Do it yourself
 
 

ซ่อม โช๊ค honda click 110 คาร์บู ให้นิ่มเหมือนใหม่

วันอาทิตย์ที่ 16 พย 2563

เตรียม เปลี่ยน น้ำมันโช๊ค honda click 110 คาร์บู
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1. เหล็กยาว ซื้อมานานแล้ว ว่าจะเปลี่ยน นานมากแล้ว ครับ
2. อุปกรณ์ อะไหล่ มีซิล และฝาปิดกันฝุ่น 
3. น้ำมันโช๊ค 
4. syring หรือ หลอดฉีดยา ขนาดไหน ก็ได้ขอให้มีตัวเลข พอดีผมมีขนาด 10 cc
5. อุปกรณ์ถอด พวกประแจ ไขควง ต่างๆ 
6. ลูกบล็อก เบอร์ต่างๆ
7. ไขควงไฟฟ้า แบบกระแทก หรือแบบ ปั๊มลม ได้หมด






อะไหล่ ที่ต้องมี ไว้ก่อนเปลี่น




น้ำมันเฟืองท้าย + เกียร์ เตรียมไว้ แต่ยังไม่ได้ถ่าย ครับ 



ถอด ล้อ ออกมาก่อน





ถอดน๊อต โช๊ค แล้วก็ ดึงโช๊ค เก็บไว้ เตรียมถอดทีละตัว 



พอดี ผมมี เครื่องมือพิเศษ ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้นะครับ แล้วแต่ความสามารถ หากมีแบบผม ก็ง่ายสะดวก  แล้วก็ กด จุกปิดโช๊ค แล้ว เอาแหวน ออกมาได้ง่าย





ภาพบน ผมใช้ บล็อกไฟฟ้า ขัน ออกไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เพราะว่า ไว้ใช้งานตอนประกอบกลับเท่านั้นครับ 




หลังจากถอด แกนสปริง และ จะเหลือ ซิล ตรงนี้ต้องงัดออก ก็ใช้ ไขควงแบน หรือ อะไร ก็ได้ที่จะงัด ซิล ออกมา ก่อนงัด เอาแหวน ตรงร่องออกก่อนนะครับ  (ภาพ จะเห็น แหวนสีขาว คั่นกลางอยู่)




งัดออกมาแล้ว โดยใช้ ที่งัดยางรถ หรือใช้ไขควง ก็ได้ครับ 




ตัวที่ 2 ตัวนี้ยากหน่อย ก็ใช้ไขควง แบนทำให้ซิล หักครึ่งแล้ว ก็งัดขึ้นมาเลยครับ 



สภาพ อะไหล่ เก่า ที่ถอดออกมาได้แล้ว 




ภาพบน คือ ทำความสะอาด โดยเอาไปล้างน้ำ แฟ๊บ คราวบต่างๆ ให้หมดให้ทั่ว แล้วเอามา เช็ดให้แห้ง ใช้ กระดาษทิชชู่ บ้านเรานี่หละครับ 



หลังจากทำความสะอาด ก็ส่องให้ไฟ ดูว่า สะอาดมั้ย ต้องทำความสะอาดดีๆ เพราะว่าน้ำมันจะได้ไม่สกปรก ครับ




ภาพก่อนประกอบ



ภาพรู แกนโช๊คต่างๆ ต้องสะอาด




โอริง เอาตัวตัวนี้ ขึ้นบนนะครับ 




ด้านท้ายของ ซิลโช๊ค 




ใช้ลูกบล็อก เบอร์ 27 ตอกเข้าไป



ตอก ซิลโช๊ค แบบนี้  แล้วเอาลูกบล็อก เบอร์ 27 ตี ประกอบเข้าให้ลึกจนเห็นร่องแหวน 




เอาแหวน เข้าเหมือนเดิม



ขันน๊อต ปิดให้แน่น ใช้เครื่องมือ พิเศษ




ขันน๊อต โช๊ค ก่อนนะครับ 




หลังจากขันน๊อตเสร็จ ใส่ปริง เทน้ำมัน วัดข้างละ 50 cc นะครับ 




ภาพ อีกตัวหนึ่ง หลังจากขันน๊อตปิดหัวแล้ว ใส่สปริง ก็ใส่น้ำมันโช๊ค



10 cc ใส่ 5 เที่ยวครับ ก็  50 cc




สำหรับจะปิด จุ๊ก น้ำมัน ก็ใส่ หัวจกปิด แล้วก็ ใช้เครื่องมือพิเศษ กด สปริงเข้าไปแล้ว เอาแหวน วางไว้ในร่อง




