146 .. ความช่วยเหลือของมนตรี
ความช่วยเหลือของมนตรี
เขียนโดย ดร. อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา จากหนังสือ นิทานสีขาว
นำมาจาก เว็บ laddawan621.multiply.com
ณ โรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง คนทั่วไปต่างก็รู้กันดีว่า โรงเรียนนี้ขึ้นชื่อด้านกีฬาฟุตบอลมาก เพราะทีมฟุตบอลของโรงเรียนนี้ คว้าที่หนึ่งในการแข่งขันฟุตบอลโรงเรียนระดับประเทศ ติดต่อกันมาแล้วหลายสมัย
มนตรี เป็นเด็กฉลาด แข็งแรง และมีน้ำใจเป็นนักกีฬาเสมอ เขาเล่นฟุตบอลอยู่ในทีมของโรงเรียนแห่งนี้ด้วย และเมื่อหัวหน้าทีมคนเก่าจบการศึกษาออกไป มนตรีก็ได้รับการคัดเลือกจากเพื่อนๆในทีมฟุตบอล ให้เป็นหัวหน้าทีมคนใหม่ด้วยคะแนนที่เป็นเอกฉันท์
การแข่งขันฟุตบอลโรงเรียนระดับประเทศของปีนี้ กำลังจะมาถึงในไม่ช้า มนตรีและเพื่อนๆในทีมต้องฝึกซ้อมอย่างหนักทุกวันเพื่อรักษาความเป็นที่หนึ่งเอาไว้ให้ได้
พวกเขาจริงจังกับเรื่องนี้มาก เพราะนี่ไม่ใช่แค่การรักษาตำแหน่งเดิมเอาไว้ให้ได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการรักษาเกียรติประวัติของทีมฟุตบอลโรงเรียน ซึ่งสั่งสมกันมาหลายรุ่น และยังถือเป็นความภาคภูมิใจของทุกๆคนในโรงเรียนอีกด้วย
เมื่อวาระการแข่งขันฟุตบอลโรงเรียนประจำปีนี้มาถึง ทีมของมนตรีก็สามารถเอาชนะทีมจากโรงเรียนอื่นได้โดยไม่ยากเย็นนัก จนในที่สุดก็เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ตามความคาดหมาย
การแข่งขันรอบสุดท้ายจะจัดขึ้นที่สนามของโรงเรียนเรา เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้เช้า ขอให้ทุกคนมาพร้อมกันที่นี่ได้เลย มนตรีนัดแนะกับเพื่อนๆก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนกันที่บ้าน
วันต่อมา ปรากฏว่าฝนตกตั้งแต่ตอนเช้ามืด เมื่อมนตรีออกจากบ้านนั้น ฝนซาลงมากแล้ว แต่ตามถนนหนทางก็ยังเปียกเฉอะแฉะ และบางแห่งก็ลื่นมาก มนตรีต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง เพราะไม่อยากให้ตนเองได้รับบาดเจ็บก่อนการแข่งขัน
เมื่อมาถึงหน้าประตูโรงเรียน มนตรีสังเกตเห็นหญิงชราคนหนึ่งยืนตัวเปียกโชก ร่างกายของนางสั่นเทาด้วยความหนาวอย่างน่าสงสาร หญิงชราคนนี้ยืน งกๆ เงิ่นๆ และเฝ้าแต่มองไปยังฝั่งตรงข้าม
มนตรีคิดว่า นางคงอยากข้ามถนนไปอีกฝั่งแต่ไม่มีคนจูง จึงไม่กล้าข้ามไปคนเดียว เพราะพื้นถนนหน้าโรงเรียนลื่น และมีรถขับผ่านไปมามาก
มนตรีสังเกตคนอื่นๆที่เดินผ่านไปมา ดูเหมือนว่าทุกๆคนต่างก็เร่งรีบไปทำธุระของตนเอง จนไม่มีใครว่างพอที่จะหันมาสนใจหญิงชราคนนี้เลย ดังนั้นมนตรีจึงเดินเข้าไปหานาง และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน มีเมตตาว่า ยายอยากจะข้ามไปฝั่งโน้นใช่ไหม ผมจะช่วยยายเองนะครับ
