www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Rush hour 3 , สนุกขำๆแบบย่ำอยู่กับที่

ขอรบกวน เชิญชวนเพื่อนๆผู้อ่านทุกท่าน มาให้เกียรติเขียน 'คำนิยม' ให้กับ พ็อคเก็ตบุ้คเล่มที่สองของผมที่ชื่อ องศาที่361 ตามรายละเอียดที่ลิงค์นี้เลยครับ

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=29-07-2007&group=15&gblog=1





...Rush hour 3 ดำเนินเรื่องต่อมาจากภาคสอง โดยที่สองตำรวจคู่หูต่างก็แยกย้ายไปรับผิดชอบภารกิจของตัวเอง แต่แล้วทั้งคู่ก็ต้องมาจับคู่กันอีกครั้งเพื่อตามหา องค์กรลึกลับที่ส่งคนมาลอบฆ่าท่านทูต อดีตตัวละครสำคัญในภาคก่อนๆที่สองคู่หูนี้เคยปกป้อง แถมงวดนี้ลูกสาวของท่านทูตที่โตเป็นสาวสะพรั่ง ยังมาเป็นเหยื่อที่ถูกตามฆ่าด้วย(เธอคือแม่ติดยาผู้อาภัพจากหนังเรื่อง Protégé ที่เพิ่งลาโรงและเพิ่งออกแผ่นที่บ้านเรา)

คู่หูคู่ฮาจึงต้องเดินทางไปปารีสเพื่อกระชากตัวหัวหน้าองค์กรนี้ให้สิ้นซาก ปัญหาคือ ผู้ร้ายในภาคนี้เป็นอดีตซามูไรจากหนัง Twilight samurai และ The last samurai มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง(แต่มิใช่เชิงชู้สาว)กับเฮียเฉินหลง ส่วน คริส ทักเกอร์ ก็ไปเจอสาวปารีเซียงสุดเซ็กซี่ที่มีฉากหลังลึกลับ และ เหล่าตัวละครเรียกเสียงฮาอีกมากในปารีส

... เมื่อต้องเขียนถึงหนังเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่ให้เขียนถึงมากนัก เพราะ Rush hour 3 แทบจะไม่มีอะไรให้น่าพูดถึงมากมาย นอกจากการขายความฮาและสนุกสนานตามสูตรสำเร็จบนพล็อตเรื่องที่ผูกไว้แบบพอเป็นพิธี

ถ้าหนังสายลับอย่างบอร์นมีความคงเส้นคงวาใน ความยอดเยี่ยม หนังคู่หู Rush hour ของเบร็ต แรทเนอร์ ก็ มีความคงเส้นคงวา เช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในระดับยอดเยี่ยมเหมือนบอร์น แต่คงเส้นคงวาในลักษณะที่เรียกว่า สนุกแบบย้ำอยู่กับที่ คือ ถ้าหยิบภาคใดมาดูเป็นตอนแรกโดยไม่คำนึงถึงความต่อเนื่องของเนื้อหา ก็คงแยกไม่ออกว่า ภาคไหนสร้างก่อนภาคไหนสร้างทีหลัง เพราะทั้งลูกเล่นลีลาแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก



...เบร็ต แรทเนอร์ เป็นผู้กำกับที่มีความสามารถในการทำหนังหลากหลายแนวโดยไม่มีเรื่องใดเข้าข่ายห่วยเละเทะ ซึ่งมีน้อยคนที่จะทำหนังหลากหลายให้สอบผ่านได้อย่างเขา นับย้อนไปตั้งแต่ หนังอบอุ่นอย่าง Family man , หนังชุด Rush hour , หนังแอคชั่นริมทะเล -After the Sunset , หนังฆาตกรโรคจิตหนึ่งในไตรภาคฮานนิบาล- Red dragon ซึ่งเป็นหนังของเบร็ตที่ผมชอบมากที่สุด หรือ หนังไซไฟฮีโร่ฟอร์มยักษ์อย่าง X-Men: The Last Stand (ผลงานล่าสุดเขายังมีส่วนกำกับใน ซีรี่ส์ Prison break ซี่รี่ส์สุดมันส์น้องๆ 24)