ชักขึ้น ลง แล้วก็ปิด กันฝุ่น เป็นอันเสร็จ



ใส่ยางกันฝุ่น โช๊ค ทั้ง 2 ข้าง




ประกอบกลับคืนเหมือนเดิม





เครื่องมือ ที่ช่วยในการกด หัวน๊อต โช๊ค ใช้ตัวอื่นก็ได้ บางคนใช้ คีมล็อก กับ ประแจ L 





ตัวอย่างข้างบน
























อุปกรณ์ที่มี ไว้สำหรับ ติดบ้านไว้ หากไม่มี ก็ต้องไปทำที่ร้านซ่อมเอานะครับ 

หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ






 




 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2568   
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2568 13:48:11 น.   
Counter : 246 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


ซ่อม honda click 110 รถ start ไม่ติด น้ำมันไหลดี แต่ start ไม่ติด


วันอาทิตย์ที่ 16 พย. 2568

ปัญหา
1. start เท้า และ มือ ไม่ติด เพราะว่าไม่ได้ใช้รถ นานมากๆ อีกอย่าง ก่อนนั้น ขับรถได้ปกติดี

เครื่องมือ
1. กรองอากาศ หากสกปรก สั่ง online จะถูกกว่า ซื้อแถวบ้าน เพราะว่า ผมแวะซื้อ ศูนย์ honda ไม่มีรุ่นนี้ (เฉพาะขามทะเลสอ วันที่ผมแวะเป็นวันเสาร์ที่ 15 พย 68)
2. เครื่องมือ สำหรับ ถอด body ต่างๆ พวก ประแจ และ ลูกบล็อก
3. ไขควงกระแทก สำหรับ ขันน๊อต คาร์บูเรเตอร์ (ไม่มีก็ได้)
4. ปั๊มลม เอาไว้เป่า ทำความสะอาด รูนมหนูต่างๆ 
5. ไขควงแบน สำหรับ ตั้งรอบเดินเบา 





ก่อนอื่น ต้องถอด ไฟท้าย และ ตัวฝาข้าง ถอดเบาะ และ เข้าในเบาะ ให้เห็นตัว คาร์บู


















สภาพ หลังจากถอดชิ้นส่วนต่างๆ ให้เห็น คาร์บู ก่อนถอดคาร์บู ต้องถอด กรองออกด้วยนะครับ เอาน๊อต กรอง ออก และ ขยับ กรองอากาศ  ก็จะสามารถ ถอดคาร์บู ได้แล้ว





ถอดทุกตัว น๊อตทุกตัว และ โอริงทุกตัว ต้องเก็บดีๆ และ ใส่ให้เหมือนเดิม ทุกต้องใส่เหมือนเดิม ขันให้แน่นเหมือนเดิม





ภาพบน สำหรับ ปรับอากาศเข้า คาร์บู ให้ขันเข้าสุด แล้วคลายน๊อต ออกมา 3-4 รอบ หากขันเข้าสุด อากาศจะไม่เข้านะครับ 












สภาพ เก่า ก่อนทำความสะอาดให้ทั่ว 





สภาพกรองอากาศ เก่ามาก ผมก็เปลี่ยนใหม่ และ สั่ง online ไว้แล้วครับ ตอนนี้ใช้ของปลอม และใส่เข้าไปก็ไม่สนิทเหมือนของแท้










ประกอบกลับเหมือนเดิม หลังจาก start เท้า ก็ติด และ ก็จูนสายคันเร่ง เพื่อตั้งรอบเดินเบา 










ใส่ แร็คท้าย honda click ราคาไม่ถึง 248 บาทใหม่ แทนของเก่า 






จากภาพ คือ หลังจาก ล้างคาร์บู และ ประกอบกลับ ทุกอย่าง ขันให้แน่น และใส่กรอง (ปลอม ) ผมซื้อ 160 บาท แพงมากๆ แต่สั่ง online แท้ๆ ราคารวมส่ง 99 บาท  ซึ่งของใหม่ อะไหล่ยังไม่มาครับ 
ปัจจุบัน 

1. start เท้าติด ครั้งเดียว และ ขับได้ รอบได้ ไม่วูบ ไม่ดับ 

หากใครยังไม่เคยล้างคาร์บู ก็ต้องลองไปฝึก ไปทำดูครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ 












