www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

สุดยอด ห้ามพลาด ฉลาด สมจริง << The Bourne Ultimatum >> หนึ่งในหนังที่ดีที่สุดของปี

ขอรบกวน เชิญชวนเพื่อนๆผู้อ่านทุกท่าน มาให้เกียรติเขียน 'คำนิยม' ให้กับ พ็อคเก็ตบุ้คเล่มที่สองของผมที่ชื่อ องศาที่361 ตามรายละเอียดที่ลิงค์นี้เลยครับ

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=29-07-2007&group=15&gblog=1






บอร์น ต่างจาก บอนด์ ตรงที่ บอร์น ไม่ได้มีเครื่องไม้เครื่องมือเลิศหรู ไม่ได้เจ้าชู้สาวหลง

บอร์น ต่างจาก อีธาน ฮันต์ ตรงที่ บอร์น ไม่ได้มีลูกเล่นแพรวพราว ไม่ได้มีทีมเจ๋งๆคอยหนุน

ภารกิจของบอร์น แตกต่างจากคนอื่นๆ เขาไม่เคยได้รับมอบหมายภารกิจที่ยิ่งใหญ่ หรือ ต้องไปฉกชิงคริปโตไนท์จากยอดตึกใบหยก ภารกิจจารชนของเขาที่ได้รับมีเพียง การกำจัดเป้าหมาย

บอร์น ไม่ได้อยากเป็นสายลับ เขา เป็น แค่คนธรรมดาที่มีหัวจิตหัวใจ ที่บังเอิญได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี และ ต้องการแค่สืบหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง หลังจากเกิดความจำเสื่อมไปชั่วคราว

และด้วยเหตุที่ บอร์น มิได้ born to be สายลับ เหมือนกับ เจมส์ บอนด์ ดังนั้น เราจึงเห็นภาวะจิตใจที่มิได้เย็นชาเท่ทุกองศา บอร์นจะฆ่าใครก็เฉพาะคราวจำเป็น และ เมื่อฆ่าเสร็จก็ไม่ได้เย็นใจ เขายังถูกความรู้สึกผิดคอยหลอกหลอน เหมือนกับที่หนังภาคสองให้เราเห็นการเดินทางตามไปขอโทษและบอกความจริงกับลูกของเหยื่อทั้งที่ไม่จำเป็น

ยิ่งบวกกับการต่อสู้แบบดิบๆ ใช้หมัดลุ่นๆไม่ได้ลุ้นอุปกรณ์พิสดาร จึงทำให้เขาไม่ใช่ จารชนที่เว่อร์ราวกับหลุดออกมาจากการ์ตูน แต่ บอร์น มีความเป็นคนธรรมดามากกว่าทั้ง บอนด์ และ อีธาน ฮันต์

...การถือกำเนิดของ บอร์น ในจอใหญ่ทำให้ ทีมผู้สร้าง บอนด์ ก็คงรู้ตัวแล้วว่า สายลับในคอนโทรลของตัวเองนั้น กำลังจะหลุดออกกรอบความเป็นจริงจนเกินไป บอนด์ ภาคล่าสุดจึงกลับตัวกลับใจใช้บริการ แดเนี่ยล เคร็ก และ ปฏิวัติตัวเองสลัดความเว่อร์ทั้งหลายออกไป เหลือแต่ บอนด์โฉมใหม่ฉบับมีเนื้อมีหนังมีผิดมีพลาด เริ่มมีตัวตนให้คนดูจับต้องได้





ย้อนหลังไป ตอนที่ บอร์น เปิดตัวบนจอเงินครั้งแรกเมื่อ ห้าปีก่อน ไม่มีใครคาดหวังมากนัก เพราะถึงต้นฉบับจะเป็นนิยายสายลับขึ้นชื่อของโรเบิร์ต ลัดลั่ม (เวอร์ชั่นหนังสือแปลชื่อไทยได้อารมณ์มาก - กูชื่อ เจสัน บอร์น) แต่ การเลือกผู้กำกับ Doug Liman ที่ทำหนังอินดี้เปรี้ยวๆอย่าง Swingers หรือ Go (เรื่องหลังแนะนำว่าสนุกมาก) และ นักแสดงที่ดูหน่วยก้านแล้วห่างไกลจากการเป็นจารชนอย่าง แม็ตต์ เดม่อน สองตัวหลักนี้ยังห่างไกลที่จะทำให้คนดูคาดหวังผลลัพธ์ที่น่าชื่นชม

แต่ ความพยายามของทั้งคู่ ก็สามารถทำให้ บอร์น ได้การยอมรับจากคนดู เมื่อฉีกรูปแบบให้หนังออกมาเป็น หนังแอคชั่นสายลับที่ไม่ได้ทันสมัย หลายฉากออกจะเชยและชวนให้คิดถึงหนังสายลับในอดีตเสียด้วยซ้ำ ฉากต่อสู้แทบจะไม่มีอาวุธไฮเทคหรือมีเทคนิกแปลกๆ เป็น การต่อสู้แบบอัดกันง่ายๆ แต่สุดท้าย กลับกลายเป็นผลดี เพราะ ทำให้เราสัมผัสได้ถึง สายลับที่ชวนให้เราเชื่อว่าเขา เก่งจริง และ ถ้าโลกนี้จะมีสายลับจริงๆที่ต้องฝ่าฟันอันตรายร้อยแปดพันเก้าเอาตัวรอดจนถึงปัจจุบัน ก็ควรจะเป็น อย่าง บอร์น ไม่ใช่อย่าง บอนด์

