Do it yourself
 
 

ดูอุณภูมิ oil gear temperature honda jazz หรือ ดูอุณภูมิน้ำมันเกียร์ honda jazz


หลังจากติดตั้ง oil cooler หรือพูดง่ายๆ ตัว ระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ ด้วยระบบ อากาศ ซึ่งระบบเดิมติดรถ จะเป็นระบบระบายความด้วยน้ำ เพราะว่าหม้อน้ำรุ่นเกียร์ auto จะมี tube หรือท่อระบายความร้อนน้ำมันเกียร์อยู่ในหม้อพักน้ำ

ขั้นตอนติดตั้ง
BlogGang.com : : mrter2012 - ติด Oil Gear Cooler honda jazz ge 2009 ด้วยตัวเองราคาพันเดียว


ตัดมาพูดถึง การดู อุณภูมิน้ำมันเกียร์ honda jazz 2009 ของผม

สิ่งที่ต้องมี
- obd2 แบบ blutooth หาซื้อเอาใน lazada  shopee
ลองๆ หาอ่าน และศึกษา จาก chanel หลายๆ ที่ เช่น https://www.youtube.com/watch?v=gGdUO3vLmK4 ลองศึกษาและลองทำดูนะครับ https://www.youtube.com/watch?v=O4jv16E8tl0
- application 2 ตัวที่แนะนำ แต่ผมใช้งานได้ ตัวเดียว อาจจะเกี่ยวกับมือถือ และรุ่นที่ผมใช้งานก็เป็นได้

ผมซื้อ torque car pro บน iphone ผมใช้ iphone 7+ ซื้อ app ในราคาไม่ถึง 200 บาท ตั้งใจจะมา monitor ความร้อน แต่ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะว่า app มันหา obd2 ไม่เจอ เพราะว่าผมใช้ แบบ bluetooth 
แต่ android ไม่ได้ซื้อ app โดยตรง แต่ใช้งาน กับ  obd2 ได้สบายๆ เลยครับ สรุปเสียเงินแบบฟรีๆ 

ส่วนการติดตั้ง app จะไม่ขอกล่าวถึงนะครับ เพราะว่าใน youtube มีหาดูเยอะแยะ เลย ไม่ว่าจะคนไทย ฝรั่ง ทำไว้เยอะมากๆ
แต่ สิ่งที่จะไม่ค่อยเห็น นั่นคือ การตั้งค่า pid สำหรับ monitor น้ำมันเกียร์ สำหรับ รุ่น honda ส่วนรุ่นอื่นๆ ก็อาจจะหาง่าย หายาก ก็ลองค้นหาดูครับ 

วันนี้จะนำเสนอ เรื่องการ ตั้งค่า ดู อุณภูมิน้ำมันเกียร์ ของ honda jazz ge 2009 




ตัวอย่างด้านบน นั่นคือจุดที่ผมได้เจอมา เลยอยากจะมาบอกต่อ เพราะว่า ก่อนที่จะ เจอ link ด้านบน ก็อาศัยเวลา หาหลายวันเลยทีเดียวครับ
ส่วนการ สร้าง custom pid นั้น ก็มีคนทำตัวอย่างไว้เยอะ ตัวอย่างเช่น 




ตัวอย่างด้านบน คือ การ custom pid เพื่อให้ obd2 อ่านค่าจากกล่อง ecu รถแต่ละรุ่่น คนละยี่ห้อ ใช้ pid ต่างกันนะครับ ต้องเข้าตรงนี้ก่อน 
ส่วน honda jazz ผมก็ได้แจ้งไปแล้วด้านบนนะครับ 












หลังจาก ที่ ผมได้ ลองผิด ลองถูก หลายๆ pid ที่มีใน google หรือ ใน internet สุดท้าย ผมก็เจอ ตัวที่น่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง คือ แสดงค่าน้ำมันเกียร์ jazz ได้ถูก ในความคิดและส่วนตัวของผม เพราะว่า ผมมี display obd2 
แต่จะแสดงค่า อุณภูมิความร้อนของน้ำ แต่ของน้ำมันเครื่อง หรือ น้ำมันเกียร์ ไม่มีแสดง จำเป็นต้องหา application แบบไม่ต้องเสียเงินซื้อ obd2 display 2-6 พัน บาท ก็เอาที่สบายใจกระเป๋า บางคนอาจจะสะดวกที่จะซื้อมาติดไว้แสดง แต่ด้วยผมเอง ใช้รถไม่ได้หนัก
ขับ ก็ขับในเมืองไม่ได้รถติด อะไรมากมาย แต่สำหรับ รถติดเยอะๆ แนะนำติด oil gear และ พัดลมเพิ่มนะครับ 

จากภาพ อุณภูมิ น้ำมันเกียร์ หากระบบแสดงไม่ผิด อุณภูมิไม่ถึง 100 องศา สำหรับผมก็ happy แล้วครับ 

ค่า config pid oil transmission temperature  honda jazz ge 2009







อีกตัว ที่อ่านได้เช่นเดียวกันครับ









ผม add pid ทั้ง 2 ก็แสดงทั้งคู่ หรือบางคนไม่แสดง ก็ลองมาเล่าสู่กันฟ้งนะครับ


ปัญหาที่ พบ

- บางครั้ง มือถือ หา obd2 ไม่เจอ อาจจะต้อง เปิด ปิด blutooth ใหม่ แล้วจับ ตัวกล่อง obd2 ใหม่ ก็เจอ
- บางครั้ง มือถือ หา odb2 ไม่เจอ เปิด ปิด blutooth แล้วไม่เจอ ก็ต้อง reboot เครื่องครับ 
นี่คือปัญหาที่ผมเจอมา ส่วน ข้อมูลที่ได้มาจากกล่อง หาเพื่อนๆ คิดว่า มี เครื่องอ่าน obd2 แบบราคาแพงๆ ก็สามารถ เขียน post ทิ้งไว้นะครับว่า อุณภูมิปกติ ที่ไม่ได้ติด oil gear cooler แบบผมจะอุณภูมิเท่าไหร่

ผมยังไม่ได้ทดสอบ โดยเอา oil gear เข้าระบบเดิมครั้งแรก ที่เป็นแบบใส่ในหม้อน้ำครับ เอาไว้ว่างๆ จะลองสลับกลับคืน แล้วจะทดสอบใช้งานซัก 1 เดือน ส่วนตอนนี้ ผมขอทดสอบใช้งานซัก 1 เดือน หลังจากนั้น เปลี่ยนมันเกียร์ใหม่ และกรองน้ำมันเกียร์ใหม่
แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะครับ 

สุดท้าย หวังเป็นอย่างยิ่งอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย สำหรับ ใครที่งบ น้อย อยากติดตั้ง oil gear สำหรับ รถรุ่นเกียร์ auto หรือ cvt นะครับ 