 




 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2568   
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2568 13:54:40 น.   
Counter : 64 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


ซ่อม honda fino ปัญหา start ติดไม่นิ่ง หัวเทียนดำ จูนไม่ได้



วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2568 

ถอดหัวเทียน มาเช็ค แล้วก็ขัดๆ ๆ ๆ เพราะว่า พึ่งล้างคาร์บูใหม่ ทำไม หัวเทียนดำๆ ๆ






จากภาพ แสดงว่า น้ำมันหนา ไป และไม่มีคราบน้ำมัน จะเป็นคราบเขม่าแห้งๆ เอามือเช็ดๆ ก็ออก ไม่ได้ติดแน่นมาก




ภาพ กรองตัวเดิม 






สภาพรถ fino สายน้ำมันทุกอย่าง ไม่ขาด ไม่ปริ




สายลม ต่างๆ น้ำมันเดินสะดวก ตอนนี้น้ำมัน รอที่อ่าง คาร์บูเรียบร้อยแล้ว 







สภาพบน กรองตัวเก่า ล้างคาร์บู และ ไล่ สายน้ำมัน สาย vacum ต่างๆ ไม่ขาดไม่หลุด ก็ไม่นิ่ง





ไปร้านใน พิมาย ไม่มี กรองรุ่น fino แจ้งว่าหมด ผมก็เลยซื้อกรองมาอีกรุ่น แล้วถอดหัว สลับ เอาหัวกรอง เปลี่ยนใส่กับ ท่อเดิม ก็ใช้งานได้เหมือนกันครับ 




ปล.

ภาพบน น๊อตทองเหลือง คือปรับอากาศ หมุนเข้าสุด แล้ว หมุนออก 3-4 รอบ แล้วลอง start หากไม่ติด หมุนออกทีละครึ่งรอบ จนติด พอดีแล้ว แล้ว ค่อยๆ หมุนเข้าจะเครื่องจะดับ แล้วหมุนออก ดูหัวเทียนประกอบ และ ต้องตั้งรอบเดินเบา สายคันเร่งให้พอดี ๆ ครับ 





สิ่งที่ทำ

- ล้างคาร์บู ใหม่ เป่าด้วย ปั๊มลม ทุกรู น๊อตทุกตัว ล้างให้สะอาด 

หลังจากนั้น  
- start ติด แต่ก็ไม่นิ่ง เบิล แล้วก็วูบ ดับ แรงหมุนล้อ ไม่มี 


หลังจากเปลี่ยน กรองใหม่ 

- start ติดง่าย ตั้งรอบเดินเบาได้
- หัวเทียนไม่ดำ ไม่ได้ถ่ายมาให้ดู ไว้คราวหน้าจะถ่ายให้ดูนะครับ เพราะว่าไม่ได้ กลับบ้าน

แก้ปัญหาตรงจุดแล้ว หากใครเจอปัญหาแบบผม ต้องไล่แก้ตั้งแต่ ล้างคาร์บู เปลี่ยนกรองใหม่ หากทำทั้ง 2 แล้วยังใช้งานไม่ได้ ค่อยไล่ปัญหาจากตัวอื่นๆ ต่อไปครับ
















 




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2568   
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2568 13:51:20 น.   
Counter : 119 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


เปลี่ยนลูกหมากแร็ค ลูกหมากคันชักนอก nissan almera ปี 2011


วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568
ก่อนหน้านั้น มีเสียงดังกุกๆ ๆ ขณะขับรถ แต่ก็แก้จบแล้ว นั่นคือเปลี่ยนยางรองแท่นโช๊ค แต่อะไหล่ที่สั่งมา มีทั้งลูกหมากแร็ค และ ลูกหมากปลายแร็ค




จากภาพบน เปลี่ยนอะไหล่ ลูกหมากแร็ค และ ลูกหมากคันชัก
ก่อนทำงาน ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้เรียบร้อยก่อน 

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. แร็ค + ลูกหมากปลายแร็ค = 728 บาท 
2. ยางหุ้มแร็ค = 255 บาท 
3. เครื่องมือที่จะเอาไว้ถอดแร็ค มีหรือไม่มีก็ได้ แต่ผมเอาสะดวกเพราะว่า almera ต้องใช้เครื่องมือครับ ไม่งั้นก็ต้องถอดยกแพร ลงมาเปลี่ยนข้างนอก = 692
4. แม่แรงยกรถขนาด 2.5-3 ตัน หรือแล้วแต่สะดวกที่มี
5. สามขา 
6. เครื่องมือต่างๆ ขนาด 14-17 ทั้งลูกบล็อก และ ประแจ + ฆ้อน





