www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Alice in Wonderland , อลิซในดินแดน'ทิม เบอร์ตั้น' เวอร์ชั่น เมายา



... ในสายตาของ อลิซ ที่เห็นกระต่ายหัวเราะร่วน , คนทำหมวกไม่อยู่กับร่องกับรอย , ราชินีสองสาวเพี้ยนๆคนหนึ่งหัวโต อีกคนก็ ทำให้ผมเกิดสมมติฐานสามข้อดังนี้

1. สิ่งมีชีวิตในวันเดอร์แลนด์เล่นยา

2.อลิซเมายา

และสุดท้าย

3.ทิม เบอร์ตั้น เมายา

เพราะดูสิบนาทีแรกตอนเข้าแดนมหัศจรรย์ ได้แต่อุทานในใจว่า อลิซเวอร์ชั่นนี้มันช่าง โคตรเฮี้ยนนนน ได้เกินกว่าคนธรรมดาจะสร้างสรรค์ได้ (แต่ชอบนะ)




... สารภาพตามตรงว่าเวอร์ชั่นดัดแปลงเป็นนิทานที่เคยอ่านมาก็เฉยๆ ส่วนเวอร์ชั่นต้นฉบับของ Lewis Caroll (ฉบับแปลไทยโดย สำนักพิมพ์ Freeform) ตัวเองก็เข้าไม่ถึงเท่าไหร่นัก ด้วยภาษาโบราณ , บทเพลงและบทอาขยาน กับ สถานการณ์ที่ผ่านไปแต่ละฉากๆ อ่านแล้วไม่รู้สึกสนุกเท่าที่ควร

แต่ที่อยากดูเรื่องนี้มากๆ ก็เพราะ ทิม เบอร์ตั้น ล้วนๆ (ขนาดหนังที่คนด่ากับทั่วหล้าอย่าง 'ลิงครองโลก' เวอร์ชั่นรีเมค ผมก็ว่ามันสนุกดี) กับ เทรลเลอร์ที่ชวนเสียเงินดูในโรงหนังมากๆ

อลิซ ฉบับ ทิม เบอร์ตั้น ไม่ได้หยิบมาเฉพาะ Alice in Wonderland แต่ยังใช้ตัวละครบางส่วนของเล่ม 2 (Through The Looking Glass)มาร่วมด้วย แล้วตีความเรื่องราวใหม่ ให้ซ้อนทับกับเนื้อหาต้นฉบับดั้งเดิม ซึ่งว่าเฉพาะพล็อตที่ตีความใหม่ให้อลิซเข้าสู่ช่วงวัย'หนูเป็นสาวแล้ว'ก็ทำออกมาได้น่าสนใจเหลือเกิน



... เริ่มต้นจาก ชีวิตวัยรุ่นสาวที่ถูกสังคมรอบตัวบีบให้ทำตามขนบ จนหมดสิทธิคิดหรือทำตามใจนึก ทั้งที่ตัวเองมีวิญญาณเฟมินิสต์ร้อนแรงซุกซ่อนอยู่

วินาทีที่ถูกคลุมถุงชน ก่อนจะตัดสินใจแต่งงานตามความต้องการของผู้ใหญ่ เธอก็ตกลงไปในโพรงลึก นำเธอไปสู่ สถานที่มหัศจรรย์ ที่เธอไม่คุ้นเคย แต่ เหล่าสิ่งมีชีวิตในนั้นต่างคิดว่า เธออาจจะเป็น อลิซ เด็กสาวที่เคยมาที่นี่เมื่อสิบกว่าปีก่อน

การหลุดเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ ราชินีควีนโพแดงกำลังเฮี้ยนและผู้คนที่ถูกกดขี่พยายามจะปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ มันก็ไม่ต่างอะไรจาก โลกความเป็นจริง ที่เธอรับมืออยู่ และ ทีนี่เองที่เธอได้เรียนรู้ เติบโต การเป็นผู้ใหญ่ และ พกความมั่นใจกลับไปสู่โลกความเป็นจริง