////

วันเสาร์ที่ 27 พค 66
หลังจากติดตั้ง oil gear cooler แล้ววิ่งไกลๆ บ้าง ใช้เวลา ประมาณ 1 ชั่วโมง วิ่งราว 80 - 100 ตลอดเวลา เร่ง แซงบ้าง บางจังหวะ ติดไฟแดงบ้างไม่เกิน 5 นาที
ตรวจวัดอุณภูมิ ตลอดเส้นทาง อุณภูมิ ประมาณ 50 -70 'C กรณี 69 องศา คือ ช่วงติดไฟแดง หลังจากนั้น ก็ลดลงมา
ก็จะบอกว่า หลังติดตั้งมา ระหว่างเปลี่ยนเกียร์ หรือ ช่วงก่อนหน้านี้ รอบ 1800 - 2000 รอบ อาจจะมีกระตุก ตั้งแต่ ติดตั้งมาและลองใช้งาน ตั้งแต่วันแรก รอบกระตุก ไม่มีให้เห็น หรือไม่มีอาการกระตุก ของเกียร์







จากภาพด้านบน จะเห็นได้ว่า อุณภูม เกียร์อยู่รอที่ 69 'c ที่ช่วงติดไฟแดง หากเพื่อนๆ อุณภูมิสูงกว่านี้ หรือ ใครที่ใช้งานแบบระบบเดิม (ไม่ได้ติดตั้ง oil cooler)
ลองมาเปรียบเทียบกับผมดูนะครับ หรือ comment ข้างล่างว่า ใช้งานรุ่นเดียวกัน แต่ไม่ได้ติด oil cooler อุณภูมิจะอยู่ที่เท่าไหร่ เมื่อเทียบกับของผมนะครับ


ส่วน project ครั้งต่อไป ผมจะย้าย ตัว แผง oil cooler ตัวนี้ ไปอีกคัน เป็น jazz ge แต่ด้วยผมยังไม่ได้วัดอุณภูมิ ขณะที่ใช้ระบบเดิมอยู่ อย่างไรจะมาเปิด หัวข้อใหม่ จะได้ง่ายต่อการค้นหา ใน google 
อีกอย่าง ผมก็จะ เอา ชุด oil cooler ตัวใหม่ที่มองๆ ไว้ มาติดแทน ตัวนี้แล้ว มาวัดอุณภูมิ กันอีกทีว่า ระหว่าง ราคา 1 พันบาท กับ อีกชุดราคา เกือบ 2 พันบาท ตัวไหน จะลดอุณภูมิได้ ดีกว่ากัน 
ณ.ปัจจุบันผมคิดว่า อยากได้ อุณภูมิ ไม่เกิน 70 'c หากตัวใหม่ มาแล้ว ลดได้ประมาณ 70 'c ขณะเดินทางประมาณ 80 กิโลเมตร วิ่งยาวๆ ความเร็ว 80 - 100 ตลอดระยะเวลา จนถึงที่หมาย ครั้งต่อไปอาจจะได้ อุณภูมิ ดีกว่านี้

เอาไว้ติดตามกันต่อไปนะครับ ในกระทู้ หน้า ติดตั้ง oil cooler jazz gd 2006 และเทียบ กับ oil cooler jazz ge 2009 ว่า คุณภาพของ oil cooler ราคา และคุณภาพ อันไหนจะดี หรือไม่ดี ค่อยมาเล่าสู่กันฟังครับ 














 




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2566   
Last Update : 27 พฤษภาคม 2566 22:31:48 น.   
Counter : 153 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


ติด Oil Gear Cooler honda jazz ge 2009 ด้วยตัวเองราคาพันเดียว

วันที่ 20 พค ตรงกับวันเสาร์ อะไหล่ที่สั่ง online เพื่อจะมาใส่ oil gear cooler jazz ge 2009
สำหรับ เกียร์ auto รุ่นนี้ ต้องบอกก่อนนะไม่ใช่ cvt เพราะว่า ผมใช้ jazz 2007 gd อีกคัน และ คันนี้ ก็ jazz 2009 ตัว gd เป็นเกียร์ auto 5 speed มี paddle shift  เอาไว้สับเกียร์ เหมือน manual บับว่า อารมณ์​เกียร์ธรรมดานั่นเอง
ซึ่ง ผมใช้ jazz gd มี 7 speed ที่เป็น เกียร์ cvt  การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

รุ่น jazz gd 2007 ถ่ายน้ำมันเกียร์ใช้ CVTF ของ honda ครับ  อย่าเปลี่ยนสลับกันนะครับ ไม่งั้น คงมีปัญหาตามมา เหมือนที่ช่าง เปลี่ยนนำ้มันเกียร์ผิด  ชีวิตเปลี่ยน 
รุ่น jazz ge 2009 ถ่ายน้ำมเกียร์ใช้  ATFDW-1 ของ honda เอง ส่วนราคาน้ำมันเกียร์ กระป๋อง 1 ลิตรประมาณ ไม่ถึง 200 บาท หากเปลี่ยนก็ราวๆ 3 ลิตร ก็ 600 -700 บาท

เข้าเรื่อง พอดีด้วยที่ตัวเอง อยากจะลองใส่ oil gear ซึ่งสมัยนี้ ไม่จำเป็นต้องติดราคาเป็นหมื่น สมัยนี้ ก็ติดได้ราคาหลักพันเดียว มีทอนได้ด้วย เผลอๆ บางรุ่น ถูกกว่านี้ ขึ้นกับเกรด ของตัวแผงระบายความร้อน
พอดีผมก็งบ ขนาดนี้ ก็ต้องเลือกสิ่งที่เหมาะสม กับ อากาศ บ้านเรา ก็เลือก แบบ แผง 



ภาพตัวอย่างนะครับ บางที่ชุดเดียวกันแบบนี้ ราคาก็ไม่ถึงพันบาท แนะนำให้ซื้อพร้อม สายแรงดันน้ำมันเกียร์ และ แคมป์รัดสาย ตัวยึด ซึ่งจริงๆ พอมาติดตั้ง ตัวยึด ไม่ได้ใช้เลยครับ 

ส่วน บางคนอาจจะไม่เคยรู้ ขอพูดคร่าวๆ ก่อนเพื่อความเข้าใจ แผง oil จะมี 2 แบบ ง่ายๆ จะเป็นแบบหลอด ซึ่งก็จะราคาจะถูกกว่า แบบรังผึ้ง เหมือนแผงแอร์ แผงหม้อน้ำนั่นหละครับ 
ราคา ค่าตัว ก็มีตั้งแต่หลักร้อยบาท ไปถึง หลายพันบาท ส่วนการเลือกมาใช้งานงาน ก็มีหลายเกรด หลายราคา ที่จะให้เลือกใช้งาน และบางครั้งต้องติด พัดลมช่วย เมื่ออุณภูมิสูง พัดลมก็ทำงาน
เหมือนการทำงานของหม้อน้ำอย่างนั้นเลยทีเดียว

คร่าว ๆ ด้วยที่อยากจะติด oil gear เหมือนชาวบ้านเค้า จริงๆ แล้วระบบ honda เค้าก็ทำมาดีอยู่แล้วหละ ที่ให้ oil gear อยู่ในถังพักหม้อน้ำ แต่บังเอิญว่า ถ้าหม้อน้ำร้อน oil gear ก็ร้อนด้วย เพราะว่า น้ำมันเกียร์อาศัยน้ำหม้อน้ำระบายความร้อน
บางคน หากมีอุบัติเหตุ ตัว cooler ในถังพักหม้อน้ำ มีรั่ว ซึม น้ำในหม้อน้ำก็เข้าไปในระบบเกียร์ได้  ต่างจิตต่างใจ ที่จะทำนะครับ บางคน ก็ใช้เดิมๆ บางคน ก็อยากจะลดอุณภูมิน้ำมันเกียร์ให้ลดลง ก็ไปติด oil cooler เพื่อช่วยให้อุณภูมิเกียร์
ไม่สูง เกิน 130 องศา ซึ่งก็ ร้อนพอสมควร ปกติ น้ำเกียร์ ควรอยู่ราวๆ ไม่เกิน 130 องศา c 80-90  องศา c ตามที่ข้อมูลใน google 




