275 .. เสียทรัพย์ไป ขอให้ได้ปัญญา
เสียทรัพย์ไป ขอให้ได้ปัญญา
ปุจฉา-วิสัชนาโดย พระไพศาล วิสาโล จาก Facebook ของพระไพศาล วิสาโล - Phra Paisal Visalo
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2555
ปุจฉา - ตอนนี้มีปัญหาชีวิต นอนไม่หลับเลยค่ะ เรื่องก็คือว่า เมื่อไม่กี่ชม.ที่ผ่านมานี้ ถูกขโมยกระเป๋าค่ะ เงินกับมือถือหายไปพร้อมกัน เสียดายของนิดหน่อยค่ะ แต่ที่แย่มากๆ เลยก็คือ มันรู้สึกโทษตัวเองว่าทำไมเราไม่ระมัดระวังให้มากกว่านี้ ทั้งๆ ที่ปกติแล้ว เป็นคนระวังตัวมากๆ เลยค่ะ
ตอนนี้อยู่ที่ประเทศเขมรค่ะ ก็รู้อยู่ว่าโจรมันเยอะ ก็พยายามระวังตัวแล้ว แต่มันก็ยังเกิดขึ้นจนได้ ปกติแล้ว เป็นคนที่รักษาศีลห้าอย่างเคร่งครัดเลยค่ะ ถือศีลมาหลายปีแล้ว และเป็นคนรักษาของด้วย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยทำโทรศัพท์หายเลย มันยิ่งคิด ก็ยิ่งเจ็บใจและเสียดายค่ะ
อยากเรียนถามพระอาจารย์ว่า หนูรักษาศีลเป็นอย่างดี ไม่เบียดเบียนใคร แต่ทำไมหนูถึงต้องถูกขโมยของด้วยคะ มันเป็นเพราะความประมาทหรือเป็นเพราะหนูเคยไปเอาของใครมาก่อนเมื่อชาติที่แล้ว เพราะทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหมคะ?
กับเรื่องนี้ หนูควรจะทำใจอย่างไรดี หนูพยายามปลง แต่พอคิดถึงความประมาทของตัวเองที่ทำให้ตัวเองต้องเดือนร้อน เสียทรัพย์สินเงินทอง หนูหดหู่เหลือเกิน นอนไม่หลับเลยค่ะ ขอความกรุณาพระอาจารย์ช่วยชี้แนะแนวทางทำใจให้หนูด้วยนะคะ
พระไพศาล วิสาโล - การรักษาศีลนั้นดีแล้ว แต่ไม่ใช่ว่ามีศีลแล้ว จะไม่มีวันพบความพลัดพรากสูญเสีย ความพลัดพรากสูญเสียนั้นเป็นธรรมดาของชีวิต ถึงมีศีลแค่ไหน ก็ต้องเจออยู่วันยังค่ำ แต่การมีศีล ย่อมช่วยให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นน้อยลง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องประสบเป็นธรรมดา สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่การวางใจให้ถูกต้อง เช่น
1) มองเห็นว่ามันเป็นธรรมดา ไม่มีใครหนีพ้น
2) อะไรที่เป็นอดีตไปแล้ว ก็ปล่อยให้มันผ่านเลยไป ไม่เก็บเอามาคิดอีก (การคิดว่าวันนั้นฉันน่าจะทำอย่างนั้น ไม่น่าทำอย่างนี้ มีแต่จะทำให้เป็นทุกข์มากขึ้น เพราะอดีตแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ยิ่งคิดเช่นนั้นก็ยิ่งกลายเป็นการโทษตัวเองไม่เลิก)
3) ถือเป็นเครื่องเตือนใจให้ไม่ประมาท ต่อไปให้มีความระมัดระวังมากขึ้น หรือสอนใจว่า ไม่มีอะไรที่เป็นของเราอย่างแท้จริง ไม่ช้าก็เร็ว มันก็ต้องไปจากเรา มันมาอยู่กับเราเพียงชั่วคราว
4) หาประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ เช่น นอกจากสอนธรรมแล้ว ยังฝึกใจให้เรารู้จักปล่อยวาง เพราะถ้า ยึดติด ถือมั่น ก็ยิ่งเป็นทุกข์
5) เตือนใจตัวเองว่า ถ้าจะเสีย ก็เสียอย่างเดียว คือเสียของ แต่อย่าเสียใจ เพราะถ้าเสียใจด้วย ก็จะกลายเป็นการซ้ำเติมตัวเอง ต่อไปจะไม่ใช่แค่เสียใจ แต่จะเสียสุขภาพ และเสียงานด้วย (เพราะไม่มีสมาธิกับการทำงาน)
ถ้าคุณทำข้อ 3-5 ได้ จะถือว่าได้กำไร คือได้ธรรมะ ซึ่งมีราคามากกว่าทรัพย์ที่สูญหายไปมาก แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ ก็จะขาดทุนสองต่อ คือเสียทรัพย์และเสียความสุข
ควรระลึกด้วยว่า ถ้าคุณปล่อยวางไม่ได้ ต่อไปหากสูญเสียยิ่งกว่านี้ จะทำใจได้อย่างไร จะไม่ทุกข์ปางตายหรือ? อย่าลืมว่าเสียเงินกับเสียโทรศัพท์นั้นยังนับว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับสิ่งที่คุณจะต้องสูญเสียในอนาคต ถ้าวันนี้ทำใจไม่ได้ พรุ่งนี้จะทำใจได้อย่างไร?
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มันมีเหตุปัจจัย ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เหตุปัจจัยนั้นข้อหนึ่งก็คือ ความเผอเรอ ไม่ระมัดระวังของคุณ อีกเหตุปัจจัยหนึ่ง คือมีมิจฉาชีพมาเจอเข้า เมื่อเหตุปัจจัยสองข้อ มาประจวบเหมาะ ก็ส่งผลคือ คุณสูญเสียทรัพย์สิน มันไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับอดีตชาติ กรรมในปัจจุบันชาติ คือเมื่อวันสองวันที่ผ่านมา เป็นเหตุให้คุณต้องสูญเสียทรัพย์ไป.
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 19 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 28 มีนาคม 2558 14:43:20 น. |
|
52 comments
|
Counter : 3625 Pageviews. |
|
|
ได้มาอ่านประโยคนี้พอดี ชอบมาก
ฝึกใจให้เรารู้จักปล่อยวาง เพราะถ้า ยึดติด ถือมั่น ก็ยิ่งเป็นทุกข์
เพราะถ้าเสียใจด้วย ก็จะกลายเป็นการซ้ำเติมตัวเอง ต่อไปจะไม่ใช่แค่เสียใจ แต่จะเสียสุขภาพ และเสียงานด้วย (เพราะไม่มีสมาธิกับการทำงาน)
กะลัง เซ็ง ๆ พอมาอ่านประโยคนี้ ได้คิดเพิ่มเลยค่า ป้ากุ๊กไก่ เป็นอย่างนั้น จริงๆ หากเราไปยึดติดก็เครียดเปล่าๆ
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีดีค่า
รินโหวตให้ด้วยค่า
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เศษเสี้ยว Travel Blog ดู Blog
mambymam Home & Gargen Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog