ถนนสายนี้มีตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 109 ความเชื่่อ
ถนนสายนี้มีตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 109 หัวข้อความเชื่อ โจทย์โดยน้องเป็ดสวรรค์ ผู้อำนวยการงานตะพาบของเรานี่เอง ขอให้ชื่อตอนนี้ว่า "ความเชื่อที่ไม่งมงาย" ความเชื่อที่ไม่งมงาย มนุษย์ในสมัยโบราณในสมัยดึกดำบรรพ์ เกิดมาพร้อมกับความโง่เขลาในตนเองและธรรมชาติรอบๆตัว เมื่อไม่รู้ความจริงเช่นนั้นก็ย่อมหวาดกลัวต่อสิ่งต่างๆ ไม่ว่าฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า น้ำท่วม ภัยแล้ง โรคระบาด แผ่นดินไหว สิ่งเดียวที่จะช่วยมนุษย์จากความไม่รู้ได้เพียงอย่างเดียวก็คือความเชื่อ เพื่อให้เกิดความสบายใจ อธิบายสิ่งต่างๆตามความรู้ สติปัญญาที่ยังมีน้อยอยู่ เชื่อว่ามีผีป่านางไม้ เจ้าป่าเจ้าเขา ที่ท่านจะดลบันดาล สิ่งต่างๆให้เกิดขึ้นตามความพอใจของตนด้วยพลังอำนาจอันลึกลับ พ่อมดหมอผี คือผู้ที่ติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น การถวายเครื่องเซ่นสังเวย ข้าวปลาอาหารคาวหวาน ดอกไม้ ธูปเทียน ตลอดถึงการบูชายันต์ด้วยสัตว์นากๆชนิด หรือแม้กระทั่งคนเป็นๆก็มีทำกัน คือวิธีที่ทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์พอใจและมอบสิ่งที่ปรารถนาให้แก่เรา ความคิดความเชื่อแบบนี้ก็ยังมีให้เห็นหลงเหลือปนเปไปกับวิถีชีวิต ของชาวบ้านทั่วๆอย่างแยกกันไม่ออก และอยู่อาจจะแฝงอยู่ร่วมกับศาสนาจนถึงปัจจุบันนี้เลยก็ว่าได้ นานนับหลายพันปีกว่าภูมิปัญญาของมนุษย์ในสมัยก่อนจะพบว่า สิ่งต่างๆนั้นเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติของสิ่งต่างๆรอบตัว ผีสางนางไม้ ก็ได้พัฒนาตนเองกลายเป็นเรื่องราวของการเคารพเทพเจ้า เป็นบุคคลที่มีชีวิตจิตใจมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกัน เป็นญาติสนิทพี่น้องกัน มีอำนาจวิเศษที่จะดลบันดาลสิ่งที่ต้องการ ให้แก่ผู้ที่มีความศรัทธาความเชื่อเทพเจ้าเหล่านั้น ยังคงเป็นความเชื่อถือแบบเดิมๆแต่เปลี่ยนตัวละครและเรื่องราวไปเท่านั้นเอง แต่ในบรรดาสิ่งที่น่ากลัวที่สุด ของมนุษย์ที่มีอารยะธรรมเจริญทางจิตใจจนถึงที่สุดในอดีตมีสองสิ่ง ประการแรก"ความกลัว"กลับไม่ใช่กลัวสิ่งภายนอกตัวอีกต่อไป แต่เป็นความกลัวข้าศึกในจิตใจคือเจ้ากิเลส ตัณหา ความโลภ ความโกรธ ความหลงในจิตใจที่จะมาทำลายความสุขสงบในใจให้ลดน้อยลง เพราะคนในสมัยนั้นยังไม่มีวัตถุข้าวของเงินทอง ให้ลุ่มหลงงมงายมากเหมือนสมัยนี้ มีจิตใจเป็นปกติสงบอยู่ตามธรรมชาตินั่นเอง ประการที่สอง สิ่งที่น่ากลัวที่สุด และทุกข์มากที่สุดของมนุษย์ ก็คือ การเกิด การแก่ การเจ็บป่วย และการตาย นี่คือปัญหาใหญ่ที่มนุษย์ทุกคนจะต้องพบและหนีไม่พ้น ทำอย่างไรจึงจะมีความสุขในชีวิตหลังความตาย