Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ธรรมะ
สุขภาพ
จิตวิทยา
ชีวิตงาน
บริหาร และการจัดการ
กีฬาและการออกกำลังกาย
สูตรอาหาร1
สูตรอาหาร2
เคล็ดลับคู่ครัว
อาหารเจหรือมังสวิรัติ
อาหารญี่ปุ่น
ผักผลไม้แปรรูป
สูตรสลัด พล่า ยำ
สูตรแซนด์วิช
สูตรทำแยม
สูตรกาแฟ
สูตรขาหมูแบบต่างๆ
สูตรก๋วยเตี๋ยว
อาหารว่างและขนม
โภชนาการ
รวม E book ฟรี
★
ท่องเที่ยวไทย
ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ฟังเพลงไทย
ฟังเพลงสากล
ความรัก
ความงาม
แฟชั่น
แต่งบ้านและจัดสวน
แม่และเด็ก
ลดอ้วน ลดน้ำหนัก
เกมส์
รู้เรื่องรถ
เกร็ดความรู้
คลิปวีดีโอน่ารู้
กันยายน 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
26 กันยายน 2551
ขนมไทยจากแป้งข้าวหอมมะลิ กรอบนอกนุ่มใน
All Blogs
พุดดิ้งมะม่วง
กุ้งกระเบื้อง
ขนมถ้วยมะพร้าวอ่อน
วุ้นชายหาด
7 ขนมหวานยอดฮิตของเยอรมัน (วีดีโอ)
กินอยู่คือ - ขนมไทยน้ำกะทิ (วีดีโอ)
พายฟักทองไส้กุ้ง
บะจ่างประยุกต์
พิซซ่าหน้าเห็ด
เต้าหู้ปลานึ่งหน้าแซลมอน
‘ซาลาเปาไส้แกง’ พลิกแพลงสร้างจุดขาย
'ขนมงาดอกไม้' สูตรใหม่-จุดขายคือสุขภาพ
เผยสูตรเด็ด "ทองม้วนจมูกข้าวสาลี" ขนมไทยสไตล์สุขภาพ
อร่อยกรุบกรอบกับ “กุ้งซ่อนหา”
"ไข่หวานมะตูมสด" สูตรโบราณ ทางเลือกสำหรับคนชอบค้าขาย
"กุ้งกรอบคลุกงา” กินเล่นน่าอร่อย
ข้าวคำหวาน
รังเผือกรวมรส
"พุดดิ้งนมสด" เด้งดึ๋งหวานมัน
"ขนมผักกาดพื้นบ้าน" ทำง่าย โภชนาการสูง
‘จ๊อปลาทู’ พลิกแพลงได้เด่น-เป็นเงิน
หวานเนียนนุ่มลิ้น กับ “คาราเมลคัสตาร์ดผลไม้”
Cheese Dip - ชีสดิป 3 แบบ
FOUR SUMMER ECLAIRS (เอแคลร์สี่ไส้)
ขนมเบื้องญวน สูตรโบราณ บานกำไร
ขนมเปี๊ยะอบเทียน ขายได้ทั้งปี ขายดีเทศกาล
ปาท่องโก๋ สูตร''แป้งผสม''กลมกล่อม
ซาลาเปาทวีโชค สูตรฮวกไช้
'เครปเย็น' อินเทรนด์ทำเงินจากวัยโจ๋
ขนมไข่ 4 สูตร
หมี่กรอบสมุนไพร’ ขายความแปลก-มีคุณค่า
ขายขนมวุ้นเป็นอาชีพเสริม ไม่ยากอย่างที่คิด
เปิดสูตร ‘หมั่วหลาว’ ชื่อไทย ‘ขนมงาพอง’
‘บ้าบิ่นธัญพืช’ ชูจุดขาย ‘เพื่อสุขภาพ’
เคล็ดลับ 'เมี่ยงคำ' ทำเงินด้วยสูตรดั้งเดิม
‘ขนมกงโบราณ’ สูตร 2 สี‘งาดำ งาขาว’
‘ขนมต้ม 3 สหาย’ ขนมไทย ที่ยังไม่ตกยุค
'ลอดช่องสิงคโปร์' สีสวยด้วย 'ดอกอัญชัน'
ต้มสามเหลี่ยม ขนมพื้นบ้านโบราณขายได้
ขนมใส่ไส้ มีทำเลที่ใช่...ยังขายดี
ขนมชั้น ขนมอมตะ ขายได้ทุกๆเทศกาล
ขนมจี้โจ้ ชื่อแปลก ทำง่าย กำไรดี
'ขนมเชื่อม' สร้างรายได้ 'ไม่ตกยุค'
ขนมเบื้องไทย 5 สูตร
กระทงทอง 4 สูตร +เคล็ดลับ