The Bourne Identity รื้อเนื้อหาของต้นฉบับนิยายเสียใหม่ โดยยังคงโครงหลัก ถึงเรื่องราว จารชนความจำเสื่อมที่เดินทางตามหาตัวตนที่หลงลืม แต่จัดการตัดเนื้อหาส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะ คู่ปรับคนสำคัญอย่างแจ๊คคัล ที่เด่นเป็นอย่างยิ่งในนิยาย แต่ในหนังนั้นหายไปโดยสิ้นเชิง (ชื่อ แจ็คคัล นักฆ่าตัวร้าย ไปโผล่อีกครั้งในหนังอย่าง The Jackal ที่ เฮีย บรูซ วิลลิส เล่น ประชันกับ หล่อใหญ่อย่าง ริชาร์ด เกียร์ เพียงแต่ มาจาก นิยายคนละเล่มกัน ไม่รู้ว่า เป็น คนเดียวกันหรือเปล่า)





ภาคแรกว่าดีแล้ว ภาคสองกลับดียิ่งกว่า แม้จะเปลี่ยนผู้กำกับคนใหม่เป็น Paul Greengrass ที่คนดูส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักมักจี่แม้จะมีชื่อมาจาก หนังรางวัลอย่าง Bloody sunday และ แฟนๆภาคแรกยังคงเสียดายความสามารถของ Doug Liman ที่ทำภาคแรกได้ดีขนาดนั้น การมาของ Paul Greengrass ใส่ความฉับไวและความเวียนหัวผ่านการถ่ายภาพชนิดทั้งหมุนทั้งเหวี่ยงกล้องไปมา แต่เมื่อดูไปจนเริ่มชิน ก็จะพบว่า Bourne Supremacy มีความกระฉับกระเฉงฉับไว และ ขับเคลื่อนไปข้างหน้าพร้อมอดรีนาลีนของคนดูที่หลั่งแบบแทบจะไม่ได้พัก



Paul Greengrass กลับมาทำหน้าที่ต่ออีกครั้งใน The Bourne Ultimatum และครั้งนี้เป็น บทยืนยันว่า เขา เป็นผู้กำกับที่เก่งฉกาจในการใช้กล้องเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าได้ดู United 93 งานคั่นระหว่างบอร์นสองภาคนี้ฉากบนเครื่องบินช่วงสามสิบนาทีสุดท้าย เป็น ฉากที่ดูกี่ครั้งก็ช่างทรงพลังและทำให้ต้องขนลุกน้ำตาซึม เขาเสกเหตุการณ์บนเครื่องบินราวกับว่า ภาพตรงหน้าของคนดูนั้นคือเหตุการณ์จริง และ เป็นหนึ่งในภาพของหนังที่ผมประทับใจมากที่สุดจากประสบการณ์การดูหนังที่ผ่านมา


แน่นอนว่า The Bourne Ultimatum ก็ยังคงมี การกวัดแกว่งสั่นกล้องให้เวียนงง จนเป็นจุดอ่อนให้หลายคนต้องบ่นกันขรม แต่สำหรับตัวเองที่อาจจะเริ่มคุ้นเคย กลับรู้สึกว่า ที่มีในภาคนี้ยังน้อยกว่าภาคสองเสียด้วยซ้ำ และ สไตล์เหวี่ยงกล้องของ Paul Greengrass ต่างจาก หนังแอคชั่นหลายเรื่องที่ใช้เทคนิกเหวี่ยงกล้องไปมาแบบเร็วๆ เพียงเพื่อลดความจำเป็นในการแสดงรายละเอียดของฉากแอคชั่น แต่ ลีลาของ Paul Greengrass ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เช่นนั้น สไตล์การถ่ายทำของเขาคุมอารมณ์คนดูไปพร้อมกับมุมกล้องที่ฉวัดเฉวียนและจับภาพที่กระแทกกระทั้นอารมณ์คนดูไม่หยุดหย่อน ดูได้จาก ฉากขับรถของ บอร์น ทั้งสองภาคที่กระชากอารมณ์คนดูได้มากกว่า Die Hard หรือ Badboy ที่ระเบิดรถไปนับร้อยคัน

และ เมื่อถึงฉากที่ต้องโชว์ ฝีมือ เขาก็โชว์ ฉากแอคชั่นให้เห็นชัดๆแบบไม่เม้ม เช่น ฉากบอร์นจัดการคู่ต่อสู้ด้วยหนังสือเล่มเดียวในภาคนี้ หรือ จัดการเจ้าหน้าที่ในห้องสี่เหลี่ยมในภาคที่แล้ว