ลูกหมากแร็ค และ ลูกหมากปลายแร็ค 2 คู่ ราคา 728 บาท (พอดีผมได้อะไหล่มา แบบไม่สมบูรณ์ น๊อตไม่มี 1 ข้าง ปกติต้องมี 2 ข้าง  ผมก็จะใช้ตัวเดิมที่ติดรถแทนครับ)






ยางกันฝุ่นแร็ค ได้มาคู่ละ 255 บาท พร้อมส่ง




เครื่องมือถอดลูกหมากแร็ค ได้มาราคา 692 บาท พร้อมส่ง
เบ็ดเสร็จ ก็ประมาณไม่เกิน 2 พันบาท เพราะว่า รามเครื่องมือด้วย


นอกนั้นก็จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ประจำ แต่ผมขอ อวดเครื่องมือตัวใหม่ ซื้อมาราคาไม่ถึง 300 บาท แต่ทดสอบใช้งาน ขันน๊อตล้อ ที่ปกติผมขันประมาณ 120-130 Nm ก็ออกได้ง่ายไม่ต้องใช้แรงมากมาย ครับ











ซ้ายมือตัวเก่าที่เคยใช้งาน ตัวขวาคือ ตัวใหม่ ไม่มียี่ห้อหรอกนะครับ แต่ผมดูแล้ว copy ตัวแท้ มา ส่วนคุณภาพ ก็ขันล้อ และ ขันน๊อตในรถขนาด 1200 cc ออกได้และช่วยทุนแรง ขันเข้า ขันออกได้ง่ายๆ ก็ โอเคสำหรับผมแล้วนะครับ





ขวามือสั่งมาไม่ได้ให้ แบตเตอรี่มานะครับ พอดีสั่งแบตขนาด 20 cell มาใช้งานได้เลย





ด้านบน ที่ผมสั่งก็ไม่เกิน 300 บาท รวมส่ง ไม่แบตให้นะครับ แต่ทดสอบใช้งานก็ผ่านครับ 





หลังจากถอดน๊อตล้อด้วยเครื่องมือพิเศษ ก็ทำงานได้เร็วขึ้นดีว่า มือขันเหมือนแต่ก่อน ผมมีทั้ง ลูกบล็อกลม และ ไร้สายครับ 




ภาพบน อะไหล่ ใหม่เตรียมตัวสลับเปลี่ยนใส่



เครื่องมือ และ แบต 20 cell เป็นพระเอก ทำงานได้ง่าย และลูกบล็อก ขนาด 14 และ 17 



เครื่องมือ ถอดแร็ค ก็ได้ใช้งานแล้วครั้งแรก




ถอกแร็ก ออกแล้วก็ ใส เหมือนใหม่ ตั้งแต่ป้ายแดง ไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ ระยะทางวิ่งมา 240k กิโล เกือบ 15-16 ปีแล้วครับ




สภาพดูสวย แต่ก็ไม่หลวมมากครับ แต่ก็สมควรเปลี่ยน เพราะลูกหมากมันล้า แล้วครับ 



เทียบอะไหล่ ก็เกือบเท่าๆ กัน เราก็วัดขนาดของน๊อต ให้ดีๆ ใส่คืนอย่างน้อยๆ ก็ไปตั้งศูนย์ ก็จะได้ง่าย



ขันใส่ และ ใช้เครื่องมือ พิเศษ ขันให้แน่น



ยางกันฝุ่น ระหว่างเก่า 15 ปี กับ ใหม่ ขนาดพอๆ กัน




ภาพบน คือวัดขนาดปลาย ขันน็อต จะได้ใกล้เคียงกับตัวเดิม ผมใช้   Vernier Caliper ในการวัด




ครั้งแรกในการใส่ยางหุ้ม เพลา ก็เอาเสียเวลาเพราะว่า พืันที่ทำงานไม่ค่อยจะมี ปกติ ช่าง หรือ อู่ เค้าจะถอดยกแพร ลงมาใส่ข้างนอก เพราะว่า พวกอู่จะมี life ยกรถ และเครื่องมือ