แหนมเนือง 5 สูตร
ขนมกล้วย 5 สูตร
ทองม้วนปลาช่อน 2 สูตร
ขนมรังผึ้งหรือวาฟเฟิล (waffle) 7 สูตร
สาคูไส้หมูลุงจรวัดเกต อร่อยคู่เมืองเชียงใหม่ 35 ปี
หอยทอดขนมครก อร่อยแปลกแหวกตลาด
พิซซ่าเกาหลี +น้ำจิ้ม
หมี่กรอบช่างรังวัด
บ๊ะจ่างสูตรแต้จิ๋ว เจ๊แขกกระทุ่มแบน
ขนมหม้อแกง 4 สูตร
สับปะรดลอยเห็ดหูหนูขาว
ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน พร้อมน้ำจิ้ม 3 สูตร
ขนมปัง-สังขยา 2 สูตร
กล้วยบวชชี 3 สูตร
กรอบแก้วกุ้งสด
นักเก็ตไก่ นักเก็ตปู นักเก็ตเต้าหู้
เครปญี่ปุ่น 2 สูตร
ไส้เอแคลร์แบบไร้ไข่ ฝีมือนศ. มทร.ธัญบุรี
ถั่วทอด-กรอบแก้ว กี่ยุคกี่สมัยก็ขาย
วิธีทำหมี่กรอบให้กรอบนาน +สูตรหมี่กรอบ
หมี่กรอบ กรอบเค็ม สร้างงานด้วยการอนุรักษ์
ขนมเบื้องไทยโบราณละเลงได้ไม่ผิดหวัง
“โดนัทจิ๋ว” สูตรใหม่เมืองสุพรรณ
ซาลาเปาทรงเครื่อง
กระทงฮาวาย
เมนูอาหารจากถั่วแดง
วุ้นนพเก้า
ขายขนมทองม้วนกะทิสด ขนมไทยที่มีความหอมแสนอร่อย
ปาท่องโก๋ (รวมสูตรการทำกรอบ,นุ่ม)
แชมเปี้ยนขนมปัง สูตรดังเขย่าโลก(Yakitate Japan)
ขนมหัวเราะ ( ขนมยิ้มเสน่ห์ ) 3 สูตร ขนมไทยเชื้อสายจีน
ขนมขนิษฐา ภูมิปัญญาคนไทยในขนมฝรั่ง
วิธีการผลิตกล้วยกรอบกระเทียม ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบางแคสามัคคี
ตะโก้แห้ว 2 สูตร +เทคนิคการประกอบ
'ซาลาเปา ปั้นนึ่ง' สวยจนเหมือนตุ๊กตา
ข้าวเหนียวหน้านวล (ข้าวเหนียวตัด) 2 สูตร
ขนมปังกระเทียมและซุปหัวหอมขนมปังกระเทียม
มันบดแบบ KFC +สูตรของหมึกแดง
ขนมปังหน้าปลา
คัสตาร์ด
ขนมสาลี่ 2 สูตร
ขนมนางเล็ด/ข้าวแต๋น
บลูเบอรี่ชีทพาย
ขนมเขียวมรกต ขนมที่ขึ้นชื่อที่สุดของอำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี
ช็อคโกแลตแทนใจ
สูตรขนมฝรั่งกุฎีจีน ขนมโบราณสองร้อยปี ได้รับรางวัลเชลล์ชวนชิม
ขนมไทยจากแป้งข้าวหอมมะลิ กรอบนอกนุ่มใน
ขนมไทยจากแป้งข้าวหอมมะลิ กรอบนอกนุ่มใน
คนไทยเรามีความผูกพันธ์กับข้าวหอมมะลิมาช้านาน
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าข้าวหอมมะลิของไทยนั้น เป็นข้าวที่มีรสชาติอร่อย มีความเหนียวนุ่ม
และมีกลิ่นหอมจนได้รับการยอมรับว่า เป็นข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก
ปัจจุบันไม่เฉพาะแต่คนไทยเท่านั้นที่นิยมบริโภคข้าวหอมมะลิ
แม้แต่ชาวต่างชาติหลายประเทศทั่วโลก ยังยอมรับในความเป็นเลิศด้านคุณภาพของข้าวหอมมะลิเรา
จึงเป็นความโชคดีของคนไทยที่เมืองไทยของเรา สามารถปลูกข้าวหอมมะลิได้ผลผลิตและคุณภาพดี