แนวการไหลเวียน ของน้ำมันเกียร์ jazz ge 2009 ดังภาพ ที่นี้ เราก็ต้องเอา oil เกียร์​มาใส่ ท่อ และให้มันทำงาน เหมือนอยู่ในหลอดภายใน หม้อน้ำ




ภาพบน คือ รุ่น honda jazz ge 2009 เป็นระบบเกียร์ auto ที่ไม่ใช่ cvt นะครับ 




ภาพบน หลังจากถอดกันชนหน้า ส่วนการถอด ก็ง่ายๆ มีน๊อต หน้าซุ้มล้อ และ กิ๊ปพลาสติก ตรงคานหม้อน้ำ และ ด้านล่างก็ถอด น๊อต และ กิ๊ปพลาสติก ออก หากใครเคยถอดรถค่ายอื่นๆ ก็หลักการเหมือนๆ กันครับ




ภาพบน หลังจากที่ ถอดกันชน แล้ว เราก็ เอา oil gear มาเทียบ ซึ่งปกติ จะมีขายึด พอมาเทียบแล้ว ขายึดไม่ได้ใช้ เลยใช้ สว่าน เจาะเอา ตัวยึด ออก เหลือตัว oil cooler ล้วนๆ 



ภาพบน พอกะพื้นที่ ที่จะวาง เราก็เอาปากกามา mark  แนวแผง oil gear แล้วก็เจาะสว่าน เพื่อจะยึด cable tie




ภาพบน ใช้ cable tie แล้วก็ลองขยับ จับดู ไม่ขยับ ก็ยึด ด้านบน กับคานกันชนด้วยนะครับ 



ยึด ด้านบน และ ด้านล่าง ให้เรียบร้อย หลังจากนั้น ก็ตัดสายที่เกินๆ เลยๆ ให้สวยงาม




รัดด้วย cable tie จะได้ ไม่หลุด และ โยกนะครับ เป็นการถ่ายด้านบน




ส่วน camp เหล็กเพื่อจะยึด หัวท้าย ก็ไม่จำเป็นแล้ว เพราะว่าใช้ กิ๊บเหล็กเดิม ของ honda ที่มีมา 2 ตัว ก็ใช้งานครบ พอดีครับ 




สาย oil gear เดิม ผมมัดรวมกัน เพราะว่า หากเกิดปัญหาขึ้น ผมก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการซ่อมแซม ก็เอาสายเดิม ใส่ท่อได้เลย แต่หากเพื่อนๆ จะทำ แนะนำ ให้ล้างทำความสะอาดก่อนนะครับ
พอดี ผมมัดรวม เพื่อจะได้ เปลี่ยนแปลงในอนาคต เพราะว่า หากความร้อน มันไม่ดี ก็จะได้ใช้ระบบเดิมได้ 




ภาพบน ไม่ใช่ รอยแตกนะครับ แต่เป็น ภาพ cable tie เลยดูเหมือนท่อแตก ผมถ่ายตอนอยู่ใต้ห้องเครื่อง ถ่ายขึ้นมาด้านบน จะเห็นได้ว่า สายเดิม ผมเอาหัวน๊อตใส่ปิดรู และใช้ เหล็กรัด ไว้ครับ 




ภาพบน สายจะมี สาย บน และ สาย ล่าง แนะนำว่า สาย บน คือ สาย ที่ออกจากห้องเครื่อง หรือเส้นทางการไหล ของน้ำมันเกียร์ พอความร้อนออกจากห้องเครื่อง ก็จะเช้าผ่าน  oil cooler  ด้านบน และ จะไหลลงมาด้านล่าง
หลังจากนั้น ความเย็นก็จะลดลง แล้วน้ำมันก็จะไหล กลับเข้าสู่เครื่องยนต์ ผ่านกรองเกียร์ ก่อนเข้าเครื่องยนค์อีกครั้ง ครับ 
สำคัญเลยนะครับ อย่าสลับผิด หากสลับผิด ผมว่า การไหลเวียนของน้ำมันจะผิดหลัก กลศาสตร์ไปนิด เพราะว่า ถ้าน้ำมันไหล เข้าท่อล่าง มันคงลำบากที่จะดันสู้แรงโน้มถ่วง เพื่อจะเข้าไปห้องเครื่องรูออกด้านบนนะครับ ไล่สายดีๆ นะครับ






ภาพบน หลังจากติดตั้งเรียบร้อย ก็ประกอบกันชนหน้ารถเหมือนเดิม 

กรณีที่ตอนเปลี่ยนมีน้ำมันเกียร์ไหล ก็ให้เตรียม น้ำมันเกียร์ เพื่อเติมเต็มเข้าไปในระบบ ด้วยนะครับ หากเป็นไปได้ แนะนำ หลังจากเปลี่ยน oil gear แล้ว ก็วิ่ง ซัก 10 นาที แล้วมาวัดน้ำมันเกียร์ ว่าอยู่ในค่ามาตราฐานของระบบหรือไม่นะครับ
เพราะว่า เรามีพื้นที่ในการไหลเวียนน้ำมันเพิ่มขึ้น พอดีผมเติมน้ำมันเกียร์เพิ่มประมาณครึ่งแก้วน้ำดื่มครับ 

ส่วน การตรวจสอบว่า อุณภูมิ ลดลง จริงหรือไม่ ผมจะมาบอกนะครับ สิ่งจำเป็นที่เราต้องมี คือ odb2 display หรือ พวก application Torque เป็น tool สำหรับ ตรวจสอบ น้ำมันเกียร์ พวก วัดรอบ วัดอุณภูมิน้ำ ฯลฯ 
เราจะได้เปรียบเทียบได้ว่า ก่อนเปลี่ยนจากระบบเดิมๆ ที่ oil เกียร์ผ่านน้ำหม้อน้ำ เปลี่ยนมาเป็นการระบบไม่ผ่านน้ำ เปลี่ยนมาแบบ ใช้ air flow ผ่านแผงระบายความร้อนด้วยอากาศ

คราวหน้าผมจะเอาข้อมูลมา  capture มาให้ชม จะได้รู้ว่า อุณภูมิที่วัดได้ อยู่ช่วงกี่องศา โดยที่ผมไม่ได้ซื้อ เกจวัด ราคาแพงๆ นะครับ อ่อ เพื่อนๆ อย่าซื้อผ่าน shopee , lazada ตัวที่อ้างว่าวัดอุณภูมิเกียร์ได้นะครับ เพราะเท่าที่หาข้อมูล
มันไม่สามารถอ่านได้จริง โดยปกติราคาที่อ่านได้ ก็ราคาหลัก 2-3 พันบาท ส่วนราคา ต่ำกว่าพัน เหมือนจะอ่านระบบ  oil temp ไม่ได้นะครับ ถึงอ่านได้ แต่อ่านไม่ถูกต้องครับ 

