ถนนสายนี้มีตะพาบโจทย์ประจำหลักกิโลเมตรที่ 87 ส่วนเกิน
ถนนสายนี้มีตะพาบโจทย์ประจำหลักกิโลเมตรที่ 87 ส่วนเกิน
โจทย์โดยน้องเป็ดสวรรค์เจ้าเก่ารสเด็ดที่ไม่เคยสร้างความผิดหวังแก่เพื่อนๆ แหะๆ ^^
ขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า กำจัดส่วนเกิน เติมส่วนที่ขาด
กำจัดส่วนเกิน เติมส่วนที่ขาด
ใต้ร่มไม้ใหญ่ที่ใช้เป็นห้องเรียนในเช้าที่อากาศสดใสวันหนึ่ง
เด็กๆนั่งล้อมวงรอบๆคุณครูติ่ง ครูหนุ่มใจดีที่มีรอยยิ้มอยู่เสมอบนใบหน้า
นักเรียนวันนี้ครูจะสอนวิชาประวัติศาสตร์และเทคโนโลยีให้พวกเธอได้รู้ว่า
ทำไมพวกเราถึงได้มีความสุขสบายกันแบบทุกวันนี้
ครูติ่งหยิบเอาตำราเก่าๆเล่มหนึ่งขึ้นปัดฝุ่นที่เกาะจนหนาเตอะออก
พร้อมกับอ่านขึ้นด้วยเสียงดังฟังชัดว่า
เมื่อสองร้อยปีที่แล้วโลกพัฒนาถึงขีดสุด
มนุษย์ทั้งหลายสามารถติดต่อกันได้ทั่วโลก
เขาเรียกกันว่า อินเตอร์เน็ต มีทั้งแบบที่ใช้สายโทรศัพท์
และแบบที่ไร้สาย ความเร็วมีทั้ง2G 3G 4G 5G..12G
ยิ่งG เยอะก็ยิ่งเร็วและแรงและยิ่งแพงจนรับแทบไม่ไหว
คุณครูขา โทรศัพท์มันคืออะไรค่ะ?
ดญ.แจ๋วแหว๋วเจ้าปัญหาถามขึ้น
อ๋อ ครูก็ไม่เคยเห็น คงคล้ายๆโทรโข่งกระมัง! อ้าวฟังต่อนะ
ครูติ่งตอบพร้อมยิ้มกว้างจนเกือบถึงติ่งหูทั้งสองข้าง
มนุษย์อยู่กันอย่างสุขสบายเพราะมีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกเรื่องราว
อาหารการกินก็มีให้กินทิ้งกินขว้าง จนมีส่วนเกินบนร่างกายกันแทบทุกคน
ธุรกิจลดความอ้วนเติบโตมากมาายเหมือนเห็ดเผาะหน้าฝน ที่เป็นของดีราคาแพง
ผลของการกินเกินพอดี ทำให้มีโรคต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ทั้งเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ
ลำบากหมอที่จะรักษากันไม่รู้จักจบจักสิ้นกันเลยทีเดียว
คุณครูขา เบาหวานนี่เป็นโรคอะไรหรือคะ?
ดญ.แจ๋วแหว๋วถามขึ้นอีก
เอ ครูก็ไม่เคยได้ยินนะ แต่ครูว่าเบาหวานก็คงดีกว่าเบาจืดหรือเบาเค็มนะ ถ้ามันจืดอย่าง
เดียวไม่หวานบ้าง มันคงไม่อร่อยนะ?
ครูติ่งตอบอย่างมีมุก แล้วหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจตัวเอง
คนสมัยนั้นไม่ค่อยถือศีลกันเหมือนพวกเรา บางทีผู้ชายก็มีภรรยาน้อย
ผู้หญิงที่ตกเป็นภรรยาน้อยก็มีความรู้สึกว่า เป็นส่วนเกิน
จนบางทีต้องร้องเพลง"ส่วนเกิน"ก็ได้ยินกันบ่อยๆในวิทยุ
อาจารย์ครับ ภรรยาน้อยแปลว่าอะไรครับ?
ดช.ประณตสุดหล่อที่อยากเป็นนักบินตอนโต ถามขึ้นบ้าง
เอ สมัยนี้ก็ไม่เห็นคำนี้เขามีใช้กัน แต่ครูเดาว่าภรรยาน้อยก็คงดีกว่ามีภรรยามากนะ
ครูติ่งตอบด้วยความมั่นใจ
ผู้คนหลงใหลในวัตถุมากกว่าจิตใจ ให้คุณค่าของรูปร่างหน้าตาใบหน้ามากกว่าจิตใจ
พวกเขามองร่างกายตัวเองเป็นวัตถุชิ้นหนึ่ง ต้องการให้มันรับใช้เขาให้เต็มที่
โดยพยายามฝืนธรรมชาติให้สวยและดูอ่อนเยาว์ที่สุด
มีการทำศัลยกรรมผ่าตัดกันอย่างกว้างขวางทั้งเสริมจมูกโด่ง
ดึงหน้าลบรอยเหี่ยวย่น ฉีดโบท๊อกซ์เพื่อไม่ให้หน้าริ้วรอย เสริมหน้าอก
พวกเขาคิดจะอยู่กันให้เป็นหนุ่มสาวสักสองร้อยปี
เรียกว่าใช้ชีวิตกันอย่างประมาทมากเกินไปเลยทีเดียว
คุณครูขา เขาผ่าตัดกันอย่างนั้นไม่กลัวเจ็บกันหรือค่ะ?