...ไม่ใช่แค่ผู้กำกับที่คู่ควรกับการได้รับคำชม คนเขียนบทของหนังภาคสามนี้ก็สมควรได้รับเสียงปรบมือไม่แพ้กัน เพราะ การสร้างหนังภาคสามให้ดีกว่าสองภาคก่อนที่ดีอยู่แล้วนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นหนังแอคชั่นจะหวังให้ดีกว่าเก่านั้นคงยาก ส่วนมากเราจึงมักจะเห็นแต่การพยายามใส่ลูกเล่นใหม่ๆ เทคนิกใหม่ๆ เข้าไปเสียมากกว่า แต่ ทีมเขียนบทของหนังชุดนี้ โชว์กึ๋นให้เราได้เห็น การเล่าเรื่องในหนังแอคชั่นที่ มีชั้นเชิง เฉียบแหลม และ ชาญฉลาดนั้นเป็นอย่างไร

ตั้งแต่ ความเชื่อมโยงของภาคนี้กับภาคที่แล้ว (สำหรับคนที่ดูภาคสองแล้วจะเข้าใจและชื่นชมได้มากยิ่งขึ้น กับ ความเนียนและความเหนือชั้น) แถมที่เข้าใจคิดอีกอย่างคือ ฉากจบในภาคนี้ ยังมีความเชื่อมโยงกับ ฉากเปิดในภาคแรก อีกต่างหาก จะต่างก็แค่ ตัวตนและความทรงจำ ของ บอร์น เท่านั้นที่เปลี่ยนไป

อีกจุดที่แฟนๆของบอร์น ต้องชอบมากยิ่งขึ้นในภาคนี้ คือ รายละเอียดการเอาตัวรอดของบอร์นในแต่ละเหตุการณ์ ที่ โชว์ฉลาดและชวนให้เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็น ฉากชิงไหวชิงพริบแสนสะใจ อย่าง ฉากล่อหลอกแล้วเข้าไปขโมยเสียงในห้องทำงาน หรือ ฉากแอคชั่นไล่ล่าแบบห่วงโซ่ (บอร์นถูกตำรวจตามล่าไปพร้อมๆกับเขาตามไล่ล่านักฆ่าที่กำลังไล่ล่านางเอก)





...ทีมนักแสดงสมทบทั้งหลายก็เป็นการคัดเลือกดาราที่สามารถเข้ากับอารมณ์ของหนังมากกว่าจะเลือกดาราดัง สังเกตจาก การเลือก ฟรานก้า โปเทนเต้ และ จูเลีย สไตลส์(ชอบเธอคนนี้ตั้งแต่เรื่อง 10สิ่งเกี่ยวกับเธอที่ฉันเกลียด เสียดายช่วงหลังๆเลือกหนังได้ไม่โดนเท่าไหร่) มาประกบคู่พระเอกในแต่ละภาค หรือ การเลือก โจน อัลเลน คริส คูเปอร์ และ เดวิด สแตร็ทธาร์น มาเป็นซีไอเอระดับสูงในทั้งสามภาค ล้วนมีส่วนส่งเสริม ความหนักแน่นน่าเชื่อถือให้กับ ชีวิตของบอร์น ได้มากยิ่งขึ้น


...หนังแอคชั่นอย่าง บอร์น เป็น อีกหนึ่งตัวอย่างหนังที่โผล่มาในปีนี้ที่สามารถทำหน้าที่กระบอกเสียงป่าวประกาศว่า ความเป็นหนังดี มิใช่มีไว้เฉพาะกับ หนังดราม่า หนังอย่าง The Bourne Ultimatum ที่ผสมผสานระหว่าง การกำกับที่สุดยอด การแสดงของนักแสดงนำที่สวมวิญญาณเสมือนเป็นตัวเอง ทีมนักแสดงที่เปี่ยมคุณภาพ และ บทภาพยนตร์ที่ฉลาดเฉียบคม ทำให้ ผลสุดท้าย The Bourne Ultimatum มีคุณภาพกว่าหนังดราม่าหนักๆหลายเรื่อง

และถ้าหยิบหนังมาดูเรียงกันจนครบสามภาค ก็จะพบว่านี่เป็น ไตรภาคหนังสายลับที่ดีที่สุด เสมอต้นเสมอปลายมากที่สุด และ เป็นหนังที่ดีขึ้นเรื่อยๆชนิดไล่เรียงความดีจากดีมากไปสู่ดีที่สุดในภาคสุดท้าย

สรุป ... เชื้อเชิญชวนเชียร์เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น คอหนังแอคชั่นหรือไม่ ถึงจะไม่เคยดูสองภาคนี้มาก่อนก็ดูรู้เรื่อง แต่ จัดได้ว่าห้ามพลาดเด็ดขาดสำหรับแฟนๆบอร์น

สำหรับหนังเรื่องนี้ ช่วงเวลากว่าสองชั่วโมง คือ ช่วงเวลาในการดูหนังโรงที่มันส์ ตื่นเต้น ลุ้นระทึกที่สุดของผมในปีนี้ และ นี่คือ หนึ่งในกลุ่มหนังที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี







ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



(นอกจากตามร้านทั่วไป สนพ.ฝากแจ้งว่า มีลด15% ถึงสิ้นเดือนกค.ที่ ดอกหญ้าสาขา อนุสาวรีย์, เมเจอร์สุขุมวิท, พันธ์ทิพย์ กทม., เมเจอร์เชียงใหม่, แฟชันไอแลนด์, เมเจอร์รังสิต, เมเจอร์ปิ่นเกล้า, เมเจอร์รัชโยธิน)

เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป



Create Date : 13 สิงหาคม 2550
Last Update : 13 สิงหาคม 2550 20:20:46 น. 33 comments
Counter : 5963 Pageviews.

