Do it yourself
 
 

เปลี่ยน ปีกนกล่าง nissan almera 2011 ราคาไม่เกิน 1200 บาท

กระทู้ ที่เคยเปลี่ยน
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=mrter2012&date=25-03-2020&group=1&gblog=99

สวัสดีครับ วันเสาร์ที่ 31 พค  2568 วันหยุดหาอะไรทำกัน

ผมใช้ nissan almera 2011 เกียร์ธรรมดา ทุกวัน วิ่งวันละประมาณ 30 กิโลเมตร มีเสียงช่วงล่างช่วงขับรถผ่านรอยต่อของถนน หรือ รอยถนน ไม่เรียบ  จะมีเสียงขึ้นมาห้องโดยสาร เสียงดัง กุ๊ก ๆ ๆ ๆ ด้านหน้ารถ ผมก็คิดว่าน่าจะถึงเวลาเปลี่ยน ช่วงล่าง กันหน่อย เพราะว่าเคยเปลียนานมากแล้ว
ปัจจุบันก็วิ่งจะทะลุ 140K แล้วหละครับ อายุร่วม 10 กว่าปีตั้งแต่ป้ายแดง

ก่อนจะเปลี่ยนก็ต้องเเช็คราคาอะไหล่  online แล้วราคาถูกกว่าสมัยผมเปลี่ยน 5 ปีที่แล้ว 

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. อะไหล่ จะแท้ เทียม เทียบ ก็เอาที่สบายใจกระเป๋า ตามภาพด้านล่าง 1 คู่ จ่ายพันกว่า ครับ 



2. ฆ้อมสำหรับตี ฆ้องเล็ก ใหญ่ ได้หมด
3. ชุดบล็อก ซ่อมมีไว้ติดบ้านไว้ครับ ตั้งแต่เบอร์  8- 21 หรือ ใหญ่ก็นั้นเอาที่สบายกระเป๋า
4. ปั๊มลม จะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้นะ ใช้แรงเรานี่ก็ได้ครับ แต่ถ้ามี ก็ออกแรงไม่เยอะ งานเสร็จเร็ว ไม่มี ก็เหนื่อยหน่อย
5. ประแจชุด จะหัวกลม หัวเหลี่ยม ได้หมด และ ไขควง แหลมๆ ไว้ใช้งานเล็กๆ น้อยๆ
6. จาระบี น้ำยา sonax ฯล หรือน้ำยาเอนกประสงค์ ใช้ได้หมด
7. ถุงมือ ป้องกัน มือเจ็บครับ 555 ไม่ใช้ก็ได้นะ
8. ผ้าเช็ด คราบสิ่งสกปรก ผมใช้ ถุงเท้า เก่าๆ ตัด ๆ ใช้งานได้ดีครับ มีเยอะเลย ครับ ตัดผ่าครึ่ง ก็เช็ดได้แล้ว
9. จระเข้ หรือ แม่แรง อันเดียวก็พอ 
10. สามขา หรือ เหล็กค้ำรถ เอาที่มีที่บ้านเลยครับใช้ 2 อันหรือ 1 อันก็ได้ ได้หมดจ้า
11. แปรงสีฟัน หรือ แปรงเหล็ก ไว้ขัดหัวน๊อต ทำความสะอาด

















เตรียมอะไหล่ไว้พร้อม




เริ่มจากง่ายๆ ขันน๊อตล้อก่อน ไม่ต้องยกแม่แรง ขันให้มันหลุดคร่าวๆ ก่อน 4 ตัว แล้วค่อย ยก แม่แรง ด้านซ้าย ผมเปลี่ยนด้านซ้ายก่อนนะครับ
- ถอดล้อ ก่อน
- ยกแม่แรง
- เอาล้อ ออกจากเบ้า



- ถอดชุดเบรค จะถอดทั้งชุด ก็ได้ หรือจะถอดก้ามปู ก่อน แล้วค่อยถอด ยกชุดเบรค เอาที่สบายใจ เพราะว่า อีกด้านหนึ่งด้านขวาผมแค่ ถอดชุดเบรค คือ น๊อต 2 ตัว แล้วก็ยกห้อยไว้ได้เลยครับ






ถอดชุด คันชัก ขันน๊อต แล้วก็ใช้ ฆ้อน ตี ก่อนจะตี ก็เอา น๊อตขันให้เสมอน๊อต แล้วก็ฆ้อน ฟาดเลยครับ จะได้หลุดง่ายๆ และ ก็หัวน๊อตไม่เสียหาย