วันนี้ เอาแค่นี้ก่อนนะครับ คราวหน้าจะมาบอกวิธีการติดตั้ง application และ การตั้งค่า pid สำหรับ อ่านค่าอุณภูมิ น้ำมันเกียร์  หากใครทำเหมือนผมก็ลองเอาข้อมูลมา share กันนะครับ 

สุดท้ายหวังว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับ ยืดอายุการทำงานของเกียร์ และ น้ำมันเกียร์ไม่ให้อุณภูมิสูงจนเกินไป มีอะไรอีกมากมายที่ยังไม่ได้เขียนไว้ครับ เอาไว้คราวหน้านะครับ
























 




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2566   
Last Update : 20 พฤษภาคม 2566 23:38:29 น.   
Counter : 115 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


เปลี่ยน คอมแอร์ ใหม่ nissan almera แก้ปัญหาแอร์

สวัสดีครับ

ก่อนอื่น อ้างอิงกระทู้เก่าหนอ่ย https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mrter2012&month=02-04-2023&group=1&gblog=151
ข้างต้นคือการ ซ่อมคอมแอร์ เก่า มือสองซื้อมา 2,000 - 2500 บาท เปลี่ยน มา 2 ลูก หมายความว่า เปลี่ยนลูกแรก มือสอง ใช้งานได้ ไม่ถึง 3เดือน คอมแอร์ เสียงดัง
หลังจากนั้น ซื้อมือสองแท้ มาอีก 2,500 บาท ทำงานได้ไม่ถึง เดือน คอมแอร์ เสียงดังอีก เปลี่ยนทั้งน้ำมันคอมแอร์ ราคาแพง รวมทั้งลางระบบด้วยน้ำยา f11  ทั้ง ไดร์เออ แผงแอร์ ทุกอย่าง เกือบใหม่หมด แต่สุดท้าย ทำงานได้ ไม่ถึงเดือน เสียงคอมแอร์ ก็ดัง


ถึงเวลา ที่ต้องลอง คอมแอร์ ลูกใหม่ ราคา 3,500 บาท เป็นคอม copy ไม่ใช่แท้ จากศูนย์ที่ราคา 7-8 พันบาทนะครับ
เอางั้ย เอากัน วันนี้ ต้องแก้ให้จบ อยากให้ทำงานอยู่ได้ซัก 2- 3 ปี หรือ ซัก แสนกิโล ก็ยังดี 555


ต้องขออภัย บางครั้งไม่ได้ถ่ายละเอียด จะอาศัยพูด และ เล่าเรื่องให้ฟังแทนนะครับ




ก่อนจะถอด คอมแอร์ตัวเก่า ออกมา ก็ต้อง ปลดสาย แบเตอรี่ ออกก่อน หลังจากนั้น ก็ ปล่อยน้ำยาแอร์ ทิ้ง จะด้วย vac ออก หรือ จะใช้เกจ เปิดแล้วเอาสายจุ่มน้ำ ก็เอาที่ชอบ หรือสะดวกครับ 
ส่วนผมก็ vac ออก เพราะว่า ไม่อยากไปตักน้ำมา แล้วจุ่มสายปล่อยแอร์ ก็ได้เหมือนกันครับ





หลังจากปล่อยน้ำยา ก็ปลดสายพานหน้าเครื่อง ก็ง่ายๆ ก็เคยเขียนไว้แลว ก็หมุนส่วนของ มู่เล่  ตรงคอมแอร์ ออก สายก็สามารถ ถอดออกได้แล้วครับ กระทู้เก่าๆ จะเขียนไว้ละเอียดก็เลยจะข้าม สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ไปครับ




หลังจากถอดคอมแอร์ มา ก็รื้อตรวจสอบภายใน คอมแอร์  สภาพ เละมาก น้ำแอร์ เป็นโคลน ส่วนภายใน มีคราบเหมือน ยางมะตอย ก็ล้างทำความสะอาด ด้วยน้ำมันเบนซิน




ลูกสูบ หรือโรตารี่ ภายใน จะดำมาก และมีร่องรอยของการเสียดสี ขอเสื้อสูบ




ภายใน จะเป็นโคลนดำ คราบเหนียวติด ก็ล้างแ้วก็เก็บไว้ป็นอะไหล่ได้บางส่วน




ภาพบน หลังจากทำความสะอาด เก็บไว้เผื่ออาจจะได้ใช้งาน อีก แต่สำหรับ เพื่อน ๆ หากใช้รถรุ่นนี้ มีปัญหาเรื่องแอร์ แนะนำ ซื้อใหม่ เลยครับ 3,500 บาท ถึงจะเป็นเกรด copy  สำหรับผมที่ซื้อต่อมา 2 ลูก ทดสอบใช้งาน ไม่ผ่าน 3 เดือนซักลูกเลยครับ
อาจจะเกี่ยวกับ ฝีมือ ผมเองก็เป็นได้ เช่น ล้างภายในระบบไม่สะอาดพอ ก็อาจจะมีผลทำให้ คอมแอร์ พังเหมือนเดิมน 




เบิกใหม่ ไม่ผ่านการใช้งานเลยครับ 3,500 บาท




ของใหม่ มีน้ำมันคอมแอร์มาด้วย ผมก็ถ่ายทิ้ง โดยการชั่ง ตวง โดยชั่ง gigital แล้วก็เท น้ำมันคอมแอร์ ตัวคิดว่าดีที่สุดเข้าไปแทน




ภาพบนเป็นน้ำมันคอมแอร์ ที่ผมเคยใช้แล้วรู้สึกว่ามันดีนะ เทียบๆ กับ denso เลยทีเดียว




หลังจากนั้น ล้างระบบดีด้วยน้ำยา f11 ล้างทั้งแผงแอร์ ภายใน ตลอดจน คอยล์เย็น คอยล์ร้อน




ถุงดำๆ นั่นคือ ล้างครั้งแรก ล้างจน ส่องน้ำยาไม่ให้มี สิ่งสกปรก เจอจางกับน้ำยา แนะนำว่า ซื้อมา  1 กล่อง มี 12 ขวด ตกราคาราว 480 บาท ครับ หากซื้อเป็นขวด 50 บาทต่อขวด ถ้าซื้อ 1 โหลราคา จะถูกกว่า




ไดร์เออ ก็สั่งใหม่ มาแล้ว ราคาประมาณ 2 ร้อยบาท ตัวนี้สลักถูกรู ฝั่ง in จะเป็นรูลึกๆ ไม่ตันเหมือน อีกฝั่งนะครับ




แผงแอร์ ก็ล้างระบบภายใน อัดน้ำยา f11 เสร็จแล้ว ตัวนี้ พอล้างด้วยน้ำยา f11 เหมือนจะ ตันครับ เพราะว่า หลังจาก vac และ อัดน้ำยาแอร์ ทำให้ฝั่ง hi มีความดัน ต่ำกว่า ฝั่ง low เลยสันนิฐาน ว่าตันอีกแล้ว เลยสั่งอะไหล่ใหม่มา ตอนนี้
แผงแอร์ หากสั่งมาก็คงเป็นตัวที่  3 แล้วครับ 




