ต้มสามเหลี่ยม ขนมพื้นบ้านโบราณขายได้
อาหารการกินประเภทขนมพื้นบ้าน-ขนมโบราณ ยุคนี้กลับมาได้รับความนิยมทั่วไป รวมถึงขนมคาวที่เป็นที่นิยมของชาวใต้ อย่างขนม “ต้มสามเหลี่ยม” ที่มีทั้งไส้หมูทรงเครื่องกับไข่เค็ม และไส้ไก่กับไข่เค็ม อีกขนมเด่นของ จ.สงขลา ซึ่งก็เป็นอีกตัวอย่างที่บ่งชี้ว่าขนมพื้นบ้าน-ขนมโบราณยังเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่ดีได้... พะเยีย สายเรี่ยม เจ้าของร้านขนมไทย “แม่ฉวี” ที่ อ.เมือง จ.สงขลา เล่าว่า ที่ร้านขายขนมคาวและขนมไทยมา นานกว่า 40 ปีแล้ว ซึ่งขนมที่ขึ้นชื่อของร้านก็เช่น “ต้มสามเหลี่ยมไส้หมูทรงเครื่องกับไข่เค็ม” และ “ต้มสามเหลี่ยมไส้ไก่กับไข่เค็ม” และ “ข้าวฟ่างกวน” ซึ่งก็เป็นขนมไทยที่ขึ้นชื่อ และขายดี
สำหรับต้มสามเหลี่ยมไส้หมูทรงเครื่องกับไข่เค็มนั้น พะเยียบอกว่าเมื่อก่อนก็เป็นขนมต้มใส่ไส้ธรรมดาสำหรับ เทศกาลทำบุญเดือนสิบ ทำเป็นลูกเล็ก ๆ แต่ตอนหลังคุณแม่มาเปลี่ยนทำเป็นหมูทรงเครื่องใส่ไข่เค็ม และต่อมามีไส้ไก่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นร้านแรก ๆ ในสงขลาที่ทำขาย และได้รับความนิยมเรื่อยมา ซึ่งสาเหตุที่ต้มสามเหลี่ยมไส้หมูทรงเครื่องกับไข่เค็ม และต้มสามเหลี่ยมไส้ไก่กับไข่เค็ม เป็นที่นิยมนั้น เพราะคนใต้มักจะชอบทานของว่างที่หลากหลายกับกาแฟ และขนมนี้ยังใช้ในงานสัมมนา หรือการประชุม ตามโรงแรมต่าง ๆ ได้ด้วย
วิธีการทำและสูตร นั้น พะเยียบอกว่า ขั้นตอนเริ่มที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ อาทิ ข้าวเหนียวเขี้ยวงูคัดพิเศษอย่างดี จำนวน 15 กก. นำมานึ่งให้สุก และนำมามูนกับกะทิสดในปริมาณ 15 กก.เท่ากัน
ส่วนอุปกรณ์นั้นก็เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวเรือนทั่ว ๆ ไป
ไส้หมูทรงเครื่อง ใช้หมูเนื้อสัน 10 กก. หั่นเป็นชิ้น ๆ แบบลูกเต๋า นำไปผัดกับน้ำตาลทราย น้ำปลา และซอสปรุงรส ปรุงรสตามชอบ และเคี่ยวให้เข้ากัน ซึ่งขั้นตอนการเคี่ยวนี้จะต้องเคี่ยวถึง 3-4 ชั่วโมง จึงจะใช้ได้
ไส้ไก่ทรงเครื่อง ใช้เนื้ออกไก่ประมาณ 5 กก. หั่นเป็นชิ้น ๆ แบบลูกเต๋าเช่นกัน และนำไปผัดกับน้ำตาลทราย น้ำปลา ซอสปรุงรส ปรุงรสตามชอบ เคี่ยวให้เข้ากัน โดยไส้ไก่จะเคี่ยวราว 1-2 ชั่วโมง ก็จะใช้ได้
เมื่อได้ตัวข้าวและไส้แล้ว ขั้นต่อไปก็นำมามัดด้วยใบกะพ้อ โดยใส่ข้าวเหนียวรองลงไปก่อน จากนั้นใส่ไส้หมูหรือไส้ไก่ลงไปและใส่ไข่แดงของไข่เค็ม แล้วปิดด้วยข้าวเหนียวอีกครั้ง จึงมัดใบกะพ้อให้แน่น
ในการขาย จะเรียกเป็นใบ ขายในราคาใบละ 15 บาท ซึ่งกรณีใช้ข้าวเหนียว 15 กก. และใช้วัตถุดิบอื่นตามสูตรที่ว่ามาข้างต้น จะทำได้ประมาณ 500 ใบ หากขายหมดก็จะมีรายได้ประมาณ 7,500 บาท ซึ่งพะเยียบอกว่าจะได้กำไรประมาณ 30-35% เพราะต้นทุนจะอยู่ที่ประมาณ 65-70%
แถมด้วย สูตรการทำขนม ข้าวฟ่างกวน ของร้านนี้ ก็จะใช้ข้าวฟ่างซึ่งเป็นข้าวเมล็ดเล็ก ๆ สีเหลือง ๆ ตามสูตรจะใช้ประมาณ 2 กก. โดยล้างให้สะอาด แล้วแช่น้ำ 3 ชั่วโมง จากนั้นก็นำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ขั้นต่อไปก็นำไปกวนกับกะทิสด 2 กก. และน้ำตาลโตนด 1 กก. โดยกวนไปอีก 3 ชั่วโมง
เมื่อกวนเสร็จแล้วก็ตัดแบ่งเป็นชิ้น ๆ กะให้มีขนาดความกว้างเท่านิ้วชี้ และความยาวขนาด 2 ข้อนิ้ว แล้วแพ็คใส่กล่องพลาสติก แต่ละกล่องใส่ 10 ชิ้น ขายในราคากล่องละ 50 บาท
ขนมชนิดนี้จะมีสีน้ำตาลแดงตามสีน้ำตาลโตนด โดยข้าวฟ่างกวนก็เป็นขนมอีกชนิดของทางร้านนี้ที่ได้รับความ นิยมมากไม่แพ้ขนมอื่น ๆ ไม่แพ้ขนมไทยโบราณที่ได้รับความนิยม อาทิ ขนมเทียนสด, ขนมทองเอก, ขนมสัมปันนี , ข้าวตูมะพร้าวอ่อน, ขนมขี้มอด, ข้าวต้มมัดกล้วยนางพญา ฯลฯ
สนใจขนมร้านนี้ ต้องการติดต่อกับ พะเยีย ติดต่อได้ที่ เลขที่ 120 ถนนนางงาม ต.บ่อยาง อ. เมือง จ. สงขลา ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00- 20.00 น. หรือ โทร.0-7444-0664, 08-6510-4447, 08-9659-4707 ขนมพื้นบ้าน-ขนมโบราณ...ยุคนี้หลายชนิดก็ยังขายดี
คู่มือลงทุน...ขนมต้มสามเหลี่ยม ทุนอุปกรณ์ ประมาณ10,000 บาทขึ้นไป ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 65-70% ของราคา รายได้ ขายราคาใบละ 15 บาท แรงงาน ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ตลาด ย่านขนม, ชุมชน, งานสัมมนา จุดน่าสนใจ พื้นบ้านโบราณก็เป็นจุดขายได้
สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล :รายงาน ที่มา เดลินิวส์
Create Date : 03 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 3 มิถุนายน 2552 9:35:21 น. |
|
7 comments
|
Counter : 7854 Pageviews. |
|
|
|