ฉันซื้อบะหมี่จากร้านเฮ่งกี่ โพธารามมาไว้ คราวนี้หมี่เหลืองหมดเหลือแต่หมี่หยกกับหมี่ชาโคล เลือกเอาหมี่หยก เจ๊เจ้าของร้านบอกว่าเหมือนกันเพิ่มเติมคือใบเตย ทั้งที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับกลิ่นใบเตยในอาหารคาว แต่ไม่ลองก็ไม่รู้สินะ

แถวบ้านหาลูกชิ้นปลาดีๆ ยาก แต่มีร้านเป็ดอร่อยทั้งเป็ดย่างและเป็ดพะโล้ เลือกเอาเป็ดพะโล้ร้านทวีชัย เจ้าเก่าแก่จากแผงในตลาดสะพานสอง ร้านนี้ขายดีมากๆ เวลาไหว้เจ้าทีคนต่อคิวซื้อเป็ดพะโล้จนทำกันไม่ทัน ในขณะที่เจ้าอื่นนั่งตบยุง ขายดีแต่จู่ๆ ก็เลิกขายไปพักหนึ่ง คงเหนื่อยเกินและลูกก็ไม่เอาด้วย เดือดร้อนลูกค้าพอไปซื้อร้านอื่นก็สู้ไม่ได้

ต่อมาได้เปิดร้านใหม่ใหญ่โตเป็นตึกแถวบนถนนลาดพร้าว-วังหินเลยซอย 47 ไปหน่อยเดียว ลูกๆ ก็มาช่วยขายด้วย ขายดิบขายดีเป็นร้านดังของย่านนี้ เพราะนอกจากอร่อยแล้วยังไม่แพง ไว้สบโอกาสฉันจะรีวิวให้ชม วันนี้มาทำบะหมี่เป็ดกันค่ะ

เมื่อมีบะหมี่ เป็ดพะโล้ แต่ยังไม่มีผัก ขี้เกียจไปตลาดก็เลยไปเด็ดตำลึงที่ทอดเถาเลื้อยกำลังรกได้ที่ เด็ดมาได้กองใหญ่ เลือกเอาแต่ยอดมา 

ยังขาดผักที่ให้ความหอม เลยตัดกุยช่ายในกระถางมา เรามักจะคุ้นเคยกับต้นหอม แต่ในเมืองจีน หรือชาวจีนในประเทศอื่นๆ นอกจากต้นหอมแล้ว เขาจะซอยกุยช่ายใส่ลงไปในบะหมี่ อร่อยดีนะคะจัดแจงเจียวกระเทียมไว้ด้วย

ลวกผักตำลึง 

คลี่เส้นบะหมี่ให้กระจายตัว ได้กลิ่นหอมของใบเตยจริงๆ ด้วย ลวกให้สุกแล้วคลุกน้ำมันกระเทียมเจียวไว้ 

เอาเป็ดไปนึ่งหรือเวฟให้ร้อน 

คีบเส้น ตำลึง และเนื้อเป็ดเรียงใส่ชาม มีกรีนโอ้คอยู่หน่อย โรยผักกุยช่าย กระเทียมเจียว พริกไทยป่น ราดน้ำพะโล้เป็ดลงไปนิดหน่อย 

บะหมี่หยกเป็ดพร้อมแล้วค่ะ เส้นเหนียวนุ่มถูกใจมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบเตย แต่ไม่ได้ทำให้กลิ่นรสประหลาดผิดไป นับว่าโอเคค่ะ ใครอยากจะปรุงรสเพิ่มก็เติมพริกน้ำส้มที่ให้มาพร้อมเป็ด น้ำตาล และพริกป่นอีกนิดหน่อยตามชอบ 

กินบะหมี่แห้งควรมีน้ำแกงไว้ซด ทำฟักตุ๋นมะนาวดองจากโครงเป็ดไว้ซดจะได้ไม่ฝืดคอ คราวหน้าจะลงวิธีทำให้ค่ะ