ภาพบน หลังจากถอด น๊อตคันชัก แล้ว ก็ จะถอด ชุดจานเบรค ให้มันห้อยไว้ครับ






ภาพบน ห้อยชุดจานเบรค อุปกรณ์ที่จะทำให้ทำงานแล้วยาก ห้อยไว้ครับ




หลังจากถอดชุดน๊อต 3 ตัว ออก ซึ่งก็ใช้เวลา ไม่นาน เพราวะ่าผมใช้ ปั๊มลม กับ ปืนยิงขันออกง่ายๆ ครับ และก็ จับ แกน ออกได้ง่ายๆ
จะง่าย ก็ไม่ง่าย จะยากก็ไม่ยาก แล้วกันนะครับ 




ถอดอะไหล่ ออกมาเทียบ กว้าง ยาว สูง 3 มิติ แล้ว พอใส่กันได้ ก็ทาจาระบี ก่อน แล้วค่อย ใส่เข้าไปที่เดิม




ภาพน คือ ข่อง ใส่ปีกนก ครับ 









ภาพบน คือ สังเกตว่า จะมี ร่องของการใส่ ปีกนก อยู่แล้ว จับยัด ใส่ตรงนี้ก่อน แล้วก็ค่อยเอาอีกรู ต่อไปจ้า ง่ายๆ ไม่ยากครับ หากจะยาก ก็ใช้ไขควง หรือ เหล็ก ง่างๆ เหล็ก ด้านล่าง ให้มันขยับๆ ๆ ก็หลุดแล้วครับ




ภาพบน ใส่ด้านในสุดก่อน แบบง่ายๆ เพราะว่าทาจาระบี แล้ว





ใส่ด้านในสุด ก็ใส่อีกด้าน ง่ายๆ เพราะว่า เคยถอด และ ก็ น๊อต ทำความสะอาด ขัดใช้แปรง แล้วค่อยทาจาระบี ไว้










ภาพบน คือ ร่องสำหรับใส่ บูช ปีกนก




จะเห็นว่า ภาพข้างบน ใส่เรียบร้อยแล้ว




ใส่ข้างในเสร็จ ก็จับ ปีกนก ใส่อีกช่อง จับ ๆ ใส่แบบง่ายๆ โยกๆ ไปด้วย แล้วก็ใส่น๊อต ยึด




ภาพบน ใส่ น๊อต 2 ตัวข้างใน แล้วก็เหลือ ลูกหมาก ก็จับ ชุดจานเบรค ใส่รูของมัน ก็แบบ ง่ายๆ ครับ





ภาพบน คือ ตอนจะใส่ น๊อต ตัวที่ 2 ก็หาไขควงแหย่ไว้ก็ได้ หรือจะใช้น๊อต ของมัน ขันขึ้นเลยก็ได้นะครับ ขันแบบ หลวมๆ ก่อนนะครับ จะได้ ง่ายๆ แล้วค่อย อัดปั๊มลม เข้าไปครับ




ใส่น๊อตตัวที่ 2 แบบง่ายๆ ขันยึด 2 น๊อต ข้างใน ให้เรียบร้อย 




ภาพบน คือ ใส่เรียบร้อยแล้ว





ภาพน๊อต ข้างใน ปีกนก ตัวแรก ที่ถ่ายไว้




ภาพบน ก็พร้อมที่จะใส่ ชุด เบรค แล้ว




ก็จับ เสื้อเบรค ใส่ลูกหมาก แล้ว ก็ กดลงนิดหน่อย เพื่อให้ ด้านบน เข้ากับชุด โช๊ครถ





ภาพบน คือ พอเราใส่ บูชปีกนก ตัวนอก แล้ว ก็จัด เสื้อเบรค กดลง เอาร่องน๊อต 2 ตัวบน ให้ตรงรู แบบง่ายๆ คนไหนไม่เคยก็ต้อง ลองทำ โดยการถอดออก ก็ กดชุดเบรค ลง ส่วนจะใส่ใช้งานเหมือนเดิม ก็กดชุดเบรค ลง แล้วตัวเบรคก็จะดันขึ้น ขบ กับ ชุดโช๊คครับ





น๊อตทุกตัว ทำความสะอาด ทาจาระบี เพราะ อนาคต ได้ถอด สนิมจะได้ไม่กิน และ ใส่ ถอด ง่ายครับ