หรือทำอย่างไรจะไม่ต้องมาเวียนวนในสังสารวัฏกันอีก มีเจ้าชายองค์หนึ่งชื่อเจ้าชายสิทธัตถะด้วยการเลี้ยงดู แบบไข่ในหินชีวิตเติบโตสุขสบายอยู่ในปราสาทสามฤดู ไม่เคยได้พบเห็นคนแก่ คนเจ็บป่วย และคนตาย เมื่อทรงได้พบความจริงข้างต้นจากการหนีออกมาจากวังในวันหนึ่ง ท่านจึงตั้งใจอุทิศตัวเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างออกบวชเพื่อค้นหาความจริง ความจริงที่จะทำให้มนุษย์สามารถเอาชนะกิเลสในใจ และสามารถออกจากวงจรชีวิตที่ต้องเวียนว่ายตายเกิดเช่นนี้ ท่านใช้เวลา 6 ปีจึงทรงค้นพบวิธีทางดับทุกข์พบสุขสงบแท้ภายในใจ และเผยแพร่คำสอน อันเป็นคำสอนของพระพุทธศาสนา ซึ่งพุทธะแปลว่าผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ไม่ใช่ผู้หลงงมงายเชื่อถือสิ่งใดๆอย่างไม่มีเหตุผล ด้วยคำสอนของพระองค์ทำให้มนุษย์สามารถหลุดพ้นจาก ความเชื่อผิดๆได้สำเร็จความเชื่อหรือศรัทธาในทางพระพุทธศาสนาเป็นความเชื่อด้วยปัญญา ด้วยเหตุด้วยผลมีสี่อย่าง คือ *กัมมสัทธา เชื่อในเรื่องกฎของกรรม ว่ากรรมมีอยู่จริง ไม่ใช่ทำแล้วไม่มีใครรู้ไม่ผิด ตายแล้วสิ่งที่ทำไม่ต้องรับผลกรรมเป็นต้น *วิปากสัทธา เชื่อผลของกรรมมีจริง คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว *กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่า กรรมเป็นของตน ผู้กระทำจะรับกรรมติดตาม ตัวไปทุกภพชาติ *ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อในพระพุทธเจ้าตรัสรู้ด้วยพระองค์เองใน อริยสัจ4 และมีชุดของความเชื่อที่จะเปิดประตูไปสู่ชีวิตที่ดีงาม(อริยมรรคมีองค์ 8) เรียกว่าชุดของความเห็นที่ถูกต้อง(สัมมาทิฏฐิ)มี 10ประการได้แก่ ทานที่ให้แล้วมีผล การสงเคราะห์กันมีผล การยกย่องบูชาบุคคลที่ควรบูชามีผล ผลแห่งกรรมดีและกรรมชั่วมีจริง โลกนี้มี (ที่มา) โลกหน้ามี (ที่ไป) แม่มี พ่อมี สัตว์ที่เกิดแบบโอปปาติกะมี พระอรหันต์ผู้หมดกิเลสแล้วมี ศาสนาพุทธเชื่อว่ามนุษย์มีศักยภาพที่จะเอาชนะความทุกข์ได้ ด้วยการฝึกฝนและยกระดับจิตใจด้วยการเชื่อในสิ่งที่ดีเป็นกุศล การปฏิบัติตามหลักศีล สมาธิ ปัญญา มนุษย์สามารถหลุดพ้นจากดวงชะตาฟ้าลิขิต อยู่เหนือดวงดาวโหราศาสตร์ มนุษย์คือผู้ลิขิตชีวิตตัวเองด้วยกรรมที่ตัวเองกระทำแล้วนั่นเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราสามารถอธิบายด้วยหลักของกรรมได้ทั้งหมด คนที่รับผลกรรมที่ไม่ดีก็เพราะเคยทำกรรมไม่ดีในอดีตมาก่อน แต่การให้ผลของกรรมไม่แน่นอน เพราะกรรมมีหลายประเภท เช่นกรรมที่ทำประจำย่อมให้ผลมากว่ากรรมที่ไม่ค่อยได้กระทำ นานๆทำที กรรมที่รุนแรงถึงชีวิต ย่อมมาอย่างรวดเร็วชนิดกรรมอื่นๆไม่สามารถต้านทานได้ คนทำความเลวแต่กลับได้ดีเพราะกรรมดีเก่าๆยังหนุนส่งอยู่ ส่วนคนทำกรรมดีแต่ได้ผลเลวก็เพราะว่าผลของกรรมดีในปัจจุบัน