ด้านบน ครั้งแรก vac ดูดอากาศ เกจไม่ตกถึง ศูนย์ เลย อัดน้ำยาแอร์ เพื่อเช็ครั่ว ปรากฎว่า โอริงฝั่งเข้า แผงแอร์ รั่ว เลยเปลี่ยนโอริงใหม่ ก็เป็นอันเรียบร้อยครับ 



ลูกเดิมน้ำมนคอมแอร์ ให้ใส่ 120 ml




ภาพบน คอมลูกใหม่ น้ำยาภายในจะมีมาให้อยู่แล้ว ด้วยตัวเองไม่มั่นใจ ว่าจะใช้งานได้ยาวนานหรือไม่ หรือเกรดจะดีมั้ย ผมเลย เอาน้ำมันคอมเท และชั่งน้ำหนัก แล้ว เทใหม่เข้าไปตามปริมาณที่เท ออกมา ด้วยน้ำมันคอมแอร์ formula เบอร์ 29
ตารางเทียบน้ำยา เคยเขียนไว้แล้ว



ซื้อจากร้านตัวแทนจำหน่่ายในตัวเมืองโคราช แปลก ฝาไม่เหมือนกัน แต่ราคาเท่ากัน 




หลังจากเติมน้ำมันคอมแอร์ และ ติดตั้งแอร์ หลังจากนั้น แวคคัมอากาศ ภายใน













หลังกจากแก้ปัญหาโอริงรั่ว ก็ทำการ แวคคัม ใหม่ ก็เกจ แสดงตกที่ -2 หรือตำกว่า 0 เป็นศูนย์ยากาศ หลังจากนั้นปล่อยทิ้งไว้ซักระยะ เข็มไม่ตี ขึ้น ก็แสดงว่า ระบบไม่รั่ว ไม่ซึม ก็อัดน้ำยาเลยครับ 




การอัดน้ำยา แบบ ภายในไม่มีแรงดัน 
- ปิดเกจฝั่ง log
- เปิด เกจ ฝั่ง hi 
- ไล่ลมสายระหว่างสายน้ำยาแอร์ มาถึง เกจ ก่อนที่จะ ปล่อยน้ำยาไปฝั่ง hi โดยคว่ำน้ำยาเลยครับ  รอจน น้ำยาในตาแมวบนเกจ นิ่ง  
- start รถ แรกๆ คอมลูกใหม่ ปล่อยให้ run แอร์ไปซักระยะ เพราะว่าเป็นของใหม่ อย่าพึ่ง เบิลรอบสูง 
- เปิด พัดลม แรงสุด เปิดแอร์ ac ปล่อยน้ำยาเต็มเกจ รอว่าจะเย็นหรือไม่ หากเย็น ฉ่ำ เฉียบ เป็นอันจบงาน

แต่ของผม เย็นไม่ฉ่ำ เย็นช้า แตกต่างจากครั้งก่อนที่เปลี่ยนระบบใหม่ เปิดปุ๊ป เย็นปั๊ป เย็นจนหนาวฉ่ำ  

พอตรวจสอบดูเกจ ฝั่ง hi รู้สึกความดันไม่ได้สูง ก็สันนิฐานว่า คอยล์แผงหน้ารถตัน เพราะว่าสิ่งสกปรกก่อนหน้านั้น คงไปอุดตัน ท่อแอร์ เล็กๆ เรียบร้อยแล้ว คงต้องเปลี่ยนใหม่ ตอนนี้สั่งอะไหล่ ไว้แล้วครับ 




หลังจาก start รถ ไฟ engine ขึ้น แดง ก็เป็นบ่อยๆ พอเปลี่ยนแอร์ หรือบางครั้ง ถอดแบต ออกมาใส่เข้าไปใหม่ รถผมก็ขึ้น สัญลักษณ์ engine เลยต้องมีเครื่อง scan ติดไว้ที่บ้านสำหรับ ลบ และ ดูค่า error ที่เกิดขึ้น




พอดี ผมไม่ได้ ถ่ายภาพ ตอน read code เลยรีบถ่ายภาพ และ กด ลบ เลยครับ 










หลังจาก ลบ error code ก็สัญลักษณ์ไม่ขึ้นหละ

สรุป สาเหตุ คอมแอร์ ดำ 
1. อาจจะไม่ล้างระบบไม่สะอาด
2. คอมแอร์ มือสอง ที่ได้มา ครั้งที่แล้ว ผมล้างภายในอาจจะไม่ดี และได้มีการสลับอะไหล่ ตัวเก่า มันอาจจะถึงเวลา พังของมัน
3. เสื้อสูบ มีรอย ระหว่าง ใบพัด กับเสื้อสูบ คาดได้ว่า มีเศษสิ่งสกปรก และ ไม่เรียบทำให้ เกิดความร้อน และ ทำให้น้ำยาดำ

หากเพื่อนๆ เจอปัญหาแบบผม ไม่ต้องมาลองผิด ลองถูก แนะนำ กรณี แอร์ nissan almera พอถอดแล้ว ดำเป็นโคลนแบบผม
แนะนำ
1. เปลี่ยนคอมลูกใหม่ อย่างเดียว หากมือสอง โอกาสอาจจะกลับมาเป็นอีก แล้วแต่การใช้งาน และ ฝีมือในการประกอบ ทำความสะอาดของช่าง
2. แผงแอร์ คอยล์เร้อนหน้าเครื่อง เปลี่ยนใหม่
3. (พอดีผม พึ่งเปลี่ยน คอยล์เย็นในตัวรถ ไม่อยากเปลี่ยนใหม่ หวังว่า คงไม่เจอปัญหาอีก) หากเพื่อนๆ ยังไม่เคยเปลี่ยน คอยล์เย็นในห้องผู้โดยสาร แนะนำ เปลี่ยนใหม่ เลย

สรุปรายจ่าย 
1. คอมใหม่ ยกลูก 3,500 บาท
2. ไดร์เออ 200 บาท
3. น้ำยาล้างระบบ f11 จำนวน 1 กล่อง หรือ 12 ขวด ทั้งหมด 480 บาท
4. น้ำยาแอร์ 134a แบบ กระป๋อง 150 บาท  (1 กิโลกรัม)
5. กำลังสั่ง แผงแอร์ หน้าเครื่อง 1,200 บาท เพื่อจะมาเปลี่ยน 

หากรวมๆ ทั้งหมด 5,530 บาท หากไปทำอู่นอก แล้วทำเหมือนผม ถ้าราคาประมาณนี้ ก็ทำเลยนะครับ แต่ส่วนมาก น่าจะเกินราคา เพราะว่า เค้าคงจะบวก ค่าแรง ไปด้วย
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงเป็นประโยขน์ไม่มากก็น้อยสำหรับ เพื่อนๆ ที่จะล้างระบบแอร์ และ ติดตั้งระบบแอร์ รถยนต์ เองนะครับ