ใส่ ชุดปีกนก ตัวนอกแล้ว




หลังจากนั้น ก็ใส่ ชุดเสื้อเบรค  ขัน ขันชักซ้าย ให้เรียบร้อย ไม่ต้องรีบร้อน 




จานเบรค ก็ทำความสะอาด ทาจาระบี แล้วก็วางประกอบเหมือนเดิม




ภาพด้านบน ก็ชุดยึดล้อ และ ล้อรถ ก็ทาจาระบี ตอนถอด สนิมจะได้ไม่กิน จะได้ง่ายๆ ตอน ซ่อมบำรุงผมทำแบบนี้ ตั้งแต่ 5 ปี ก่อน ก็ถอดง่ายๆ ครับ




ประกอบ ชุดเสื้อ เบรค จานเบรค น๊อตไม่กี่ตัว ก็ทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วทาจาระบีก่อนใส่เหมือนเดิม 
ส่วนข้างซ้าย ผมถอดแยก ออก ส่วน ด้านขวา ผมถอดทั้งชุดน๊อต 2 ตัว เอาเสื้อเบรค ออก แล้วห้อย เลยครับ ไม่ต้องทำแบบ ด้านซ้ายนะ เอาที่สะดวก สบายๆ ครับ




ขันน๊อตต่างๆ ตรวจสอบให้เรียบร้อย ก่อนประกอบล้อ เข้าเหมือนเดิม




เตรียมประกอบล้อ และทาจาระบี ตรงหน้าเบรค ก่อนที่จะประกอบ เพราะจะได้ไม่ขึ้นสนิม และจะได้ถอดง่ายๆ ในครั้งต่อๆไป




ประกอบ ล้อ เรียบร้อย หลังจากนั้น เอาล้อลง แล้วเตรียมตัวทำอีกฝั่งขวา




ภาพฝั่งขวา ถ่ายได้เล็กๆ น้อยๆ เพราะทำเหมือนด้านซ้ายครับ  ถอดชุดเบรค ห้อยไว้ทั้งชุดเลยครับ





หลังจากใส่ ปีกนก แบบง่ายๆ และก็ไม่ได้ยาก อะไรก็ ขันน๊อต ข้างใน 2 ตัว ก็เอา เสื้อเบรค สวมใส่ ลูกหมากได้เลย




ภาพบน คือเตรียมประกอบกลับเหมือนเดิมแล้ว



ถ่ายไว้ ทุกอย่าง ทาจาระบี แล้วก็ ก่อนประกอบ




ภาพบน คือ ประกบอ ชุดเบรค ไม่ต้องใช้ แรง จับใส่ได้เลย ครับ หลังจากนั้น ก็ประกอบเ หมือนเดิม


หลังจากเปลี่ยน เรียบร้อย ก็ทดสอบขับ เลี้ยวๆ เล็กๆ น้อยๆ เพื่อจะได้รู้ว่า มันทำงานได้ปกติ 
สุดท้ายหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ใครไม่เคยเปลี่ยน ช่วงล่าง หลักหมื่น หันมาทำเอง เสียแค่ค่าอะไหล่ พันกว่าบาท จ้าาาาาา



ปีกนก ตัวเก่า ดูแล้วไม่ได้ขนาด ไม่ได้ พัง ยับ




ลูกหมาก จับโยกซ้าย ขวา ง่ายๆ จับเขย่าๆ ก็ไม่ได้ หลวม มาก สำหรับสายตา ก็ถือว่า ยังใช้งานได้




อีกอีก ข้าง ก็ยังใช้งานได้เหมือนเดิม พูดง่ายๆ ก็อาจจะเป็นเพราะว่า สมัยก่อน ผมแยก อะไหล่ ในการประกอบ แยกชุด บูช ลูกหมาก แล้วก็ อัดเอง แต่รวมๆ ราคา แพงกว่า ซื้อแบบ ทั้งชุด ก็เลยตัดสินใจ ซื้อแบบ ยกชุดมาลองใช้งานดูครับ

สุดท้าย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ กันไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับ จะซ่อมเอง รื้อเอง ซ่อมบ่อยๆ ก็จะได้ถอด ง่าย ๆ  ใส่ง่ายๆ ไม่ยากครับบบบ ไปร้านเปลี่ยนผมคิดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า  5 พันนะครับ เราเปลี่ยนเอง ซ่อมเอง ก็พันกว่าบาท ครับ