 
Bourne..ฮิต..เพราะส่วนหนึ่ง เพราะเขาดูเป็นคนตัวเป็นๆจริงๆเก่งๆธรรมดาๆที่เป็นตัวแทนของผู้ชายอย่างเรา/ท่าน..แล้วก็รวดเร็วทันใจในการเดินเรื่อง..แต่เราชอบภาค 1 และ 2 มากกว่าค่ะ(โดยส่วนตัว)..แต่ต้องเก็บให้ครบ ทุกตอนอยู่แล้ว....
.....
เราชอบJulia Style..ตั้งแตเป็นteenager ใน.Save the Last Dance..จับตามอง..เธอจะเป็น..Jodie Foster..คนต่อไป...ฟังธง


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:9:53:17 น.  

 
ชอบมากๆครับ เห็นด้วยครับว่าหนังบอร์นทำดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งเเต่ภาค 1-3 หายากจริงๆ หนังที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

เป็นหนังสายลับ+เเอ็คชั่นในดวงใจอีกเรื่องเลยครับ


โดย: บิกวอร์ IP: 125.26.78.107 วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:10:01:58 น.  

 
เห็นด้วยอย่างรุนแรง ...ยิ่งทำก็ยิ่งดีขึ้นกว่าเดิม ยิ่งความทรงจำคืนมาเท่าไหร่ พี่บอร์นของเราก็ได้ใจคนดูมากกว่าเดิม

พอล กรีนกลาส เจ๋ง , แมทท์ เดมอน เท่ห์ , ฉากที่บอร์นตามประกบนักข่าว ชอบที่สุดในฉากแอ๊คชั่น , ความเชื่อมโยง ทำได้เนียน อึ้งมากครับ

ชอบภาคนี้ที่สุดเลยครับ และต้องติด 1 ใน 10 หนังที่รัก ของปีนี้แน่นอน


โดย: OncE UPoN'-'a MaN วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:11:00:09 น.  

 


โดย: 10 IP: 58.64.123.141 วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:12:19:47 น.  

 
ดูแล้วค่ะ สนุกดี ชอบภาคนี้มากที่สุดเหมือนกัน


โดย: แพร (bookofpear ) วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:13:08:17 น.  

 
อยากดู ยังไม่มีเงิน T T


โดย: nanoguy (nanoguy ) วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:13:46:22 น.  

 
ผมดูมาแล้ว 2 ภาคยังแอบงงเลยล่ะครับ ฮือๆ T_T (สงสัยจะโง่แล้วล่ะเรา)

บางคนอาจจะนึกว่าเป็นหนังบู๊แหลกลาญแบบ die hard แต่จริง ๆ ไม่ใช่ bourne ก็คือ bourne สไตล์ผมว่าถอดแบบมาจาก 2 ภาคแรกเด๊ะ ๆ คือสืบไปบู๊ไป ไม่ได้บู๊ตลอด ดังนั้นฉากนิ่ง ๆ ก็คงมี

ก็คงจะถูกใจคอแอ๊คชั่นแบบที่ต้องการชั้นเชิงและความล้ำลึกด้วยน่ะครับ

ส่วนผมคงต้องหาแผ่นมาดูอีกรอบ (สารภาพว่าแอบหลับช่วงท้าย ๆ แบบว่าเมื่อคืนนอนน้อยไปหน่อย) T_T


โดย: Killy วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:16:12:10 น.  

 
ชอบมากๆเลยหนังไตรภาคเรื่องนี้อ่ะ

โดยเฉพาะภาคสุดท้ายนี่ไม่มีที่ติเลย จบภาค 3 นี่ยิ่งทำให้ชอบมากยิ่งขึ้น

เราก็ยกให้เป็นหนึ่งในกลุ่มหนังที่ดีที่สุดของปีนี้เหมือนกัน


โดย: vacuum_car IP: 125.27.6.145 วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:16:32:15 น.  

 
อยากดูที่สุดดดดด...


โดย: annie (annie_martian ) วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:19:33:43 น.  

 
ขนาดดูมาสองภาคแล้วเราก็ยังมึน ๆ
ตามพี่บอร์นไม่เคยทันสักที (ฮ่า ๆ ส่วนหนึ่งของเพราะเราสมองช้า และพี่บอร์นก็ฉลาดมาก ๆ ๆ )
ไม่รู้นะ เราว่า Matt Damon สวมบทเป็นบอร์นแล้วดูเท่จังเลย
ส่วนเรื่องกล้องสั่น ๆไหว ๆ ชินแล้วค่า

ปล. ชอบนิกกี้ อิอิ เสียดาย ลุ้นไม่ขึ้น ฮ่า ๆ
แต่ที่หนังเป็นแบบนี้ จบแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ


โดย: tae IP: 124.121.151.128 วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:23:34:24 น.  

 
ยังไม่ได้ดูเลยคับ อยากดูจริง ๆ

สองภาคแรกยังไม่ได้ดูดี ๆ เลย


โดย: lkunl IP: 144.5.59.109 วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:13:34:32 น.  