สีหน้าของหญิงชรา แจ่มใส สดชื่น ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นางยังรู้สึกว่า ตนเองอยู่อย่างโดดเดี่ยวคนเดียวในโลก และความสูงอายุทำให้ตนเองดูไร้ค่า จนไม่มีผู้ใดให้ความสนใจ
แต่ตอนนี้ กลับมีเด็กคนหนึ่งเดินมาเรียกว่า ยาย และขันอาสาช่วยเหลือนาง ทำให้หญิงชรารู้สึกชื่นใจมาก
หลานชาย ช่วยพายายข้ามถนนลื่นนี่หน่อยเถอะนะ บ้านยายอยู่ฝั่งตรงข้ามนี้เอง หลังร้านขายของนั่นล่ะ หญิงชราเสียงสั่นเพราะความหนาว
มาเถอะยาย เดินช้าๆนะ ผมจะพายายไปส่งให้ถึงบ้านเลย
แล้วมนตรีก็จับแขนหญิงชรามาโอบไว้รอบคอ พร้อมกับค่อยๆพยุงร่างของนาง เดินข้ามถนนอย่างระมัดระวัง
ตลอดทางที่เดินมาด้วยกันนั้น หญิงชราได้พูดกับมนตรีด้วยความรักใคร่ชื่นชม นางให้พรแก่เขาไม่หยุดปาก และกล่าวชมเชยไปถึงพ่อแม่ที่สั่งสอนลูกเป็นคนดี
จนกระทั่งมาถึงบ้านของหญิงชราแล้ว มนตรีจึงยกมือไหว้และกล่าวคำอำลาแก่นาง
ขอให้ผลบุญที่หลานชายทำในวันนี้ จงบันดาลให้หลานชายพบแต่ความสุขความเจริญเถิด นางอวยพรให้มนตรี พร้อมกับหลั่งน้ำตาด้วยความปลาบปลื้ม
มนตรีเดินเข้าโรงเรียนไปอย่างอิ่มเอมใจ และเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า ความรู้สึกเป็นสุขที่ได้รับหลังจากชนะการแข่งขันฟุตบอล ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ผ่านมานั้น เทียบไม่ได้เลยกับความสุขความเปรมปรีดิ์ ที่ได้รับจากการช่วยเหลือหญิงชราผู้อ่อนแอครั้งนี้
กล่าวถึงในสนามแข่งขัน ตอนนี้มีผู้ชมเข้ากับจับจองที่นั่งเต็มทุกที่แล้ว แต่ทีมฟุตบอลของมนตรียังไม่พร้อม พวกเขาหน้าตาเคร่งเครียด เพราะกระวนกระวายใจที่หัวหน้าทีม ยังมาไม่ถึงสนามแข่ง ทั้งๆ ที่ใกล้ถึงเวลาแข่งเต็มที่แล้ว
แต่แล้ว ใครคนใดคนหนึ่งในนั้นก็มองเห็นมนตรีเดินมาแต่ไกล และตะโกนบอกให้เพื่อนๆหันไปมองเมื่อเห็นมนตรี ทุกคนก็ตรงเข้าไปห้อมล้อม และต่อว่าเขาอย่างเผ็ดร้อน ในเรื่องที่ไม่รักษาเวลา
ถ้าเพื่อนจะโกรธเรานั้น ก็เห็นจะสมควรอยู่ แต่ขอให้ใจเย็นๆ แล้วฟังเหตุผลของเราเสียก่อน
แล้วมนตรีก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เพื่อนฟัง หลายคนเมื่อได้ฟังแล้วก็เข้าใจมนตรีมากขึ้น แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย เพราะคิดถึงแต่ผลการแข่งขันเป็นสำคัญ
แค่คนแก่คนเดียว นายจะไปลำบากลำบนช่วยแกทำไม เดี๋ยวพอฝนหยุดตก ถนนแห้ง แกก็ข้ามกลับไปได้เองน่ะแหละ นายก็น่าจะรู้นะ ว่าถ้านายมาไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น...ทีมของเราอาจจะแพ้ก็ได้ ลูกทีมคนหนึ่งยังคงต่อว่ามนตรีไม่เลิก
เพื่อน...เราไม่ได้ช่วยยายคนนั้น เพียงเพราะความแก่ของเขา และเกรงว่าแกจะข้ามถนนไม่ได้เพียงอย่างเดียวหรอกนะ แต่เราช่วยแก เพราะคิดว่าแก ต้องเป็นแม่ของใครสักคน มนตรีกล่าวอย่างจริงจัง