(ส่วนตัวแล้วมองว่า ใน ดินแดนมหัศจรรย์ ถึง อลิซ จะหนีจาก ผู้นำที่เผด็จการเบ็ดเสร็จและชอบให้้ลูกน้องมาอวยมาป้อยอ ไปอยู่กับ ราชินีขาว มันเหมือนว่า เธอได้คิดทำอะไรอย่างเสรี แต่จริงๆแล้ว เธอก็ยังถูก ผู้ใหญ่ที่ฉลาดกว่า เสแสร้งเก่งกว่า มาปั่นหัวควบคุม ให้เธอรู้สึกว่าได้เลือกเอง มันยังไม่ใช่ เสรีแท้ที่เธอต้องการ

สัญลักษณ์สีขาว แทน ความดี แต่ด้วยความขาวเว่อร์และจริตความเฟคของราชินี แอนน์ แฮตตาเวย์ น่าจะสื่อถึงความดีที่ชวนกังขาอยู่พอสมควร

และ สุดท้าย อลิซ ก็เป็นแค่หมากในสงคราม ให้ ผู้ใหญ่ที่หวังอำนาจแต่ทำพูดดี ได้อำนาจไปครองโดยดูดีในสายตาประชาชน)




... ในแง่จินตนาการ การสรรสร้าง ตัวละครประหลาดๆ , สิ่งแวดล้อมเพี้ยนๆ , บรรยากาศสุดแสนเซอร์เรียล ทิม เบอร์ตั้น ยังคง สุดยอดเช่นเคย และดูเรื่องนี้จะเมามันส์ในไอเดียยิ่งกว่าสองสามเรื่องที่ผ่านมา (โรงงานช็อกโกแลต , ช่างตัดผมจมแค้น) เสียอีก

สิ่งที่สุดยอดมากคือ งานกำกับศิลป์ , โปรดักชั่นดีไซน์ ทั้งหลายแหล่ ทำให้ ดินแดนมหัศจรรย์ ในหนังเรื่องนี้ สมควรติด 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวในโลกภาพยนตร์ดีเด่น โดยมี Pandora ของ Avatar อยู่ในอันดับหนึ่ง

จะว่าไปทุกองค์ประกอบใน Alice in Wonderland เวอร์ชั่น ทิม เบอร์ตั้น ดีแทบจะไร้ที่ติ งานด้าน CG ล้ำเลิศ , งานออกแบบศิลป์ที่อัศจรรย์ และ การแสดงสุดเฮี้ยนของ เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ , สุดเสแสร้งแด๊ะแด๋สมศักดิ์ศรีอดีตเจ้าหญิงของ แอนน์ แฮททาเวย์ , สุดเหวอ ของ จอห์นนี่ เด๊ปป์




... เสียอยู่ตรงจุดเดียวที่ทำให้ หนังเรื่องนี้ด้อยลงถนัดใจนั่นคือ ถึงจะเป็นงานของทิม เบอร์ตั้นที่ พิศดารสร้างสรรค์ที่สุด แต่ก็เป็นงานที่ แห้งแล้งอารมณ์ที่สุดเช่นกัน

ลองนึกทบทวนหนังเก่าๆของเบอร์ตั้น ต่อให้มีความเพี้ยนๆในดินแดนประหลาดๆมากแค่ไหน หนังของเขาก็ทำได้ดีในส่วน อารมณ์( Emotion )เสมอ เช่น Big Fish ทำได้อบอุ่น , Edward Scissorhands ทำได้เศร้า , Mars Attacks! ทำเอาฮา

แต่เรื่องนี้ กลับมีแต่จินตนาการอันบรรเจิด โดยไม่รู้สึกร่วมไปกับเรื่องราว (มีเพียง จอห์นนี่ เด๊ปป์ ที่แสดงได้เห็น อารมณ์ที่ลึกในความเพี้ยน แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ในเมื่อ บทไม่เอื้อให้มีความหมายมากไปกว่านั้น)