 
+ หนังสายลับ ไม่ใช่หนังแนวผมเท่าไหร่อ่ะครับ (รวมทั้งหนังแอ๊คชั่นด้วย) ดังนั้น ผมจึงไม่เคยดู มร.เจมส์ บอนด์เลยซักภาค! ... แต่ก็แปลกที่ตอนนั้นผมกลับ(หลงไป)ดู The Bourne identity ถึงแม้จะมองภาพไม่ค่อยทัน ตามเรื่องราวทั้งหมดไม่ค่อยทันเท่าไหร่ ... แต่ก็ยอมรับเลยว่าจัดเป็นหนังตระกูลสายลับที่ดีเรื่องนึง (แถมยังมีเอกลักษณ์เรื่องความจำเสื่อมอีกต่างหาก) ... และทำให้ต้องติดตามเรื่อยมาทั้ง Supremacy และ Ultimatum ในที่สุด (รู้สึกผมเพิ่งจะผ่านแผงหนังสือเห็นเล่ม 4 วางแผงหมาดๆ ... แต่คุ้นๆ ว่าคนเขียนไม่ใช่ โรเบิร์ด ลัดลั่มเสียแล้ว จริงเท็จอย่างไร แฟนหนังสือช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยคร้าบ)

+ ความดิบ, เถื่อน, ดูสมจริง, ติดดิน, ไม่มีลูกเล่นมากมาย, ไม่ถึงกับเว่อร์ (แต่ตอนที่รอดมาจากรถคว่ำได้ 2-3 ครั้งแบบแทบไม่บุบสลายนี่ก็เว่อร์นิดๆ เหมือนกันนะคับ อิๆ) ... ทำให้เจสัน บอร์น หรือ เดวิด เว็บบ์ (ชื่อคุ้นๆ เหมือนเป็นนักวิทยาศาสตร์ หรือเจ้าหน้าที่ในวงการบันเทิงซักคน มากกว่าจะเป็นชื่อนายร้อยตะหานเก่าน้อ) ดูเป็นสายลับที่ 'สมจริง' และน่าเอาใจช่วยลุ้น (อย่างเหนื่อย อะดรีนาลินพุ่งปรี๊ด) ไปตลอดทั้งเรื่อง ... ฉากแอ๊คชั่นแบบตัวต่อตัว ใช้กล้องแฮนด์เฮลถ่าย ถึงจะปวดหัว ดูตามไม่ทัน แต่ก็ดูสมจริงสุดๆ

+ ภาคนี้มันเป็นภาคจบ คลี่คลายปริศนาทุกอย่างด้วยมั้งครับ เลยรู้สึกว่ามันลงตัว ไม่เหลืออะไรให้คาใจแล้ว ... เฮียแม็ตต์ เป็นบอร์นความจำเสื่อมได้สะใจถึงกึ๋นเช่นเคย ส่วนดาราประกอบก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ป้าโจน อัลเลน (ผมชอบเธอนะ เป็นสาวใหญ่อีกคนที่แสดงได้ดีในแทบทุกเรื่อง), เดวิด สแตรทเทอร์น (ดูเหี้ยมแบบมีมาด), จูเลีย สไตลส์ (ไม่ถึงกับสวยใส แต่ก็ดูไม่หน่อมแน้ม), นักฆ่า (จำชื่อไม่ได้ - ต่อกรกับบอร์นได้ถึงพริกถึงขิงดี)
+ ชอบมุกและปฏิภาณไหวพริบที่บอร์นใช้ด้วยครับ บางตอนก็ฮาเลย ... อย่างเช่นการเอาตัวรอดจาก สนง. ในแมดริด, การหลอกให้เจ้าตัวแสบพูดรหัสเพื่อเอาไปเปิดตู้เซฟ, ฯลฯ เฉียบคม หัวไวเป็นลิงดีครับ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:17:15:17 น.  

 
หนังสือเล่มสี่ชื่อ The Bourne Legacy แต่งโดย Eric Van Lustbader ครับ (เล่มห้า The Bourne Betrayal กำลังจะออกมาเร็วๆนี้)
อย่างไรก็ตาม เนื้อเรื่องในหนังกับหนังสือ ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยครับ ยกเว้น ชื่อตัวละคร และ plot บางส่วน
ปล. Carlos the Jackal ในหนังสือ กับในหนัง the Jackal เป็นคนละคนครับ หนัง The jackal (1997) เอาตัวละครมาจากหนังสืออีกเรื่องชื่อ the Day of the Jackal (1971) จากนั้นก็มีผู้ร้ายตัวจริงที่ได้รับสมญานาม The Jackal (1975) ตามหนังสือ ซึ่ง Ludlum ได้นำตัวผู้ร้ายคนนี้ไปเป็น plot ของ The Bourne Trilogy (1980) แต่ตอนถ่ายทำ The Bourne Identity (2002) ตัว The Jackal จริงๆ (ชื่อจริง Ilich Ramírez Sánchez) ถูกจับได้แล้ว และอยู่ในคุกอยู่


โดย: The Grey Pilgrim IP: 58.8.204.81 วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:20:22:08 น.  