ดญ.แจ๋วแหว๋วถามขึ้นอีกด้วยความสงสัย
เอ ครูก็ไม่เคยทำนะ คนสมัยนั้นเขาคงไม่กลัวเจ็บหรอก
เพราะถ้าเขาไม่หลงผิดโลกคงไม่เป็นแบบทุกวันนี้
"คุณครูติ่งขา หนูว่าคนในยุคสมัยนั้นคงมีความสุขมากๆนะค่ะ
อยากทำอะไรก็ได้ทำ ไม่ต้องคอยถือศีล ไม่ต้องไปวัด ทำบุญ
สวดมนต์ไหว้พระให้เสียเวลา
อยากสวยก็ผ่าตัดจะได้สวยสมใจไม่ต้องรอผลบุญในชาติหน้า
แถมยังมีของกินของใช้ มีโทรศัพท์ติดต่อกันได้เหมือนหายตัวไปหากันได้เลยนะค่ะ
เด็กหญิงแจ๋วแหว๋วเริ่มเห็นคล้อยตามไปในทางตรงกันข้าม
ความจริงก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับนักเรียน
ยิ่งสะดวกสบายก็เหมือนยิ่งมีความสุข
แต่ที่จริงแล้วความรู้สึกในใจของคนเรากลับตรงกันข้าม
เพราะเขาหลงใหลในความสุขแบบสมมุติที่คนเราสร้างกันขึ้นมา
แล้วทอดทิ้งความสงบสุขที่เป็นความสุขแท้ที่อยู่ในใจไปอย่างไม่สนใจใยดี
กิเลสตัณหาความทะยานอยากเข้าครอบงำความคิด
คำพูดและการกระทำของผู้คนในสังคมจนหมดสิ้น
จิตใจที่ตกเป็นทาสของกิเลสและความอยาก
อย่างไม่มีที่สิ้นสุดจน
มองเห็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นคู่แข่ง
หรือไม่ก็เป็นเหยื่อเพื่อแสวงหาผลประโยชน์
จิตใจที่มีแต่เหตุผลมากกว่าความเมตตาแบบนี้
จะมีความสุขไปได้อย่างไร
เหมือนคนที่ต้องการเห็นพระอาทิตย์ยามรุ่งอรุณแต่ไปรอที่ทิศตะวันตก
รออยู่อย่างนั้นตลอดวัน ก็ได้เห็นแต่แสงยามพระอาทิตย์ตกดินครู่เดียว
กว่าจะเข้าใจว่าหลงผิดก็คิดได้เมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึงแล้ว
ครูติ่งพูดพร้อมกับส่ายหน้า
แล้วต่อไปเป็นอย่างไรครับคุณครูติ่ง
ดช.ประณตถามด้วยความสนใจ
ผู้คนหันหลังให้ศาสนาและศีลธรรมอันดีงาม
เพราะคิดว่าถ้ามัวยึดถือศีลธรรมจะเป็นส่วนเกินของชีวิต
เป็นภาระที่ต้องแบกต้องถือ แล้วก็จะเป็นคนเชยที่ไม่มีใครอยากคบด้วย
สู้เป็นปุถุชน มีความสุขบ้างทุกข์บ้างไปวันๆ
ต่อสู้ดิ้นรนกอบโกยแสวงหาผลประโยชน์
ทำทุกอย่างเพื่อทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียงที่เขาคิดว่าเมื่อได้มา
แล้วจะทำให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วเขาจะมีความสุข
เขาทำเหมือนเตรียมการทั้งชีวิตเพื่อจะดูพระอาทิตย์ตกดินเพียงครู่เดียว
มันไม่คุ้มกันเลยสักนิดเดียว
ฟังแล้วชักไม่ค่อยดีแล้วนะคะคุณครูขา
หนูแจ๋วแหว๋วเอ่ยขึ้น
แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็มาถึง เมื่อมนุษย์กินอยู่กันอย่างประมาทเกิน
คนรวยก็รวยเกิน คนจนก็จนเกิน ทรัพยากรทั้งหลายแร่ธาตุ
น้ำมันถูกขุดขึ้นมาใช้จนหมด ป่าไม้ก็ถูกคนเผาทำลายจนหมดไม่มีเหลือ
เพราะคนไม่เคารพกฎหมายอีกต่อไป จ้องจะหาผลประโยชน์กันเต็มที่ทุกชนชั้นของสังคม
ฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาล เกิดภัยแล้งอย่างรุนแรง
มิหนำซ้ำวิกฤติโรคร้อนก็ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ
เทคโนโลยีที่จะมาช่วยโลก และเงินทุนทั้งหมด ก็ถูกจำกัดในประเทศพัฒนาแล้วเท่านั้น
โลกค่อยๆเสื่อมจากความเจริญที่กินอยู่กันเกินพอดีแบบนั้น
เกิดโรคระบาดร้ายแรงอยู่หลายครั้งจากความสกปรกและสิ่งแวดล้อมที่แย่ลงเรื่อยๆ
เฮ้อ น่าเสียดาย ครูติ่งพูดพร้อมกับปิดตำรา
แล้วเป็นอย่างไรต่อค่ะครูติ่ง ทำไมพวกหนูถึงได้มาเรียนกันอยู่ใต้ร่มไม้แบบนี้?