ภาพบน คือ ใส่ cable tie รอเลยครับ จะได้ง่ายๆ หรือใครจะถนัดแบบไหน ใส่ก่อน หรือใส่หลังได้หมด




หลังจากใส่ยางหุ้มแร็ค ใส่ cable tie ก็รัดให้แน่น แล้วก็ขันน็อต ตามระยะที่เราวัดโดยใช้  Vernier Caliper วัดไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว 




ขันน๊อต ปลายแร็คให้แน่น




ด้านซ้ายของคนขับ ก็เสร็จเรียบร้อย เหลือข้างขวา ผมก็แปลกใจเรื่องอะไหล่ อะไหล่เดิม แจ้งว่า ซ้าย แต่อะไหล่ แจ้งว่า ขวา แต่ผมก็เอาใส่เหมือนเดิม ตามภาพที่ถ่ายไว้




เทียบอะไหล่ ด้านซ้าย 





หลังจากนั้น ก็ประกอบล้อ ใช้ tool ขัน พอให้ตึงมือ แล้วก็ใช้ มือขัน วัดปอนด์ ผมก็เอาประมาณ 125 Nm  สำหรับล้อรถยนต์ eco car 



ด้านฝั่งคนขับ ก็ต้องมีเครื่องมือ ถอดลูกหมาก พวกนี้ด้วยนะหากไม่มี ก็ต้อง ฆ้อน ตี เอาครับ แต่ต้องใส่น๊อตป้องกันที่หัวน๊อตก่อนจะตีด้วยนะครับ เดี๋ยวมันบิ่น มันบาน แล้วจะใส่น๊อต เดิมๆ ไม่ได้




ภาพบน อะไหล่ มุมต่างๆ เหมือนกัน แต่ สลัก L คือซ้าย แต่ อะไหล่เดิมๆ สลัก R  ผมเอาเลือกมุม โค้ง ต่างๆ ให้ เหมือนกันครับ แต่ของแท้ เหล็กอย่างใหญ่เลยครับ 




ภาพบน แร็คถอดด้วยเครื่องมือพิเศษ ( ปล. หากขันลำบาก ก็ขันกุญแจ แล้วก็ หมุนพวกมาลัยฝั่งตรงข้าม แกนแร็คจะได้โผล่มาทางที่เราจะซ่อมได้ง่ายขึ้นครับ )






อะไหล่ ก่อนประกอบฝั่งขวา คนขับครับ แต่มองๆ ของแท้ ใหญ่มากครับ แต่ของเทียบ ก็ถือว่า เล็ก เบาดี size ห่างกันพอสมควร





ใช้เครื่องมือ พิเศษ จะได้ขันแน่น ขันเข้า - ออก ง่ายๆ 



tools ถอดแร็ค เอาไว้ใช้กับ jazz ที่บ้าน ด้วยอีกคัน




ภาพบน ใส่ tool เตรียมขันให้แน่น




ใส่ยาง หุ้มแร็ค และ รัดด้วย cable tie



ก่อนประกอบกลับ น๊อตก็ใส่ วัดกับขนาดเดิมๆ จะได้ ตั้งศูนย์ง่ายๆ ครับ 



ลูกหมาก ปลายแร็ค ขันให้แน่น 








อะไหล่ฝั่งขวา คนขับ เรียบร้อยแล้ว อะไหล่แท้ติดรถสมัย 13-15 ปีที่แล้วเลยครับ ทนทานหายห่วง แต่ ก็ต้องเปลี่ยนถึงวันเวลาของมันแล้ว แต่เอาอะไหล่ เทียบ ใส่แทน



ภาพบน อะไหล่ที่ถอดเปลี่ยน ทั้งหมด


+++++++++++++++++++++++++

เก็บภาพที่ ถ่ายไว้ขณะทำงานไปด้วย 



ภาพบน ขันน๊อต ด้วยเครื่องมือ ประแจไฟฟ้า ง่ายดีครับ 


ก่อนถอด ก็ mark สีไว้ด้วย เพราะเราถอดและจะได้วัด หรือ วัดก่อนด้วย vernier ก็ได้



ภาพบน อะไหล่ เขียน R แต่ อะไหล่ ติดรถ เขียน L แต่ขนาด ของแท้ เดิมติดรถนี่ใหญ่มาก 



ของซื้อใหม่ ปี 2568 กับ อีกปี ของแท้ติดรถ ปี 2011 ขนาดดูความใหญ่ 




อะไหล่ ที่เขียนไว้ไม่เหมือนกัน แต่ให้เอา มุมต่างๆ มุมโค้ง เหมือนเดิม จะง่ายกว่านะครับ เพราะว่า หากมอง L , R นี่คงไม่น่าจะใช่ เพราะว่า เดิมๆ ติดรถมันสลักไม่เหมือนของที่ซื้อมา