บทหนังที่ให้ความสำคัญกับ ตัวละคร นำหน้า แก่นเรื่อง และ การดำเนินเรื่องในโทนที่ราบเรียบ เหมือนดนตรีที่ไร้จังหวะสูงต่ำ ไร้ท่อนฮุค น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฝรั่งที่นั่งข้างๆผมกรนในโรงอยู่พักใหญ่

และเมื่อถึงฉากไคลแมกซ์ช่วงท้าย เป็นฉากสงครามที่รู้สึกว่ามันน่าจะมันส์ได้มากกว่านี้ แต่อารมณ์ในฉากนั้นก็ยังให้ความรู้สึกกลางๆไม่ได้รู้สึกลุ้นหรือตื่นเต้นไปด้วยได้เท่าไหร่เลย


สรุป ... ถ้าตัวหนังให้ความสำคัญกับ เรื่องราว มากขึ้น ทำให้คนดูรู้สึกมีอารมณ์ร่วมมากกว่านี้ ด้วยองค์ประกอบทั้งหมด สามารถทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็น งานระดับมาสเตอร์พีซของ ทิม เบอร์ตั้น ได้เลยทีเดียว

แต่เมื่อ อารมณ์ที่ขาดหาย และ เรื่องราวที่ไม่ค่อยหนักแน่นเท่าไหร่ งานชิ้นนี้จึงเป็น งานจินตนาการบรรเจิดเลิศล้ำอีกเรื่องของ ทิม เบอร์ตั้น แต่ไม่ใช่ในกลุ่มที่ขึ้นหิ้งเดียวกับ Big Fish หรือ Edward Scissorhands

คิดอยู่ว่า ถ้าไม่ติดตรงแบรนด์ ดีสนีย์ และ ทิม เบอร์ตั้น เลือกจะใส่ตัวเองสุดขั้ว ใส่ความ dark สุดตัวเหมือนงานเก่าๆ ไม่ต้องพะวงว่าจะให้เด็กเล็กๆดูได้ เพราะไหนๆในหนัง อลิซก็เข้าวัยสาวแล้ว ผลงานน่าจะออกมาน่าสนใจมากกว่านี้

กระนั้นก็ดี สำหรับสาวกหรือแฟนๆของ เฮียทิม หนังเรื่องนี้ สมควรดูในโรง เพราะแค่เข้าไปดู ความเพี้ยนของนักแสดง , งานด้านศิลป์ที่เลิศล้ำ , แนวคิดการออกแบบดินแดนมหัศจรรย์ในทุกๆรายละเอียด มันก็คุ้มค่าตั๋วเสียยิ่งกว่าคุ้ม

(ดูสามมิติมา แต่คิดว่า ดูโรงธรรมดาก็ได้อยู่)




Link บทความใน Blog ที่อ้างอิงถึง

Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=09-2005&date=07&group=1&blog=1

Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=11-2005&date=19&group=1&blog=1

Avatar , นาวีที่รอคอย + แพนโดร่า มาหานะเธอ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=24-12-2009&group=14&gblog=185

เกาะกระแส ชวนคุยกันถึงหนัง(ออสการ์ 2009) ที่ได้ดู: ถ้าออสการ์อยู่ในมือคุณ คุณจะยกให้กับใคร
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=04-03-2010&group=14&gblog=196

50 หนังประทับใจประจำปี 2009 โดย "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" (ตอนจบ)
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=15-02-2010&group=14&gblog=194




แจ้งข่าว รับงานสัปดาห์หนังสือฯ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ปลายเดือนนี้จ้า








สำหรับเพื่อนๆที่เล่น FaceBook หรือ Twitter ณ.บัดนาว "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขยายสาขาเรียบร้อยแล้วจ้า








Create Date : 05 มีนาคม 2553
Last Update : 6 มีนาคม 2553 0:24:51 น. 19 comments
Counter : 12028 Pageviews.

 
แวะมาอ่านและเมนต์ คนแรกค่ะ อ่านแล้วอยากเข้าไปดูในโรงจัง แต่ไปกับแม่คาดว่าน่าจะหลับและกรนแน่เลย


โดย: แฟนเฮีย เดปป์ IP: 113.53.45.90 วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:22:44:53 น.  

