขียนบทมาก ทุกอย่างลงตัวสวยงาม
ถ้าเปรียบกับงานศิลปะก็บอกได้ว่า
เป็นงานศิลป์ที่จัดวางองค์ประกอบทุกอย่างได้อย่างลงตัวเหลือกัน
และยังทำให้ได้ข้อคิดต่าง ๆ อีกมากมายจากเรื่องนี้
ซึ่งแทบจะหาไม่ได้เลย (และจะไม่ได้อีกแล้ว) ในละครไทย

ตัวละครทุกตัวนั้นมีบุคลิกที่เปี่ยมเสน่ห์และน่าดึงดูดมาก
ทั้งบรี ซูซาน ลินเน็ท กาเบรียล อีดี้ ซึ่งเป็นตัวละครกลุ่มแม่บ้าน
และตัวละครพ่อบ้านชนบทที่ทำให้ประทับใจกับความรักของพวกเขาเหลือเกิน
หรือแม้แต่ตัวละครเล็ก ๆ ที่ทำให้เรื่องราวขับเคลื่อนไปก็ทำให้เรื่องมีเสน่ห์ได้อย่างน่ามหัศจรรย์
ลูก ๆ พวกแม่บ้าน คุณนายแม็คลัสกี้ พวกฆาตกร ไม่เว้นกระทั่งเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ขอสารภาพว่าหลงรักเรื่องนี้เต็มเปา

และกำลังดู season 5 อย่างใจจดใจจ่อค่ะ

 

โดย: shibuya IP: 125.25.133.241 11 ตุลาคม 2551 0:20:23 น.  

 

อ่ะๆ
นึกว่า "สงคราม" อีกเรื่องที่พี่ผมฯ ชอบ
คือ "สงครามนางฟ้า" ซะอีก 555

เรื่องนี้ตามดูจบต่อเนื่องไม่มีแผ่วฮะ
ถึงแม้ซีซั่นหลังๆ จะดร็อปลงไปบ้าง(ตามแบบซีรี่ส์ทั่วไป)
แต่ผมก็ยังสนุกกับมันเหมือนเดิม

อาจเป็นเพราะการวางคาแรคเตอร์มาดีตั้งแต่ต้น
พล็อตเรื่องที่สามารถจะพลิกไปเป็นแนวอะไรก็ได้ มันก็เลยดูได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อเลย....

ผมชอบตอนนึงของซีรี่ส์ สองหรือสามเนี่ยแหล่ะ (เริ่มมึนแระ...แต่คิดว่าน่าจะสามนะ)

ที่เหตุการณ์ในซีรี่ส์ตอนนั้น
เกิดขึ้นในห้างสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง(มีการจี้ตัวประกันประมาณนี้อ่ะ ดูนานแล้ว)

อู้ววววว
เขียนบทได้สุดยอด และดำเนินเรื่องได้มันส์หยดมากกกกก

สนุกมากๆ ฮะ ตอนนี้
นักแสดงเล่นได้ข่มกันไม่ลงเลยทีเดียว


กระซิบบอกว่า House แบบมีซับไทย
มีขายในเวบเพื่อนบ้านของ thaidvd นะครับ

ซับดีมากครับ(ดีกว่าในเคเบิ้ลของทรูฯ อีก)
เพราะคนแปลซับเป็นหมอน่ะเอง เหอๆ

พี่ผมฯ ลองหาดูนะครับ
ไม่น่าจะหายาก
ถ้ามีอะไรสงสัยก็หลังไมค์มาได้จ้า

 

โดย: คำห้วน-lopzang-เฉือนคำรัก 11 ตุลาคม 2551 1:32:16 น.  

