The Night of Truth ความจริงจากบูร์กินา ฟาโซ
The Night of Truth ความจริงจากบูร์กินา ฟาโซพล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 20 สิงหาคม 2549 หลังจากเคยแนะนำผู้กำกับฯชาวเซเนกัล ออสมาเน่ เซมเบเน่ กับผลงานเรื่อง Moolaade ไปแล้ว คราวนี้เป็นหนังจากประเทศบูร์กินา ฟาโซ ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเซเนกัลนัก อันที่จริง หนังเรื่อง Moolaade ก็ใช้ฉากหลังและถ่ายทำจริงในบูร์กินา ฟาโซ แต่เรื่องที่จะแนะนำนี้เป็นหนังที่กำกับฯโดยชาวบูร์กินาเบ(คำเรียกพลเมืองบูร์กินา ฟาโซ) โดยตรง บูร์กินา ฟาโซเป็นชาติเล็กๆ ในแอฟริกาตะวันตก ไม่มีทางออกทะเลเพราะรายล้อมทุกทิศด้วย 6 ประเทศ มีพื้นที่ราวครึ่งหนึ่งของประเทศไทย ด้วยจำนวนประชากรประมาณ 14 ล้านคน โดยร้อยละ 50 นับถืออิสลาม เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคมแอฟริกาตะวันตกของฝรั่งเศส มีเมืองหลวงชื่อ กรุงอูวากาดูกู สำหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของที่นี่ต้องนับว่าดีที่สุดในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ทั้งในด้านการผลิตและจัดจำหน่าย มีเทศกาลหนังเฟสพาโก้(FESPACO) ที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในแอฟริกา แต่หนังส่วนใหญ่ที่ถ่ายทำภายในประเทศยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตลาดและขั้นตอนหลังการผลิต ผลงานและผู้กำกับฯจากบูร์กินา ฟาโซที่เป็นที่รู้จักในยุโรป เช่น Kini and Adams ของ ไอดริสซา อูดราโอโก ซึ่งเข้าชิงปาล์มทองที่เมืองคานส์ปี 1997 Buud Yam(1997) ของ กัสตัน คาโบเร่ Silmande Tourbillon(1998) โดย เอส.ปิแอร์ ยาเมโก และล่าสุด หนังปี 2004 เรื่อง The Night of Truth(La Nuit de la verite) ผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับฯหญิงวัย 44 ปี ฟันตา เรจินา นาโคร (Fanta Regina Nacro) ที่เคยทำหนังสั้นสร้างชื่อมาแล้วนับสิบเรื่อง นาโครเขียนบท The Night of Truth ร่วมกับ มาร์ค โกต์รง หยิบเอาเรื่องการทำลายล้างกันระหว่างเผ่าพันธุ์ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาระดับโลกมานำเสนอ โดยไม่ได้เจาะจงว่าเป็นชาติใด เผ่าใด เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ทุกหนแห่ง หลังจาก 10 ปีแห่งการประหัตประหารกันระหว่างเผ่านายัค ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล กับเผ่าโบนานเด้ ของฝ่ายกบฎ ทั้งสองฝ่ายตกลงยุติสงครามอันเลวร้าย โดยประธานาธิบดีจะมาเยือนถิ่นของผู้พันธีโอ ผู้นำฝ่ายกบฎโบนานเด้ เพื่อสร้างความปรองดองระหว่างกัน