 
มาจ่ายค่าอ่านซะหน่อย เรื่องนี้กะว่าจะเข้าไปดูพอดีเลย หลังจากอ่านจบ ยิ่งอยากเข้าไปดูใหญ่เลย ฮี่ๆๆๆ


โดย: harry-the-red@RMT IP: 124.122.24.130 วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:23:36:56 น.  

 
บรรยายซะ เว่อร์


โดย: เกินไปมั้ง IP: 114.128.82.124 วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:0:02:17 น.  

 
ผมเห็นด้วยมากๆที่ว่า หนังเรื่องนี้เทียบกับพวก
หนุ่มหัวฟูมือกรรไกร, big fish ไม่ได้
หรือกระทั่ง mar attack กับ เจ้าสาวศพ ผมก็ยังว่าดีกว่าเรื่องนี้

แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ยังควรค่าแก่การไปดูคือ โลก wonderland ที่เกิดจากการตีความของทิมเบอร์ตั้น ที่เพี้ยน และเมายาได้ใจ

โดยสรุปผมว่ามันก็เป็นหนัง coming of age ที่เสียดสีสังคมได้แสบๆคันๆใช่เล่น แต่ก็ยังไม่ใช่หนังที่ผมจะนึกถึงเป็นเรื่องแรกหากพูดถึง ทิม เบอร์ตั้น (แต่เป็น มือกรรไกร ไม่ก็ big fish)
และเทียบไม่ได้กับหนัง coming of age ที่ผมชอบที่สุดอย่าง Stand By Me อยู่ดีครับ


โดย: best-fufu IP: 203.144.144.164 วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:2:20:35 น.  

 
รูปโฆษณาหนังสือเว่อร์มากค่ะ ชอบนะ... ฮา ฮา ฮา


โดย: TulipOnLine IP: 203.144.144.164 วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:19:57:42 น.  

 
เหวอตามเดอะ mad hatter.... คนข้างบน IP เหมือนเราเลย O____O


โดย: TulipAgain IP: 203.144.144.164 วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:19:59:48 น.  

 
ยังไม่ได้ดู แต่ตั้งแต่เห็นตัวอย่างหยังก็มีความรู้สึกว่าเนื้อเรื่องท่าจะแป๊ก (ทำไมก็ไม่รู้ = =") แต่คิดว่าอาจจะเป็นเพราะตัวนิยายนั้นมีความยากในการเอามาทำหนังอยู่พอสมควรค่ะ ขนาดนิยายยังอ่านยากประสาอะไรกับเป็นหนัง (ถึงทิม เบอร์ตันจะพยายามดัดแปลงแล้วก็เถอะ = =")
คิดว่าถ้าเอา American McGee's Alice มาทำอาจจะสนุกกว่าก็ได้นะคะ อิอิ


โดย: ragdoll IP: 118.174.49.44 วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:20:33:54 น.  

 
แหะๆๆๆๆ ขอออกคห.ด้วยคนนะค้า
==================================
ส่วนตัวแล้วมองว่า ใน ดินแดนมหัศจรรย์ ถึง อลิซ จะหนีจาก ผู้นำที่เผด็จการเบ็ดเสร็จและชอบให้้ลูกน้องมาอวยมาป้อยอ ไปอยู่กับ ราชินีขาว มันเหมือนว่า เธอได้คิดทำอะไรอย่างเสรี แต่จริงๆแล้ว เธอก็ยังถูก ผู้ใหญ่ที่ฉลาดกว่า เสแสร้งเก่งกว่า มาปั่นหัวควบคุม ให้เธอรู้สึกว่าได้เลือกเอง มันยังไม่ใช่ เสรีแท้ที่เธอต้องการ
==================================
แต่นู๋ว่าอย่างน้อยอลิซก็ได้เริ่มคิดเองตัดสินใจเองนะคะ ถึงจะเป็นการตัดสินใจเดินตามทางที่คนอื่นต้องการก็เถอะค่ะ
ขอยืมโควทของ เจ.เค.โรลลิ่งหน่อยนะฮ้า
"มันต่างกันระหว่างถูกโยนเข้าไปในสังเวียน กับการก้าวเข้าสังเวียนด้วยหัวที่เชิดสูง"
หรืออะไรทำนองนี้แหละค่า

