Do You Remember Dolly Bell? ฉันจะค่อยๆ ดีขึ้นทุกวัน
Do You Remember Dolly Bell? ฉันจะค่อยๆ ดีขึ้นทุกวันพล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 30 กันยายน 2550 ทศวรรษ 60 คือยุคเปลี่ยนผ่านสำคัญของยูโกสลาเวีย เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ชื่อ ดีโน่ แห่งเมืองซาราเญโว ก็กำลังอยู่ในช่วงวัยและวันเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญเช่นกัน ด้วยฐานะครอบครัวที่ย่ำแย่และไม่มีทางเลือกมากนัก เด็กหนุ่มอย่างดีโน่จึงจับกลุ่มกับเพื่อน 3-4 คน ใช้ชีวิตเกกมะเหรกไปวันๆ ไม่ก็ขลุกทำกิจกรรมอยู่ในศูนย์เยาวชนประจำเมือง หรือบางครั้งหาเงินใช้ด้วยการลักเล็กขโมยน้อย ดีโน่ยังมีงานอดิเรกประจำตัวอีกอย่างหนึ่งคือ เขากำลังฝึกวิธีการสะกดจิต โดยมีคำพูดสะกดตนเองเป็นประจำว่า ฉันจะค่อยๆ ดีขึ้นทุกวัน ราวกับเป็นคาถาวิเศษ ครอบครัวของดีโน่ประกอบด้วยพ่อผู้เชื่อมั่นในอุดมการณ์มาร์กซิสต์ แม่ซึ่งเป็นแม่บ้าน พี่ชายวัยหนุ่ม น้องชายและน้องสาวอีกอย่างละคน อาศัยอยู่รวมกันในห้องเล็กๆ ยกเว้นดีโน่ซึ่งมักจะแยกตัวไปอยู่บนห้องใต้หลังคา วันดีคืนดีถ้าพ่อกลับบ้านในสภาพเมามาย ลูกๆ จะถูกเรียกมานั่งล้อมวงให้พ่อซักถามว่าทำอะไรไม่ดีบ้างในวันนั้น โดยน้องชายของดีโน่เป็นผู้บันทึกความผิดลงสมุด คืนหนึ่ง พ็อก ชายที่เพิ่งพ้นคุกมาไม่นาน แวะมาเพื่อฝากหญิงสาวคนหนึ่งไว้กับดีโน่สักพัก ดีโน่พาเธอไปอยู่บนห้องใต้หลังคาโดยไม่ให้คนในบ้านรู้ หญิงสาวบอกว่าเธอชื่อ ดอลลี่ เบลล์ เหมือนชื่อนางระบำเปลื้องผ้าในหนังอิตาเลียนซึ่งดีโน่เพิ่งได้ดูเมื่อไม่นานมานี้ที่ศูนย์เยาวชน ดีโน่รู้ดีว่าอันที่จริงดอลลี่เป็นโสเภณีซึ่งพ็อกดูแลอยู่ แต่เพราะเธอคือผู้หญิงคนแรกที่ดีโน่ได้ใกล้ชิด ในที่สุดเขาก็ตกหลุมรักเธอ นอกจากดีโน่ต้องวุ่นวายอยู่กับดอลลี่แล้ว เขาและเพื่อนในกลุ่มถูกชักชวนให้ตั้งวงเล่นดนตรีโดยคนของทางการที่ต้องการให้เยาวชนเข้าถึงวัฒนธรรมตะวันตก ขณะเดียวกัน ดีโน่ยังได้รับข่าวร้ายว่าพ่อป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล ทั้งเรื่องดีและร้ายที่ประดังประเดเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าอย่างไรดีโน่จะบอกตนเองเสมอว่า ฉันจะค่อยๆ ดีขึ้นทุกวัน... Do You Remember Dolly Bell? หนังปี 1981 ผลงานเรื่องแรกของ อีมีร์ คูสตูริซา ผู้กำกับฯชาวเซิร์บที่เกิดในกรุงซาราเญโว เมืองหลวงของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวินาปัจจุบัน เขาโด่งดังบนเวทีหนังโลกตั้งแต่ครั้งยูโกสลาเวียยังไม่เกิดสงครามแยกประเทศ ด้วยการคว้ารางวัลสิงโตทองในฐานะผลงานเรื่องแรกที่เวนิซจากหนังเรื่องนี้ ตามติดด้วยการคว้ารางวัลปาล์มทองที่เมืองคานส์ด้วยผลงานลำดับต่อมาเรื่อง When Father Was Away on Business (1985) ส่วนหนังของคูสตูริซาที่ได้รับการยกย่องยอมรับมากที่สุดคือ Underground ซึ่งส่งให้คูสตูริซาได้ปาล์มทองอีกครั้งเมื่อปี 1995 คูสตูริซาถือเป็นผู้กำกับฯที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดดเด่น เหมือนเป็นลายเซ็นคุ้นเคยซึ่งแฟนขาประจำสามารถระบุได้แม้ไม่ต้องเห็นชื่อผู้กำกับฯ ไม่ว่าจะเป็นความวุ่นวายของเรื่องราว ความอลหม่านของตัวละครจำนวนมาก โดยมีสัตว์หลากชนิดเป็นองค์ประกอบสำคัญ ความอึกทึกของเสียงดนตรีเครื่องเป่า(โดยวงของคูสตูริซาเอง) และแม้จะมีเนื้อหาขื่นเข็ญลำเค็ญเพียงใด อารมณ์หรรษา ยังเป็นรสชาติอันโดดเด่นเสมอในหนังของเขา ที่สำคัญ หนังของคูสตูริซามีเนื้อสารสะท้อนเรื่องการบ้านการเมืองของยูโกสลาเวีย และเรื่องเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ของคนที่เคยอยู่บนดินแดนเดียวกัน โดยเฉพาะในผลงานที่สร้างหลังจากเกิดสงครามคาบสมุทรบอลข่านอันนำไปสู่การสูญเสียชีวิตจำนวนมหาศาลถึงกระนั้น ถ้าใครได้รู้จักคูสตูริซาจากผลงานช่วงหลัง ก่อนจะไล่ย้อนมาดู Do You Remember Dolly Bell? ซึ่งเป็นผลงานเรื่องแรก จะพบว่ามีความแตกต่างอยู่พอสมควร ไม่ใช่แค่องค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งยังไม่เด่นชัดอย่างในงานยุคหลัง แต่เพราะ Do You Remember Dolly Bell? คืองานที่มีอารมณ์ละมุนที่สุดของคูสตูริซา หนังจัดอยู่ในแนว เติบใหญ่ในช่วงวัย หรือ coming of age ของตัวละครที่กำลังก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อในเส้นทางชีวิตและทัศนคติต่อโลก ต้องพบกับประสบการณ์ทางเพศครั้งแรก และเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในครอบครัว ขณะเดียวกัน ฉากหลังซึ่งเป็นทศวรรษ 60 ก็เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของยูโกสลาเวียเช่นกัน หลังสงครามโลกครั้งที่สอง นายพลติโตปลดแอกยูโกสลาเวียจากการเป็นบริวารของสหภาพโซเวียตได้สำเร็จ โดยดำเนินแนวทางสังคมนิยมของตนเอง และพยายามจัดตั้งขั้วคอมมิวนิสต์ชาตินิยมขึ้นมาเคียงกับคอมมิวนิสต์จีนและโซเวียต ก่อนจะเป็นแกนหลักในความเคลื่อนไหวรวมกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดอย่างเป็นทางการในปี 1961 สถานการณ์ดูเหมือนจะราบรื่นสวยหรู ความเป็นกลางทำให้เงินทั้งจากตะวันตกและตะวันออกหลั่งไหลเข้าประเทศจนจีดีพีเติบโตสูงสุด รัฐจัดหาที่อยู่อาศัย การรักษาพยาบาล และการศึกษาแก่ผู้คน กระทั่งคุณภาพชีวิตดีขึ้นผิดหูผิดตา แต่เมื่อเข้าสู่ทศวรรษ 70 ถึงต้นทศวรรษ 80 เศรษฐกิจของยูโกสลาเวียก็พังพินาศ ย้อนกลับมาที่ Do You Remember