 
มาลงชื่อว่าชอบเหมือนกันค่ะ
อยากให้แมต ได้เล่นหนังดีๆ อย่างนี้อีก
เห็นว่าจะร่วมงานกันอีกแล้วนะ
ผกก.พอล กับแมต
เรื่อง Imperial life in the Emerald city ( จาก imdb)


โดย: and then IP: 202.5.87.130 วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:21:00:57 น.  

 
เป็นหนังสายลับที่ดีที่สุด เท่าที่เคยดูมาคับ ไม่ต้องมีอุปกรณ์ ไม่ต้องมีคนช่วย อย่างนี้สิ ตรงกับความเป็นจิงมากที่สุด ยอมรับเลยว่า เยี่ยม!!!!!!


โดย: กบ เชียงราย (www.lovecinema.pantown.com) IP: 125.24.194.252 วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:23:49:23 น.  

 
เย้ๆๆ พรุ่งนี้จะได้ไปดูแล้ว

รอมาตั้งนานแน่

ไว้ดูแล้วค่อยมาอ่านใหม่นะคะ


โดย: bua ja วันที่: 15 สิงหาคม 2550 เวลา:20:08:29 น.  

 
ชอบมากเหมือนกันค่ะ

ยังไม่ดู พ่อครัวหนู หรือค่ะ


โดย: จูริง..เองค่ะ IP: 41.196.185.139 วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:9:02:25 น.  

 
ถ้าหนังที่เรื่องเกี่ยวกับ Carlos The Jackal ต้องเรื่อง the assignment ครับ มีไอแดน ควิน โดนัลด์ ซุทเธอร์แลนด์ แล้วก็ เบนส์ คิงส์ลีย์ แสดงครับ เป็นเรื่องราวตอนที่จับตัว Carlos ครับ

ความคิดผมและเพื่อนที่ไปดูกับผมอาจจะขัดกับคนอื่นๆ แต่พวกผมคิดว่าบอร์นภาคแรกดีที่สุดแล้ว มุมกล้องแบบธรรมดาดูแล้วไม่ปวดหัวเหมือนภาค 2 และ 3 ที่ยิ่งทวีความปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ เนื้อเรื่องดีมากๆ ฉากต่างๆ แสดงถึงฝีมือและไหวพริบของบอร์นแบบถึงแก่น โดยเฉพาะฉากต่อสู้ บอกตรงๆ ครับ ภาค 2 กะ 3 เทียบไม่ติด เฉียบคม ฉับไว แล้วไม่มั่วซั่วเท่า 2 ภาคที่เหลือครับ (ไม่เชื่อลองเปิดเปรียบเทียบดูได้เลย เทียบฉากต่อยกันระหว่างภาคแรกกับภาค 2 จะรู้เลยว่าภาคแรกท่าทางการต่อสู้เจ๋งกว่าเยอะ)

ผมว่าภาคนี้แย่นะ คือเผินๆ จะดูดี สนุก ไหวพริบดี แต่ถ้าดูแบบลึกๆ จริงๆ จะรู้เลยว่าฉากที่เราว่าดีนั้น มันมีความห่วยและความไม่สมจริงซ่อนอยู่มาก เช่นฉากที่ไล่ล่าในแทนเจีย ดูสนุกนะ แต่...มันจะไล่กันทำไมตั้งนานครับ 20 กว่านาทีได้นะฉากนั้น หรือฉากที่ขึ้นไปคุยโทรศัพท์บนตึกข้างๆ ที่ทำการ CIA คิดเหรอครับว่าทาง CIA จะให้มีตึกร้างๆ ปล่อยให้ใครก็ได้ขึ้นไปยิงหัวเจ้าหน้าที่เล่นๆ หรือฉากเข้าไปขโมยเอกสาร เซฟนี่เปิดง่ายเหลือเกิน ถ้าทำแค่นั้นก็เปิดได้บริษัทเซฟคงโดนฟ้องเละแน่ๆ แล้วบอร์นเดินเข้าตึก CIA ไปโดยไม่ต้องใช้บัตรผ่านไม่ต้องสแกนไอดีอะไรเลยเหรอ ง่ายไปมั๊ง

ที่แย่สุดคือฉากโดดลงมาตอนท้าย ความสูง+ท่าลงแบบนั้น ตายนะครับ เพราะความแรงจะพอๆ กับฟาดพื้นคอนกรีตเลยล่ะ

แล้วเนื้อเรื่อง จบเคลียร์ตรงไหนครับ จำอะไรได้ตรงไหนครับ ผมรู้แค่ว่าบอร์นจำได้แค่ว่าตัวเองเข้าหน่วยยังไง ส่วนเรื่องอื่นๆ ผมว่าบอร์นก็จำไม่ได้หรอกครับ อย่างน้อยก็รู้แค่ว่าตัวเองชื่ออะไร แต่ไม่รู้หรอกว่าเป็นใครมาจากไหน แล้วเรื่องในหน่วยเทรดสโตนก็ไม่ได้เคลียร์อะไรมากมายนักหรอก มีหมกเม็ดไว้อีกเยอะล่ะ ดูแล้วไม่ให้ความรู้สึกว่าเป็นภาคจบเลยด้วยซ้ำ