ทุกเรื่องที่ว่ามาพิสูจน์แล้วว่า เขาเป็นผู้กำกับที่ขายความสนุกเป็น แถมยังเก่งอีกต่างหาก ไม่มีเรื่องไหนที่นักวิจารณ์จะโขกสับแบบเละเทะ และ งานทุกชิ้นล้วนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในแง่ความพึงพอใจของคนดู เพียงแต่จุดอ่อนที่มีก็คือเขาเหมือน นักเรียนที่สอบกี่ครั้งก็ไม่เคยตก แต่ ถ้าทำได้ดีก็จะอยู่ในช่วงแค่เกรด B ถึง B+ ไม่เคยแตะถึง A

เพราะความเป็นผู้กำกับที่นิยมทำหนังในแบบเพลเซฟเล่นอยู่ในกรอบ ทำหนังตามสูตรเพื่อให้ขายได้โดยขาดลูกบ้าและความกล้าที่จะใส่ความแปลกใหม่ ไม่มีลายเซ็นต์ที่ชัดเจนของตัวเอง จนชวนให้เสียดาย ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง เบร็ต แรทเนอร์ ที่คนดูจะไม่ได้เห็นฝีมือที่แท้จริงว่า เขานั้นมีของอยู่ในตัวมากแค่ไหน หากเขายังคงคิดจะย่ำอยู่แบบเดิมๆ

(ตอนมีชื่ออยู่ในแคนดิเดตผู้กำกับ Superman Returns ยังกลัวอยู่เลยว่าจะทำให้ฮีโร่กางเกงในแดงขวัญใจเด็กๆออกมาเป็นมาม่าสำเร็จรูป โชคดีที่สุดท้ายไปอยู่ในมือไบรอัน ซิงเกอร์ ที่แม้ผลลัพธ์จะมีคนไม่ชอบอยู่หลายคน แต่หนังก็เปิดถนนเส้นใหม่แง่มุมใหม่ๆที่ชวนติดตาม ไม่ได้เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่โผล่มาเพื่อขายตั๋วแล้วจบๆไป)



...อย่างไรก็ดี Rush hour 3 ก็เป็นการปิดฉากทัวร์ปารีสสำหรับคอหนังบ้านเรา ที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวปารีสถึงสามรอบภายในเดือนเดียว เริ่มตั้งแต่ไปทัวร์รอบเมืองพบปะผู้คนมากหน้าหลายตาในทุกซอกทุกมุมของปารีส ใน Paris, je t'aime และ ต่อด้วยทัวร์ไปกินอาหารรสเลิศในภัตตาคารดังๆ ใน Ratatouille แล้วมาปิดฉากวันสุดท้ายก่อนกลับสุวรรณภูมิ ด้วยการบุกหอไอเฟิ้ลใน Rush hour 3 (ขอไม่นับความแค้นฝังจิตใน The Page turner เพราะเธอไม่ได้พาเราไปเที่ยวไหนนอกจากนั่งคิดงวางแผนแก้แค้นอยู่ในบ้าน)

สิ่งที่ดีที่สุดของ Rush hour 3 ที่เป็นตัวอย่างให้หนังตลกไทยๆน่าจะใช้เป็นกรณีศึกษาคือ การเล่นมุกตลกคำพูดที่ไม่จำเป็นต้องลามกหยาบคาย โดยเฉพาะภาคนี้ดูจะมุกประเภท lost in translation อยู่หลายหน เพราะภาคนี้ไม่ใช่แค่ภาษาจีน (ยู มี) ยังสามารถเล่นสนุกกับมุกภาษาฝรั่งเศสได้อีกด้วย (แม่ชี) และ การตัดหนังตัวอย่างที่ไม่ได้โชว์มุกเด็ดจนหมดหน้าตัก ทำให้คนดูยังรู้สึกคุ้มค่าตั๋วที่เข้าไปดูแล้ว ยังมีมุกให้ฮาอีกมากไม่ใช่แค่ฮามาหมดแล้วจากตอนดูหนังตัวอย่าง