// 
มาต่อวันอาทิตย์ หลังจากทำความสะอาดระบบ ด้วยตัวเองเสียดายแผงแอร์ ได้ทำการล้างระบบ ก็ด้วยที่เคยผ่านประสบการณ์ครั้งแรก ที่มีปัญหาน้ำมันคอมแอร์ดำ ได้ทำการล้าง และ อัดน้ำยาใหม่ ก็ไม่สามารถทำงานได้ เหมือนเดิมเพราะว่ เกจฝั่ง hi จะต่ำและได้เปลี่ยนแผงแอร์ใหม่ ใชงานได้ไม่ถึง 2-3 เดือน น้ำมันคอมแอร์ ก็ดำ เหมือนเดิม และเสียงคอมแอร์ก็ดัง เลยเริ่มต้นหากเพื่อนๆ เจอปัญหา น้ำมันคอมแอร์ ดำ

ต้องเปลี่ยนคอยล์ร้อนยกชุดเลยครับ ไม่ต้องมาเสียเวลาล้างเหมือนผม เพราะว่า ผมพิสูจน์ แล้ว 2 รอบ นั่นคือ คอมแอร์ ดำ เป็นเมือก ล้างระบบ ด้วยน้ำยา f11 ที่แผงคอยร้อน ก็ไม่จบ ต้องซื้อใหม่อย่างเดียวถึงจะจบ.นะครับ



ภาพบน คือ ถอดกันชนหน้าออก และ เตรียม เอาแผงแอร์ออก ก็ต้องปล่อยน้ำยาแอร์ โดยคราวนี้ ผมเอามาจุ่มใส่ขวดน้ำ มันจะได้ เป็นฟองอากาศ และ จะได้รู้ว่า น้ำยาหมดหรือไม่หมด ผมไม่ได้ถ่ายไว้นะครับ




แผงแอร์ ตัวใหม่พร้อม ไดร์เออ เปลี่ยนยกชุดอีกแล้ว ตัวนี้ ถือว่า เป็นตัวที่ 3 สำหรับ รถร่วม 15 ปีแล้ว วิ่งร่วม 2 แสนกิโล รถปี (almera โฉมแรก ตัวเกียร์ MT 2011 )




เทียบและ ตรวจสอบว่า ขอเก่า และ ของใหม่ แตกต่างกัน ตัวเก่าจะมีคุณภาพมากกว่า เพราะว่า ดูจากเนื้อและ จำนวนชั้นของระบบระบายความร้อน







ไดร์เออ จะมีน๊อตยึดเพียงตัวเดียว




แต่ของเก่า น๊อตยึดจะมี 2 ตัวเพื่อความแน่นอนว่าไม่รั่ว ไม่ซึม น๊อตอีกตัวผมถอดเก็บไว้





 เตรียมพร้อมการติดตั้ง ก็ใช้ลมเป่าสิ่งตกค้างในตัวคอมแอร์ ใหม่ทิ้งไปก่อน 



 หลังจากประกอบ เรียบรอย ก็ทำการต่อ battery และ ทำการ แวคคัม ทำสูญญากาศ ก็ไม่มีปัญหาใดๆ ไม่มีรั่ว ไม่มีซึม ก็ได้เติมน้ำยาแอร์ ต่อเลย







 ด้านบน เป็นภาพขณะ vacump ระบบจะไม่มีอากาศภายในระบบแอร์




 ภาพบน เป็นภาพตอนเติมน้ำยา แรงดัน ฝั่ง hi ดูไม่ตัน เหมือนตัวเก่าที่มีปัญหา




 ฝั่ง low ก็มีการอัดน้ำยาที่แรง ไม่ตั้นเหมือนคราวที่แล้ว 

หลังจากเติมน้ำยาแอร์ 134a แบบกระป๋อง ทำการเปิดแอร์สุด พัดลมสุด ความเย็นก็มาแล้วครับ ต่างจากตัวเก่าที่ล้างระบบ จะเหมือนความเย็นจะมาช้า สรุปแบบ ฟันธงแล้วว่า 
หากมีปัญหาเรื่องคอมแอร์ ภายในระบบ ต้องเปลี่ยน ไดร์เออ + แผงแอร์คอยร้อน ส่วน แผงแอร์คอยล์เย็นจริงๆ ผมก็อยากจะเปลี่ยน แต่ด้วย พึ่งเปลี่ยนไป ก็ต้องลุ้นครับว่า มันจะมีปัญหาอีกมั้ย

หากมีปัญหาอีกครั้ง คราวหน้า คงต้องเปลี่ยนยกชุดทั้งหมด ไม่ว่าจะป็น คอมแอร์+แผงแอร์คอยร้อนหน้ารถ + แผงแอร์ในรถ  แบบนี้ จบ.แน่นอนครับ 

สรุปที่ผ่านมา 2-3 ครั้งหากมีปัญหาแอร์ แนะนำว่า ยกชุดเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด โดยที่ผม ทดสอบและทดลองมาแล้ว 2 ครั้งไม่ว่าจะเป็น เปลี่ยน คอมแอร์เซียงกง แผงแอร์คอยล์ร้อน แล้วก็ยังเป็นปัญหาอยู่
เอาเป็นว่า หากผ่านระยะใช้งานเกิน 6 เดือนนับจากนั้น ผมจะมา update ให้เพื่อนๆ ได้ฟังใหม่นะครับ


หวังว่าคงเป็นประโยชน์ให้เพื่อน่ๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ


//////////////////////////////////////////////////////////////////


วันที่ 27 พค 2566
หลังจากใช้งาน ผ่านไป 1 วัน ตอนเย็น start รถ เปิด แอร์ คอมแอร์ ไม่ทำงาน กลับบ้านมาตรวจสอบ ฟิวส์ ไม่ขาด และ เอา เกจมาวัดน้ำยาแอร์ ปรากฎว่า น้ำยาแอร์ ไม่มีแรงดัน
ตรวจสอบพบ ปัญหา คือ ตัว โอริง 1 ตัวที่ผมไม่ได้เปลี่ยน มันรั่วตรงที่ โอริง ที่ผมไม่ได้เปลี่ยน ที่ผมตรวจสอบพบเพราะว่า ผมอัดน้ำยาแอร์ เข้าระบบ มันพ่นออกตรงข้อต่อ ระหว่างแผงแอร์ที่เปลี่ยนใหม่

การแก้ไขของผมก็ แค่ ถอดฝากระโปรงหน้า และ ขันน๊อตยึดสายแอร์ ระหว่าง คอมแอร์ และ แผงหน้าที่เปลี่ยนไป ใส่โอริงใหม่
หลังจากนั้น ก็ vacume อากาศ จนหมด และ ปล่อยทิ้งไว้ ตรวจสอบไม่มีการรั่ว ซึม ก็ทำการ เติมน้ำมันคอมแอร์เพิ่ม และ น้ำยาแอร์ 134a ที่มีอยู่เข้าไปเหมือนเดิม หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ ใช้งานทุกวัน และเปิดแอร์ทุกครั้ง
วิ่งไปกลับวันละประมาณ 30 กิโล ทุกวัน ระบบแอร์ ยังคงเย็นเฉียบ และ เย็นดีมากๆ หากทนทาน เกิน 3 เดือน ผมจะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังอีกทุกๆ รอบ 3 เดือนนะครับ ว่าจะผ่านไปได้ กี่เดือน หลังจากทำระบบใหม่ทั้งหมดที่แจ้งไว้ข้างต้น