ภาพบน อะไหล่ เขียน R แต่ อะไหล่ เดิม เขียน L เทียบกับอะไหล่ ใหม่ เขียน L แต่มุมโค้งตัวอะไหล่ไม่ได้เหมือนเดิม ผมเลือกที่จะเอามุมโค้ง เหมือนเดิม คือใช้ อะไหล่ เขียนว่า R



เอาปากกา mark ไว้และวัดด้วย vernier 



ยางหุ้มแร็ค 


สภาพ แร็คก่อนถอด




ประแจ ขันแร็ค เบอร์ที่ใช้งาน 

+++++++++++++++++++++++++

สรุป 
 
อะไหล่ ทั้งหมดประมาณ 1 พันบาท ไม่ต้องจ่ายค่าแรง
ส่วนจะไปตั้งศูนย์ ก็ 350 บาท สำหรับตั้งศูนย์ คู่หน้า ราคาไม่เกินนี้ เพราะว่า ผมไปตั้งบ่อยๆ 

ตอนนี้ ก็เหลือแต่ โช๊คคู่หน้า ที่จะต้องซ่อม ครับ เอาไว้คราวต่อไป จะมาเล่าให้ฟังนะครับ
หวังว่า บทความนี้ คงเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ




















 




 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2568   
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2568 0:07:00 น.   
Counter : 35 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


เสียงดัง กุ๊กๆ เปลี่ยนรองเบ้าโช๊ค ลูกปืนเบ้าโช๊ค ยางกันฝุ่นโช๊ค nissan almera 2011 เสียงหายแล้ว


อ้างถึง กระทู้เก่า
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mrter2012&month=15-10-2025&group=1&gblog=183

วันที่เปลี่ยนอะไหล่ เสาร์ 1 พฤศจิกายน 2568


ปัญหา ขับรถผ่านร่องถนนที่มีขรุขระ ยังเสียงดังกุ๊ก ๆ ๆ ขึ้นมายังห้องเครื่อง วันนี้อะไหล่มาครบหมดแล้ว
- ยางกันฝุ่นโช๊คหน้า
- ลูกปืนรองเบ้าโช๊คหน้า
- ยางรองเบ้าโช๊ค



 ตามภาพบน แป้นยึดหัวโช๊ค




ตามภาพบน สั่ง ยางรองเบ้าโช๊ค






ตามภาพบน ยางกันฝุ่นโช๊คหน้า
ซึ่งผมสั่งอะไหล่ มาคราวนี้จะแก้ปัญหา เสียงดังกุ๊กๆๆ เมื่อขับบนถนน ที่มีร่อง หรือ ขรุขระ แล้วมีเสียงดังกุ๊กๆ ขึ้นมาห้องเครื่อง ซึ่งก่อนหน้านั้น ก็ได้เปลี่ยน
- ลูกหมากปีกนก ซึ่งสั่งมาเป็นคู่ ซึ่งก่อนหน้านั้นเปลี่ยนยกแผงปีกนก ยังมีเสียง กุ๊กๆ ไม่หาย
- กันโคลง เปลี่ยนทั้งซ้ายขวา ก็ไม่หาย เสียงเบาลง แต่ไม่หาย ยังมีกุ๊กๆ 
- มาคราวนี้ เช็คจะเปลี่ยนยางรองเบ้าโช๊ค ทั้งชุด ลูกปืน ยางรอง ตามภาพด้านบน