==================================
สัญลักษณ์สีขาว แทน ความดี แต่ด้วยความขาวเว่อร์และจริตความเฟคของราชินี แอนน์ แฮตตาเวย์ น่าจะสื่อถึงความดีที่ชวนกังขาอยู่พอสมควร
==================================
เห็นด้วยเลยค่า แต่นู๋ว่าตาเบอร์ตันน่าจะตั้งใจจิกกัดนะ

==================================
และ สุดท้าย อลิซ ก็เป็นแค่หมากในสงคราม ให้ ผู้ใหญ่ที่หวังอำนาจแต่ทำพูดดี ได้อำนาจไปครองโดยดูดีในสายตาประชาชน
=================================
ใช่เลยค่า


โดย: นู๋แป๋ว IP: 125.24.97.248 วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:23:54:26 น.  

 
เพิ่มเติม
เห็นหลายกระทู้แระ ชื่นชมว่าเบอร์ตันทำออกมาได้บ้าหลุดโลก
แต่ส่วนตัวนู๋ว่าฉบับดั้งเดิมมันก็บ้าหลุดโลกอยู่แล้วนะคะ - -"
กลายเป็นว่าที่"อลิซในแดนมหัศจรรย์"บ้าหลุดโลก เป็นผลงานของเบอร์ตันล้วนๆไปซะงั้น - -"
จริงๆก็ใช่แหละ เพียงแต่ว่าตัวต้นฉบับเองไม่ใช่วรรณกรรมที่ราบเรียบอะไรเลยอ่ะค่ะ
ตัวละครเพี้ยนทุกตัวอยู่แล้ว--ซึ่งเบอร์ตันคงคาร์แรคเตอร์ไว้ได้ดีพอสมควร
เหตุการณ์ในเรื่องก็มีแต่เรื่องบ้าๆบอๆทั้งเรื่อง
วันเดอร์แลนด์เองไม่มีอะไรที่ปกติธรรมดาตั้งแต่แรกแล้วอ่ะค่ะ
หลายคนบอกว่าเบอร์ตันตีความอลิซใหม่ แต่นู๋ว่ามันไม่ใช่อ่ะค่ะ
จะต่างจากต้นฉบับก็เพียงแต่ theme ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนิด ดูหม่นลงหน่อย
(ที่ดูหม่นลงส่วนนึงเป็นคอนเซปท์ของเบอร์ตันเอง อีกส่วนน่าจะเป็นเพราะความเป็นผู้ใหญ่ที่เติมลงไปนี่แหละค่ะ)
น่าจะบอกว่าเบอร์ตันสามารถดึงเอกลักษณ์ของวันเดอร์แลนด์ออกมาได้ดีมากกว่า

แต่นู๋ชอบมากอีตรงที่เบอร์ตันสามารถต่อยอด ต่อเติมเพิ่มขึ้นมาจากต้นฉบับขึ้นมาได้
โดยไม่เสียเอกลักษณ์ของฉบับดั้งเดิมอ่ะค่ะ
ไม่เหมือนหนังที่สร้างจากวรรณกรรมหลายเรื่องที่ดูแล้วรุสึกขัดตามากว่าฉีกต้นฉบับเดิมทิ้งกันเลยทีเดียว


โดย: นู๋แป๋ว IP: 125.24.97.248 วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:0:08:49 น.  

 
ราชินีขาวดูน่ากลัวอย่างไรไม่รู้สิครับ


โดย: เจรามี IP: 203.144.144.164 วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:12:42:58 น.  