น่าเสียดายแทนที่จะรู้จักใช้ทรัพยากรกันอย่างประหยัดจะได้ใช้กันได้จนถึงลูกถึงหลาน
ความเจริญจะได้มาถึงพวกเราบ้าง
เพราะขาดแคลนอาหาร ผู้คนในประเทศอื่นๆนอกจากประเทศของเรา
ก็ค่อยๆล้มหายตายจากกันไป
วัฒนธรรมและความเจริญในแบบโลกไร้พรมแดนอันทันสมัยค่อยๆหดหายไปหมด
ไม่มีเครื่องบินหรือเรือที่จะไปมาหาสู่ระหว่างประเทศเหมือนเดิม
แต่ละประเทศก็อยู่แบบคล้ายๆกัน พอไม่มีความเจริญอีกต่อไปแล้ว
เมื่อไม่มีสินค้า ไม่มีทีวีที่คอยยั่วยุให้อยากโน่นอยากนี่ ความอยากได้อยากมีก็ค่อยๆลดลง
คนเราก็กลับมาอยู๋กับจิตใจ กับตัวเองมากขึ้น
ไม่มีอะไรเหลือเลยนอกจากวัฒนธรรมประเพณีประจำท้องถิ่น
ที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตและศาสนาที่หลงเหลืออยู่
ผู้คนก็กลับมาสู่ยุคที่ไม่มีความเจริญอีกครั้งหนึ่ง
กลับมาจุดตะเกียง ปลูกผักปลูกหญ้า หาปูหาปลาแบ่งปันอาหาร
ของกินของใช้กันอย่างพี่ๆน้องๆ ป่าไม้ก็เริ่มกลับมา แม่น้ำลำคลองก็กลับใสสะอาด
ไปไหนมาไหนก็ใช้เกวียนใช้ม้าขี่กันไปตามเรื่องตามราว
ในเวลาไม่นานนักความสงบสันติอย่างยั่งยืนก็กลับมาสู่โลกของเรา
เช้าๆก็มีเสียงนกเสียงกา ค่ำลงก็มีเสียงจักจั่นหรีดหริ่งร้องระงม
ธรรมชาติกลับสู่ความสมดุลอีกครั้งหนึ่งโลกก็ค่อยๆเย็นลง
อากาศก็กลับมาบริสุทธิ์เหมือนเก่า โลกก็ไม่ร้อนอีกต่อไป
แต่เสียดายที่ตอนนี้มีคนไทยเหลือไม่ถึงหกล้านคนแล้วเหลือน้อยกว่าเก่ามากแล้ว
ทั้งครูเองและนักเรียนพวกเราทุกๆคนดำรงชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
ขององค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 เราอยู่ได้ด้วยตัวเอง ทั้งที่อยู่อาศัย
อาหารการกิน เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรคจากสมุนไพร
ประเทศของเราไม่จำเป็นต้องมีความเจริญที่เกินพอดีอีกต่อไป
ตามสายพระเนตรอันยาวไกลของในหลวงที่ท่านทรงมองเห็น
ว่าประเทศของเราจะอยู่รอดปลอดภัยได้
ถ้าเรารู้จักกำจัดส่วนเกิน เติมส่วนที่ขาดให้แก่สังคม
ใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียง ไม่ใช่อยู่อย่างไม่รู้จักพอเสียที
แล้วก็เติมความรักความหวังดีเข้ามาสู่จิตใจของกันและกัน
ไม่ต้องสวย ไม่ต้องมีเทคโนโลยีอะไรเลยเราก็มีความสุขได้
เพราะความสุขอยู่ที่ความพอใจในชีวิตของเราแบบง่ายๆแค่นี้้เอง
นับตั้งแต่นั้นผ่านมาสองร้อยปี พวกเรามีความสุขตลอดมาใช่ไหมนักเรียน?
ใช่แล้วครับ ใช่แล้วค่ะ นักเรียนตอบพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข
Create Date : 20 สิงหาคม 2556 |
|
82 comments |
Last Update : 27 สิงหาคม 2556 21:40:19 น. |
Counter : 2815 Pageviews. |
|
|
|