///

วันที่ 4 มิถุนายน 2568 หลังจากเปลี่ยน ปีกนก แล้ว ขับถนนเส้นเดิม ระว่างบ้าน และ โรงเรียน เสียงที่เคยดัง กุ๊กๆ ๆ ๆ ขณะผ่านลูกระนาด หรือ รอยต่อต่างๆ ก็หายไป ไม่มีเสียงดังขึ้นมาที่ห้องผู้โดยสาร เป็นอันเรียบร้อยครับ 















 




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2568   
Last Update : 4 มิถุนายน 2568 9:30:21 น.   
Counter : 248 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


หุ้มพวงมาลัย Honda Jazz ge 2009-2011

สวัสดีหลังปีใหม่ 2568 ครับ
วันนี้วันที่ 15 มีนาคม 2568
ก่อนที่จะเปลี่ยนเคยใช้แบบหุ้มหนังแท้ แต่หุ้มไม่หมด ไปเจอ ราคาหลักร้อย เลยสั่งมา แต่เป็นหนังเทียม เลยสั่งมาเย็บเองครับ ตามภาพเลยครับ




ภาพบน แบบเดิม



ภาพบน ตัดด้ายออกครับ




ภาพบน เริ่มเย็บ หนังเทียม เข้าร่อง




ภาพบน เหลือทิ้งไว้



ภาพบน เหลือทิ้งไว้ครับ



เตรียมพร้อมถอด ตัวพวงมาลัยครับ





ภาพบน ถอดพวงมาลัย ก็ขันน๊อต 5 ดาว หลังพวงมาลัย ข้างละตัวออก
หลังจากนั้น หาสี มา mark ทำสัญลักษณ์ไว้ ก่อนที่จะถอพวงมาลัย
ถอดพวงมาลัย ออก (ทุบๆ ให้รอบ ก็ออกแล้วครับ)
หลังจากนั้น ก็หาสี ทาไว้ตรงร่องกลาง ถอดแตร ออกจากพวงมาลัวครับ
หลังจากถอดพวงมาลัยเสร็จ ก็ทำสี ตรงน๊อตไว้ตอนใส่ก็จะได้ไม่ผิดเพี้ยนนะครับ







ขั้นตอนก็ถอดน๊อต 4 ตัวด้านหลังออกเลย














น๊อต paddle shift ออก ก็เอาหนังใส่แล้วก็ เอา paddle shift ทับครับ



ภาพบน ดูเรียบร้อย




ด้านหลังจะเป็นแบบนี้ครับ



ด้านหน้า ก็ดู เรียบสวยงานครับ





เตรียมประกอบกลับคืนครับ



เรียบร้อยครับ หลังจากประกอบ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เผื่อใครอยากทำเอง ก็สบาย ง่าย ครับ ส่วนราคาหนัง ลองหาดูเอาใน web ดูนะครับ ราคามีหลายเกรด หลายราคาครับ


หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ จะหุ้มหนังพวงมาลัยกันเองนะครับ









 




 

Create Date : 15 มีนาคม 2568   
Last Update : 15 มีนาคม 2568 22:34:14 น.   
Counter : 500 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


ซ่อมเฟืองกระจกรถยนต์ jazz ,crv , honda แบบไม่เสียเงินและทนทานเหมือนใหม่

กระทู้เก่า ซ่อมเฟืองกระจก honda crv
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=mrter2012&date=26-05-2020&group=1&gblog=102


สวัสดีปีใหม่ 2568 หลังจากเคยซ่อม เฟืองกระจก ไปนานมากแล้ว สมัยนั้น แค่เอาหัวแร้งแต้มๆ ก็ใช้งานได้มาเกือบ 2-3 ปี มาหลังปีใหม่ มีเสียงเฟืองแตกอีก ก็เลย เอาวิธีการ ซ่อมแบบไม่มีค่าใช้จ่าย มาเล่าให้เฟือนๆ ฟัง
ราคา เฟืองตัวนี้ ใน online หลักร้อยกว่าบาท แพง ทีเดียวครับ แต่ด้วยตัวเอง ซ่อม ก็อยากจะซ่อมจน ซ่อมเฟืองจนใช้งานไม่ได้ นั่นหละครับ ถึงจะซื้อใหม่ 


อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1. ไขควงแฉก
2. เศษสายไฟทองแดงเก่าๆ
3. หัวแร้ง สำหรับ เชื่อมงาน electronic