จุดเด่นในภาคนี้คือ นักแสดงรับเชิญมากหน้าหลายตา ตั้งแต่รุ่น คูณปู่ คุณย่า อย่าง แม็กซ์ วอน ซีโดว์ และ ศาสตราจารย์ มักกอนาเกิ้ล ไปจนถึงรุ่นเดอะอย่างผู้กำกับออสการ์ โรมัน โปลันสกี้ และ รุ่นเล็กที่ฝรั่งคงไม่รู้จักเท่าคนไทยนั่นคือ ดอน ธีระธาดา ที่โผล่มาแว่บๆ ส่วน คริส ทักเกอร์ อุปสรรคหนึ่งทำให้ภาคสามล่าช้าเพราะเรียกค่าตั๋วสูงเป็นพิเศษ ก็ดูจะทุ่มเทวาดลีลาเรียกเสียงฮาตามระดับมาตรฐานได้คงเส้นคงวาไว้เช่นเดียวกับเฉินหลง แต่จากทั้งหมดที่ว่ามาคนที่ผมชอบมากที่สุด คือ บทโชเฟอร์แท็กซี่ ที่หลอกด่าอเมริกาไปเสียหลายยกและทำท่าวิญญาณฮีโร่สายลับเข้าสิงได้ฮาโรคจิตดีแท้

สรุป ... สนุกสนานเหมือนเดิมๆ เคยเป็นแฟน Rush hour 3 ก็ไปอุดหนุนกันต่อได้ไม่ผิดหวัง หากขาดแคลนความบันเทิงใจในชีวิตเข้าไปดูก็จะทำให้ผ่อนคลายสบายใจเดินออกมา แต่ ถ้าขาดแคลนสตางค์ค่าตั๋วจะรอดูแผ่นก็ได้ไม่ถือว่าพลาดอะไรเด็ดๆไป ยกเว้นว่า เคยหยิบภาคใดภาคหนึ่งในสองภาคก่อนหน้านี้มาดูแล้วไม่ชอบ ก็ควรบอกผ่านไม่จำเป็นต้องลองเพราะ สไตล์เรียกเสียงฮาของหนังไม่ต่างจากเดิม




ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม




เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป




 

Create Date : 20 สิงหาคม 2550
14 comments
Last Update : 20 สิงหาคม 2550 23:26:18 น.
Counter : 2342 Pageviews.

 

ดูมาสองภาคแล้ว ภาคนี้คงไม่พลาดแน่นอนค่ะ

 

โดย: s.o.s 20 สิงหาคม 2550 12:27:47 น.  

 

+ แหะๆ สำหรับเรื่องนี้ผมบอกผ่านอ่ะครับ (ตั้งแต่ภาคแรกมาแว้ว) ... รู้สึกมุกตลกมันไม่ค่อยเข้าทางผมเท่าไหร่ ก็เลยได้ไปดูแต่ Midnight sun มาอ่ะครับผม

 

โดย: บลูยอชท์ 20 สิงหาคม 2550 13:27:53 น.  

 

Rush hour 3 น่าดูมากๆคะ อยากดูคะ

 

โดย: mintny_n 20 สิงหาคม 2550 15:06:27 น.  

 

ว่าจะไปดูอยู่เหมือนกัน
แต่เพิ่งดูเรื่อง Bourn Ultimatum เมื่อวานเอง
สงสัยอาจจะต้องรอดูสัปดาห์หน้าแล้วล่ะ

 

โดย: Almondblist 20 สิงหาคม 2550 16:33:27 น.  

 

ดูเอาฮาผมว่าภาคนี้ฮาสุดใน3ภาคนะ
ภาคนี้ผมชอบ chris tucker มากที่สุดในเรื่องเลย
ออกมาแต่ละฉาก นี่อย่างฮาเลย

 

โดย: ชั่วโมงเร่งด่วน IP: 125.25.248.57 20 สิงหาคม 2550 18:09:37 น.  