แม้ประธานาธิบดีจะเป็นเหยื่อของสงครามครั้งนี้เช่นกัน จากการสูญเสียลูกชายในเหตุการณ์อัปยศที่ฝ่ายโบนานเด้ฆ่าชาวนายัคจำนวนมากอย่างเลือดเย็น แต่เขาก็ปรารถนาจะให้มีความสงบสุขเกิดขึ้นในบ้านเมือง ต่างจาก เอดนา ผู้เป็นภรรยาที่ยังคงทุกข์ตรมและเคียดแค้น และในงานนี้เธอร่วมเดินทางมากับประธานาธิบดีด้วย ฝ่ายผู้พันธีโอ ภาพชิ้นส่วนศพเกลื่อนกลาดเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขาเรื่อยมา ธีโอตั้งใจจะลบฝันร้ายครั้งนั้นให้ได้และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยมี ซูมารี่ ภรรยาคอยหนุนหลัง ขณะที่คนรอบข้างและทหารใต้บังคับบัญชาต่างไม่เห็นด้วยกับการญาติดีกับฝ่ายนายัคเท่าไรนัก ค่ำคืนแห่งความปรองดองและงานฉลองที่ต่างฝ่ายต่างถืออาวุธ ทั้งยังมองว่าเป็นศัตรูต่อกัน จะผ่านพ้นไปด้วยราบรื่นหรือไม่นั้น...ที่สุดแล้วช่างเป็นเรื่องยากเย็น ตัวละครชาวแอฟริกัน กับการประหัตประหารระหว่าง 2 เผ่า น่าจะทำให้นึกไปถึงเหตุการณ์ลักษณะนี้ในประเทศรวันดา เพราะเป็นกรณีตัวอย่างที่ชัดเจนและถูกนำเสนอเป็นภาพยนตร์ดังอย่าง Hotel Rwanda(2004) ของ เทอร์รี่ จอร์จ และ Shooting Dogs(2005) ของ ไมเคิล เคตัน-โจนส์ แต่อันที่จริง เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นในประเทศแอฟริกาอีกหลายประเทศ ทั้ง เซียร์ราลีโอน ซูดาน ไลบีเรีย โดยเฉพาะโกตดิวัวร์(ชื่อทางการของไอวอรี่ โคสต์) ซึ่งเกิดความขัดแย้งโดยตรงกับชาวบูร์กานาเบที่อพยพเข้าไปอยู่ทางตอนเหนือของโกตดิวัวร์จำนวนมาก แม้มูลเหตุแท้จริงจะเป็นเรื่องการแย่งอำนาจทางการเมืองก็ตาม ผู้กำกับฯนาโครอธิบายประเด็นนี้ว่า ที่เธอไม่ระบุฉากหลังให้ชัดเจนเพราะต้องการให้ผู้ชมเข้าใจตรงกันว่าความป่าเถื่อนลักษณะนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป ไม่เฉพาะชาวเผ่าผิวสีในแอฟริกาเท่านั้น อาร์เมเนีย เชชเนีย อิสราเอล ก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้ โดยที่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยูโกสลาเวียต่างหากที่เป็นแรงบันดาลใจโดยตรงในการทำ The Night of Truth ที่สำคัญ ความโหดร้ายอันนำไปสู่โศกนาฏกรรมในตอนจบที่ตัวละครตัวหนึ่งถูกจับย่างสด เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับลุงของเธอเอง ในฐานะผู้กำกับฯสตรี(บางข้อมูลระบุว่าเธอเป็นผู้กำกับฯหญิงคนแรกในภูมิภาคซับ-ซาฮาร่าที่มีผลงานหนังยาว) นาโครได้ใส่ความเป็นเฟมินิสต์ลงไปในหนัง เห็นได้จากบทบาทของตัวละครหญิงอย่าง ซูมารี่ ภรรยาของธีโอ และฟาตู หญิงสาวผู้สูญเสียครอบครัวด้วยน้ำมือฝ่ายนายัค ในความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นอีก