เอากระจกออกก่อน




ด้านบน คือ จะต้องเปิด ฝาปิดตูดกระจกก่อน จะเปิด หลัง ถอดกระจกก่อน หรือ หลังก็ได้ แต่ยังไม่ขันน๊อต นะครับ 




เอา ฝา ครอบประตูออกก่อน ขันน็อตยึดที่เปิด ประตู ออก




งัดสลักด้านล่าง ออก แล้ว งัดออกได้เลย ไม่มีน็อตยึด




ถอดสลักไฟ




ถอดสลักไฟออก




ถอดฝาครอบ ออกตรงๆ 




cable tir รูดออกได้เลย เอาไม้จิ้มฟัน แทงในเขียว แล้ว รูดปลาย cable tir เดิมออกได้เลยไม่ต้องตัดนะครับ 




สลักปิดพลาสติก งัดออกตรงๆ ได้เลย 





ถอด ฝาครอบ ขยับสายไฟก่อนนะครับ จะได้สะดวก




เฟืองแตก อันเดิมที่เคยซ่อม




หาคีมจับ แล้วเอา ยางรัดข้าวแกง ยึดปลาย คีม จับชิ้นงาน




ตอนแรกจะใช้ ลวด แล้ว ยึด แต่มันใหญ่ไปครับ 




เอาเศษ สายไฟ ทองแดง เก่า แล้วใช้ หัวแร้ง ร้อน ๆค่อย ไล่ กด รอบ เฟือง




ไล่กด ทองแดง แล้วตัดปลายออก ให้มันฝังใน เฟืองครับ 







ทำทั้ง 2 ฝั่ง 




ประกอบเหมือนเดิม



















หลังประกอบ เสร็จ ก็ทดสอบ ปรับ กระจก เสียงเฟืองรูด ก็หายไปแล้ว และ ใช้งานได้ต่อไป อีกหลายปีครับ ไม่เสียเงิน ฟรี ครับ


หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย เพราะว่า เฟืองปรับกระจก จะแตก จะหัก ทุกยี่ห้อ ก็ลองทำดูครับ






 




 

Create Date : 07 มกราคม 2568   
Last Update : 7 มกราคม 2568 13:57:46 น.   
Counter : 536 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


เปลี่ยนผ้าเบรค nissan almera 1.0 turbo แบบง่ายๆ

วันที่ 20 ตุลาคม 2567

พอดีรถพี่ ใช้ almera 1.0 turbo ด้วยที่เห็นว่าเบรค ไม่ค่อยจะดี ผมก็เลย ถอดเพื่อจะมาเปลี่ยน ผ้าเบรค
ขั้นตอนการ เปลี่ยนผ้าเบรค

1. ยกแม่แรง ด้วย แม่แรง และ ใส่ ขาหยัง 3 ขา อันนี้ไม่ได้ถ่ายไว้นะครับ
2. ถอดล้อ โดยใช้ บล้อกเบอร์ 17
3. หลังจากถอดล้อ ก็ขัดน๊อต ยึด กล้ามปู 2 ตัว ด้านหลัง ซึ่ง ตัวล่าง ก็ถอดทิ้ง และ อีกตัว ก็ถอดหลวมๆ  แล้วก็งัดกล้ามปูขึ้น และ ถอดผ้าเบรค ออกได้เลย
4. ปากกา จับชิ้นงาน เอาซัก 4 นิ้ว เอาไว้ ดันลูกสูบ ตอนจะใส่ ผ้าเบรคใหม่ครับ







ภาพบน ถอดน๊อกกล้ามปู 2 ตัว แล้วก็งัดขึ้นเลย




ภาพบน งัดกล้ามปู ขึ้น แบบง่าย ๆ ถ้ายาก ก็เอาไขควง งัดเลยก็ได้ครับ




ภาพบน ผ้าเบรค ยังเหลือ และ ถ้ามี อะไหล่ ก็เอาไปเทียบ ซื้อแทนได้เลย จากภาพ ผ้าเบรค แตก ร่อน ก็เลยซื้อมาเปลี่ยนใหม่ ซึ่งผมไม่ได้ถ่ายตอนประกอบ ซึ่ง ก็ไม่ได้ ยากอะไร ก็ใส่ร่องเดิม เหมือนเดิมครับ


ภาพอาจจะน้อย แต่หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ






 