สามารถส่งออกนำรายได้สู่ประเทศจำนวนมากทุกปี
ในกระบวนการสีข้าวจะได้ข้าวหักประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะมีราคาต่ำ
เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าของข้าวจึงได้นำข้าวหักไปทำเป็นแป้งข้าว
ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการทำผลิตภัณฑ์ทางอุตสาหกรรมหลายประเภท
เช่น แคปซูลยา เส้นก๋วยเตี๋ยว แผ่นเมี่ยง ขนมจีนและขนมหลากหลายชนิดโดยเฉพาะขนมไทย เป็นต้น
ในปัจจุบันผู้เขียนเองได้มีโอกาสทำงานด้านการแปรรูปจากข้าว
โดยเฉพาะงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการทำขนมไทยจากแป้งข้าว
พบว่าข้าวหอมมะลินั้นนอกจากจะหุงเป็นข้าวสวยรับประทานได้อร่อยแล้ว
นำแป้งข้าวหอมมะลิมาทำขนมไทยได้อร่อยสุดยอดทีเดียว โดยเฉพาะนำมาทำขนมไทยประเภททอด
คุณสมบัติของแป้งชนิดนี้จัดเป็นแป้งที่มีอมิโลสต่ำ (15-18 เปอร์เซ็นต์) และมีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย
เมื่อนำไปทำขนมไทยประเภททอดแล้วจะได้ขนมที่มีความกรอบนอกนุ่มใน ไม่ร่วน
และมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ
โดยทั่วไปขนมไทยบางชนิดใช้แป้งข้าวเจ้า หรือแป้งข้าวเหนียวอย่างใดอย่างหนึ่ง
บางชนิดใช้ทั้งแป้งข้าวเจ้าและแป้งข้าวเหนียวผสมกัน
เพื่อปรับสภาพคุณสมบัติของแป้งให้เหมาะสมกับชนิดของขนม
แม่ค้าขนมส่วนใหญ่ใช้แป้งข้าว ที่จำหน่ายในท้องตลาดทำขนมขายเพราะสะดวก
แต่คุณสมบัติของแป้งข้าวดังกล่าวมักไม่แน่นอน
เนื่องจากนำข้าวหักจากข้าวหลายพันธุ์ มาแปรสภาพเป็นแป้งทำให้ได้แป้งมีคุณภาพไม่คงที่
ดังนั้นหากจะให้ขนมไทยคงไว้ซึ่งรสชาติ และความเป็นเอกลักษณ์ของขนมไทยแต่ละชนิด
เราน่าจะลองทำแป้งจากข้าวหอมมะลิของเราเอง
เพื่อเป็นการประหยัดและมั่นใจว่าขนมที่ทำจะต้องอร่อยถูกใจ
การทำแป้งข้าวอย่างง่ายๆ โดยวิธีการโม่น้ำ
เริ่มจากการล้างข้าวสารและแช่น้ำนาน 3 ชั่วโมง แล้วโม่ด้วยเครื่องโม่แป้ง (Vitamix)
น้ำแป้งที่ได้มีลักษณะข้น นำมากรองเพื่อแยกน้ำออกจากแป้ง
นำแป้งที่ได้ไปอบลดความชื้นที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสจนแป้งแห้ง
จะได้ก้อนแป้งที่มีขนาดต่างกัน แล้วนำมาบดจนได้แป้งเนื้อละเอียดตามต้องการ
เรียกการโม่แป้งแบบนี้ว่า การโม่แป้งแบบเปียก (Wet milling)
ขอยกตัวอย่างของขนมไทยที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าหอมมะลิ ที่ผู้ชิมให้การยอมรับมากที่สุด 3 ชนิด
ได้แก่ ขนมกล้วยแขก ขนมดอกจอกและขนมฝักบัว ซึ่งมีสูตรและวิธีทำดังนี้
ขนมกล้วยแขก
ลักษณะของขนม เป็นขนมที่ใช้กล้วยน้ำว้าชุบแป้งข้าวเจ้าทอด
ได้ความกรอบของแป้งด้านนอกและมีความหวาน นุ่มของกล้วยสุกด้านใน
ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้าหอมมะลิ 500 กรัม
มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม
น้ำตาลปีบ 300 กรัม
เกลือป่น 2 ช้อนชา
งาคั่ว 1/2 ถ้วยตวง
น้ำปูนใส 1/4 ถ้วยตวง
น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
ร่อนแป้งข้าวเจ้ากับเกลือ คนให้เข้ากันดีแล้วใส่งาคั่ว น้ำตาลและมะพร้าวขูด
คนส่วนผสมไปเรื่อยๆ แล้วจึงเติมน้ำปูนใส คนให้แป้งละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
ปอกกล้วยน้ำว้า ฝานตามยาวให้ได้ 3-4 ชิ้น ใส่กล้วยลงในแป้งที่ผสมแล้ว
ตั้งกะทะให้ร้อนจึงใส่น้ำมัน ให้น้ำมันมีความร้อนประมาณ 155 องศาเซลเซียส
จึงหยิบชิ้นกล้วยชุบแป้งให้ทั่วทั้งชิ้นใส่ลงในกะทะ ทอดจนแป้งเหลืองกรอบ
ระหว่างทอดควรกลับชิ้นกล้วย เมื่อสุกทั่วกันจึงตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
ถ้าชอบกล้วยที่นิ่มมากๆ ให้ใช้กล้วยที่สุกงอม
ขนมดอกจอก
มีลักษณะคล้ายดอกไม้ตามรูปพิมพ์ เนื้อขนมจะกรอบร่วนแต่ไม่แข็ง ขนมจะมีรสหวานจากกะทิ
ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้าหอมมะลิ 100 กรัม
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 50 กรัม
แป้งมันสำปะหลัง 90 กรัม
น้ำปูนใส 110 กรัม
กระทิ 110 กรัม
ไข่ไก่ 110 กรัม
งาขาว/งาดำ 16 กรัม
น้ำตาลทราย 90 กรัม
วิธีทำ
นวดแป้งกับน้ำกะทิ น้ำตาลทราย และน้ำปูนใส ให้แป้งละลายในส่วนผสมทั้งหมด
แล้วใส่ไข่ไก่ลงไป คนส่วนผสมต่อจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วโรยงา
แล้วจึงตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ไฟร้อนปานกลาง แช่พิมพ์ขนมดอกจอกในน้ำมันเพื่อให้พิมพ์ร้อนจัด
ยกพิมพ์ขึ้นจากกระทะ สลัดน้ำมันเบาๆ แล้วจุ่มพิมพ์ลงในส่วนผสมของแป้ง นำลงทอดในน้ำมัน
ขยับพิมพ์เล็กน้อย ขนมจะหลุดจากพิมพ์ พอเหลืองกรอบตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน
ขนมฝักบัว
ลักษณะขนมฝักบัว มีรูปร่างกลม ขอบหยักคล้ายใบบัวเนื้อขนมจะเหนียวนุ่ม
ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้าหอมมะลิ 135 กรัม
แป้งข้าวเหนียว 33 กรัม
น้ำตาลปี๊บ 38 กรัม
น้ำตาลทราย 75 กรัม
กะทิ 217 กรัม
เกลือ 1 กรัม
ไข่ไก่ 110 กรัม
กล้วยหอมขูดละเอียด 15 กรัม
น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลปีบ เกลือ ไข่ไก่ เข้าด้วยกันแล้วเติมกะทิทีละน้อย
