แกงเขียวหวานอร่อยที่สุดต้องเป็นแกงเนื้อค่ะ เมนูนี้สำหรับคนชอบกินเนื้อวัวคงถูกใจ จะกินกับข้าวสวยร้อนๆ ขนมจีน หรือโรตี ล้วนเข้ากัน ไหนๆ แกงเนื้อทั้งทีมันเสียเวลากว่าจะเคี่ยวเนื้อให้นุ่ม ฉะนั้นทำทีเดียวเยอะๆ ไปเลยแล้วแบ่งแช่แข็งเก็บไว้กินยามยากหรือยามที่ไม่มีเวลาทำกับข้าว

เวลาซื้อเนื้อวัวมาควรมีเนื้อติดมันด้วย ฉันซื้อเศษเนื้อผสมกับเนื้อลูกมะพร้าวเป็นเนื้อโคขุน อัตราส่วน 2 : 1 ที่จริงอยากได้เนื้อน่องลายแต่เผอิญไม่มี 

เด็ดมะเขือพวง พริกขี้หนู ใบมะกรูด และใบโหระพาเตรียมไว้ วัตถุดิบหาได้รอบๆ บ้าน

เคล็ดลับแกงเขียวหวานสีเขียวสวย โขลกใบพริกคั้นน้ำไว้ รับรองสีสวยแน่ ไม่ซีด อาหารต้องเสพทั้งตา จมูก ลิ้น

พริกแกงฉันใช้ของนายพรานเจ้าประจำหอมอร่อยแน่นอนไม่ต้องเสียเวลาโขลกเอง ไม่มีสารกันบูดเพื่อนทำขายเองไว้ใจได้ค่ะ ฉันชอบผสมพริกแกงใต้ลงไปนิดหน่อย

เอาหม้อตั้งไฟผัดพริกแกงกับกะทิจนแตกมัน กะทิกล่องจะแตกมันยาก ใครชอบกะทิแตกมันง่ายๆ มียี่ห้อหนึ่งที่เป็นขวดพลาสติก แตกมันง่ายมาก ผัดจนหอมแล้วก็ใส่หางกะทิลงไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ กับเนื้อจนเปื่อย ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานมากต้องใจเย็นๆ นะคะ อยากกินของอร่อยต้องตั้งใจทำค่ะ ช่วงนี้ก็คอยเติมน้ำเติมกะทิไปให้พอดี แล้วใส่น้ำคั้นใบพริก

ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลโตนด ฉันใส่น้ำตาลแค่นิดเดียวแค่ชิ้นเล็กๆ กับแกงหม้อใหญ่ เพราะกะทิหวานอยู่แล้ว ไม่ชอบให้แกงหวานจะทำให้เสียรส

เมื่อเนื้อเปื่อยดีแล้วก็เร่งไฟให้เดือดใส่มะเขือพวงและใบมะกรูดฉีกลงไป ขั้นตอนนี้สำคัญค่ะ แกงต้องเดือดแล้วกดให้มะเขือจมอยู่ในน้ำแกง มิฉะนั้นมะเขือจะดำไม่สวยค่ะ เมื่อได้กลิ่นอโรมาของใบมะกรูดแล้วก็จัดการใส่ลูกโดดลงไป ต้มสักพักจนมะเขืองพวงสุกระดับที่พอใจแล้วก็ใส่ใบโหระพาลงไป ช่วงนี้แกงต้องเดือดเช่นกันมิฉะนั้นใบโหระพาจะดำ เมื่อโหระพาสุกแล้วก็ยกลงจากเตาค่ะ กลิ่นจรุงใจมาก แกงเพิ่งลงจากเตาดูแล้วสีไม่ค่อยเขียว แต่ทิ้งไว้สักพักสีจะเข้มขึ้นอีกเยอะค่ะ

แกงเขียวหวานเนื้อพริกขี้หนู มะเขือพวงเน้นๆ กินให้หายอยากกันไปเลยค่ะ 

ขอให้มีความสุขกับอากาศเย็นนะคะ