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2567   
Last Update : 20 ตุลาคม 2567 20:29:07 น.   
Counter : 620 Pageviews.  


fino กดปุ่ม start ไม่ติด ซ่อม switch ง่ายๆ ไม่เสียเงิน

วันที่ 20 ตุลาคม 67

มีรถ fino คันหนึ่ง ซึ่ง ตา ยาย เอาไว้ขับ ก่อนหน้านี้ ได้ ล้างทำความสะอาด คาร์บูไปแล้ว มาวันนี้ start มือไม่ติด ไล่ปัญหาดังนี้

1. เอาไฟ แบต ต่อตรงกับ ไดร์ start ปรากฎว่า ไดร์ start หมุน ปกติ ดี
2. ไล่ relay start ได้ไปซื้อใหม่ มา ตอนสุดท้าย เอาแบตทดสอบ ปรากฎว่า relay ไม่เสีย
3. ไล่ วงจร สรุป คือ switch เบรค มือ เสีย


แก้ปัญหาไม่ต้องซื้อ switch เบรคหน้าใหม่ ถอดทำความสะดาด


ภาพบน ถอด switch ออกมาก่อน





ภาพบน แงะ ฝาครอบ ออกแบบง่าย ๆ โดยการ โยกข้างเดียวก่อน แล้วค่อย แงะออกมาก




ภาพด้านใน หรือเอามิเตอร์ วัด ไม่กระดิก เพราะว่า ทองแดง ไม่ชนกับแกนทองเหลือง




ถอดมาทำความสะอาด โดยใช้กระดาษทรายขัด




ภาพบน ถอดออกมา แล้วทดสอความสะอาด และ ดัดให้ งอ จะได้ สัมผัสกับ แกนทองเหลือง




เอากระดาษทรายขัด คราบ ตะกันต่างๆ ออกให้สะอาด




ก่อนประกอบ ก็ให้มันงอ ๆ เพราะว่า ต้องใส่แกนกลาง

หลังจากทำความสะอาด และ ดัดแกนทองแดง หลังจากประกอบกลับ ทดสอบก็สามารถ start ใช้งานได้ปกติ

ก่อนจะไปซื้อ relay หรือ ตัว motor start ก็ให้ไล่ การทดสอบตั้งแต่ switch , relay , มอเตอร์ start

หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยครับ




 




 

Create Date : 18 ตุลาคม 2567   
Last Update : 20 ตุลาคม 2567 20:16:31 น.   
Counter : 390 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  

mrter2012
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]





ผม..สนใจและศึกษาด้านคอมพิวเตอร์ ,network, มือถือ ,ซ่อมแซมบ้าน ซ่อมรถยนต์,เครื่องยนต์,กลไกต่างๆ เครื่องมือช่าง electronic

ว่างๆ ก็จะหาอ่าน ศึกษา หาทำงาน หาซ่อมเป็นงานอดิเรก ฯลฯ

ชอบลงมือทำเอง หากไม่เกิน หรือไม่คิดว่าเกินความสามารถก็จะลงมือทำเลยครับ
หากไม่มีอุปกรณ์ หรือเกินที่เราจะมีได้ ก็ศึกษา หาวิธีที่จะทำ จนสุดก่อน

หากคิดว่าไม่ได้ ทุกอย่างมันก็จะไม่ได้ครับ ดังนั้น เราต้องมั่นใจว่าทำได้ และลงมือเลยครับ

และอยากให้เพื่อนๆ ที่อ่านลงมือทำ อาจจะไม่เหมือนผม แต่อาจจะทำอย่างที่ตัวเองถนัด
แล้วมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ฟังเป็นความรู้ประสบการณ์ เป็นวิทยาทานให้กับคนอื่นๆ รุ่นต่อรุ่น

เพราะว่าช่างที่ทำงานจริงๆ คงไม่มาเขียน หรือบอกเล่าให้เราอ่าน ดังนั้น เพื่อนๆ ทำอะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ก็เขียนได้ฟรี ไม่เสียเงิน เพียงแค่ เสียเวลา และถ่ายภาพ
เป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆ ที่จะทำตาม ....


ขอบคุณครับ สุดท้าย บทความต่างๆ ที่ผมเขียนคิดว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับใครบางคนที่ยังไม่รู้ .. ทุกคนไม่รู้ และไม่เก่งกันทุกคนครับ เอาที่ความถนัดมาเขียนบอกเล่ากันครับ... :)



New Comments
[Add mrter2012's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com