นวดจนแป้งข้าวกันและเหนียวดี จึงใส่น้ำตาลทราย นวดต่อไปจนน้ำตาลทราย ละลายหมด
จึงนำกล้วยหอมมายีให้ละเอียดใส่ลงไปในส่วนผสม แล้วนวดให้เข้ากัน
จึงค่อยๆ เติมน้ำกะทิที่เหลือคนให้แป้งข้นเล็กน้อย นำกระทะ (ควรใช้ใบเล็ก) ตั้งไฟใส่น้ำมันลงไป
ใช้ไฟขนาดกลาง พอน้ำมันร้อน ตักแป้งหยอดลงไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
พอแป้งเหลืองดีแล้วใช้ไม้ปลายแหลมจิ้ม กลับขนมอีกด้านหนึ่งทอดจนเหลืองดี จึงนำขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
ในการทำส่วนผสมของแป้งที่นวดได้ที่แล้วควรมีลักษณะคล้ายนมข้น
ถ้าแห้งให้เติมน้ำลงไปทีละน้อย แล้วหมักไว้ 1 ชั่วโมงก่อนนำไปทอด
กระทะที่ใช้ทอดควรมีก้นลึก ขณะทอดใช้ไม้ปลายแหลมปักยึดขนมไว้ตรงกลางกระทะ
หมั่นตักน้ำมันรดขนมให้ทั่วเพื่อให้สุกสม่ำเสมอ ขอบแป้งจะขึ้นมาเป็นสัน
ส่วนกลางขนมจะนูนขึ้น ทอดขนมทีละอัน
ในการทำขนมไทยจะต้องใช้ศิลป ความชำนาญและความอุตสาหะเป็นที่ตั้ง
ผู้เขียนหวังว่าผู้สนใจทุกท่านคงไปทดลองทำจะได้มีขนมอร่อยๆ ไว้รับประทานกันทุกวัน
หรือไว้เป็นของฝากก็จะประทับใจทั้งผู้ให้และผู้รับ
บรรณานุกรม :
สุภาณี จงดี.คุณสมบัติของแป้งข้าวที่เหมาะสำหรับทำผลิตภัณฑ์ขนมไทยประเภททอด.
ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 กรมวิชาการเษตร. หน้า 29-73.
ที่มา : //ubn.ricethailand.go.th
ภาพประกอบจาก :
//kanchanapisek.or.th
//atcloud.com
//www.tarad.com
Create Date : 26 กันยายน 2551
Last Update : 18 มีนาคม 2554 22:51:39 น.
2 comments
Counter : 12929 Pageviews.
Share
Tweet
ได้ความรู้เยอะเลย ขอบคุณค่ะ
โดย: ก้อย (
ฟันคุดน้อยซี่ที่7
) วันที่: 26 กันยายน 2551 เวลา:22:53:25 น.
แวะมาเอาความรู้ด้วยคนค่ะ ขอบคุณนะคะ
โดย:
wiyada_susi
วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:11:16:26 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
สถานที่เรียนทำอาหาร
รวมสูตรปาท่องโก๋
E book เขียนลายเซ็น ให้เป็นมงคล
รวมสูตรน้ำเต้าหู้
สารบัญ แต่งบ้าน จัดสวน
สารบัญ ไดเอท ลดน้ำหนัก
สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก
สารบัญ ความรู้เรื่องรถ
สารบัญ บทความ สุขภาพ
สารบัญ ฟังเพลงไทย
สารบัญ ฟังเพลงสากล
E book ทำอาหารฟรี
❤
วิธีผูกเนคไท แบบต่างๆ
✿
E book สมาธิ ทางสงบ ถอดจิต
▲
สารบัญ เรื่อง ความงาม
★
สารบัญ แฟชั่น
★
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.