Dolly Bell? แม้ฉากหลังทศวรรษ 60 จะถูกบันทึกว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความมั่งคั่ง แต่สิ่งที่หนังนำเสนอกลับไม่เป็นเช่นนั้น ครอบครัวของดีโน่ยังไม่มีที่อยู่เป็นของตนเอง โดยผู้เป็นแม่พูดว่าครบ 6 ปีแล้วที่ต้องอยู่ในที่พักอาศัยชั่วคราว(ที่แม้แต่หลังคายังรั่ว) และตบท้ายว่าคนของทางการโกหก ความยากลำบากดังกล่าวขัดแย้งกับความเชื่อเรื่องสังคมอุดมคติแบบมาร์กซิสต์ของพ่อ พ่อซึ่งมักจะพูดพร่ำถึงประกาศแห่งความเสมอภาค และปฏิบัติตนตามแนวทางของคอมมิวนิสต์ แต่สุดท้ายพร้อมๆ กับร่างกายที่ป่วยไข้ พ่อเริ่มมองเห็นว่าความเชื่อมั่นศรัทธาของตนเองก็กำลังป่วยไข้ไม่ต่างกัน ฉากที่ดีที่สุดฉากหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อเกิดพายุฝนขณะครอบครัวกำลังสนุกสนานในงานปาร์ตี้เล็กๆ ที่บ้านลุงของดีโน่ ทุกคนต่างวิ่งหลบฝนยกเว้นพ่อซึ่งยืนเปียกปอนแหงนมองฟ้า ก่อนจะถามดีโน่ด้วยสีหน้าปลงๆ ว่า แสงแดดจะไม่สาดส่องลงที่เมืองนี้เลยหรือ แล้วพ่อก็ตอบคำถามของตนเองว่า คงไม่หรอก ดีโน่, ไม่มีวัน ความหมายของแสงแดดคือความดีงาม-ความสุขที่พ่อเฝ้าหวังรอคอยมาตลอดนั่นเอง สำหรับดีโน่ ประสบการณ์ทางเพศที่มาพร้อมกับความรักครั้งแรก ไม่ต่างจากการถกเถียงกับพ่อเรื่องการสะกดจิตและเรื่องคอมมิวนิสต์เลย พ่อไม่เห็นด้วยกับการสะกดจิต เขาบอกดีโน่ว่าการสะกดจิตเป็นความฝันเลื่อนลอย แต่คอมมิวนิสต์ถูกหล่อหลอมขึ้นในโรงงาน เปรียบกันแล้ว...การหลงว่ารักก็คือความเลื่อนลอย ต่างจากเพศรสซึ่งสัมผัสได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม สุดท้ายดีโน่คงได้รู้ว่าประสบการณ์ทางเพศนั้นไม่ได้ให้ความสุขอย่างแท้จริง แต่ทำให้เขาได้เรียนรู้และสามารถก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ เพราะไม่ว่าอย่างไร เขาจะพูดกับตนเองเสมอว่า...ฉันจะค่อยๆ ดีขึ้นทุกวัน ทำความรู้จักกับ อีมีร์ คูสตูริซา เพิ่มเติมใน Life Is a Miracle โศกหรรษาแห่งเซอร์เบียฯ ผลงานล่าสุดของคูสตูริซาคือ Zavet (2007) หรือ Promise Me This ชิงปาล์มทองเมื่อปีที่แล้ว
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2551
12 comments
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2551 0:51:07 น.
Counter : 1834 Pageviews.
โดย: ม่วนน้อย 14 กุมภาพันธ์ 2551 8:00:33 น.
โดย: ม่วนน้อย 14 กุมภาพันธ์ 2551 8:08:01 น.
โดย: nanoguy IP: 125.24.78.107 15 กุมภาพันธ์ 2551 5:43:50 น.
โดย: wayakon 15 กุมภาพันธ์ 2551 12:16:54 น.
โดย: be-oct4 16 กุมภาพันธ์ 2551 21:56:06 น.
โดย: be-oct4 16 กุมภาพันธ์ 2551 21:56:06 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29