 

ดูแล้วชอบใครเป็นพิเศษคะ?..
ส่วนตัวแล้วเราชอบบรีค่ะ ^^

ยังจำกันได้รึเปล่า... ซีรี่ย์ที่ให้ไปลองดูคราวนั้น
เราถือว่า..เราให้ขาดเลยนะคะ
อยากให้ลองดูจริงๆค่ะ

เราจำเหตุผล(แบบแม่นๆ)ไม่ได้แล้วว่า
ทำไมถึงอยากให้พี่มีโอกาสได้ดูซีรี่ย์เรื่องนั้น...
แต่ที่พอจำได้ คือ หลังจากดูจบอยากแนะนำให้เพื่อนดู
โดยเฉพาะคนที่วิเคราะห์พฤติกรรม หรือ การกระทำของตัวละครเก่งๆแบบนี้ ^^ ถ้าได้ดูแล้วจะต้องสนุกมากแน่ๆเลย

แต่พี่หมอจะมีเวลาดูหรือเปล่า เราไม่แน่ใจ...

และการจะหยิบซีรี่ย์สักเรื่องมาดู ต้องมีเวลา
และนอกจากจะมีเวลาแล้ว
แค่มีซีรี่ย์ให้ดู มันก็ยังพอ
จะต้องมีความอยากดูด้วย...

 

โดย: Korean_girl IP: 58.8.56.73 12 ตุลาคม 2551 0:31:11 น.  

 

ติดตามผลงานเสมอค่ะ

แล้วจะแวะมาเยี่ยมใหม่นะ

 

โดย: Korean_girl IP: 58.8.56.73 12 ตุลาคม 2551 0:31:43 น.  

 

ผมชอบบทสรุปตอนท้ายของแต่ละตอน (ที่เป็นเสียงของแมรี่ อลิซ ยัง) การใช้ภาษาคมคายมาก นับถือคนเขีนบท...

 

โดย: kekoku IP: 58.8.194.213 14 ตุลาคม 2551 12:29:18 น.  

 

ตอบจขบ.นะคะว่า ที่ผู้หญิงชอบลิเน็ตต์กันเยอะเพราะเธอเป็นตัวอย่างที่ไม่สมบูรณ์แบบที่เราจะหาได้ในสังคมทั่วไปค่ะ
แตกต่างจากซูซานที่หัวกะไดไม่แห้งตลอด คนเก่าไปคนใหม่มา แถมสวยเกินไปด้วยค่ะ :D ผู้หญิงอิจฉา (ล้อเล่นนะ) แถมเรื่องความโก๊ะ เปิ่น มีมากเกินไปเหมือนจงใจค่ะ จากน่ารักๆในซีซั่น1 กลายเป็นความรำคาญในซีซั่นต่อๆมา

ส่วนบรีนั้น ผู้หญิงหลายคนคงเห็นใจที่สามีนอกใจเธอและลูกๆเกลียดเธอ ทั้งที่สิ่งที่เธอทำลงไปก็เพื่อลูกและสามี

แต่พัฒนาการตัวละครที่เราชอบที่สุดคือ แก๊บบี้ค่ะ
คนเขียนๆบทดีค่ะ จากที่ไม่ชอบก็กลายเป็นสงสาร หลายอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตทำให้เราได้เห็นตัวจริงของแก๊บบี้มากกว่าแค่Trophy's wife.

 

โดย: pin IP: 124.120.179.151 15 ตุลาคม 2551 0:59:24 น.  

 

เรื่องนเห็นตอนแรกนี่ไม่คิดจะดูเลย
พอดีทางเคเบิ้ลมีรีรันมาราธอนฉายซีซั่นสองรวดเดียว
ดูไปได้สัก 2-3 ตอนติดขึ้นมาทันที
สนุกมากๆ เนื้อเรื่องชวนติดตามพร้อมข้อคิดดีๆ
ซูซานน่ารักมาก แต่จิตใจโลเลอ่อนไหวง่ายเพราะเธอเป็นศิลปิน
(วาดรูปนิทานเด็ก) เลยยังติดอะไรแบบเด็กๆ
ส่วนอีดี้แรกๆหมั่นไส้มาก แต่เอาเข้าจริงๆน่าสงสารสุดๆ หวังว่าชีจะกลับมาในซีซั่น 5

ปล.ผมชอบลูกชายบรีอะครับน่าร้าก อิอิ

 

โดย: North IP: 125.25.48.58 17 ตุลาคม 2551 14:12:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.