ฟ้าเดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่างราวกับใจคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ กรมอุตุเตือนฝนตกในกรุงเทพฯ มาหลายวันแล้วก็ยังแห้งแล้งอยู่ค่ะ เช้ามืดนี้มีฝนหยิมๆ เหมือนฉี่มด ใบไม้ยังนึกว่าเป็นน้ำค้าง ดีที่เมื่อเย็นวานรอฝนไม่ไหวได้รดน้ำต้นไม้ก่อนที่จะแห้งตายเพราะคอยฝน

เที่ยงนี้อยากกินข้าวผัดปูค่ะ จึงจัดแจงหุงข้าวขาวหอมมะลิเพื่อการนี้ จากนั้นก็เตรียมเครื่องต่างๆ ซึ่งไม่ได้มีอะไรมาก ได้แก่ ข้าวสวย กระเทียมสับ ต้นหอมซอย ไข่ไก่ และเนื้อปู 

เครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้สำหรับข้าวผัดคือ แตงกวา ต้นหอม และมะนาว เตรียมพริกน้ำปลาไว้ถ้วยหนึ่งเผื่อใครจะเติมให้รสจัดขึ้น

เนื้อปูที่ได้มาคราวนี้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ก็เลยไม่ต้องเบามือเพราะมันแหลกมาตั้งแต่แรกแล้ว จึงไม่ได้เห็นเนื้อปูเป็นก้อนชัดๆ แต่ขอบอกว่าใส่เยอะมากค่ะ 

อารัมบทมานานตั้งกระทะกันเสียที ใส่น้ำมันหมูลงไป พอน้ำมันร้อนก็ต่อยไข่ใส่ลงไป ใส่ไปเยอะๆ ค่ะ ยีไข่แล้วผัดให้พอสุก โกยไว้มุมหนึ่ง ใส่น้ำมันเพิ่ม เติมกระเทียมสับพอหอมก็ใส่ข้าวลงไปผัด คลุกข้าวกับไข่ผัดให้หอม ปรุงรสด้วยเกลือสมุทร และน้ำตาลทรายนิดหน่อย 

ผัดจนเม็ดข้าวกระโดดดีดดิ้นในกระทะเหล็กจึงใส่เนื้อปูลงไปผัดให้เข้ากัน  เริ่มได้กลิ่นหอม ตามด้วยต้นหอมซอยใส่ไปเยอะๆ  และพริกไทยป่นปิดท้ายกระทะ

จัดแจงตักใส่จานเปล ทำไมข้าวผัดต้องใส่จานเปล? ไม่ต้องสงสัยกินกันเลยดีกว่าค่ะ ผักแนมพร้อม พริกน้ำปลาพร้อม  คราวนี้ลืมถ่ายรูปตอนผัดเพราะใจมัวแต่จดจ่ออยู่กับท้องฟ้า