 

Chris Tucker นะครับ ไม่ใช่ Chris Rock

ภาคนี้ผมบอกผ่านน่ะ... มุขในหนังตัวอย่างไม่โดนเท่าไหร่เลยครับ

 

โดย: nanoguy 20 สิงหาคม 2550 19:10:59 น.  

 

ภาคแรกดีสุดแล้วครับ
ภาคสองกับภาคสามก็พอทน เพราะรู้สึกจะเน้นให้ Chris Tucker เล่นมุขมากกว่าจะให้เฉินหลงเล่นแอ็คชั่น
เป็นการปิดไตรภาคได้อย่างดีพอใช้ครับ
(คาดว่าคงไม่มีภาคสี่ตามมาแล้วล่ะ เพราะภาคสามนี่ก็ร่ำๆ จะไม่เสร็จด้วยซ้ำไป)
สรุปว่า ถ้าทนดูภาคสองได้จนจบ ก็น่าจะดูภาคสามได้ครับ
แต่ถ้าจะรอดูแผ่นทีหลังก็ไม่พลาดอะไรไปมากนัก ระวังแค่ไวรัสในแผ่นก็แล้วกันครับ เพราะ EVS กับ Happy Home เจ้าของหนังนี่มีชื่อเสียในด้านนี้พอดู

 

โดย: DTRY IP: 203.155.228.199 21 สิงหาคม 2550 3:19:22 น.  

 



เพิ่งไปดูมาค่ะ
เราคงเส้นตื้นเกินมั้ง เลยหัวเราะท้องแข็งเลย
ฮา พี่คนขับแท็กซี่เหมือนกัน
แต่ที่ชอบสุดๆ ก็ฉากแอ็คชั่น โดดหอไอเฟล effect สมจริงมาก เหมือนสู้กันจริงๆบนนั้นเลย

 

โดย: เอ่อ่อ่ะนะคะ 26 สิงหาคม 2550 17:06:50 น.  

 

ไปดูมาแล้วค่ะ เรื่องนี้แต่แบบว่าไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างเพราะ...

เข้าไปดู The Bourne Ultimatum แค่ครึ่งชั่วโมงแล้วเวียนหัวมากจะอ้วกกกกก กล้องมันสั่นๆๆๆ อ่ะ เพื่อนที่ไปด้วย อ้วก MK ที่กินมาไปเรียบร้อย เลยแอบเข้าโรงอื่นเป็น rush hour นั่งแถว 2 จากหน้ายังไม่มึนหัวเลย สบายโคตรๆเลยอ่ะค่ะ

 

โดย: vnv IP: 221.128.74.90 3 กันยายน 2550 14:05:30 น.  

 

ดูมาแล้ว ชอบโซเฟอร์ขับแท๊กซี่อ่ะ ฮาดี มีการหลอกด่าอเมริกาอีก แต่โดยรวมแล้ว ดูแล้วก็สนุกดี

 

โดย: poo IP: 70.108.37.207 14 กันยายน 2550 8:36:11 น.  

 

หนังฮาดีครับ(โดยเฉพาะอิวาน อัททาล ในบทโชเฟอร์) แต่ฉากบู๊นั้นขาดพลังไปอย่างน่าใจหาย ไม่สมเป็น เบร็ท แรทเนอร์ เท่าไหร่เลย โดยรวมก็สนุกดีครับ แต่ถ้าไม่ได้ดูก็ไม่น่าเสียดายอะไร ภาคหนึ่งกับสองมันส์กว่าเยอะครับ

 

โดย: TheChamp IP: 58.8.109.56 27 กันยายน 2550 2:40:03 น.  

 

ดีมากคะ

 

โดย: pat IP: 77.8.88.192 5 ตุลาคม 2550 23:58:42 น.  

 



สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม
หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง
ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน

 

โดย: ป๋องแป๋ง IP: 124.120.0.136 24 มีนาคม 2551 16:36:29 น.  

 

ก็ดีนะ แต่การต่อสู้ไม่สนุกเหมือนพวก shanghai noon หรือ shanghai knight ซักเท่าไร มันดูขาดมิติอ่ะ

 

โดย: okay IP: 202.149.25.241 2 พฤษภาคม 2551 20:05:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
20 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.