​​​​​


 




 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2566   
Last Update : 27 พฤษภาคม 2566 10:56:03 น.   
Counter : 51 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


พัดลมแอร์ jazz ge 2009 ไม่ทำงานหลังเปิดแอร์

วันที่ 13 พค. 66 ก่อนการเลือกตั้ง ได้ขับ jazz เพื่อจะกลับบ้านปรากฎว่า พอกดปุ่ม ac แอร์ พัดลมไม่หมุน แต่ไฟ ac ทำงาน แต่มอเตอร์พัดลมแอร์ ไม่ทำงาน

หลังจากนั้น ได้ เปิดช่องเก็บของ แล้ว หา อะไรแข็งๆ เคาะๆ ตูดมอเตอร์ ปั๊กๆๆๆๆ แล้วลองเปิด ac แอร์ พัดลมแอร์ ก็ทำงาน..... นี่เป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้น หากเพื่อนๆ ที่ใช้ jazz จะได้ รู้แนวการแก้ปัญหาเบื้องต้น


จุดที่สำคัญผมได้พูดไปแล้ว แต่ บางคนอาจจะไม่เคยทำ หรือ ไม่เคยซ่อม ไม่เคยรื้อ ไม่เคยสังเกตุ วันนี้จะพามาแนะนำการแก้ปัญหา หากเจอปัญหาช่วงแดดร้อนๆ เหมือนผม ครับบบบบ
ปัญหาของ jazz คือพัดลมแอร์ไม่หมุน ก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้า หากอยู่ใกล ไม่มีอู่ ไม่มีช่าง ก็หาอะไร เคาะๆ ก็ทำงานได้ปกติ  หรือจะลองปรับพัดลม 1-2-3-4 ดูครับ หากพัดลมหมุนบางเบอร์ ก็เปลี่ยนอะไหล่ ขดลวดแอร์ รีซิสเตอร์ มีขายใน online เยอะแยะครับ

ตัดมาปัญหาของผม ผมทดสอบ เปิด พัดลม 1-4 ก็ไม่หมุน เลยหาอะไรเคาะๆ พัดลมก็หมุนทำงาน ก็เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ ส่วนเขียนวันนี้ คือ หลังจากทำความสะอาดได้ 1 อาทิตย์ก็ไม่เจอปัญหาใดๆ เพราะว่าขับรถทุกวันนะครับ 




เริ่มจากก้ม และ ถอดแผง กันตรงใต้ท้องเก็บรถ ออกมา




พอถอดแผงกั้น ก็จะเห็นตูดแอร์ เลยครับ หาไขควงแฉก หมุน น๊อต ออก ก่อนถอด ก็ถอดสาย ไฟ ที่พ่วงกันอยู่ ออกด้วยนะครับ เป็นกิ๊บล็อก สายไฟครับ กด แล้วดึงออกได้เลย




ภาพบน แจ๊คสายไฟ กดแล้วดึง ออก





ให้กด ตรงส่วนแง่งๆ นั่นหละครับ แล้วก็ดึงออกได้เลย ใช้แรงนิดหน่อย




ส่วนรีซิสเตอร์ ก็เอาออกมา เป่า ทำความสะอาดด้วยนะครับ พอดีของผมตัวนี้ ไม่มีปัญหา ยังใช้งานได้




สภาพยังใหม่ แค่สกปรก ก็เอา ไดร์โว เป่าๆ ครับ 





หลังจากน๊อต 3 ตัว เราก็ยก เจ้ามอเตอร์ลงมา





ส่วนท้าย ก็จะมีน๊อตยึด อีก 1 ตัวก็ถอดออกครับ





ส่วนจะทำความสะอาดก็ต้องถอดตัว ใบพัด ออกด้วย





นี่คือ ฝุ่น สกปรก และ เศาแปรงถ่าน อาจจะทำให้แปรงถ่าน ไม่ขยับ เลยทำให้ มอเตอร์ไม่หมุน




น๊อตตัวท้าย ถอดออกมา เพื่อจะได้จับมอเตอร์ง่ายๆ 





ภาพบน ตอนแรกผมจะถอดมาเช็ค ทำความสะอาด แต่ด้วย วงๆ สีแดงๆ ไว้นั้นคือ ใช้คม จับไม่ได้ ครับ เหมือนสร้างมาเพื่อไม่ให้เปิดซ่อม ส่วนใครง้าง หรือ เปิดซ่อมได้ ก็เอาที่ความสบายใจเลยครับ 





ส่วนภาพน แหวน ต่างๆ เก็บไว้ดีๆ ตอนประกอบ ก็ใส่เหมือนเดิมทุกอย่าง จะได้ไม่มีปัญหานะครับ 





น๊อตทุกตัวเก็บไว้ดี ๆ และ อย่าให้หล่นหายไปไหน ไม่งั้น ได้ซื้อ มอเตอร์ใหม่อย่างเดียว





แหวนต่างๆ เรียงเหมือนตอนเอาออก และเรียงเข้าตอนประกอบ




ภาพบน คือ แข็งมาก เอามอเตอร์ออกมาซ่อมไม่ได้ ผมเลย ต้องใช้ ไดร์โว่เป่า หรือ ใครมีปั๊มลม ก็ฉีดใส่เลยครับ ผมใช้ทั้งปี๊มลม และ ไดร์โว่ เป่า หลังจากนั้น ฉีดโซแนก อัดเข้าไปในแกนภายในครับ 

หลังจากทำความสะอาดแล้ว ก็ ประกอบกลับเหมือนเดิม หลังจากใช้งาน มา 1 อาทิตย์ ไม่มีปัญหาใดๆ เปิดแอร์เมื่อไหร่ พัดลมก็หมุนทันทีครับ 


สุดท้าย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับเพื่อนๆ หลายคนครับ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ













 




 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2566   
Last Update : 21 พฤษภาคม 2566 18:26:12 น.   
Counter : 29 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


ซ่อมเฟืองกระจก jazz gd,ge แบบ ไม่เสียเงิน ใช้งานได้ด้วยซ่อมด้วยหัวแร้ง

วันที่ 30 เมษายน 66 
เดินทางกลับบ้านนอก ปกติ ใช้ jazz gd ปี 2006 ส่วนวันนี้ กลับด้วย jazz ge ปี 2009 ตัว top ที่ผมพึ่งได้มาจากพี่ทำงาน เป็นรุ่น sv มีถุงลม 2 ลูก มี disk break 4 ล้อ และเบาะหนัง พร้อมชุดแต่งจากศูนย์สมัยปี 2551 เหมือนสมัยผมซื้อ ford fiesta
และ nissan almera ป้ายแดงเลย ส่วน รถทั้ง 2 คันก็ยังใช้งานได้ดี ยกเว้น almera ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องแอร์ เลยไม่ได้ใช้งานมากครับ