ยังถูกกรรมเก่าส่งผลลบล้างอยู่ มีความจริงง่ายๆที่พึงระวังตัวไว้ก็คือถ้าไม่มีแรงกระตุ้น รบเร้า ยั่วยุ ไม่ว่าจะจากกิเลส ความโลภ โกรธ หลงในใจ หรือ ความต้องการตามธรรมชาติของร่างกาย เช่นความหิว ความเหนื่อย ความเพลีย ความอ่อนล้า ความต้องการทางเพศ มนุษย์จะไม่ก่อกรรมทำชั่วเลย แต่เมื่อใดขาดสติไปตามอำนาจ กิเลสตัณหาที่มองเห็นหรือถูกยั่วยุ ตามอุปนิสัยที่สั่งสมมา หรือตามสภาพร่างกายที่ไม่เอื้อที่จะคุมสติ จากความหิว ความอ่อนเพลีย หรือจากการดื่มสุราการเสพยาเสพติดของมึนเมาเข้าไป เมื่อขาดสติ ขาดศีล ขาดจิตสำนึกที่จะคอยยับยั้งชั่วใจเอาไว้ มนุษย์ก็ก่อกรรมทำชั่ว ประทุษร้ายแก่ตนเองและผู้อื่นให้ได้รับความทุกข์ยาก สติจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ชีวิตเราหลุดจากการทำความชั่วได้ และพึงระวังช่วงที่เราขาดสติไว้มากที่สุด เพราะเพียงเสี้ยววินาทีเดียว ที่ขาดสติ เราอาจทำกรรมชั่วรุนแรงได้ง่ายดาย ทั้งๆที่เป็นเคยคนดีมาตลอดชีวิตก็ได้ แต่ก็อีกนั่นแหละเพราะกรรมเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น และไม่สามารถจับต้องวัดขนาด สัมผัสได้เหมือนวัตถุทั่วไป คนสมัยนี้จึงไม่เชื่อกรรม แต่ไปเชื่อวิทยาศาสตร์แทน เรียกวิทยาศาสตร์และวัตถุนิยมว่าเป็นความเชื่อของคนสมัยปัจจุบันเลยก็ว่าได้ และในวิทยาศาสตร์ก็ไม่มีคำสอนเรื่องกรรม ชาตินี้ชาติหน้าเสียด้วย คนจึงคิดคดโกงทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่นเพื่อหวังรวยในชาตินี้ โดยไม่ฉุกคิดเลยว่ามีความทุกข์เร่าร้อนอยู่ในความรู้สึกลึกๆในจิตใจ รอเวลาพาจิตที่ดับไปยังภพภูมิแห่งนรกที่เหมาะกับจิตที่มีสภาพร้อนรุ่มเช่นนั้น หรืออาจจะมีบุญได้พบจุดหักเหชีวิตเมื่อมีทุกข์หนักเข้าถาโถมใส่เต็มแรง เพราะวัตถุที่ครอบครองไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน เงินทอง บ้านที่ดิน คู่ครอง บุตรธิดา หรือร่างกายเกิดเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายอย่างฉับพลัน เช่นเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ ฟองสบู่แตกมีหนี้ท่วมตัว ถูกคดโกงจนหมดตัว เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ประสบอุบัติเหตุจนร่างกายพิการ ชีวิตพบกับความสูญเสีย พลัดพรากอย่างไม่คาดคิดมาก่อน นั่นแหละจึงถึงเวลาได้สำนึกใคร่ครวญถึงชีวิตในช่วงที่ผ่านมา ชีวิตของเขามีทางเลือกแค่สองทาง ก็คือจะปล่อยชีวิตให้ซัดเซพเนจรไปตามความโศกเศร้าสูญเสีย เพื่อปิดฉากชีวิตไปอย่างเศร้าสร้อยทุกข์ระทมที่สุด หรือจะเริ่มต้นความคิดความเชื่อที่ถูกต้อง แล้วเดินไปบนเส้นทางธรรมที่สงบเย็น เริ่มปล่อยวางเรื่องราวความสูญเสีย และปล่อยวางผู้แบกชีวิตคือตนเองลงด้วย ในโอกาสวันอาสาฬหบูชาอันเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันพระธรรม" และ "วันพระสงฆ์" เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาประกาศพระธรรมจักร เป็นครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ และเป็นวันที่บังเกิดมีพระสงฆ์ ครบเป็นองค์พระรัตนตรัยครั้งแรกในโลก อันเป็นการเคลื่อนกงล้อธรรมจักรที่ยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่พวกเราจงตั้งใจน้อมนำพระธรรมคำสั่งสอน ให้เรามีความคิด ความเชื่อ และการกระทำที่ถูกต้อง ต่อตนเองและผู้อื่น ตั้งอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อลดกิเลสตัณหาในจิตใจ และพาความทุกข์ ออกจากชีวิตจิตใจของเราให้เหลือน้อยที่สุด ผลจากการปฏิบัติดีของเรานี้เอง จะเป็นหลักประกันความสุขมากกว่าเงินทองที่หามาได้ หรือเป็นเครื่องป้องกันความทุกข์อันจะเกิดขึ้น กับสิ่งที่ไม่คาดคิดในชีวิตที่ดีที่สุดของเราก็ว่าได้นะครับ ^^ เรื่องและภาพประกอบ วนารักษ์ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจติชม ขอบคุณเพื่อนประจำบล็อกที่ยังไม่ลืมกัน ขอบคุณโจทย์ดีๆจากน้องเป็ดสวรรค์ ขอบคุณที่ได้เกิดมาภายใต้ร่มเงาของพระพุทธศาสนาอันร่มเย็นเสมอมา
Create Date : 10 กรกฎาคม 2557
Last Update : 17 กรกฎาคม 2557 15:32:38 น.
62 comments
Counter : 2105 Pageviews.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 10 กรกฎาคม 2557 เวลา:22:45:39 น.
โดย: multiple วันที่: 11 กรกฎาคม 2557 เวลา:8:56:53 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 กรกฎาคม 2557 เวลา:11:24:18 น.
โดย: พรไม้หอม วันที่: 11 กรกฎาคม 2557 เวลา:13:05:33 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 11 กรกฎาคม 2557 เวลา:16:20:26 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 กรกฎาคม 2557 เวลา:22:06:41 น.
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 11 กรกฎาคม 2557 เวลา:23:52:41 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 12 กรกฎาคม 2557 เวลา:0:09:18 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 12 กรกฎาคม 2557 เวลา:1:01:42 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กรกฎาคม 2557 เวลา:6:35:07 น.
โดย: lovereason วันที่: 12 กรกฎาคม 2557 เวลา:12:16:55 น.
โดย: multiple วันที่: 12 กรกฎาคม 2557 เวลา:13:26:29 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 12 กรกฎาคม 2557 เวลา:18:26:18 น.
โดย: ฝากเธอ วันที่: 12 กรกฎาคม 2557 เวลา:22:03:47 น.
โดย: pantawan วันที่: 12 กรกฎาคม 2557 เวลา:22:59:36 น.
โดย: ฝากเธอ2 วันที่: 12 กรกฎาคม 2557 เวลา:23:34:19 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กรกฎาคม 2557 เวลา:6:23:32 น.
โดย: multiple วันที่: 13 กรกฎาคม 2557 เวลา:7:41:07 น.