ที่สุดๆ เลย ไม่น่าจับนิกกี้มาเป็นแฟนเก่าบอร์นเลย (ถึงไม่บอกแต่คำพูด+สีหน้าอ่ะ ใช่เลย แฟนเก่าแน่ๆ) เพราะภาค 1 กับ 2 สีหน้า ท่าทาง แววตา ไม่ใช่อ่ะ โดยเฉพาะภาค 2 นิกกี้กลัวบอร์นถึงขนาดร้องไห้ออกมาเพราะกลัวบอร์นทำร้าย ซึ่งถ้าเป็นแฟนเก่าจริง จะกลัวเหรอครับ เพราะงั้นผมเลยว่ามันไม่ใช่อ่ะ

สรุปในความรู้สึกผม เอาไป 5 เต็ม 10 ครับ เป็นภาคที่แย่ที่สุดในความคิดของผม ทำให้ไตรภาคบอร์นกลายเป็นไตรภาคที่ทำให้ผมไม่อยากจดจำเป็นที่สุด


โดย: DarthTrowa วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:3:19:03 น.  

 
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$







......................test...........................................


โดย: light IP: 125.24.185.234 วันที่: 20 สิงหาคม 2550 เวลา:11:14:52 น.  

 
ผมว่าภาคนี้แย่นะ คือเผินๆ จะดูดี สนุก ไหวพริบดี แต่ถ้าดูแบบลึกๆ จริงๆ จะรู้เลยว่าฉากที่เราว่าดีนั้น มันมีความห่วยและความไม่สมจริงซ่อนอยู่มาก เช่นฉากที่ไล่ล่าในแทนเจีย ดูสนุกนะ แต่...มันจะไล่กันทำไมตั้งนานครับ 20 กว่านาทีได้นะฉากนั้น หรือฉากที่ขึ้นไปคุยโทรศัพท์บนตึกข้างๆ ที่ทำการ CIA คิดเหรอครับว่าทาง CIA จะให้มีตึกร้างๆ ปล่อยให้ใครก็ได้ขึ้นไปยิงหัวเจ้าหน้าที่เล่นๆ หรือฉากเข้าไปขโมยเอกสาร เซฟนี่เปิดง่ายเหลือเกิน ถ้าทำแค่นั้นก็เปิดได้บริษัทเซฟคงโดนฟ้องเละแน่ๆ แล้วบอร์นเดินเข้าตึก CIA ไปโดยไม่ต้องใช้บัตรผ่านไม่ต้องสแกนไอดีอะไรเลยเหรอ ง่ายไปมั๊ง

1.แทนเจียร์ ไล่นาน เพราะ ไม่นานเรื่องจะสั้นกว่านี้อีก

2.ตึกไม่ได้ร้าง นะ ดูดีๆ

3. Safe ไม่ได้เปิดง่าย ก็เห็นๆกันอยู่ ว่า ต้องใช้ทั้งลายนิ้วมือ และก็ เสียง อีกต่างหาก ซึ่ง บอร์น ก็ ทำให้ดูแล้ว ไม่ใช่หรือ หลับป่าววะ >

4. ตอนที่บอร์นเข้าไปสงสัย นายคงจะหลับอีกเหมือนกันว่ะ ออก มาน่ะง่ายๆ มากๆ เด็ก ม.ต้น
ยังรู้เลย ไม่เชื่อ พาไปดู แล้วถามสิ

โดย: กูชื่อ เจสัน บอร์น IP: 203.185.130.36 วันที่: 20 สิงหาคม 2550 เวลา:15:55:16 น.  

 
เคยผิดหวังกับการผิดไตรภาคของ X-men 3 และปิดได้ดีแต่ยังไม่ยอดเยี่ยมของ Spider-man 3 กับ Pirates 3

Bourne คือหนังไตรภาคที่ทำได้ดีที่สุด ดีทุกจุดตั้งแต่เคยดูหนังมาเลยค่ะ


โดย: Vicky IP: 58.9.86.164 วันที่: 20 สิงหาคม 2550 เวลา:17:03:44 น.  

 
วันนี้อยากบอกว่า เผลอหลับไปเป็นช่วงๆ อ่ะครับ (ช่วงต้น และ กลางบางจังหวะ)

ไม่ใช่เพราะว่า หนังไม่สนุกนะครับ แต่เป็นเพราะพึ่งไปทานติ่มซำบุฟเฟต์มาเลยง่วงนอนซะงั้น

ปล. ไม่เคยดูภาคแรก และ สอง เลยอาจจะเข้าใจ ตามหนังได้ไม่หมด


โดย: L-Nets IP: 58.8.45.230 วันที่: 21 สิงหาคม 2550 เวลา:1:22:23 น.  

 
เพิ่งเข้ามาอ่าน ผมชอบมากจนต้องดูซะสองรอบแน่ะ
(ที่จริงก็ดูภาคละหลายรอบอยู่แล้ว)
ผมยกให้เป็นไตรภาคแห่งทศวรรษอีกชุดนึงเลย
ยิ่งดูยิ่งสนุกจริงๆ


โดย: dog mulder IP: 203.144.230.211 วันที่: 21 สิงหาคม 2550 เวลา:15:46:17 น.  