หลังจากที่ผู้ชายได้ก่อสงครามทิ้งเอาไว้ บทบาทลักษณะนี้เป็นภาพที่ต่างจากความจริงในสังคมแอฟริกาตะวันตก ที่ผู้หญิงต้องอยู่ในฐานะด้อยกว่าและต้องฟังคำสั่งของผู้ชายเสมอ หนังปูพื้นหลังความแตกต่างระหว่าง 2 เผ่าพันธุ์ ทั้งทัศนคติและวัฒนธรรมที่ดูจะไม่มีทางเข้ากันได้ เช่น ให้ชาวโบนานเด้ชิงชังชาวนายัคถึงกับบอกว่าเป็นพวกครึ่งงูครึ่งคน หรืออาหารจานเด็ดประจำเผ่าที่ต่างฝ่ายต่างตั้งท่ารังเกียจ ชาวนายัคมีเมนูงูหลามชวนชิม ส่วนโบนานเด้มีแมลงเป็นอาหารโอชะ โดยผู้นำแต่ละฝ่ายต้องยอมฝืนกินอาหารของอีกฝ่ายด้วยความพะอืดพะอม ยังมีภาษาพูดที่ใช้ภาษาพื้นถิ่นคนละภาษา เมื่อจะสื่อสารกันต้องใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นสื่อกลาง กระนั้น แม้จะแตกต่างจนเข้ากันไม่ได้อย่างไร เมื่อถึงช่วงเวลารื่นเริง เช่น การแสดงมหรสพและจุดพลุไฟ ต่างก็ร่วมชื่นชมสนุกสนานกันได้ทั้งนั้น รูปแบบของหนังมีส่วนผสมระหว่างสารคดี ทั้งการถือกล้องถ่ายด้วยมือตลอดเรื่อง ไม่มีดนตรีประกอบนอกจากเสียงธรรมชาติ ประกอบกับผู้แสดงมีทั้งนักแสดงอาชีพและทหารจริงๆ ช่วยให้เกิดความรู้สึกสมจริง กับรูปแบบละครเวทีที่จำกัดในเรื่องฉาก มุมกล้อง ไม่มีภาพท้องทุ่งกว้างใหญ่แห่งแอฟริกาหรือสภาพบ้านเรือนให้เห็น ราวกับว่าความขัดแย้งภายในประเทศถูกย่อให้เกิดขึ้นในหมู่บ้านเล็กๆ เท่านั้น ลักษณะละครเวทีนี่เองที่สอดคล้องกับเรื่องราว แบบเชคสเปียร์ ซึ่งสัมผัสได้ชัดเจน เหตุการณ์พลิกผันอันเกิดจากความโง่เขลา-บ้าคลั่งจนนำไปสู่โศกนาฏกรรม และตัวละครที่เต็มไปด้วยข้อบกพร่อง ล้วนแต่ชวนให้คิดถึงงานอมตะของวิลเลี่ยม เชคสเปียร์ อย่าง Hamlet, Macbeth หรือ Othello ขณะที่การแก้แค้นอย่างสาสมเหี้ยมโหดในตอนจบก็มีส่วนคล้ายกับบทละครเรื่อง Titus Andronicus ที่มีฉากเสิร์ฟเมนูเนื้อมนุษย์ให้ศัตรูกิน ก่อนจะปิดท้ายด้วยบทพูดของตัวละครเป็นดั่งบทเรียนสอนใจสำหรับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้น เหมือนในงานของเชคสเปียร์ทุกเรื่อง...ซึ่งในที่นี้คือ บทเรียนที่ว่าการมองคนเหมือนกันด้วยความแตกต่างชิงชัง มีแต่นำมาซึ่งความสูญเสียไม่รู้จบสิ้นโดยเฉพาะเมื่อความชิงชังนั้นเกิดขึ้นกับผู้คนที่อยู่ร่วมผืนแผ่นดินเดียวกัน
Create Date : 31 ตุลาคม 2549
10 comments
Last Update : 31 ตุลาคม 2549 2:31:59 น.
Counter : 2501 Pageviews.
โดย: unwell 31 ตุลาคม 2549 11:57:40 น.
โดย: ปองพล IP: 58.9.47.50 8 มกราคม 2551 13:33:28 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30 31
ผมรู้สึกได้ถึงความชิงชังที่มนุษย์มีนั้น มันช่างน่าเวทนาเหลือเกิน
ขอบคุณที่แนะนำหนังดีๆเรื่องนี้ครับผม