โดย: พรไม้หอม วันที่: 13 กรกฎาคม 2557 เวลา:9:37:44 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 13 กรกฎาคม 2557 เวลา:11:36:05 น.
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 13 กรกฎาคม 2557 เวลา:19:53:59 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กรกฎาคม 2557 เวลา:22:36:52 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กรกฎาคม 2557 เวลา:6:18:27 น.
โดย: multiple วันที่: 14 กรกฎาคม 2557 เวลา:7:16:44 น.
โดย: multiple วันที่: 14 กรกฎาคม 2557 เวลา:7:21:38 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 14 กรกฎาคม 2557 เวลา:10:24:18 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 14 กรกฎาคม 2557 เวลา:13:12:58 น.
โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 14 กรกฎาคม 2557 เวลา:13:13:08 น.
โดย: กาปอมซ่า วันที่: 14 กรกฎาคม 2557 เวลา:20:26:11 น.
โดย: ฝากเธอ วันที่: 14 กรกฎาคม 2557 เวลา:21:27:39 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กรกฎาคม 2557 เวลา:22:38:54 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 14 กรกฎาคม 2557 เวลา:23:31:51 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กรกฎาคม 2557 เวลา:6:09:10 น.
โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2557 เวลา:10:54:39 น.
โดย: ฝากเธอ2 วันที่: 15 กรกฎาคม 2557 เวลา:21:11:00 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 15 กรกฎาคม 2557 เวลา:21:57:31 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กรกฎาคม 2557 เวลา:22:54:34 น.
โดย: multiple วันที่: 15 กรกฎาคม 2557 เวลา:23:00:35 น.
โดย: mambymam วันที่: 16 กรกฎาคม 2557 เวลา:4:16:04 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กรกฎาคม 2557 เวลา:6:18:05 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 16 กรกฎาคม 2557 เวลา:8:31:53 น.
โดย: anigia วันที่: 16 กรกฎาคม 2557 เวลา:19:42:47 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กรกฎาคม 2557 เวลา:22:51:36 น.
โดย: กาปอมซ่า วันที่: 16 กรกฎาคม 2557 เวลา:23:21:15 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กรกฎาคม 2557 เวลา:6:00:50 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 17 กรกฎาคม 2557 เวลา:8:43:31 น.
โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 17 กรกฎาคม 2557 เวลา:8:59:43 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 17 กรกฎาคม 2557 เวลา:15:31:38 น.
Location :
ปราจีนบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [? ]
ขอต้อนรับสู่บล็อกเล็กๆแห่งนี้มีมิตรภาพและความจริงใจให้กับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะเข้ามาทักทายกัน ^^ บทความและรูปภาพนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน พร้อมทั้งขอมอบเป็นน้ำใจกับเพื่อนๆทุกคนที่แวะเข้ามา สามารถคัดลอกนำไปเผยแพร่ได้ ยกเว้นเพื่อประโยชน์ทางการค้าซึ่งต้องขออนุญาตก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่ เพื่อนบางคนมาครั้งเดียว นานๆมาที มาไม่บ่อย มาบ่อยๆ บางคนมาเยี่ยมทุกวันให้ชื่นใจ บางคนเคยมาทุกวัน บางคนเคยมานานแล้ว บางคนหายไปจากบล็อก บางคนก็จะไม่แวะมาทักทายกันอีก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะขอเก็บความรู้สึกดีๆที่มีให้กันไว้ตราบนานเท่านาน เพราะเมื่อรักกันแล้วย่อมเข้าใจกันได้ไม่ยาก จขบ.เป็นคนซื่อๆง่ายๆจริงใจ ไม่มีเจตนาแอบแฝงในการทำบล็อก แต่บทความหรือรูปภาพก็อาจทำให้ผู้อ่านขัดใจได้ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการของ จขบ.หรืออาจเป็นเพราะเราไม่เคยรู้จักดีพอ จึงกราบขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย และขอขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียนด้วยความจริงใจนะครับ ^^ ฝากข้อความหลังไมค์
1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31