ภาพก่อนประกอบ ก่อนจะไปชมรายละเอียด ต่อไปครับ





ถอดล้อ และ เตรียมถอดกันโคลง 





ถอดให้หลวมๆ ก่อน 



ภาพบน คือถอด กันโครง โครงแป้นเบรค 



เบ้าโช๊ค ด้านบน ขนให้น๊อตหลุดใช้ประแจเบอร์ 18 





ถอดรองแป้นเบรค เรียบร้อย ก็ถอดโช๊ดออกได้เลย





ก่อนดึง ยางรองโช๊ค ออกได้เลย






ก่อนถอด ก็ทำ mark ไว้ก่อน ประกอบกลับจะได้ไม่ งง



ทำ mark บน และ ล่าง แล้วก็เริ่มถอด โช๊คก่อนเลย




เทียบอะไหล่ ซ้ายตัวเก่า ขวาตัวใหม่





mark ที่ทำไว้ ก็อย่าให้มันหาย หรือเคลื่อน ใช้ ปากกาดีๆ หน่อยนะครับ 





อุปกรณ์พิเศษ ซื้อไว้ใช้งานนานมากแล้ว ก็พึ่งได้มาใช้นี่หละครับ 





เอา สปริงกด แล้วค่อยขันตัวนี้จะได้ง่ายๆ ครับ 




งานเข้าแล้ว เครื่องมือจีน ทนแรงบิดไม่ได้ ก็หักคา พยายามหาเครื่องมือ ดีๆ หน่อยนะครับ 




โช๊คดีใช้ คีมล็อก กด และขันออก จนได้ 





อะไหล่ลูกปืน โช๊คหน้า เดิมๆ ยังดีอยู่เลยนะครับ แต่อีกฝั่ง แตก น่าจะเกี่ยวกับอายุการใช้งานร่วม สองแสนสี่หมื่นกิโลแล้ว





ถอดยางกันฝุ่นโช๊คได้แล้ว 





ประกอบอะไหล่ใหม่เช้าไป





เทียบอะไหล่ลูกปืนโช๊ค เตรียมเปลี่ยน



ตัวนี้ อะไหล่ ยิงลูกปืนโช๊ค จะได้ไม่ต้องหาเครื่องมือ เอาตัวนี้ จบเลยครับ กระแท ทีเดียว ลูกปืนออกจากเบ้าเลยครับ 






เทียบอะไหล่ ลูกปืนโช๊ค ออกจากเบ้า จะเป็นอย่างตัวอย่างภาพด้านบน





ประกอบ ลูกปืนโช๊ค เอาลูกปืนเก่ารอง แล้วก็ฆ้อนตอกเข้าตรงๆ 


ภาพตอกลูกปืนสำเร็จ สำรวจว่า แนบสนิท 





เอายางโช๊ค ใส่ เข้าร่องของมันครับ 




โช๊คดี ที่หกเหลี่ยมจีน เอาออกง่ายๆ ต้องหาไขควงเล็กๆ งัดๆ ออกถึงจะได้ใช้งานได้




พอดีมีเครื่องอุปกร์ 6 เหลี่ยมหลายเบอร์ ซื้อไว้ใช้งานนานมากแล้ว ก็เอาออกมาใช้งานบ้าง





ภาพบน คือใช้ อุปกรณ์ 6 เหลี่ยมดีๆ หน่อย ยึด ประกอบ โช๊คให้เหมือนเดิมตาม mark ที่ทำไว้




ชุด 6 เหลี่ยม ดีๆ ก็พอมีบ้างนะครับ จะได้เอาไว้ใช้งาน





ประกอบเสร็จแล้ว 1 ข้าง เหลือ อีกข้าง แต่อีกข้าง ลูกโช๊คตัวบน พังครับ ไม่ได้ถ่ายไว้นะครับ 





ภาพบน คือประกอบคืนแล้ว ใส่น๊อตด้านบน และ ประกอบด้านล่างก็ง่ายแล้ว





ยางแป้นของอะไหล่  online ก็พอใช้งานได้ แต่ตัวอะไหล่แท้ ยังเก็บไว้ใช้งานอยู่นะครับ พอดียังใช้งานได้อยู่




รูปน๊อต กันโคลง ขันให้แน่น  



หากน๊อตหมุนตาม ก็ใช้ ประแจ 6 เหลี่ยม จับให้แน่น แล้วก็ขันน๊อต



ประกอบเหมือนเดิม แล้วก็ประกอบล้อ ก็เช็คน๊อตทุกตัวก่อน ว่าแน่น 



ภาพ อะไหล่เก่า ยังดี อยู่นะ ก็เปลี่ยนไปเถอะครับ 




อะไหล่ เหลืออีกข้าง ก็เปลี่ยนเหมือนกัน ง่ายแล้วหละครับ เพราะว่า มีเครื่องมือ ที่ใช้งานได้ ก็พร้อมเปลี่ยนอีกข้างได้ง่าย แล้ว