แม่ใครก็ช่างเขาสิ....ถ้าไม่ใช่แม่ของนาย แล้วนายจะสนไปทำไม มันเรื่องอะไรกันที่นายจะต้องไปช่วยแม่ของคนอื่นด้วย เพื่อนคนนั้นยังคงว่าต่อด้วยความเขลา ซึ่งมนตรีก็รู้ดี เขาจึงค่อยๆ อธิบายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ทว่าแฝงไปด้วยความจริงจัง
เราช่วยแก เพราะคิดว่า แกคงเป็นแม่ของใครสักคน และเราก็หวังว่า สักวันหนึ่ง เมื่อแม่ของเราแก่ตัวลงมากๆ และเราไม่ได้คอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆในตอนนั้น คงมีใครสักคนเข้ามาช่วยเหลือแม่ของเรา เหมือนกับที่เราได้ทำให้ยายคนนั้นในวันนี้
เมื่อได้ฟังคำตอบของมนตรี ทุกคนก็รู้สึกประทับใจในคำตอบของเขามาก จึงไม่มีใครสงสัยในเหตุผลของมนตรีอีก ลูกทีมที่พูดต่อว่ามนตรีเมื่อครู่ ก็รู้สึกละอายใจตนเองมาก เขากล่าวแก่มนตรีว่า
นายคงภาคภูมิใจในแม่ของนายมาก และมีแม่อยู่ในใจเสมอเลยใช่ไหม ถึงได้ทำสิ่งเหล่านี้โดยคิดไปถึงแม่ของนายด้วย
แน่ล่ะเพื่อน มนตรีตอบ คนที่ไม่มีแม่ของตนอยู่ในหัวใจ เพื่อการระลึกถึง และไม่ภาคภูมิใจในแม่ของตนนั้น เป็นคนที่หาดีอันใดไม่ได้เลย นอกจากนั้นชีวิตของเขาก็จะเต็มไปด้วยความหมองเศร้า และไม่มีวันได้พบกับความสุขความเจริญหรอก
พวกเธอทั้งหลาย...
มนตรีนั้น เป็นเด็กที่มีความเมตตากรุณานัก เขานึกถึงความทุกข์ของผู้อื่น และหาทางช่วยให้ความทุกข์นั้นมลายไป เธอว่ามนตรีเป็นคนมีความสุขไหม ประสบความสำเร็จหรือเปล่า...
ใช่แล้ว มนตรีเป็นเช่นนั้น แม้ในเรื่องนี้เขาจะยังเป็นเด็ก แต่เราคงพอที่จะเห็นอนาคตของเขาแล้วล่ะว่า ในอนาคตเขาจะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข และประสบความสำเร็จในชีวิตมากคนหนึ่ง เพราะเขาเป็นผู้มีความเมตตากรุณา ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และที่สำคัญที่สุด คือเขามีแม่ของเขาประทับอยู่ในหัวใจเสมอ
ขอให้เธอระลึกถึงแม่เหมือนดั่งมนตรี ไม่ว่าเธอจะกระทำสิ่งใดอยู่ที่ไหนก็ตาม...หากเธอมีปัญหาทุกข์ทนเศร้าหมองใจ ต้องการสิ่งยึดเหนี่ยว...เธอไม่จำเป็นต้องเข้าวัด ไม่จำเป็นต้องไปขอพรจากพระ ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆมาเป็นที่พึ่ง แต่จงระลึกถึงแม่ของเธอก็พอ
จำไว้เถิดว่า ท่านคือความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้วในชีวิตของเธอ จำไว้เถิดว่า แม่คือพระของเรา
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 22 เมษายน 2554 |
|
66 comments |
Last Update : 29 มีนาคม 2558 17:43:30 น. |
Counter : 3921 Pageviews. |
|
|
|
เต สารํ อธิคจฺฉนฺติ สมฺมา สงฺกัปฺปโคจรา
ผู้ที่เข้าใจสิ่งที่เป็นสาระ ว่าเป็นสาระ และสิ่งที่ไร้สาระ ว่าไร้สาระ
มีความคิดเห็นชอบ ย่อมประสบสิ่งที่เป็นสาระ
ขอให้มีความสุขกับทุกสาระในชีวิต ตลอดไป..นะคะ
...........................
สวัสดีค่ะ ป้ากุ๊ก...
อยากบอกว่า คิดถึงป้ากุ๊ก กะคุณยาย มาก ๆ ..ค่ะ
เมื่อไรจะมีโอกาสมานั่งทานข้าว - คุยกัน อีก..คะ
ฝากกราบงาม ๆ ที่ตักคุณยายด้วย..นะคะ...