มาถึงบ้าน ได้ยินเสียง แต๊กๆ ๆ ที่ข้างประตูคนนั่งหน้า ก็ถือโอกาส ซ่อมซะเลย ปกติ ผมเคยซ่อมเฟือง honda crv ก็ซื้ออะไหล่ เฟืองตัวเล็กๆ ราคาเกือบ  50 บาท แพงเกิ๊น เป็นพลาสติกโง่ๆ ตัวหนึ่ง ส่วนฝรั่งเค้าทำขายเป็นเฟืองเหล็ก
ไม่ว่าจะเป็น jazz , crt เฟืองกระจก เหล็ก แต่ขายบน ebay ราคา ร่วม 400 บาท ผมไม่สั่งหรอกนะครับ เพราะว่า ผมซ่อมเองแบบไม่เสียเงินด้วย

เข้าเรื่องเลย

ส่วนการถอดฝาข้างมีหลายคน ที่ทำไว้ครับ แต่ผมชอบคนนี้




พี่ด้านบน คือ ทำ clib ทุกอย่างจะอธิบาย ง่าย และ เข้าใจ ทำตามได้เลย ส่วนผมก็ดู และทำตาม เรื่องถอดฝาข้าง แต่การะซ่อม ไม่เหมือนกันนะครับ 



น๊อตทุกตัวที่เคย ถอดมา หากเก็บไม่ดี ก็หาย หรือไม่ก็ ประกอบแล้วน๊อตเหลือ อย่าให้น๊อตเหลือนะครับ 




ภาพบน ตัดภาพมาตอนถอดชิ้นส่วนที่จะซ่อมมาแล้วนะครับ 




ภาพบน ตัวเฟืองตัวนี้หละครับ ที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็น jazz , crv ผมก็เคยซ่อมมาแล้ว แต่ ด้วยตอนนี้ jazz ผมอยู่บ้านนอก ผมก็เลยต้องซ่อมแบบ ไม่ต้องมีอะไหล่ เพียงใช้หัวแร้ง ร้อนๆ จี้ส่วนที่แตก และให้มันติดกัน แค่นั้นเองครับ




ภาพบน ตัวนี้คือ อุปกรณ์เชื่อมพลาสติกของผม ที่ถูกที่สุด และ คุ้มที่สุด




หลังจากจี้ ส่วนที่แตก และ ฝั่งตรงข้ามที่เหมือนจะมีรอยปริ ก็จี้ด้วยหัวแร้ง เป็นกันเรียบร้อย และตกแต่งด้วย มีด cutter ตัดส่วนที่เกินๆ ล้นๆ ออกมา ร่องต้องไม่เสียนะครับ จี้ความร้อนเฉพาะส่วนด้านบน และล่าง ส่วนร่องฟันไม่ต้องจี้นะครับ




หลังจากจี้ด้วยความร้อน พลาสติกติดกันดี ตกแต่งด้วบ cutter




ประกอบ เตรียมตัวใส่กระจกให้เรียบร้อย




ถ่ายภาพก่อนประกอบจะได้รู้ว่า เอาเฟืองเหล็กและ เฟืองกลมที่เราซ่อมลองไปก่อน




ตามด้วย เฟืองที่เป็นแท่ง หลังจากนั้น อย่าพึ่งประกอบ กระจกนะครับ ยกทั้งตัวแบบนี้ ไปเสียบปลั๊ก แล้วเสียบกุญแจ ทดสอบ หมุน ๆๆ  ก็ใช้งานได้ปกติแล้วครับ ไม่ต้องเสียเงินแล้ว ส่วนพับนั้น ปกติ ผมไม่พับกระจกอยู่แล้วครับ 







หลังจากซ่อม แล้วเอารถไปทดสอบซัก 2-3 กิโล (แบบว่า เอาไปซื้ออะไหล่ ซ่อม มอเตอร์ไซค์ยายหนะครับ ) เสียงมอเตอร์ที่ทำงานตลอดๆ ก็หยุด และสามารถใช้งาน ปรับกระจก ขึ้น บน ซ้าย ขวา ได้ ไม่มีเสียงดัง แต๊กๆๆๆ ตอนบิดกุญแจ
หรือตอนขับรถ ซึ่งก่อนหน้านี้ เฟืองและ มือเตอร์เหมือนจะทำงานตลอดเวลา


สรุป 
การซ่อมด้วย หัวแร้ง ก็สามารถใช้งานได้ ส่วนจะนาน มากแค่ไหน ผมจะมาเล่าให้ฟัง หากซ่อมแล้ว อายุการทำงานจะยาวนาน กี่เดือน กี่ปี แล้วจะมา update ให้เพื่อนๆ ยังครับ อย่างน้อยๆ ตอนนี้ ผมไม่ต้องเสียเงินสั่งอะไหล่ แม้แต่บาทเดียวครับ


หวังว่าคงเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยสำหรับ จะซ่อมเฟืองกระจกที่บ้าน โดยถอดออกมาแล้วซ่อมแบบผม แล้วลองดูว่าจะอยู่ได้นาน แรมปี หรือไม่นะครับ วันนี้ พอแค่นี้ครับ


////////

กลับมาเล่าให้ฟังวันเสาร์ที่  27 พค 2566 ตั้งแต่ ซ่อมไปวันนั้น จนถึงวันนี้ ระบบเฟืองมอเตอร์ กระจกผม ยังทำงานปกติดี ไม่มีเสียงดัง  และไม่มีปัญหา ร่วมๆ 1-2 เดือนแล้วนะครับ














 




 

Create Date : 30 เมษายน 2566   
Last Update : 27 พฤษภาคม 2566 11:09:30 น.   
Counter : 371 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

mrter2012
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]





ผม..สนใจและศึกษาด้านคอมพิวเตอร์ ,network, มือถือ ,ซ่อมแซมบ้าน ซ่อมรถยนต์,เครื่องยนต์,กลไกต่างๆ เครื่องมือช่าง electronic

ว่างๆ ก็จะหาอ่าน ศึกษา หาทำงาน หาซ่อมเป็นงานอดิเรก ฯลฯ

ชอบลงมือทำเอง หากไม่เกิน หรือไม่คิดว่าเกินความสามารถก็จะลงมือทำเลยครับ
หากไม่มีอุปกรณ์ หรือเกินที่เราจะมีได้ ก็ศึกษา หาวิธีที่จะทำ จนสุดก่อน

หากคิดว่าไม่ได้ ทุกอย่างมันก็จะไม่ได้ครับ ดังนั้น เราต้องมั่นใจว่าทำได้ และลงมือเลยครับ

และอยากให้เพื่อนๆ ที่อ่านลงมือทำ อาจจะไม่เหมือนผม แต่อาจจะทำอย่างที่ตัวเองถนัด
แล้วมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ฟังเป็นความรู้ประสบการณ์ เป็นวิทยาทานให้กับคนอื่นๆ รุ่นต่อรุ่น

เพราะว่าช่างที่ทำงานจริงๆ คงไม่มาเขียน หรือบอกเล่าให้เราอ่าน ดังนั้น เพื่อนๆ ทำอะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ก็เขียนได้ฟรี ไม่เสียเงิน เพียงแค่ เสียเวลา และถ่ายภาพ
เป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆ ที่จะทำตาม ....


ขอบคุณครับ สุดท้าย บทความต่างๆ ที่ผมเขียนคิดว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับใครบางคนที่ยังไม่รู้ .. ทุกคนไม่รู้ และไม่เก่งกันทุกคนครับ เอาที่ความถนัดมาเขียนบอกเล่ากันครับ... :)



New Comments
[Add mrter2012's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com