ภาพอะไหล่ และ อุปกรณ์เตรียมเปลี่ยนด้านขวา 





หลังจากเปลี่ยนซ็าย และขวา เช็คความเรียบร้อย ก็จะลองขับใช้งาน ซัก 1 อาทิตย์ ก่อนนะครับ 

/////

ช่วงวันเดียวกัน ขับรถไปกินข้าวนอกบ้าน แถวตลาด saveone ก็ขับแนวเดิมๆ เสียงดังกุ๊กๆ หายไปแล้ว แต่ก็มีเสียงเบาๆ ขึ้นมาในห้องผู้โดยสาร เล็กน้อย สรุปว่า น่าจะแก้ปัญหาได้แล้วนะครับ 

ราคาอะไหล่
- แป้นยึดหัวโช๊ค 1 คู่ ราคา 290 บาท พร้อมส่ง
- ยางกันกระแทก 1 คู่ ยี่ห้อ KYB + ลูกปืน  ราคา 551 บาท พร้อมส่ง
- ยางกันฝุ่นโช๊คหน้า 1 คู่ ยี่ห้อ JKP ราคา 360 บาท พร้อมส่ง

ราคารวม ๆ ก็พันกว่า ครับ ส่วนค่าแรง ก็ฟรี ครับไม่ได้ไปอู่ 

คราวหน้า จะเปลี่ยน แร็ค เพราะว่าผมสั่งอะไหล่ มาแล้ว ก็มาแก้ปัญหาเสียงดัง กุ๊กๆ นี่แหละ แต่ก็สั่งมาแล้วก็ถือว่า เปลี่ยนอะไหล่ในรอบ 2 แสนกิโลแล้วกันเพราะว่าตอนนี้เสียงดัง กุ๊กๆ หลังจากขับทดสอบ เส้นทางเดิมๆ
เข้าเมืองในระยะ 30 กิโลเมตร ไม่มีเสียงกุ๊กๆ ให้รำคาญ อีกแล้วครับ 

ส่วนจะเปลี่ยน ลูกหมายปลายแร็ค โช๊ค (โช๊คคิดว่าต้องเปลี่ยนเพราะข้างนึ่งไม่ยืดตัวแล้ว กดแล้วยืดตัวช้ามากๆ น่าจะเสียไปแล้ว) จะมาเล่าให้ฟังอีกครั้งนะครับ ตอนนี้ ฝนตกแล้วครับ


หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ



















​​​​​​
























 




 

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2568   
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2568 19:27:29 น.   
Counter : 130 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

BlogGang Popular Award#21


 
mrter2012
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]





ผม..สนใจและศึกษาด้านคอมพิวเตอร์ ,network, มือถือ ,ซ่อมแซมบ้าน ซ่อมรถยนต์,เครื่องยนต์,กลไกต่างๆ เครื่องมือช่าง electronic

ว่างๆ ก็จะหาอ่าน ศึกษา หาทำงาน หาซ่อมเป็นงานอดิเรก ฯลฯ

ชอบลงมือทำเอง หากไม่เกิน หรือไม่คิดว่าเกินความสามารถก็จะลงมือทำเลยครับ
หากไม่มีอุปกรณ์ หรือเกินที่เราจะมีได้ ก็ศึกษา หาวิธีที่จะทำ จนสุดก่อน

หากคิดว่าไม่ได้ ทุกอย่างมันก็จะไม่ได้ครับ ดังนั้น เราต้องมั่นใจว่าทำได้ และลงมือเลยครับ

และอยากให้เพื่อนๆ ที่อ่านลงมือทำ อาจจะไม่เหมือนผม แต่อาจจะทำอย่างที่ตัวเองถนัด
แล้วมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ฟังเป็นความรู้ประสบการณ์ เป็นวิทยาทานให้กับคนอื่นๆ รุ่นต่อรุ่น

เพราะว่าช่างที่ทำงานจริงๆ คงไม่มาเขียน หรือบอกเล่าให้เราอ่าน ดังนั้น เพื่อนๆ ทำอะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ก็เขียนได้ฟรี ไม่เสียเงิน เพียงแค่ เสียเวลา และถ่ายภาพ
เป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆ ที่จะทำตาม ....


ขอบคุณครับ สุดท้าย บทความต่างๆ ที่ผมเขียนคิดว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับใครบางคนที่ยังไม่รู้ .. ทุกคนไม่รู้ และไม่เก่งกันทุกคนครับ เอาที่ความถนัดมาเขียนบอกเล่ากันครับ... :)



New Comments
[Add mrter2012's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com