 
ยังไม่ได้ไปดูเลย อยากไปดูมากค่ะ
เคยอ่านวรรณกรรมเรื่องนี้สมัยเรียนเรื่องวรรณกรรมคลาสสิก และดูภาพยนตร์ในรูปแบบการ์ตูน คิดเหมือนกันค่ะว่าที่เรื่องดูเพี้ยนๆ เหมือนคนเมายา อาจเป็นเพราะผู้แต่งเรื่องนี้-Lewis Caroll ใช้ยาไปด้วยขณะแต่ง ทำให้จิตนาการล้ำสุดๆ ไปเลย


โดย: แป๋ม IP: 203.144.144.164 วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:13:39:00 น.  

 
ขอนิดนึง แค่นิดนึง

"หนู" สะกดแบบนี้นะค่ะ...

พี่หวังดีจริงๆนะค่ะ


โดย: 1234 IP: 58.64.123.27 วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:1:53:17 น.  

 
ดูมาแล้วค่ะ และคิดเหมือน จขบ. หลายอย่าง เช่น เรื่องอารมณ์ในหนังมันดูเหมือนไม่สุด ดูรีบดำเนินเรื่อง รีบจบยังไงก็ไม่รู้ คือดูตั้งแต่ต้นจนจบ หนูรู้สึกสะอึกกับประโยคของป๋าเดปป์ตอนใกล้ๆจบ เท่านั้นเองค่ะ

ที่ป๋าพูดกับอลิซว่า "เธออยู่ที่นี่ได้นะ"

บวกกับน้ำเสียง สีหน้า แววตา มันแทงถึงใจเลย แต่ก็แค่ฉากนี้ฉากเดียว

ป๋าเดปป์สุดยอดดดด


โดย: howk_ky วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:20:55:00 น.  

 
#12
ตั้งใจสะกดแบบนี้ค่ะ
ชัดเจนนะคะ ^^


โดย: "นู๋"แป๋ว IP: 125.24.117.34 วันที่: 10 มีนาคม 2553 เวลา:0:18:52 น.  

 
อ้อแล้วก็
=========================
"หนู" สะกดแบบนี้นะค่ะ...

พี่หวังดีจริงๆนะค่ะ
=========================
"นะคะ" ไม่มีไม้เอกค่ะ แยกเสียงไม่ถูกหรือคะ ^^
หวังดีค่ะ ^^


โดย: "นู๋"แป๋ว IP: 125.24.117.34 วันที่: 10 มีนาคม 2553 เวลา:0:21:13 น.  

 
อ่านแล้วอยากไปดูขึ้นมาเลย


โดย: wa-oo IP: 58.181.149.2 วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:11:58:17 น.  

 
ไปดูมาแล้วสงสาร ราชินีควีนโพแดง มากเลยค่ะ ท่าทางคงโดนราชินีขาวน้องสาวปั่นหัวมาตั้งแต่เด็ก
ปล. ชอบแมวยิ้มมากกมาย เห็นหน้าแล้วอารมณ์ดีขึ้นมาทันที หุหุหุ


โดย: แอบอ่านโดยไม่จ่ายค่าอ่านมานาน IP: 203.144.144.165 วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:13:30:35 น.  

 
ดูแล้วแต่ไม่เข้าถึงเท่าไหร่ สามมิติเชนทรัลชลภาพสวยเว่อเลย


โดย: ตอง IP: 125.27.217.78 วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:19:13:25 น.  

 
ข้าพเจ้าคิดว่าตัวร้ายน่าจะเป็นไวท์ควีนเพราะการที่เธอมักเป็นที่รักของคิงและควีนอยู่เสมอ ทำให้เรดควีนมีปมด้อยและความผิดปกติต่อร่างกายเธอเองทำให้กลายเป็นแบบนั้น แต่ไวท์ควีนที่ลึกๆจะเก็บความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองและหันแต่ด้านสว่างอยู่เสมอจึงกลายเป็นตัวละครที่ควรจะมีบทบาทมากกว่านี้ และงานของทิมควรอย่าไปยุ่งกับดิสนี่จะดีกว่า ยังไงซะก็ทำร่วมกันไม่ได้อยู่แล้วคิดว่า...


โดย: Chower IP: 158.108.147.225 วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:19:47:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
5 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.