 
ปลื้มภาคแรกมากที่สุด
มาถึงภาคนี้ คิดอยู่เรื่องเดียว ทำไมเฮียบอร์นร่อนไปนู่นมานี่ข้ามประเทศได้โดยไม่โดนสะกัดกั้น ถึงพี่แกจะมีพาสปอร์ตหลายเล่มก็เหอะ กับอีกอย่าง เอาเงินมาจากไหน (หรือเงินจากภาคแรก)
ใครรู้ ช่วยบอกที!!


โดย: สาวเจียงใหม่เจ๊า IP: 124.157.164.192 วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:11:42:20 น.  

 
ชอบดูมาก ดูทุกภาค ภาคละหลายๆรอบ
ผู้สร้างทำหนังได้เจ๋งมาก ชวนติดตาม เคยดูเจมส์บอร์นยังไม่ชอบขนาดนี้เลย


โดย: แฟน บอร์น IP: 124.121.16.60 วันที่: 29 สิงหาคม 2550 เวลา:13:29:47 น.  

 
ชอบภาค 2 (แต่จริงๆ ชอบเลิฟ ซีนภาคแรกอะ)
มันดูกำลังดี อธิบายไม่ถูก รู้แต่ว่าภาค 3 ยัย นิกกี้คือแฟนเก่าเหรอ ไม่เข้าใจหล่อนกำลังทำอะไร ย้อมผมมั้ง แต่งตัวมั่งแบบว่าเหมือนจะทำตัวให้คล้ายนางเอกภาค แรก อะ คิดไปคิดมา มันจะโยงไปภาค 4 ปะเนี้ยะ


โดย: sunontinee IP: 125.24.11.165 วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:0:51:10 น.  

 
หนังมันส์สุดยอดครับ น่าจะมันส์ที่สุดในซัมเมอร์นี้แล้ว ฉากขับรถกะฉากต่อยกันที่แทนเจียร์นี่ยกให้เลยครับ ทั้งขึงขัง ดุดัน จริงจัง ชวนให้ตื่นเต้นระทึกใจตลอดเวลาจริงๆ นักแสดงก็ยอดเยี่ยมทุกคน(แม้กระทั่งลุงฟินนี่ย์ที่โผล่มานิดเดียว) ถ้าเน้นในส่วนของเนื้อเรื่องอีกหน่อยนี่น่าจะเป็นหนังแอ็คชั่นคลาสสิกได้เลยครับ


โดย: TheChamp IP: 58.8.109.56 วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:2:47:38 น.  

 
แง้ ตอนแรกที่ยังไม่ได้อ่านเม้น คิดว่าจาพิมว่า หนังดูแล้วหลับไป 2-3 ตอน แอบน่าเบื่อจะตาย

แต่พออ่านเม้น รุสึกว่า ท่าพิมงี้ไปจาโดนด่าปะวะ เอางี้ ชมด้วยว่าด้วย ดีกว่า
ชมนะคะ...พระเอกเล่นเจ๋ง ลุยเหมือนจิง เพราะพระเอกไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่ จิงเปนหนังที่พระเอกเท่มากๆ
ตินิดนึง...หนังทำไล่ล่าน่าเบื่อไปนี้ดด มันไล่นานไปหน่อยอ่ะ พลอยเรยเคลิ้มๆดูผ่านๆไปนิดนึง มันไล่ล่าจิงๆเรยอ่า ไล๊ไล่ ง่วงเรย (ไล่เราไปหลับอะเป่าเนี่ย อิอิ)

ไม่เอาน๊า คนรักบอร์นอย่าโกดกัน ยังไงซ้า หนังก็เท่และไม่เว่อเกินไปดี


โดย: ploy IP: 124.120.219.44 วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:2:40:53 น.  

 
9/10 คะแนน

ตลอดเวลา ชม.เศษๆที่อยู่ในโรง ผมไม่สามารถขยับตัว หรือแม้แต่กินป๊อบคอร์น อย่างถนัดมือเลย เพราะกลัวพลาดอะไรไปนิดเดียวจะตามหนังไม่ทัน

ถือเป็นหนังสืบสวน ไล่ล่า ที่ดีที่สุดเท่าที่ดูมาเลยครับ

ปล. ดูภาคนี้เป็นภาคแรก


โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:29:28 น.  

 


สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม
หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง
ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน


โดย: ป๋องแป๋ง IP: 124.120.0.136 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:16:33:59 น.  

 
ผมดูทุกปี ครับ อย่างน้อย ปีละ 2 รอบ ทุกภาค

ชอบมากๆๆ


โดย: อาเฉินน้อย IP: 124.120.155.116 วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:14:39:00 น.  

 

จากเสียงลือเสียงเล่าอ้างทำให้อยากดูหนังชุดบอร์นนี้จริง ๆ ค่ะ แต่ก็ตามหายากมาก ยิ่งมาอ่านพรีวิวของคุณยิ่งกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะดู อยากจะมีไว้ในครอบครอง

คลองถมจะมีมั้ยอะคะ


โดย: midnight train IP: 192.168.15.23, 110.77.146.17 วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:13:05:51 น.  

 
ตอบ midnight train ... หนังชุดบอร์น ผมเข้าใจว่ามีแผ่นลิขสิทธิ์นะครับ แต่มีที่ไหนต้องลองสืบดู ส่วนคลองถม ไม่เคยไปเลยไม่รู้ครับ


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:16:20:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.